Sunday, 12 May 2024
สุโขทัย

สุโขทัย-เริ่มแล้ว ประเพณีสงกรานต์และเทศกาลอาหารเมืองสวรรคโลกสุดยิ่งใหญ่

เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 11 เม.ย. ที่บริเวณลานกิจกรรมอเนกประสงค์ริมรางรถไฟ ถนนศรีสัชนาลัย  อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย นายดำรง  มโนรถ รองผวจ.สุโขทัย เป็นประธานในพิธีเปิดงานประเพณีสงกรานต์และเทศกาลอาหารเมืองสวรรคโลก ประจำปี2566 ซึ่งปีนี้ทางด้านนายสมชาติ ลิมปะพันธุ์ นายกเทศมนตรีเมืองสวรรคโลก ได้กำหนดจัดงานประเพณีสงกรานต์และเทศกาลอาหารเมืองสวรรคโลก ขึ้นระหว่างวันที่ 11-15 เมษายน ประจำปี 2566 ณ บริเวณลานกิจกรรมอเนกประสงค์ริมรางรถไฟ อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย

 

ทั้งนี้ เทศบาลเมืองสวรรคโลกในฐานะเจ้าภาพจัดงาน ได้ให้ความสำคัญกับกิจกรรมสืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงาม อาทิ การทำบุญตักบาตร การรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการแสดงอื่นอีกมากมาย พร้อมเทศกาลอาหารให้ประชาชนได้เลือกสรรนานาชนิดกว่า 80 ร้านค้า ซึ่งเป็นระยะมากว่า 10 ปีแล้ว เพื่ออนุรักษ์และส่งเสริมประเพณีอันดีงามให้คงอยู่สืบไป เพื่อส่งเสริมอาชีพสร้างรายได้ให้แก่คนในท้องถิ่น และเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองสวรรคโลก

สุโขทัย ตร.เจ๋ง ฝากบ้านยุค IT 4.0 plus Smart Safety Zone Sukhothai

  ใกล้ถึงวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ หลายคนอยากจะไปเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ แต่ก็อดเป็นห่วงบ้านและทรัพย์สินในบ้านไม่ได้ ทำให้เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ไม่กล้าเดินทางไปเที่ยวไหนไกลบ้าน วันนี้ สภ.เมืองสุโขทัย ปิ๊งไอเดีย ปลดล็อคความกังวล ของประชาชน ที่อยากจะไปเที่ยวต่างจังหวัดหลายวันแต่ก็เป็นห่วงบ้าน ด้วยโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ ที่เสริมระบบไฮเทคโนโลยี่  แบบ 4.0 plus Smart Safety Zone Sukhothai ที่นอกจากจะมีการติดตู้แดงไว้สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจมาลงเวลาในการตรวจบ้านของประชาชนแล้ว ยังประสานกับเจ้าของบ้านที่มีการติดกล้องวงจรปิดไว้ที่บ้าน สามารส่งรหัสไอพี เข้ามาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุโขทัย ที่ศูนย์ ccoc ของ Smart Safety Zone Sukhothai  และจะมีทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยตรวจสอบ ตลอด 24 ชม. อีกทั้งยังมีระบบตรวจสอบความเคลื่อนไหวให้ด้วยว่า มีอะไรเคลื่อนไหวภายในบ้านยามวิกาลหรือไม่ หากพบเห็นก็จะส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจเข้าตรวจสอบทันที

‘ลูกชาวนา’ เปิดใจ!! เล่าความบอบช้ำชาวนาเมื่อปี 57 ยอมรับ!! รอดพ้นวิกฤตต่างๆ มาได้เพราะ ‘รัฐบาลลุงตู่’

(11 พ.ค. 66) ผู้งานติ๊กต็อกชื่อ ‘skincare_by_yammy’ ได้ออกมาพูดถึงเรื่องการเลือกตั้งปีนี้ และได้เปิดเผยสาเหตุในการตัดสินใจเลือกพรรคการเมืองที่ตนชื่นชอบ โดยเจ้าของช่องติ๊กต็อกดังกล่าวได้เผยว่า…

