Sunday, 5 May 2024
อเมริกา

‘ทหารสหรัฐฯ’ ยอมรับ ‘ยูเครน’ เผชิญความยากลำบากในการสู้รบ ชี้!! สงครามทวงคืนดินแดนครั้งนี้ไม่คุ้มกับราคาที่ต้องจ่าย

เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 66 หลังจากเล่นบทป๋าทุ่มทั้งเงินและอาวุธเพียบช่วยยูเครน วันนี้อเมริกาหน้าจ๋อย บรรดาเจ้าหน้าที่ทหารสหรัฐฯ ยอมรับว่ายูเครนกำลังเผชิญการสู้รบที่ยากลำบาก ปฏิบัติการทวงคืนดินแดนกลับครั้งนี้ ดูเหมือนว่าจะต้องชดใช้ราคาแพง

คำประเมินของสหรัฐฯ ต่อปฏิบัติการตีโต้กลับของเคียฟ มีขึ้นในขณะที่พวกนักรบเชเชน บอกว่า พวกเขาได้เข้าประจำการในแคว้นเบลโกร็อดของรัสเซีย ที่มีชายแดนติดกับยูเครน เพื่อป้องกันการโจมตีของกลุ่มหัวรุนแรงรัสเซียที่ฝักใฝ่ยูเครน

‘ลอยด์ ออสติน’ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ บอกกับที่ประชุมว่า เคียฟจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว และยูเครนต้องการอาวุธมากกว่าเดิม ยูเครนยังเหลือพลานุภาพการโจมตีอีกมากสำหรับปฏิบัติการโจมตีตอบโต้กลับ แม้ประสบความสูญเสียในเบื้องต้นจากฝีมือของรัสเซีย

มอสโกเผยแพร่วิดีโอเป็นภาพรถถังเลพเพิร์ดของเยอรมนี และยานต่อสู้แบรนด์ลีย์ ที่บริจาคโดยสหรัฐฯ หลายคัน อ้างว่าสามารถยึดมาได้ ทั้งที่ปฏิบัติการตีโต้ทวงคืนดินแดนจากรัสเซียของยูเครนเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น พ.อ.โอเล็กซี ฮโรมอฟ แห่งกองทัพยูเครนว่าจนถึงตอนนี้ยูเครนสามารถทวงคืนถิ่นพักอาศัยทางภาคใต้มาได้ 7 แห่ง และรุกคืบยึดดินแดนคืนมาได้ 100 ตารางกิโลเมตร

บททดสอบสำคัญของปฏิบัติการโจมตีตอบโต้กลับของยูเครนยังคงรออยู่เบื้องหน้า ในขณะที่ทหารเคียฟยังบุกไปไม่ถึงป้อมปราการป้องกันตนเองที่หนาแน่นที่สุดของรัสเซีย เคียฟเชื่อว่าจำเป็นต้องตระเตรียมกองกำลังโจมตีราว 12 กองพัน แต่ละกองพันมีทหารหลายพันนาย และใช้ยานยนต์หุ้มกราะของตะวันตกที่เพิ่งมาถึงล่าสุด

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ยืนยันเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ ว่า กองกำลังยูเครนประสบความสูญเสียมากกว่ารัสเซียถึง 10 เท่า และบอกว่าปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ของยูเครนล้มเหลว

‘สายลับสหรัฐฯ’ โว รู้แผนก่อกบฏของ ‘วากเนอร์’ ก่อนปูติน ชี้!! สืบพบสัญญาณความผิดปกติได้ตั้งแต่กลางเดือน มิ.ย.

เมื่อไม่นานนี้ สื่อสหรัฐฯ ทั้ง Washington Post และ New York Times รายงานว่า หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ รับทราบข้อมูลล่วงหน้าที่บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่กองกำลัง วากเนอร์จะก่อกบฏภายในรัสเซีย และได้สรุปรายงานนี้ให้กับทั้งทางทำเนียบขาว สภาคองเกรซ และฝ่ายกลาโหมก่อนหน้าจะเกิดเหตุจริงเพียงไม่กี่วัน

สายสืบสหรัฐฯ อ้างว่า สามารถจับสัญญาณการเคลื่อนไหวบางอย่างของเยฟเกนี พริโกซิน และกองกำลังวากเนอร์ในการต่อต้าน นายพลเซอร์เก ชอยกู ผู้นำฝ่ายกลาโหมรัสเซีย ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

ถึงแม้จะไม่รู้แน่ชัดว่า พริโกซิน ริเริ่มวางแผนการตั้งแต่เมื่อใด แต่การเคลื่อนไหวที่ผ่านมาของเขาทำให้ทีมข่าวกรองของสหรัฐฯ รับรู้ถึงความไม่ปกติภายใน ว่าน่าจะมีเหตุบางอย่างเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ ที่อาจนำไปสู่สถานการณ์ขั้นเลวร้ายที่สุด คือ ‘สงครามกลางเมือง’ ได้

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เชื่อว่า จุดแตกหักของเรื่องนี้ เกิดขึ้นหลังจากมีคำสั่งจากกระทรวงกลาโหมรัสเซีย เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ที่ผ่านมา ให้กองกำลังอาสาสมัครทั้งหมด ต้องมาขึ้นทะเบียน และลงนามข้อตกลงกับกองทัพรัฐบาล ถึงแม้ว่าจะไม่ระบุเจาะจงว่าเป็นกลุ่มกองกำลังวากเนอร์ แต่หลักปฏิบัตินั้นชัดเจนว่า ทหารกองอาสาสมัครทั้งหมด ทุกกลุ่ม ครอบคลุมถึงหน่วยของกองทหารรับจ้างวากเนอร์ ต้องอยู่ภายใต้สังกัดของกระทรวงกลาโหม

นั่นหมายความว่า ฝ่ายกระทรวงกลาโหมรัสเซีย มีเป้าหมายที่จะควบรวมกองกำลังวากเนอร์ เป็นส่วนหนึ่งของกองทัพ จากที่เคยเป็นกองกำลังอิสระ บริหารในรูปแบบบริษัทเอกชน ที่มีเยฟเกนี พริโกซิน เป็นผู้นำ และยังสร้างผลงานโดดเด่นในการสู้รบในยูเครน โดยเฉพาะสมรภูมิในเมืองบัคมุท

