Tuesday, 29 April 2025
สตูล

'สุริยะ' อัปเดต!! 'สะพานข้ามคลองตำมะลัง' เมืองสตูล คืบหน้า 75%  คาดเสร็จกลางปีนี้ ช่วยหนุน 'ศก.-ขนส่งสินค้าเกษตร-ประมง' ได้มาก

(7 ก.พ.67) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ได้ดำเนินโครงการก่อสร้างสะพานข้ามคลองตำมะลัง อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับพระราชทานพระราชานุมัติจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ปัจจุบันมีความคืบหน้ากว่าร้อยละ 75 คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงกลางปี 2567 โดยโครงการดังกล่าวเกิดขึ้น เนื่องจากประชาชนที่อาศัยอยู่บนเกาะตำมะลัง ประมาณ 2,000 ครัวเรือน ได้รับความเดือดร้อนในการเดินทาง ที่ผ่านมาการเดินทางต้องสัญจรด้วยเรือข้ามฟาก ต้องใช้เวลาประมาณ 30 นาที 

ทั้งนี้ เมื่อโครงการแล้วเสร็จจะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับพี่น้องประชาชนบนเกาะตำมะลัง และประชาชนทั่วไป ให้สามารถเดินทางระหว่างเกาะตำมะลังและแผ่นดินใหญ่ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย สามารถเดินทางไปยังโรงพยาบาลเมื่อมีเหตุฉุกเฉินหรือการอพยพประชาชนในกรณีเกิดภัยพิบัติได้อย่างรวดเร็ว ตลอดจนส่งเสริมเศรษฐกิจการขนส่งสินค้าทางการเกษตรและประมงในพื้นที่อย่างยั่งยืน

สำหรับโครงการก่อสร้างสะพานข้ามคลองตำมะลัง จังหวัดสตูล ทช. ได้ตรวจสอบสภาพพื้นที่ของตำบลตำมะลัง ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่มีสภาพเป็นป่าสงวนแห่งชาติ ทช. จึงได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม เสนอสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อพิจารณานำเสนอคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานทางบกและอากาศ 

จากนั้น ทช. จึงได้ดำเนินการสำรวจและออกแบบ และได้เริ่มก่อสร้างสะพานข้ามคลองตำมะลัง ในปี 2563 มีจุดเริ่มต้นจากแยก ทล.406 บริเวณ กม. ที่ 93+900 ด้านขวาทาง ขนาด 2 ช่องจราจร ตรงเข้าสู่ ท่าเทียบเรือประมงเอกชนริมคลองตำมะลัง จากนั้นสะพานจะข้ามไปยังฝั่งบ้านตำมะลังเหนือ หมู่ที่ 2 ผ่านพื้นที่เกษตรกรรมและถนนดินไปสิ้นสุดที่บริเวณถนนสาธารณะของหมู่บ้าน ใช้งบประมาณ 433.190 ล้านบาท 

ปัจจุบันอยู่ระหว่างงานติดตั้งโครงสร้างราวกันตก งานพื้นสะพานช่วงกลางน้ำ งานติดตั้งชิ้นส่วนสำเร็จรูปพื้นสะพานและงานถนนคอนกรีตเสริมเหล็กฝั่งเกาะตำมะลัง โดยมีรายละเอียดการก่อสร้าง ดังนี้...

- ถนนต่อเชื่อมฝั่งแผ่นดิน บริเวณ กม. ที่ 0+000 - 0+690.500 เป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาด 2 ช่องจราจร พร้อมไหล่ทาง ความยาว 660 เมตร

- สะพานข้ามคลองตำมะลัง บริเวณ กม. ที่ 0+690.500 - 1+491.500 เป็นโครงสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก มีพื้นสะพานเป็นแบบคานคอนกรีตอัดแรงรูปกล่อง ขนาด 2 ช่องจราจร พร้อมทางเท้า ความยาว 801 เมตร

- ถนนต่อเชื่อมสะพานฝั่งเกาะตำมะลัง บริเวณ กม. ที่ 1+491.500 - 2+750 เป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาด 2 ช่องจราจร พร้อมไหล่ทาง ความยาว 1,200 เมตร ในส่วนการก่อสร้างลานจอดรถฝั่งเกาะตำมะลัง สามารถรองรับรถยนต์ได้ประมาณ 80 คัน รถจักรยานยนต์ประมาณ 126 คัน และก่อสร้างบันไดทางลาดขึ้นลงสะพาน เพื่อให้ประชาชนสามารถเดินข้ามคลองตำมะลังได้อีกด้วย