“เมื่อคืนที่ผ่านมา ได้ลงคลิปตอนที่ถามกับลูกว่าจะเลือกใครเป็นนายก แล้วลูกได้ตอบว่า “เลือกลุงตู่” ซึ่งเราก็ได้ลงคลิปไปเล่นๆ ไม่ได้คิดอะไร แต่ก็เกิดดรามาขึ้นจนได้ หลังจากมีชาวเน็ตมาแห่กันคอมเมนต์ในคลิปดังกล่าวที่เราได้โพสต์ลงไป”

เจ้าของช่องติ๊กต็อกดังกล่าวได้เล่าต่อว่า “เราเป็นคนบ้านกง จังหวัดสุโขทัย เป็นลูกชาวนาแทนๆ พ่อแม่ของเราก็เป็นชาวนา พ่อใหญ่แม่ใหญ่ของเราก็เป็นชาวนามาก่อน ซึ่งก่อนหน้านี้เราและครอบครัวก็เคยสนับสนุนพรรคการเมืองที่ดูแลในเรื่องของการทำนา การเกษตร จนได้มีจุดเปลี่ยน ในปี 2557 ที่ทำให้เราและครอบครัวได้รับผลกระทบอย่างมาก เนื่องจากเราได้ขายข้าวไป แต่ไม่ได้รับเงิน ทำให้ครอบครัวเราต้องแบกรับภาระค่าปุ๋ย ค่ายา ตลอดจนค่าจ้างในการเก็บเกี่ยวข้าวทั้งหมด เป็นเงินร่วมหลายแสนบาท ครอบครัวของเราเครียดเป็นอย่างมาก จากการต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายตรงนี้ ซึ่งใน ณ ห้วงเวลานั้น ถือเป็นวิกฤตอย่างหนักของชาวนา หากใครย้อนกลับไปมองในช่วงนั้น จะเห็นได้ว่า ‘ลุงกำนัน สุเทพ เทือกสุบรรณ’ ได้พาชาวนาไปประท้วง เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลในยุคนั้นเร่งแก้ไขปัญหานี้ให้ชาวนาโดยด่วน ซึ่งเราไม่ได้ไปร่วมเดินประท้วงด้วย แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งในคนที่ได้รับผลกระทบตรงนี้จริงๆ”

เจ้าของช่องติ๊กต็อกยังเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากเกิดการปฏิวัติ โดยกล่าวว่า “แต่หลังเกิดการปฏิวัติ ‘ลุงตู่’ ได้เข้ามาช่วยชำระหนี้สินตรงนี้ทั้งหมด ทำให้หลังจากนั้นเราได้เปลี่ยนความคิดว่า เราอยู่ได้ เพราะยึดราคาต้นทุนต่าง ๆ ตามราคาท้องตลาด หากต้นทุนไม่สูง เราก็พออยู่ได้… แต่เมื่อเกิดสงครามระหว่างประเทศยูเครนและรัสเซีย ก็ทำให้ราคาปุ๋ยและยาแพงขึ้นมากอีก ส่งผลให้ต้นทุนในการทำนาสูงขึ้น หากไม่ได้รัฐบาลยุคลุงตู่ช่วยเข้าไปเจรจา ราคาปุ๋ยในท้องตลาดของประเทศไทยก็คงจะยังราคาสูงอยู่ ตอนนี้ราคาปุ๋ยลดลงมาแล้ว ซึ่งช่วยลดต้นทุนในการทำนาเป็นอย่างมาก”