เจ้าหน้าที่ฝ่ายการทหารของยูเครนก็ได้จับตา พริโกซิน หลังวันประกาศเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. เช่นกัน และเชื่อว่าผู้นำกองกำลังวากเนอร์ เริ่มเคลื่อนพลเพื่อต่อต้านรัฐบาลมอสโกแล้วตั้งแต่วันนั้น และยังแสดงออกชัดเจนว่า ‘ไม่ลงรอย’ กับผู้นำสุงสุดของฝ่ายกลาโหมรัสเซียหลายครั้ง และมั่นใจว่า พริโกซินไม่รู้ตัวว่า ทั้งรัฐบาลยูเครน และหน่วยข่าวกรองสหรัฐกำลังจับตาดูอยู่ อีกทั้งยังมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลลับระหว่างกันอีกด้วย

หน่วยสอดแนมลับของสหรัฐฯ เชื่อว่า แม้กระทั่งปูตินเอง น่าจะเพิ่งรับรายงานแผนการก่อกบฏของพริโกซิน ผู้ซึ่งเคยเป็นสหายคนสนิทของเขา ล่วงหน้าเพียงวันเดียวเท่านั้น ซึ่งพริโกซินก็ดำเนินตามแผนการที่วางไว้อย่างรวดเร็วจนน่าแปลกใจ

และทันทีที่กลุ่มวากเนอร์ ข้ามชายแดนยูเครนเข้ามาในรัสเซียในช่วงวันศุกร์ที่ 23 มิ.ย. ก็บุกยึดกองบัญชาการกองทัพรัสเซียในเมืองรอสตอฟได้ทันทีในวันเสาร์ และประกาศบุกมอสโกต่อในวันอาทิตย์ สร้างความปั่นป่วนโกลาหลไปทั่วกรุงมอสโก ก่อนที่จะเยฟเกนี พริโกซิน จะยอมรับเงื่อนไขของทางรัฐบาลรัสเซีย ลี้ภัยไปเบลารุส และให้กลุ่มวากเนอร์ ถอยกลับไปประจำในฐานที่มั่นของตน

แม้ว่าเหตุการณ์จะสงบแล้ว แต่กองทัพรัสเซียคงไม่อาจไว้วางใจกองกำลังวากเนอร์ได้อีกต่อไป แม้ปูตินจะยอมรับว่า ทหารวากเนอร์ส่วนใหญ่ถือเป็นนักรบผู้กล้าที่ต่อสู้เพื่อประเทศชาติ แต่หลังเหตุการณ์ความไม่สงบที่ผ่านมา จำเป็นที่จะต้องสลายกลุ่มวากเนอร์ โดยปูตินยื่นข้อเสนอว่า กองกำลังวากเนอร์มีทางเลือก 3 ทาง คือ เข้าประจำการในกองทัพรัสเซีย, กลับบ้าน หรือลี้ภัยไปเบลารุสเท่านั้น

จากคำกล่าวอ้างของเยฟเกนี พริโกซิน มีกองกำลังวากเนอร์ ที่ประจำการพร้อมรบอยู่ราว 25,000 คน และมีกองหนุนสำรองอีกนับหมื่นคน

‘เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล’ เผย ปักกิ่งเตือน ‘บลิงเคน’ ตัวเก็งผู้นำไต้หวันคนใหม่ อาจทำ ‘ปักกิ่ง-ไทเป’ ตึงเครียดยิ่งขึ้น

เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 66 สื่อดังของอเมริกาเผย จีนเตือนบลิงเคนระหว่างเยือนปักกิ่ง การกระทำของตัวเก็งผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีไต้หวัน อาจทำให้สถานการณ์ระหว่าง ‘ปักกิ่ง-ไทเป’ ตึงเครียดยิ่งขึ้น

หนังสือพิมพ์เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล รายงานเมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า เจ้าหน้าที่จีนเตือน ‘แอนโทนี บลิงเคน’ ระหว่างที่รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ผู้นี้เดินทางเยือนจีนเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว และได้พบกับประธานาธิบดี ‘สี จิ้นผิง’ ว่า การกระทำของรองประธานาธิบดี ‘ไล่ ชิงเต๋อ’ ของไต้หวันที่เป็นตัวเก็งจะชนะการเลือกตั้งต้นปีหน้า อาจทำให้จีน-ไต้หวันร้าวฉานกันมากขึ้น

จากรายงานของเดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล เจ้าหน้าที่จีนถามบลิงเคน ว่า อเมริกามองพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (ดีพีพี) ของไต้หวันเป็นมิตรหรือไม่ และวอชิงตันมีส่วนได้ส่วนเสียกับผลการเลือกตั้งในไทเปที่จะจัดขึ้นเดือนมกราคมปีหน้าหรือไม่?

รายงานระบุว่า บลิงเคนยืนยันว่า “อเมริกา ‘เป็นกลาง’ ในการเลือกตั้งดังกล่าว และไม่สนับสนุนบุคคลภายนอกเข้าไปก่อกวนกระบวนการเลือกตั้งของไต้หวัน”

ปักกิ่งที่ถือว่าไต้หวันเป็นดินแดนของตน กล่าวหามาตลอดว่า อเมริกาให้ท้ายนักการเมืองที่ ‘สนับสนุนการแบ่งแยกดินแดน’ ในไทเป

ขณะเดียวกัน แม้อเมริกาไม่ได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวัน แต่นักการเมืองอเมริกันมีการนัดหมายพบปะกับเจ้าหน้าที่ไทเปบ่อยครั้ง ซึ่งปักกิ่งมองว่า การกระทำดังกล่าว รวมถึงการที่อเมริกาขายอาวุธให้ไต้หวัน เป็นการละเมิดหลักการ ‘จีนเดียว’

เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ปักกิ่งจัดการซ้อมรบขนาดใหญ่รอบเกาะไต้หวันภายหลังการเยือนของแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ในขณะนั้น และอีกครั้งในเดือนมีนาคมปีนี้หลังจากประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ของไต้หวันเดินทางไปอเมริกา และได้พบกับ ‘เควิน แมคคาร์ธี’ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ คนปัจจุบัน

ที่ผ่านมา ไล่ ซึ่งมีคะแนนนำในผลสำรวจความคิดเห็นสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันปี 2024 ในอดีตเคยประกาศตนเป็น ‘คนทำงานการเมืองเน้นผลทางปฏิบัติเพื่อเอกราชของไต้หวัน’ แต่ต่อมาเขาชี้แจงว่า ไม่ได้พยายามเปลี่ยนแปลงสถานะการเมืองปัจจุบันของไต้หวันแต่อย่างใด