นอกจากนี้ ระหว่างการก่อสร้าง ทช. ได้จัดประชุมการมีส่วนร่วมภาคประชาชน กลุ่มเป้าหมาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้นำชุมชน ผู้แทนกลุ่มต่าง ๆ ในพื้นที่ เพื่อให้มีความเข้าใจเกี่ยวกับรายละเอียดของโครงการ ลักษณะโครงการ ขั้นตอนการดำเนินงาน ความคืบหน้าโครงการ พร้อมทั้งได้ตอบข้อซักถาม แลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากผู้ที่เข้าร่วมประชุม เพื่อให้การดำเนินงานสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ให้มากที่สุด ซึ่งได้จัดประชุมการมีส่วนร่วมภาคประชาชน ครั้งที่ 3 ไปเมื่อเดือนมกราคม 2567 ที่ผ่านมา ณ ลานมัสยิดบ้านตำมะลังเหนือ

‘ลุงซาเล้ง’ เล่าความประทับใจ ‘กรมสมเด็จพระเทพฯ’ ทรงรถซาเล้งพ่วงข้าง เผย สุดแสนปิติ ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตเคยได้ถวายงานเป็นพลขับให้พระองค์ท่าน

(17 ก.พ. 67) เพจเฟซบุ๊ก ‘มูลนิธิชัยพัฒนา’ ได้โพสต์ภาพเก่าเล่าเรื่อง เป็นภาพที่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรถซาเล้งพ่วงข้าง คงเป็นภาพที่อยู่ในความประทับใจของใครต่อใครหลายคน

… แต่ใครจะรู้ว่าภาพดังกล่าวเกิดขึ้นจากเมื่อครั้งที่เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรและทรงติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิของมูลนิธิชัยพัฒนา ณ โรงเรียนบ้านเกาะสาหร่ายชัยพัฒนา ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมือง จังหวัดสตูล เมื่อวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2552

ด้วยภูมิศาสตร์ของโรงเรียนตั้งอยู่บนเกาะ การเดินทางซึ่งเป็นวิถีชีวิตของคนบนเกาะสาหร่ายจึงใช้รถมอเตอร์ไซค์และรถซาเล้งพ่วงข้างในการเดินทาง เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎร ได้ประทับรถซาเล้งพ่วงข้างเฉกเช่นสามัญชนทั่วไป โดยมีคนท้องถิ่นนำรถของตนน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นรถพระที่นั่งขณะทรงงานบนเกาะ พร้อมทั้งถวายงานเป็นพลขับเพราะคุ้นชินและชำนาญพื้นที่

นายนาซาด หมัดตุกัง หรือ ‘คุณลุงขับซาเล้ง’ ที่เห็นในภาพ เคยถ่ายทอดความประทับใจที่ได้ถวายงานในวันนั้น ว่า…

“ขณะร่วมทาง พระองค์ได้ทรงสอบถามทุกข์สุขของชาวบ้าน พูดคุยอย่างเป็นกันเอง… ส่วนรถซาเล้ง ชาวบ้านละแวกนั้นจะเรียก ‘รถพระเทพฯ’ ...และหากถามถึงความรู้สึก ก็ตื่นเต้นมาก บอกไม่ถูก ผมเป็นมุสลิม เคยไปอยู่มาเลย์ แต่ก็กลับมาอยู่เมืองไทย เมืองไทยมีพระเจ้าแผ่นดิน ไม่มีปัญหา คนเกาะอยู่กันสุขสบาย… ที่นี่เจริญขึ้นมาก เจ้าเหยียบเมืองตรงไหนก็เจริญ”

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจากเฟซบุ๊ก : มูลนิธิชัยพัฒนา
https://www.facebook.com/chaipattanafoundation/posts/801975968639531?ref=embed_post

สตูล  หนุน “เกาะหลีเป๊ะ” ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว “หมอชลน่าน” ยกระดับระบบบริการสุขภาพตามนโยบายนักท่องเที่ยวปลอดภัย 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ติดตามการยกระดับระบบบริการสุขภาพตามนโยบายนักท่องเที่ยวปลอดภัย พร้อมเปิดอาคารใหม่ รพ.สต.บ้านหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล ชี้ช่วยสร้างความเชื่อมั่นภาคการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสตูล เปิดรับแพทย์อาสาหมุนเวียนมา รพ.สต.บ้านเกาะหลีเป๊ะ เพิ่มโอกาสให้ประชาชนในพื้นที่เฉพาะได้มีแพทย์ดูแลสุขภาพ ขณะที่บุคลากรได้ทำงานควบคู่การพักผ่อน