“เราเป็นคนบ้านกงแท้ ๆ เป็นคนสุโขทัยแท้ ๆ ขอยืนยันที่จะสนับสนุนลุงตู่ต่อไป เพราะเรารักสถาบันฯ เราเรียนประวัติศาสตร์มา เราอย่าให้ตัวอักษรที่ถูกบรรจงเขียนไว้ ถูกลบเลือนไป เรายินดีที่จะรักษาความมั่นคงของประเทศชาตินี้ไว้ แม้จะเป็นเพียงเศษเสี้ยวเล็ก ๆ น้อย ๆ เราก็ขอยืนยันจริง ๆ ที่จะสนับสนุนต่อไป และขอชื่นชมอีกหลาย ๆ คนที่ออกมาพูดเช่นกัน การออกมาพูดของเราในครั้งนี้ อาจจะทำให้เพื่อนลดลง ก็ไม่เป็นไรค่ะ” เจ้าของช่องติ๊กต็อก กล่าวทิ้งท้าย

‘สมศักดิ์’ ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมสุโขทัย กำชับทุกหน่วยเร่งช่วย ปชช. รับ สถานการณ์ยังน่าห่วง เตรียมเสนอแนวทางแก้ปัญหาระยะยาวต่อ ครม.

(1 ต.ค. 66) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และนายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน ลงพื้นที่จังหวัดสุโขทัย เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำ โดยจุดแรก ได้เดินทางไปตรวจประตูระบายน้ำแม่น้ำยม บ้านหาดสะพานจันทร์ อำเภอสวรรคโลก ร่วมประชุมเพื่อสรุปสถานการณ์และหาแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมจังหวัดสุโขทัย กับนายสุชาติ ทีคะสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย นายมนู พุกประเสริฐ นายก อบจ.สุโขทัย นางสาวประภาพรทองปากน้ำ สส.สุโขทัย  นายจักรวาล ชัยวิรัตน์นุกูล สส.สุโขทัย และหัวหน้าส่วนราชการ

โดยนายสุชาติ กล่าวรายงานสรุปว่า สถานการณ์น้ำในจังหวัดสุโขทัย เริ่มมีความน่าเป็นห่วงตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา เพราะมีฝนตกเป็นจำนวนมาก รวมถึงมีน้ำป่าไหลมาจากจังหวัดรอบข้าง ส่งผลให้สถานการณ์น้ำในจังหวัดเวลานี้ อยู่ในจุดที่ต้องเฝ้าระวัง โดยขณะนี้ มีพื้นที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด 42 ตำบล 165 หมู่บ้าน 1,365 ครัวเรือน รวมถึงมีพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 2,483 ไร่ ซึ่งทางจังหวัดได้เตรียมความพร้อม ในการดูแลช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ขอขอบคุณนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ที่สั่งการอย่างเร่งด่วนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่าง กระทรวงมหาดไทย ได้เร่งลงพื้นที่แล้ว โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ได้รายงานสถานการณ์และสรุปในเบื้องต้นให้รับฟังแล้ว ซึ่งขณะนี้ มีประชาชนที่ได้รับผลกระทบ 1,365 ครัวเรือน เป็นพื้นที่กว่า 62,000 ไร่ ส่วนเรื่องการช่วยเหลือชาวสุโขทัย ในเรื่องการอพยพนั้น ยังมีน้อย แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ มวลน้ำ ที่ไหลมาจากจังหวัดแพร่ โดยจากรายงานปริมาณน้ำของวันนี้ เมื่อเทียบกับของเมื่อวานที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า สูงขึ้น จาก 880 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มอีก 350 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยมวลน้ำทั้งหมด จะไหลมารวมอยู่ที่จังหวัดสุโขทัย

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ทางจังหวัดสุโขทัย ก็พยายามปล่อยน้ำออกทางด้านซ้ายของแม่น้ำยมเป็นหลัก ซึ่งสามารถปล่อยได้ 450 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนในวันพรุ่งนี้ ตนได้รับรายงานว่า น้ำน่าจะเพิ่มขึ้นอีก 350 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที อาจจะส่งผลกระทบให้กับประชาชนเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ในพื้นที่อำเภอเมือง ยังพบดินสไลด์ริมตลิ่ง ความยาวกว่า 100 เมตร โดยผู้ว่าฯได้นำเอาบิ๊กแบ๊คมากั้นเรียบร้อยแล้ว คาดว่า วันนี้จะสามารถหยุดการไหลของน้ำเข้าในพื้นที่ของอำเภอเมืองได้