จากข้อมูลของโฟกัส ไต้หวัน ไล่กล่าวเมื่อเดือนมกราคมว่า เขาต้องการย้ำว่า ไต้หวันเป็นประเทศเอกราชที่มีอธิปไตยของตนเองอยู่แล้ว ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องประกาศเอกราชอีก

ทั้งนี้ บลิงเคนเดินทางเยือนจีนเมื่อวันที่ 18-19 เดือนนี้ และทั้งสองฝ่ายแสดงความเห็นแง่บวกอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับผลการเจรจา กระนั้น ปักกิ่งประณามอย่างรุนแรงกรณีที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เรียก สี ว่า “เผด็จการ” หลังบลิงเคนออกจากปักกิ่งไม่นาน

‘เพนตากอน’ เผย ‘บอลลูนสอดแนมจีน’ ที่ถูกเครื่องบินรบยิงตก ไม่ได้เก็บข้อมูลใดๆ แค่ลอยออกนอกเส้นทางเข้าสู่น่านฟ้าสหรัฐฯ

วันที่ (30 มิ.ย. 66) สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมาว่า บอลลูนสอดแนมของจีนที่ถูกเครื่องบินรบของสหรัฐฯ ยิงตกนอกชายฝั่งรัฐเซาท์แคโรไลนา เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมานั้นไม่ได้เก็บข้อมูลข่าวกรองใดๆ ขณะลอยอยู่เหนือประเทศสหรัฐฯ
 
นายแพทริก ไรเดอร์ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ออกมากล่าวว่าทางสหรัฐฯ รับรู้ว่า บอลลูนลูกดังกล่าวมีขีดความสามารถในการเก็บข้อมูลข่าวกรอง แต่จากการประเมินในตอนนี้บ่งชี้ว่า บอลลูนที่ว่านี้ไม่ได้เก็บข้อมูลใดๆ ขณะบินอยู่เหนือประเทศสหรัฐฯ และความพยายามของสหรัฐฯ ในการลดการเก็บข้อมูลข่าวกรอง ส่งผลให้บอลลูนไม่สามารถเก็บข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนใดๆ ออกไปได้
 
บอลลูนลูกดังกล่าวลอยข้ามดินแดนประเทศสหรัฐฯ ไล่ตั้งแต่รัฐอะแลสกาไปจนถึงบริเวณทิศตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐเซาท์แคโรไลนา กินระยะเวลาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมกราคมถึงช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ โดยบินผ่านสิ่งก่อสร้างทางทหารที่มีความละเอียดอ่อน จุดให้เกิดความกังวลว่า จีนอาจใช้บอลลูนลูกดังกล่าวในการเก็บข้อมูลข่าวกรองที่สำคัญ
 
ภายหลังการถูกยิงตก กองทัพสหรัฐฯ ได้กู้ซากของบอลลูนดังกล่าวขึ้นจากมหาสมุทรแอตแลนติก และหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ กำลังอยู่ระหว่างวิเคราะห์เศษชิ้นส่วนของบอลลูน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ย่ำแย่ลง โดยนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ออกมายกเลิกกำหนดการเดินทางเยือนประเทศจีนในเดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่จีนออกมาปฏิเสธว่า บอลลูนลูกดังกล่าวไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อสอดแนม เพียงแต่ลอยออกนอกเส้นทางจนเข้าสู่น่านฟ้าสหรัฐฯ เท่านั้น
 
ทั้งนี้ นายไรเดอร์ไม่ได้ยืนยันรายงานของหนังสือพิมพ์เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล ที่รายงานว่าบอลลูนดังกล่าวของจีน มีการใช้อุปกรณ์ที่สหรัฐฯ ผลิต แต่กล่าวว่ าในอดีตอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรนของจีนมีการใช้อุปกรณ์ของสหรัฐฯ ที่หาได้ทั่วไป
 

‘ส้มโอไทย 4 สายพันธุ์’ ยกทัพบุกถิ่นมะกันครั้งแรก ตอกย้ำ!! ‘ขีดความสามารถสินค้าไทย’ ในต่างแดน

(3 ก.ค. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหม ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศไทยสามารถขยายตลาดส่งออกได้เพิ่มขึ้น ผ่านการส่งออกส้มโอฉายรังสี 4 สายพันธุ์ ไปยังกรุงวอชิงตัน ดีซี (Washington, D.C.) สหรัฐอเมริกา ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของไทย และยังส่งออกมะม่วงของฤดูกาลปี 2566 มังคุด และผลไม้อื่น ๆ ของไทย เพื่อนำไปร่วมงานเฉลิมฉลองในวันชาติของสหรัฐอเมริกา และ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-สหรัฐอเมริกา ครบรอบ 190 ปี ในงานจัดแสดงผลไม้เทศกาล ‘Sawasdee DC Thai Festival’ ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี ระหว่างวันที่ 2-4 กรกฎาคม 2566 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันที่ 26 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา ไทยได้ส่งออกส้มโอชิปเมนท์แรกไปยังสหรัฐฯ เพื่อจัดแสดงผลไม้ในงานเทศกาล Sawasdee DC Thai Festival ณ กรุงวอชิงตัน ดีซี ในโอกาสวันชาติของสหรัฐฯ ในวันที่ 2-4 กรกฎาคม 2566 และเพื่อเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูต ไทย-สหรัฐอเมริกา ครบรอบ 190 ปี ทั้งนี้ กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงรายงานการส่งออกส้มโอไปสหรัฐฯครั้งแรก เป็นส้มโอฉายรังสี 4 สายพันธุ์ ได้แก่ พันธุ์ทองดี พันธุ์ขาวใหญ่ พันธุ์ขาวน้ำผึ้ง และพันธุ์ขาวแตงกวา พร้อมด้วย มะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้ มหาชนก แดงจักรพรรดิ และเขียวเสวย รวมทั้งมังคุด รวมทั้งสิ้น จำนวน 72 กล่อง น้ำหนัก 864 กิโลกรัม