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหาร ติดตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุข ประเด็นนักท่องเที่ยวปลอดภัย พร้อมทั้งเปิดอาคารหลังใหม่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านเกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล และกล่าวว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ ซึ่งภาคการท่องเที่ยวถือเป็นจุดเด่นที่สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศจำนวนมาก โดยในปี 2567 คาดการว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยถึง 34.5 ล้านคน กระทรวงสาธารณสุข จึงสนับสนุนนโยบายรัฐบาล โดยกำหนดให้เรื่องนักท่องเที่ยวปลอดภัยเป็นนโยบายเร่งรัด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยทางสุขภาพให้กับนักท่องเที่ยว ดำเนินการผ่าน 4 มาตรการหลัก คือ 1.ยกระดับเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคและภัยสุขภาพ 2.ยกระดับระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน/ระบบสาธารณสุขฉุกเฉิน 3.ยกระดับที่พักและอาหารปลอดภัย และ 4.ยกระดับสถานพยาบาลในพื้นที่ท่องเที่ยว 

นายแพทย์ชลน่านกล่าวต่อว่า เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล ถือเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวสูง มีนักท่องเที่ยวมาเยือนปีละประมาณ 500,000 – 1,000,000 คน มีผู้ประกอบการและพนักงานประมาณ 3,000 คน มีสถานพยาบาลรองรับการดูแลสุขภาพประชาชนและนักท่องเที่ยว ได้แก่ คลินิกเอกชน 2 แห่ง และหน่วยบริการระดับปฐมภูมิของรัฐ 1 แห่ง คือ รพ.สต.บ้านเกาะหลีเป๊ะ ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ป่วยเข้ารับบริการประมาณ 10,000 ราย ต่อปี จึงมีการก่อสร้างอาคาร รพ.สต.บ้านเกาะหลีเป๊ะหลังใหม่ทดแทนหลังเดิม โดยใช้งบกลางจำนวน 80.7 ล้านบาท ตามโครงการพัฒนาระบบบริการสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมเกาะหลีเป๊ะ รองรับการท่องเที่ยวนานาชาติ จังหวัดสตูล และในส่วนของการให้บริการ ได้จัดบริการการแพทย์ทางไกลในรูปแบบ Virtual OPD กับโรงพยาบาลสตูล ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแม่ข่าย ด้วยระบบ Telemedicine ช่วยเพิ่มศักยภาพในการดูแลผู้ป่วยได้ดียิ่งขึ้น รพ.สต.บ้านเกาะหลีเป๊ะ ยังเป็นหน่วยปฏิบัติการแพทย์ขั้นสูง สามารถทำการส่งผู้ป่วยไปรับการรักษาต่ออย่างไร้รอยต่อ ทั้งการส่งต่อทางทะเลโดยเรือไปยังโรงพยาบาลสตูลและโรงพยาบาลละงู มีเรือที่ขึ้นทะเบียนในระบบการแพทย์ฉุกเฉิน 75 ลำ ตั้งแต่ ปี 2566 –มกราคม 2567 ส่งต่อผู้ป่วยแล้ว 199 ราย และการส่งต่อผู้ป่วยวิกฤติทางอากาศโดยเฮลิคอปเตอร์ (Sky doctor) ไปยังโรงพยาบาลสตูล ตั้งแต่ปี 2565 – พฤศจิกายน 2566 ส่งต่อผู้ป่วยแล้ว 17 ราย ช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็วภายใต้มาตรฐานความปลอดภัย และยังมีโครงการแพทย์อาสา (Volunteer Doctor) หมุนเวียนให้บริการ ที่รพ.สต.บ้านเกาะหลีเป๊ะ ช่วยให้มีแพทย์ดูแลประชาชนในพื้นที่เฉพาะ สร้างความเชื่อมั่นด้านการรักษาพยาบาลให้กับนักท่องเที่ยวบนเกาะ ส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค โดยเป็นการทำงานแบบ Workation คือ ทำงานควบคู่กับการพักผ่อน ได้รับความร่วมมือจากแพทย์สภา และได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายจากชมรมผู้ประกอบการบนเกาะ ในปี 2565 - 2566 มีแพทย์อาสาที่เข้ามาปฏิบัติงานถึง 80 คน โดยแพทย์ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดและเงื่อนไขการปฏิบัติงานที่ได้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสตูล หรือลงทะเบียนผ่าน https://www.facebook.com/doctorkohlipe “แพทย์อาสา เกาะหลีเป๊ะ” นอกจากนี้ รพ.สต.บ้านเกาะหลีเป๊ะ ยังได้รับการคัดเลือกให้เป็นพื้นที่ฝึกอบรมของศูนย์เรียนรู้ทางการแพทย์และสาธารณสุขชายแดนและพื้นที่เฉพาะ โรงพยาบาลสตูล ในหลักสูตรระบบ EMS/Referal System การท่องเที่ยวปลอดภัย การควบคุมโรคระบาด แพทย์อาสา และการจัดการภัยพิบัติในพื้นที่ชายแดน สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ พยาบาล นักวิชาการสาธารณสุข และบุคลากรสาธารณสุขทั่วประเทศ ด้วยนอกจากนี้ยังได้ชมการแสดง รองแง็ง ของน้องๆเยาวชนชาวเลอุรักลาโว้ย พร้อมกันเชิญท่านมาร่วมเต้นงานนี้ท่านนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  โชว์ลีลาการเต้นรองเง็งในเพลงตะแล๊กแต๊กของพี่น้องชาวเลอุลักลาโว้ยบนเกาะหลีเป๊ะหลังเดินงานมาเปิดตัวอาคารของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบนเกาะ สร้างสีสันเสียงหัวเราะแก่พี่น้องที่ร่วมเข้าชม
นิตยา แสงมณี // ผู้สื่อข่าวภูมิภาคประจำจังหวัดสตูล