“หลังจากนี้ ผมและคณะ จะเดินทางไปจังหวัดแพร่ เพื่อติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากนายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงมาก จึงได้กำชับให้ผมรีบลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาว ในช่วงเย็นวันเดียวกันนี้ ผมจะกลับมาประชุมที่จังหวัดสุโขทัยอีกครั้งหนึ่ง เพื่อสรุปแนวทางทั้งหมด นำไปเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี โดยขอยืนยันว่า ผมทำงานการเมืองมา 40 ปี เห็นปัญหานี้มาโดยตลอด ซึ่งจะพยายามแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว

'สมศักดิ์' เช็ก 'สุโขทัย' สั่งจังหวัดเฝ้าสถานการณ์ใกล้ชิด หวั่นทะลักพื้นที่ ศก. พร้อมเตรียมเสนอ 'นายกฯ' สร้างที่ระบายน้ำฝั่งขวาแม่น้ำยม ช่วยบรรเทา

(2 ต.ค.66) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ร่วมประชุมกับหัวหน้าส่วนราชการ เพื่อสรุปสถานการณ์น้ำท่วมและแนวทางการแก้ปัญหา โดยมี นายสุชาติ ทีคะสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย นายมนู พุกประเสริฐ นายก อบจ.สุโขทัย นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ สส.สุโขทัย พรรคเพื่อไทย นางสาวประภาพร ทองปากน้ำ สส.สุโขทัย พรรคเพื่อไทย นายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน และหัวหน้าส่วนราชการกระทรวงคมนาคม เข้าร่วมที่จังหวัดสุโขทัย

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนได้เน้นย้ำในที่ประชุมให้เฝ้าระวังพื้นที่ในจังหวัดสุโขทัยเป็นพิเศษ เพราะในพื้นที่ ตำบลปากแคว อำเภอเมือง ได้เกิดดินสไลด์ ส่งผลให้น้ำทะลักเข้ามาแล้ว ซึ่งต้องช่วยกันติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยผู้ว่าฯ สุโขทัย ก็คงหลับไม่ได้ ต้องเฝ้าสถานการณ์ตลอดเวลา เพราะหากดินสไลด์เพิ่ม จะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ส่วนหลังสถานการณ์คลี่คลาย ก็ต้องมีการเร่งสร้างเขื่อนกันดินสไลด์ในจุดนี้เพิ่ม นอกจากนี้ เป็นที่ทราบกันดีว่า แม่น้ำยม เป็นแม่น้ำสายเดียว ที่ไม่มีเขื่อนรองรับ จึงทำให้น้ำเกิดน้ำท่วม เพราะมวลน้ำที่ไหลมา มีจำนวนมากถึง 400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงทำให้เกิดน้ำท่วมขัง

“ผมไม่กล้าหวังที่จะให้มีการสร้างเขื่อน แม้ว่าพี่น้องประชาชน จะบอกว่ามีแนวโน้มที่ประชาชนส่วนใหญ่จะเข้าใจ แต่หลายครั้งที่เราพูดคุยเรื่องเขื่อน ก็จะมีปัญหา ผมจึงไม่อยากพูด แต่เปลี่ยนไปพยายามแก้ปัญหาในวิธีอื่นแทน อย่างในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ตั้งแต่จังหวัดอุตรดิตถ์ สุโขทัย และภาคเหนือตอนบน จังหวัดแพร่ เราก็พยายามแก้ปัญหาในพื้นที่ ที่ไม่กระทบกับต้นน้ำแม่น้ำยมก่อน เพื่อลดผลกระทบกับประชาชนให้ได้มากที่สุด เพราะหากย้อนไปดูเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ ปี 2554 สร้างความเสียหายถึง 1.42 ล้านล้านบาท เป็นความเสียหายจากทรัพย์สินทางราชการ และของพี่น้องประชาชน รวมถึงเสียโอกาสในการประกอบอาชีพ ซึ่งในตอนนั้น น้ำมีความสูงถึง 13 เมตร โดยจะเห็นได้ว่า เหตุน้ำท่วมได้สร้างความเสียหายให้กับพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว

นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า จากการลงพื้นที่ ประชาชนเริ่มเรียกร้องให้ช่วยเหลือแบบยั่งยืน เพราะจังหวัดสุโขทัย เกิดเหตุน้ำท่วมทุกปี โดยเป็นเรื่องความไม่ปลอดภัย ซึ่งที่ผ่านมา เราพยายามแก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างเต็มที่ โดยฝั่งขวาแม่น้ำยม ขณะนี้ ก็ได้มีการดำเนินการออกแบบเพื่อแก้ปัญหาระยะยาวแล้ว ซึ่งหลังจากนี้ ตนจะนำเรียนท่านเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้รับทราบและพิจารณาถึงแนวทางการแก้ปัญหานี้ เพราะจะสามารถช่วยการระบายน้ำได้เป็นอย่างดี และนอกจากช่วยน้ำท่วมแล้ว เวลาน้ำแล้ง เรายังสามารถปิดประตู เก็บน้ำไว้ใช้ได้อีก เพราะในอีก 3 ปี มีการคาดการณ์ว่า จะเกิดภัยแล้งจากเอลนีโญ ดังนั้น ถ้าเราวางแผนแก้ปัญหาแบบเป็นระบบ ก็จะสามารถบริหารจัดการน้ำได้ทั้งหมด

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดสุโขทัยตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ พบว่า มีพื้นที่ 9 อำเภอได้รับผลกระทบแล้ว และมีประชาชน ได้รับผลกระทบเพิ่มเป็น 2,007 ครัวเรือน เป็นพื้นที่กว่า 62,483 ไร่ นอกจากนี้ ยังพบว่า ที่น่าเป็นห่วงเพิ่มเติมคือ ตำบลปากแคว ตำบลยางซ้าย อำเภอเมือง เกิดคันดินคอสะพานขาด พื้นที่อำเภอศรีสำโรง พนังกั้นน้ำบริเวณสะพานสิริปัญญารัตน์ เกิดแยกตัว และพื้นที่อำเภอสวรรคโลก น้ำเอ่อล้นตลิ่งคันคลอง และบริเวณคอสะพานหลายจุด ตนจึงฝากเตือนพี่น้องประชาชน ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ ยังได้ลงพื้นที่จุดเสี่ยงเพิ่มเติม คือ บริเวณหน้าจวนผู้ว่าฯ สุโขทัย โดยได้ขึ้นหลังรถกระบะ ถือตลับเมตรปีนขึ้นไปวัดระดับน้ำ พบว่า ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น จากที่พนังกั้นน้ำสามารถรองรับได้ 2.80 เมตร ความหนาของพนังตัวนี้อยู่ที่ 15 เซนติเมตร แต่น้ำขณะนี้ อยู่ที่ระดับ 2.40 เมตรแล้ว มวลน้ำก้อนใหม่ที่มาจากอำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ ก็กำลังจะไหลมาที่จังหวัดสุโขทัย ซึ่งหากพนังกั้นน้ำได้รับความเสียหายแตกร้าว ก็จะส่งผลให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมตัวเมือง ที่เป็นแหล่งชุมชน และตลาด รวมถึงเรือนจำสุโขทัยด้วย โดยจุดนี้ นายสมศักดิ์ มีความเป็นห่วงอย่างมาก จึงได้กำชับสั่งผู้ว่าฯ สุโขทัย ให้ดูแลใกล้ชิด เพราะไม่อยากให้น้ำทะลักเข้าพื้นที่เศรษฐกิจของจังหวัด