นายอนุชา กล่าวว่า การส่งออกส้มโอไปสหรัฐฯ ครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกส้มโอ รวมถึงผู้ประกอบการส่งออกผลไม้ที่จะมีตลาดส่งออกเพิ่มมากขึ้น ซึ่งสหรัฐฯ เป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง เป็นประเทศที่เข้มงวดด้านมาตรการสุขอนามัยพืชอย่างสูง โดยกระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา (USDA) ได้มอบหมายหน่วยงานบริการตรวจสอบสุขภาพสัตว์และพืช (Animal and Plant Health Inspection Service : APHIS) ให้แจ้งถึงผลการทดสอบประสิทธิภาพการแพร่กระจายรังสีในบรรจุภัณฑ์ส้มโอ ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่จะอนุญาตให้นำเข้า โดยส้มโอส่งออกจะต้องผ่านการฉายรังสีแกรมมา (Gamma: γ) ที่ระดับ 400 เกรย์ นาน 3 ชั่วโมง จากศูนย์ฉายรังสี สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (สทน.) พร้อมโรงคัดบรรจุที่ได้รับอนุญาตให้คัดบรรจุส้มโอเพื่อการส่งออกได้ โดยผลไม้ของไทยที่ส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศสหรัฐฯ ต้องฉายรังสีแกรมมา ปริมาณ 400 เกรย์ ก่อนส่งออก

นายอนุชา กล่าวว่า ขณะนี้ผลไม้ที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ มี 8 ชนิด ได้แก่ มะม่วง ลิ้นจี่ ลำไย สับปะรด มังคุด แก้วมังกร เงาะ และล่าสุดได้แก่ ส้มโอ โดยกรมวิชาการเกษตรยังมีแนวทางที่จะสนับสนุนภาคเอกชนให้มีการจัดส่งทางเรือเพื่อลดต้นทุนและจัดส่งได้ครั้งละจำนวนมาก ซึ่งอยู่ระหว่างการทดสอบในเชิงคุณภาพ โดยหากได้ผลดีจะเป็นการเพิ่มช่องทางให้ผู้ประกอบการนำไปใช้ในเชิงการค้าต่อไป 

“นายกรัฐมนตรียินดีต่อผลความสำเร็จในการส่งออกส้มโอทั้ง 4 สายพันธุ์ของไทย เป็นเครื่องสะท้อนถึงคุณภาพของผลไม้ไทยที่มีมาตรฐาน และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ทั้งนี้ นายกฯ เชื่อมั่นว่าเมื่อไทยผ่านมาตรฐานการส่งออกไปสหรัฐฯ จะเพิ่มโอกาสให้ผลไม้ไทยสามารถขยายตลาดส่งออกได้เพิ่มมากขึ้นอีกในอนาคต พร้อมขอบคุณความร่วมมือ การทำงานของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการผลักดันสินค้าเกษตรของไทยให้มีศักยภาพ เพิ่มโอกาส เพิ่มขีดความสามารถในตลาดต่างประเทศ" นายอนุชา กล่าว

‘Texas Rangers’ หน่วยบังคับใช้กฎหมายแห่งมลรัฐเท็กซัส ก่อตั้งมาแล้วกว่า 200 ปี เพื่อธำรงความสงบของบ้านเมือง

200 ปีแห่งการก่อตั้ง Texas Rangers 
เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายของมลรัฐเท็กซัส

ด้วยระบบตำรวจของบ้านเราเป็นระบบที่เรียกว่า ‘ตำรวจแห่งชาติ’ (National police) เช่นเดียวกับฝรั่งเศส แคนาดา ญี่ปุ่น และอีกหลาย ๆ ประเทศ เราคนไทยจึงไม่ค่อยรู้จักระบบตำรวจที่แตกต่างออกไป ตัวอย่างเช่น สหรัฐอเมริกา ซึ่งผมเคยเขียนไว้ใน The States Times เมื่อ 2 ปีมาแล้ว ในบความ “ไขบทบาท ‘ตำรวจมะกัน’ ผู้บังคับใช้กฎหมาย – กระบวนการยุติธรรมแห่งสหรัฐอเมริกา” https://thestatestimes.com/post/2021091807

โดยที่ตำรวจไทยทุกนายเป็นตำรวจแห่งชาติ เพราะรูปแบบการปกครองของบ้านเราเป็นแบบรัฐเดี่ยว ดังนั้น ตำรวจไทยทุกนายตั้งแต่ชั้นยศพลตำรวจไปจนถึงชั้นยศพลตำรวจเอก จึงสามารถจับกุมผู้ที่กระทำความผิดซึ่งหน้า หรือมีหมายจับได้ตั้งแต่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เหนือสุดของประเทศไปจนถึงอำเภอสุไหงโกลกจังหวัดนราธิวาสใต้สุดของประเทศ สำหรับระบบตำรวจสหรัฐฯ มีความแตกต่างกันด้วยระบอบการเมืองการปกครอง เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า สหรัฐอเมริกาเป็นสหพันธรัฐ ซึ่งประกอบด้วย 50 รัฐ ทำให้มีหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายราว 18,000 หน่วย โดยราว 15,000 หน่วย อยู่ภายใต้รัฐบาลมลรัฐและองค์กรปกครองระดับท้องถิ่น มีเจ้าหน้าที่กว่า 500,000 นาย

‘Texas Ranger Division’ หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า ‘Texas Rangers’ และยังเป็นที่รู้จักในชื่อ ‘Los Diablos Tejanos’ (ภาษาสเปน : the Texan Devils) เป็นหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายสืบสอบสวนที่มีเขตอำนาจศาลทั่วทั้งมลรัฐเท็กซัส มีกองบัญชาการตั้งอยู่ในนครออสติน เมืองหลวงของมลรัฐเท็กซัส นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้น ‘Texas Rangers’ ได้สืบสวนคดีอาชญากรรม ตั้งแต่การฆาตกรรมไปจนถึงการทุจริตทางการเมือง ทำหน้าที่ควบคุมการจลาจล และเป็นนักสืบ ทีมอารักขาผู้ว่าการมลรัฐเท็กซัส ติดตามผู้หลบหนีคดี ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยตามสถานที่สำคัญของมลรัฐเท็กซัส

‘Stephen F. Austin’ ผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น ‘บิดาแห่งมลรัฐเท็กซัส’