สตูล จัดโครงการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. ร่วมกับโครงการจังหวัดเคลื่อนที่ “หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน”

ที่โรงเรียนบ้านแประ-ใต้ หมู่4 ตำบลท่าเรือ อำเภอท่าแพ จังหวัดสตูล นายคณิต คงช่วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานพิธีเปิดโครงการจังหวัดเคลื่อนที่ “หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน” และโครงการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว.จังหวัดสตูล โดยมีนายชัยวุฒิ บัวทอง ปลัดจังหวัดสตูล นางสาวธัญรัศม์ ไตรพันธ์รัชตะ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสตูล พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น แพทย์ พยาบาล สมาชิก พอ.สว. และสมาชิกเหล่ากาชาดสตูล ร่วมให้บริการประชาชนกันอย่างพร้อมเพรียง โดยมี นายหร่ออ๊บ มุเส็มสะเดา นายอำเภอท่าแพ พร้อมด้วยข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และผู้นำท้องที่ท้องถิ่นในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับ พร้อมประชาชนในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียงเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก

โอกาสนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล และคณะ ได้ร่วมมอบถุงยังชีพให้แก่ผู้ด้อยโอกาส ผู้สูงอายุ ตลอดจนคนพิการในพื้นที่ จากนั้นเดินเยี่ยมชมกิจกรรมในบูธของส่วนราชการต่างๆ และร่วมกิจกรรมปลูกต้นไม้ พร้อมลงพื้นที่เยี่ยมเยียนผู้ป่วยติดเตียง จำนวน 2 ราย ซึ่งได้มอบถุงยังชีพเครื่องอุปโภค-บริโภค เพื่อการดำรงชีพและเงินปัจจัยจำนวนหนึ่งให้แก่ผู้ป่วยเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ และลงพื้นที่พบปะผู้นำศาสนาในพื้นที่ตำบลท่าเรือ อำเภอท่าแพ อีกด้วย โครงการจังหวัดเคลื่อนที่ เป็นโครงการที่จังหวัดสตูลจัดขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนในเชิงรุก โดยให้ส่วนราชการต่างๆ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชนจัดหน่วยบริการเคลื่อนที่มาเพื่อให้บริการและเยี่ยมเยียนประชาชนในพื้นที่ห่างไกลในด้านต่างๆ และได้รับทราบถึงปัญหาในพื้นที่ เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที และตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ถูกต้อง ซึ่งภายในกิจกรรมมีบริการตลาดนัดแก้หนี้ ด้านการเกษตร แรงงาน ประมง ปศุสัตว์ ที่ดิน การฝากเงินออม การเลือกใช้พลังงานทางเลือก การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย การจำหน่ายสินค้าราคาถูก และแจกพันธุ์กล้าไม้ฟรีแก่ประชาชนที่สนใจ รวมถึงหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. ร่วมออกให้บริการดูแลรักษา แนะนำการตรวจสุขภาพด้วยตนเอง เช่น มะเร็งเต้านม การตรวจรักษาโรคทั่วไป และตรวจรักษาทันตกรรม เป็นต้น