'นายกฯ เศรษฐา' เตรียมลงพื้นที่สุโขทัย ติดตามโครงการป้องกันอุทกภัย 27 พ.ย.นี้

(24 พ.ย. 66) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เตรียมเดินทางลงพื้นที่ จ.สุโขทัย ในวันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2566 เพื่อไปตรวจราชการติดตามโครงการป้องกันอุทกภัย จ.สุโขทัย และร่วมพิธีเผาเทียน ชมการแสดง แสง เสียง ร่วมพิธีลอยพระประทีปพระราชทาน และชมการแสดงพลุ ตะไล ไฟพะเนียง ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย โดย นางพักตร์พิไล ทวีสิน ภริยานายกรัฐมนตรี, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี, นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ร่วมคณะตรวจราชการ

โดยเวลาประมาณ 16.15 น. นายกรัฐมนตรีและภริยา พร้อมคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานสุโขทัย ต.คลองกระจง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย โดยเครื่องบินของกองทัพอากาศ เมื่อเดินทางถึงท่าอากาศยานสุโขทัย ออกเดินทางต่อไปยังสำนักงานเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ต.ธานี อ.เมืองสุโขทัย จ.สุโขทัย เวลาประมาณ 17.45 น. นายกรัฐมนตรีจะรับฟังบรรยายสรุปการขอรับความช่วยเหลือโครงการป้องกันอุทกภัย จ.สุโขทัย ณ สำนักงานเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี

จากนั้น เวลาประมาณ 19.45 น.นายกรัฐมนตรีและภริยา ร่วมพิธีเผาเทียน ณ พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ต.เมืองเก่า อ.เมืองสุโขทัย จ.สุโขทัย ก่อนเดินทางโดยขบวนรถราง ไปร่วมชมการแสดง แสง เสียง ณ วัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จากนั้นเวลา 21.30 น. นายกรัฐมนตรีและภริยาร่วมพิธีลอยพระประทีปพระราชทาน และชมการแสดงพลุ ตะไล ไฟพะเนียง ณ ตระพังตะกวน อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย แล้วเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร โดยนายกรัฐมนตรีและภริยา จะเดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ในเวลา 00.00 น. 

‘ประภาภรณ์ เชยวัดเกาะ’ อดีตผู้สมัคร สส.หญิง แห่งสุโขทัย มากความสามารถด้านธุรกิจ และงานเพื่อพัฒนาจังหวัด

(12 เม.ย.67) วันนี้จะพามาทำความรู้จักกับ ‘มาดามเปิ้ล’ หรือ ประภาภรณ์ เชยวัดเกาะ หญิงเก่งแห่งจังหวัดสุโขทัย โดย มาดามเปิ้ล อายุ 45 ปี มีชื่อเสียงโด่งดังจากที่เธอเคยเป็นผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหมายเลข 9 ลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ จังหวัดสุโขทัย เขต 1 แต่น่าเสียดายที่พ่ายแพ้ให้กับ นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ จากพรรคเพื่อไทย ได้คะแนนเสียงไปเป็นอันดับ 1 ด้วยคะแนนรวม 32,130 หรือ 36.04% ปัจจุบันยังดำรงตำแหน่ง ประธานหอการค้าจังหวัดสุโขทัย อีกด้วย

ซึ่ง เปิ้ล ประภาภรณ์ เป็นที่รู้จักทั้งในด้านธุรกิจ และยังเคยทำงานมากมายเพื่อพัฒนาจังหวัดสุโขทัย อาทิ ประธานหอการค้าจังหวัดสุโขทัย, รองประธานหอการค้าจังหวัดสุโขทัย, เลขาธิการหอการค้าจังหวัดสุโขทัย, เป็นผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหมายเลข 9 ลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ จังหวัดสุโขทัย เขต 1