‘Texas Rangers’ ถูกก่อตั้งโดย ‘Stephen F. Austin’ (ผู้ได้ชื่อว่าเป็น ‘บิดาแห่งมลรัฐเท็กซัส’) ใน ปี ค.ศ. 1823 หลังจากผ่านไปหนึ่งทศวรรษ ในวันที่ 10 สิงหาคม ค.ศ. 1835 ‘Daniel Parker’ ได้เสนอมติต่อสภาถาวร เพื่อจัดตั้งกองทหารพรานเพื่อปกป้องชาวเม็กซิกัน ต่อมาหน่วยนี้ถูกยุบโดยหน่วยงานของรัฐบาลกลางหลังสงครามกลางเมืองในช่วงยุคฟื้นฟู แต่ได้รับการปฏิรูปอย่างรวดเร็วเมื่อมีการคืนสถานะของรัฐบาลแต่ละมลรัฐในประเทศ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1935 จนปัจจุบันองค์กรนี้เป็นแผนกหนึ่งของสำนักงานความปลอดภัยสาธารณะแห่งมลรัฐเท็กซัส (Texas Department of Public Safety (TxDPS))

Texas Rangers ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ 234 นาย ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ระดับสัญญาบัตร 166 นาย และเจ้าหน้าที่สนับสนุน 68 นาย รวมถึงเจ้าหน้าที่ธุรการศูนย์ปฏิบัติการความมั่นคงชายแดน ศูนย์ปฏิบัติการ และหน่วยข่าวกรองร่วม และทีมอาวุธและยุทธวิธีพิเศษ (SWAT/SRT) โดย Texas Rangers มีหน่วยปฏิบัติการพิเศษเพื่อทำหน้าที่ ทีมอาวุธและยุทธวิธีพิเศษ (SWAT) และทีมตอบโต้พิเศษเฉพาะพื้นที่ (SRT's) ทีมลาดตระเวน หน่วยเจรจากรณีวิกฤต และทีมเก็บกู้วัตถุระเบิด ปัจจุบันหน่วย Texas Rangers มีการประสานงานด้านความมั่นคงชายแดนผ่านศูนย์ปฏิบัติการข่าวกรองและศูนย์ความร่วมมือ (JOICs) จำนวน 6 แห่งตามแนวชายแดนเท็กซัส - เม็กซิโก และพื้นที่ชายฝั่งของรัฐฯ

Texas Rangers รับผิดชอบในการสืบสวนอาชญากรรมดังต่อไปนี้ : (1.) การสืบสวนอาชญากรรมที่สำคัญของมลรัฐ (2.) การสืบสวนอาชญากรรมในมลรัฐที่ยังไม่สามารถปิดคดีได้ (3.) การสืบสวนอาชญากรรมต่อเนื่องในการกระทำที่เป็นการทุจริตต่อสาธารณะในมลรัฐ (4.) การตรวจสอบความสมบูรณ์ของการดำเนินคดีที่เป็นสาธารณะของมลรัฐ (5.) การดำเนินงานด้านความปลอดภัยภายในมลรัฐ และ (6.) การดำเนินงานด้านการรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ว่าการมลรัฐเท็กซัส

เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการตอบสนองต่อการบังคับใช้กฎหมาย Texas Rangers ได้จัดตั้ง หน่วยต่อต้านการทุจริตสาธารณะ และโครงการสืบสวนอาชญากรรมที่ยังไม่สามารถปิดคดี โดยในปี ค.ศ. 2019 Texas Rangers ได้มีการสอบสวนคดีทั้งหมด 2,235 คดี ซึ่งส่งผลให้มีการจับกุมผู้กระทำความผิด 993 คดี รับสารภาพ 562 คดี คดีอาชญากรรมต่าง ๆ มีการตัดสินลงโทษกว่า 537 คดี ซึ่งส่งผลให้มีการตัดสินประหารชีวิต 3 คดี จำคุกตลอดชีวิต 76 คดี และคดีต่าง ๆ ถูกตัดสินจำคุกทั้งหมดรวม 8,531 ปี ในระหว่างการสืบสวนคดีโดยหน่วย Texas Ranger มีการใช้กระบวนสอบสวนด้วยการสะกดจิต 9 ครั้ง

‘ประธานาธิบดี William Howard Taft’ และ ‘Porfirio Díaz ประธานาธิบดีแห่งเม็กซิโก’ ในปี ค.ศ. 1909

เหล่าสมาชิกของ Texas Rangers มีส่วนร่วมในเหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดหลายเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์มลรัฐเท็กซัส เช่น การหยุดยั้งการลอบสังหารประธานาธิบดี William Howard Taft และ Porfirio Díaz ประธานาธิบดีแห่งเม็กซิโก ใน El Paso และในคดีอาญาที่มีชื่อเสียงที่สุดบางคดีในประวัติศาสตร์ เช่น John Wesley Hardin มือปืนชื่อดัง Sam Bass จอมโจรนักปล้นธนาคาร Bonnie และ Clyde ขุนโจรคู่สามี-ภรรยา

‘Chuck Norris’ ในบท ‘Cordell Walker’
สมาชิก Texas Rangers ในภาพยนตร์โทรทัศน์ Walker

มีหนังสือมากมายหลายเล่มที่เขียนเล่าเกี่ยวกับ Texas Rangers ตั้งแต่ผลงานสารคดีที่ได้รับการค้นคว้ามาอย่างดีไปจนถึงนวนิยายและเรื่องแต่งอื่น ๆ ทำให้ Texas Rangers มีส่วนร่วมสำคัญในตำนานของ Wild West, The Lone Ranger อาจเป็นตัวอย่างซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดของตัวละครจาก Texas Rangers โดยใช้นามแฝงของผู้แต่งจากประสบการณ์ที่เคยเป็นสมาชิกของ Texas Rangers ตัวอย่างที่รู้จักกันดีอื่น ๆ ได้แก่ Tales of the Texas Rangers และอีกหลายบทบาทใน Texas Rangers รวมถึงพระเอกนักบู๊ Chuck Norris ที่แสดงเป็น Cordell Walker ในภาพยนตร์โทรทัศน์ชุด Walker, Texas Ranger และทีมเมเจอร์ลีกเบสบอล (MLB) ของมลรัฐเท็กซัสได้รับการตั้งชื่อตาม Texas Rangers ด้วย นอกจากนั้นแล้ว Texas Rangers ยังมีความสำคัญทางวัฒนธรรมในมลรัฐ Texas โดยมีพิพิธภัณฑ์ที่สร้างเพื่อเป็นเกียรติกับ Texas Rangers ที่รู้จักกันในชื่อ ‘Texas Ranger Hall of Fame and Museum’ ในเมืองเวโก

ภาพหมู่สมาชิกของหน่วย Texas Rangers
ในโอกาสการก่อตั้งหน่วยครบ 200 ปี

คุณสมบัติของผู้สมัครเป็นสมาชิกของหน่วย Texas Rangers นอกเหนือจากคุณสมบัติที่จำเป็น สำหรับการเข้าทำงานกับสำนักงานความปลอดภัยสาธารณะของมลรัฐเท็กซัส แล้วยังมีข้อกำหนดพิเศษต่อไปนี้ คือ การเป็นหน่วย Texas Rangers ผู้สมัครแต่ละคนจะต้องเป็นพลเมืองของสหรัฐอเมริกา มีสภาพร่างกายที่ยอดเยี่ยม และมีประวัติที่โดดเด่นอย่างน้อย 8 ปี ในประสบการณ์กับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การมีส่วนร่วมในการสืบสวนอาชญากรรมที่สำคัญ โดยปัจจุบันผู้สมัครจะต้องทำงานกับสำนักงานความปลอดภัยสาธารณะของมลรัฐเท็กซัส ในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ชั้นสัญญาบัตรอย่างน้อยระดับ Trooper II

ผู้สมัครจะต้องมีภูมิหลังภายใต้การตรวจสอบอย่างละเอียด ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นถึงลักษณะนิสัย และความประพฤติที่ดี ผู้สมัครจะต้องมีใบขับขี่ของมลรัฐเท็กซัส โดยไม่มีข้อจำกัดใด ๆ ที่จะกระทบต่อความสามารถของผู้สมัครในการปฏิบัติหน้าที่ มีการสอบเข้า และผู้สมัครที่ได้รับคะแนนสูงสุดจะต้องปรากฏตัวต่อหน้าคณะกรรมการ เพื่อสัมภาษณ์ด้วยปากเปล่าก่อนการคัดเลือกขั้นสุดท้าย

‘Jason Taylor’ หัวหน้าหน่วย Texas Rangers คนปัจจุบัน

สมาชิกของหน่วย Texas Rangers จะต้องเข้าร่วมการฝึกอบรมอย่างน้อย 40 ชั่วโมงในทุก 2 ปี แต่สำหรับสมาชิกของหน่วย Texas Rangers ส่วนใหญ่ได้รับการฝึกอบรมเกินมาตรฐาน สมาชิกของหน่วย Texas Rangers บางนายอาจได้รับการฝึกอบรมเพิ่มเติมในด้านต่าง ๆ เช่น การสะกดจิตเชิงสืบสวน ซึ่งมีความสำคัญต่อการสืบสวนในคดีอาญาบางคดี ในปี ค.ศ. 2020 อายุเฉลี่ยของสมาชิกของหน่วย Texas Ranger อยู่ที่ 44 ปี

ณ วันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2020 Texas Ranger Division มีเจ้าหน้าที่สัญญาบัตร 166 นาย สำหรับทั้งมลรัฐ โดยแบ่งออกเป็น 6 หน่วย โดย
- หน่วย A อยู่ที่เมือง Houston
- หน่วย B อยู่ที่เมือง Garland
- หน่วย C อยู่ที่เมือง Lubbock
- หน่วย D อยู่ที่เมือง Weslaco
- หน่วย E อยู่ที่เมือง El Paso
- หน่วย F อยู่ที่เมือง Waco
และมีสมาชิก Texas Rangers ระดับสัญญาบัตรประจำการตามเมืองต่าง ๆ ทั่วทั้งมลรัฐ โดย Texas Rangers ระดับสัญญาบัตรแต่ละคนมีหน้าที่รับผิดชอบอย่างน้อย 2 ถึง 3 เทศมณฑล ซึ่งบางแห่งมีพื้นที่ใหญ่กว่าเสียด้วยซ้ำ

สมาชิก Texas Rangers ยุคใหม่ (เช่นเดียวกับรุ่นก่อน ๆ ของพวกเขา) ไม่มีเครื่องแบบที่กำหนด แม้ว่ารัฐเท็กซัสจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับเครื่องแต่งกายของสมาชิก Texas Rangers ที่เหมาะสม รวมถึงข้อกำหนดให้สมาชิก Texas Rangers สวมเสื้อผ้าที่มีลักษณะแบบตะวันตก ปัจจุบัน การแต่งกายที่นิยม ได้แก่ เสื้อเชิ้ตและเน็กไทสีขาว กางเกงขายาวสีกากี/สีแทน หรือสีเทา หมวกแบบตะวันตกสีอ่อน เข็มขัดของ ‘Texas Rangers’ และรองเท้าบูทคาวบอย ในอดีต ตามหลักฐานรูปภาพสมาชิก Texas Rangers สวมเสื้อผ้าอะไรก็ได้ที่พวกเขาสามารถจ่ายได้หรือรวบรวมได้ ซึ่งมักจะสึกหรอจากการใช้งานหนัก ในขณะที่สมาชิก Texas Rangers ยังคงจ่ายค่าเสื้อผ้าเองของพวกเขาในปัจจุบัน แต่พวกเขาก็ได้รับค่าตอบแทนเริ่มต้น เพื่อชดเชยบางส่วนสำหรับค่ารองเท้าบูท เข็มขัดคาดปืน และหมวก

สำหรับปฏิบัติภารกิจบนหลังม้า สมาชิก Texas Rangers ได้ดัดแปลงอุปกรณ์และอุปกรณ์ส่วนตัวให้เหมาะกับความต้องการของพวกเขา จนถึงต้นศตวรรษที่ 20 อิทธิพลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดมาจาก Vaqueros (คาวบอยเม็กซิกัน) อานม้า เดือย เชือก และเสื้อกั๊กที่สมาชิก Texas Rangers ใช้ ล้วนแต่มีรูปแบบตามแบบของวาเกอโร สมาชิก Texas Rangers ส่วนใหญ่ชอบสวมหมวกปีกกว้างมากกว่าหมวกคาวบอย และพวกเขานิยมสวมรองเท้าบูทยาวถึงเข่า ทรงเหลี่ยมที่มีส้นสูงและหัวแหลมในสไตล์สเปนมากกว่า ทั้ง 2 กลุ่มใช้ซองปืนในลักษณะเดียวกัน โดยเป็นซองหนังอยู่ในตำแหน่งสูงรอบสะโพกแทนที่จะอยู่ต่ำที่ต้นขา ตำแหน่งนี้ทำให้ง่ายต่อการชักออกมาในขณะกำลังขี่ม้า