รวมทั้งเป็นผู้อำนวยการสร้างซีรีส์วัยรุ่น ‘Be My Boy รักแล้วไงหยุดไม่ได้แล้วล่ะ’ จากนวนิยายวัยรุ่น สุดฮิตมาเป็นซีรีส์ ออนแอร์ทางช่อง 5 เมื่อปี 2561 อีกด้วย

‘ป้ามุกดา’ วัย 59 ปี สะบัดแปรงสีละเลงรั้วบ้าน บอก!! ไม่เคยเรียน ‘ศิลปะ-วาดภาพ’ มาก่อน

(25 เม.ย. 67) ใครเห็นก็ว้าว... ที่หมู่บ้านปิ่นสุวรรณ หมู่ 1 ต.ปากแคว อ.เมือง จ.สุโขทัย มีคุณป้าคนหนึ่งชื่อว่า นางจันทร์หอม สุรกานนท์ หรือ ‘ป้ามุกดา’ อายุ 59 ปี เป็นแม่ค้าไข่เค็มและทำก๋วยเตี๋ยวพวงส่งขาย ไม่เคยเรียนศิลปะ แล้วก็ไม่เคยวาดภาพอะไรที่ไหนมาก่อน แต่ด้วยความรู้สึกเสียดายสีทาบ้านที่เหลือ ก็เลยหิ้วถังมานั่งละเลงสีวาดรั้วบ้านเล่น ๆ ตามจินตนาการของตัวเอง ปรากฏเมื่อผลงานเสร็จ ใครเห็นก็ต้องร้องว้าว และทึ่งไปตาม ๆ กัน กับฝีมือการวาดภาพครั้งแรกของคุณป้า ที่เรียกได้ว่าระดับเทพเลยทีเดียว

ป้ามุกดา บอกว่า เรียนจบ ปวช.สาขาวิชาคหกรรมศาสตร์ อาชีพปัจจุบันผลิตไข่เค็ม และทำก๋วยเตี๋ยวพวงสุโขทัยส่งขายตามออเดอร์ ส่วนเรื่องภาพวาดรั้วบ้านที่กลายเป็นกระแสดังในโซเชียล บางคนไม่เชื่อว่าป้าไม่มีความรู้ด้านศิลปะ ขอยืนยันอีกครั้งว่าไม่มีความรู้ด้านนี้จริง ๆ แล้วก็ยังงงตัวเองอยู่เลยว่าวาดออกมาได้อย่างไร

“จุดเริ่มต้นในการวาดภาพเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ป้าจ้างช่างให้มาทาสีบ้านแล้วสีมันเหลือ รู้สึกเสียดายก็เลยเอาไปทากำแพงรั้วรอบบ้านเล่น ๆ แต่มันดูโล่ง ๆ ก็เลยซื้อสีมาเพิ่ม วาดเติมแต่งต้นไม้ ดอกไม้ พอคนผ่านมาเห็นชมว่าสวย ใจป้าก็มีพลัง จึงตั้งใจวาดอย่างจริงจัง 3 เดือนกว่าจะเสร็จ ได้ผลงานออกมาอย่างที่เห็น”

ป้ามุกดา บอกอีกว่า ภาพที่วาดไว้บนกำแพงนั้น ประกอบด้วยชื่อภาพ น้ำตกจากฟากฟ้า, มวลหมู่แห่งดวงดาว, ป่าหลากสี, หุบเขาสีเขียว, ทุ่งดอกบัวตอง, ดงดอกคูน, น้ำตกหกสาวน้อย และทุ่งดอกทานตะวัน ทั้งหมดเกิดจากจินตนาการล้วนๆ วาดไปไอเดียผุดไป พลังมีมาแต่ละวันไม่เท่ากัน แต่ถ้าวันไหนป้างอนลุง วันนั้นบอกเลยไอเดียกระฉูด เพราะป้าจะไม่มองหน้าลุง มุ่งแต่วาดภาพอย่างเดียว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top