วิเคราะห์!! สหรัฐฯ ขอกลับเข้ายูเนสโก หวั่น!! จีนสยายอิทธิพลแทนที่

(9 ก.ค. 66) รายการ ‘คุยผ่าโลก’ ได้เชิญ ‘อาจารย์สุดาทิพย์ จารุจินดา-อินทร’ มาพูดถึงนัยยะสำคัญในการกลับมาเป็นสมาชิกองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก (UNESCO) ของสหรัฐฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการถอนตัวออกจากยูเนสโกมาแล้วถึง 2 ครั้ง กลับมาครั้งนี้จะมีความหมายอย่างไร มาฟังกันเลย…

“เหตุผลที่ทำให้อเมริกาทนไม่ได้ เพราะจีนแผ่ขยายอำนาจ ซึ่งหากจะให้เปรียบเปรยก็เหมือนกับว่า แม้แต่สนามหญ้าหน้าสำนักงานยูเนสโก จีนก็บลัฟเป็นเจ้าภาพ ฮุบเข้าไปขยายอาณาเขตไปแล้ว ซึ่งตอนนี้ถือเป็นการสู้กัน เพราะยูเนสโก มีทั้งด้านวิทยาศาสตร์ การศึกษาวัฒนธรรม ซอฟต์พาวเวอร์ และตัววิทยาศาสตร์ 

"ทั้งนี้ ในส่วนของสหรัฐฯ นั้น ได้มีการถอนตัวมาแล้วถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกมาจากการที่ ‘ยูเนสโก’ รับ ‘ปาเลสไตน์’ เข้ามาเป็นสมาชิกในสหประชาชาติ (UN) แม้เขาจะไม่ได้เป็น Full Member แต่ในส่วนยูเนสโกรับเป็น Full Member เลย ทำให้อเมริกาเดือดมาก รวมทั้งอิสราเอลก็โกรธมากเช่นกัน จึงทำให้อิสราเอลและอเมริกาถอนตัวทั้งคู่ อันนี้คือสาเหตุของการถอนตัวครั้งแรก แต่ในที่สุดภายหลังก็ได้ผันตัวกลับเข้าไป ส่วนอีกครั้งหนึ่งในสมัย ‘ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์’ ก็ได้มีคำสั่งให้ถอนออกมาจาก ‘ทีพีพี’ และอเมริกาแทบจะถอนตัวจาก NATO และถอดยูเนสโกตามมาติดๆ

"ทว่า ตอนนี้ ‘จีน’ กับ ‘อเมริกา’ กำลังขับเคี่ยวกันในเรื่องเทคโนโลยี หรือ AI ซึ่งตรงนี้จะเป็นการได้ประโยชน์จากยูเนสโกที่จะส่งผลต่อประเทศจีน ทำให้อเมริกาปล่อยให้จีนแผ่บทบาทนี้ไม่ได้ จึงทำให้ต้องยอมเข้าไป ‘ยูเนสโก’ อีกครั้งหนึ่ง และล่าสุดเพิ่งมีการลงมติไปเมื่อเร็วๆ นี้ โดยมีทั้งหมด 132 เสียง ที่เห็นชอบ แต่ก็มีอีก 10 ประเทศที่ออกเสียงคัดค้าน ซึ่ง 1 ในนั้นมี ‘อินโดนีเซีย’ อีกด้วย ทำให้เรื่องนี้น่าติดตามต่อไป โดยมีเวทียูเนสโกอีกหนึ่งพื้นที่ในการสู้รบกัน"

‘เกาหลีเหนือ’ โชว์แสนยานุภาพ!! ยิงขีปนาวุธพิสัยไกล ลงทะเลญี่ปุ่น หลังขู่จะยิงเครื่องบินสอดแนมสหรัฐฯ ที่บินรุกล้ำน่านฟ้าประเทศ

(12 ก.ค. 66) สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า เกาหลีเหนือได้ทำการยิงขีปนาวุธที่คาดว่าจะเป็นขีปนาวุธทิ้งตัวข้ามทวีป (ไอซีบีเอ็ม) ตกลงในทะเลตะวันออก หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘ทะเลญี่ปุ่น’ เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 12 กรกฎาคมตามเวลาท้องถิ่น เพียงไม่กี่วันหลังเกาหลีเหนือขู่ว่าจะยิงเครื่องบินสอดแนมของสหรัฐฯ ที่บินรุกล้ำน่านฟ้าเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา และประณามแผนของสหรัฐฯ ที่จะส่งเรือดำน้ำติดขีปนาวุธนิวเคลียร์ เยือนท่าเรือของเกาหลีใต้เป็นครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษ

กองทัพเกาหลีใต้ระบุว่า สามารถตรวจจับการปล่อยขีปนาวุธพิสัยไกลที่ยิงจากกรุงเปียงยาง ประเทศเกาหลีเหนือเมื่อเวลาราว 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น คณะเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า “ขีปนาวุธทิ้งตัวถูกยิงในวิถีโค้งและบินเป็นระยะทาง 1,000 กิโลเมตรก่อนที่จะตกลงในทะเลตะวันออก”

สถานีโทรทัศน์ทีวีอาซาฮีของญี่ปุ่น รายงานโดยอ้างอิงเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่น ว่า ขีปนาวุธลูกดังกล่าวได้บินเป็นระยะเวลา 74 นาทีที่ระดับความสูง 6,000 กิโลเมตร โดยถือเป็นระยะเวลาการบินที่นานที่สุดของขีปนาวุธเกาหลีเหนือ

คณะเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้ระบุอีกว่า การยิงขีปนาวุธดังกล่าวของเกาหลีเหนือเป็นการยั่วยุอย่างร้ายแรงที่ทำลายสันติภาพและความมั่นคงของคาบสมุทรเกาหลีและเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ต่อเกาหลีเหนือ พร้อมกับเรียกร้องให้เกาหลีเหนือยุติการกระทำในลักษณะดังกล่าว

ด้านนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะของญี่ปุ่น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างร่วมประชุมสุดยอดผู้นำองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่ประเทศลิทัวเนีย ได้สั่งให้คณะทำงานของเขารวบรวมข้อมูลและเฝ้าระวังเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ตามรายงานของสำนักนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น

การปล่อยขีปนาวุธไอซีบีเอ็มในครั้งนี้มีขึ้นหลังโฆษกของกระทรวงกลาโหมของเกาหลีเหนือ ระบุว่า สหรัฐฯ ได้เพิ่มกิจกรรมการจารกรรมเหนือกว่าระดับในช่วงสงคราม โดยอ้างถึงการบินของเครื่องบินสอดแนมสหรัฐฯ ตลอดระยะเวลา 8 วันติดต่อกันในช่วงเดือนนี้ ขณะที่คิม โย จอง น้องสาวของนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือเผยว่าเครื่องบินสอดแนมของสหรัฐฯ ได้บินรุกล้ำน่านฟ้าทางทิศตะวันออกของประเทศ 2 ครั้งในช่วงเช้าวันที่ 10 กรกฎาคม

ความจริงใจ สำคัญ!! ‘หวังอี้’ กระตุ้นสหรัฐฯ ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม  พาสัมพันธ์ ‘จีน-สหรัฐฯ’ กลับเส้นทางที่ถูกต้อง

เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 66 ‘หวังอี้’ นักการทูตอาวุโสของจีน กล่าวว่าสหรัฐฯ ควรดำเนินการอันเป็นรูปธรรม เพื่อนำพาความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ กลับสู่เส้นทางที่ถูกต้อง

‘หวัง’ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศส่วนกลางของจีน ซึ่งพบปะกับแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ณ การประชุมนอกรอบของการประชุมคณะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาเซียน กล่าวว่าทั้งสองฝ่ายได้บรรลุฉันทมติผ่านการสื่อสารเชิงลึกและตรงไปตรงมาระหว่างการเยือนจีนของบลิงเคนเมื่อเดือนก่อน

หวังกล่าวว่า ฉันทมติสำคัญที่สุดคือ การกลับสู่วาระที่ผู้นำรัฐทั้งสองกำหนดไว้ในบาหลีของอินโดนีเซีย และการก้าวเดินหน้าสู่การกำหนดทิศทางที่ถูกต้องของความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ

ฝ่ายสหรัฐฯ ควรพิจารณาปมปัญหาที่นำสู่ความยุ่งยากของความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ทำให้ฉันทมติที่บรรลุโดยประธานาธิบดีจีนและประธานาธิบดีสหรัฐฯ ณ การประชุมในบาหลีสู่การดำเนินการอันเป็นรูปธรรม และทำตามคำมั่นสัญญาต่างๆ ที่ ‘โจ ไบเดน’ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เคยให้ไว้

การดำเนินการอันเป็นรูปธรรมจำเป็นต่อการขจัดอุปสรรค ทั้งที่คาดถึงและคาดไม่ถึง เพื่อสั่งสมแรงขับเคลื่อนความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ที่มีเสถียรภาพ

หวังเรียกร้องให้สหรัฐฯ ปรับใช้ทัศนคติอันสมเหตุสมผลและสอดคล้องกับความเป็นจริง ตลอดจนทำงานร่วมกับจีนในทิศทางเดียวกัน เพื่อเดินหน้าการปรึกษาหารือหลักการชี้นำความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ขยับขยายช่องทางการสื่อสารทางการทูตและความมั่นคง ยกระดับประสิทธิภาพของการสื่อสาร และเกื้อหนุนการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน

‘บลิงเคน’ ชี้!! เกาหลีเหนือภัยคุกคามร่วมที่ใหญ่ที่สุด สะเทือนความมั่นคง ‘อินโดแปซิฟิก-สหรัฐฯ-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้’

(15 ก.ค. 66) รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า ที่การประชุมอาเซียน เกาหลีเหนือเป็นภัยคุกคามร่วมใหญ่สุดต่อความมั่นคงทั้งในระดับภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก และต่อสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ 

‘แอนโทนี บลิงเคน’ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวานนี้ (14 ก.ค. 66) ว่า ไม่มีปัญหาท้าทายใดอีกแล้ว ที่เป็นภัยด้านความมั่นคงร่วมกันทั้งในระดับภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก และต่อสหรัฐฯ ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ที่จะใหญ่ไปกว่าภัยคุกคามที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเกาหลีเหนือ และเกาหลีเหนือยิงทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป ICBM ครั้งล่าสุดในสัปดาห์นี้ เป็นการละเมิดมติคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติซ้ำแล้วซ้ำเล่า

บลิงเคนกล่าวหลังเข้าร่วมประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมือง และความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือ ‘ARF’ และหลังจากการประชุม 3 ประเทศ สหรัฐฯ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ นอกรอบการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่กรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย 

ด้าน ฮายาชิ โยชิมาสะ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น กล่าวในการแถลงข่าวเดียวกันร่วมกับบลิงเคนว่า ภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก กำลังตกอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมด้านความมั่นคงที่รุนแรงและซับซ้อนที่สุดนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา จากการที่เกาหลีเหนือเพิ่มความเข้มข้นในกิจกรรมด้านนิวเคลียร์และขีปนาวุธ รวมถึงการยิง ICBM ล่าสุดในสัปดาห์นี้ด้วย

ด้าน ปาร์ค จิน รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ กล่าวในการแถลงข่าวเดียวกันว่า เกาหลีเหนือยิง ICBM ทั้ง ๆ ที่อาเซียนกำลังประชุมกันอยู่ว่าด้วยสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคนี้ พฤติกรรมของเกาหลีเหนือจึงเป็นสิ่งที่ตรงข้ามอย่างสิ้นเชิงกับความคาดหวังของประชาคมโลก เขาหวังว่า การประชุม 3 ฝ่ายระหว่างสหรัฐฯ ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ในครั้งนี้ จะเพิ่มความแน่วแน่ของเรา ในการตอบโต้การกระทำยั่วยุอย่างต่อเนื่องของเกาหลีเหนืออย่างหนักแน่นและเด็ดขาด  และส่งสารถึงเกาหลีเหนือให้ตระหนักว่า การยั่วยุนั้นจะต้องไม่ผ่านไปเฉย ๆ โดยไม่ถูกลงโทษ

บลิงเคนกล่าวถึงรัสเซียด้วยว่า “ไม่มีสัญญาณว่า รัสเซียจะเปลี่ยนแปลงทิศทางในปฏิบัติการในยูเครน หรือจะเข้าร่วมทางการทูตเกี่ยวกับยูเครน”

ทั้งนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ได้เข้าร่วมในการประชุม ARF ด้วย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top