สำหรับพื้นที่ตำบลท่าเรือ อำเภอท่าแพ อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 26 กิโลเมตร ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำสวนยางพารา สวนปาล์มน้ำมัน และลูกจ้างภาคการเกษตร ซึ่งได้รายงานประเด็นปัญหาและความต้องการของประชาชนพื้นที่คือ ประชาชนขาดแคลนน้ำใช้อุปโภคบริโภคในฤดูแล้ง , ปัญหาการปรับปรุงระบบไฟฟ้าส่องสว่าง หมู่ที 1-6 และปัญหาสภาพถนนเป็นหลุมเป็นบ่อไม่สะดวกในการสัญจร เป็นต้น โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ได้ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งนำไปพิจารณาวางแผนและกำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่อไป
นิตยา แสงมณี // ผู้สื่อข่าวภูมิภาคประจำจังหวัดสตูล

สตูล รื้อถอนโพงพาง เครื่องมือประมงผิดกฎหมายในทะเลพื้นที่ อ.ละงู และ อ.ทุ่งหว้า 250 ปากทามกลางสายฝน

เมื่อวันที่ (27 ส.ค. 67) ที่ผ่านมา ในพื้นที่ทะเลในเขตตำบลทุ่งบุหลัง อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล ที่เป็นรอยต่อทางทะเลไปยังอำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง พบการบุกรุกปักเสาไม้ป่าโกงกางขนาดใหญ่ ที่ใช่ทำเครื่องมือผิดกฎหมาย โพงพาง  ปักขวางทางเดินล่องน้ำในทะเลเป็นจำนวนมาก เต็มในทะเลสตูล มีถึง 500 กว่าปาก และในวันนี้ กำลังทางเรือ, เรือ ศรชล.4006, เรือ ศรชล.2906 , เรือตรวจการประมงทะเล 214, เรือทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 202, เรือ RIB ของ นรภ.ทร.เกาะหลีเป๊ะ และ เรือยางของศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลกระบี่ รวมทั้งกำลังพลจาก ศรชล.จว.สตูล, ศคท.จว.สตูล ชปพ.นก.พตต.ศรชล.ภาค 3 ,หน่วยปฏิบัติการ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 452,หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลเกาะหลีเป๊ะ (สตูล) ศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลกระบี่ กองตรวจการประมง กรมประมง ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลจังหวัดสตูล , สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสตูล, ตำรวจน้ำสตูล และฝ่ายปกครองอำเภอทุ่งหว้า

หลังได้รับมอบหมายจาก นายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้อำนวยการ ศรชล.จว.สตูล/ผวจ.สตูล มอบหมายให้ น.อ.แสนย์ไท  บัวเนียม ร.น. รองผู้อำนวยการ ศรชล.จว.สตูล/ผบ.นก.พตต.ศรชล.ภาค ๓ เป็นประธานในพิธีเปิดปฏิบัติการรื้อถอนเครื่องมือประมงผิดกฎหมาย ประเภท “โพงพาง” พื้นที่ อ.ละงู และ อ.ทุ่งหว้า จว.สตูล  พร้อมด้วย น.อ.รัฐพล แก้วกระจาย ร.น. หัวหน้า ศคท.จว.สตูล ณ สถานีเรือละงู ต.แหลมสน อ.ละงู จว.สตูล ซึ่งได้นำกำลังออกปฏิบัติการและสามารถรื้อถอนโพงพางได้ จำนวน 250 ปาก การปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทามกลางที่ฝนตกหนัก  แต่ทำการรื้อถอนโดยไม่มีกลุ่มชาวประมงออกมาขวางกันแต่อย่างใด

ด้านนายจรัญ หลีหมัน ประมงอำเภอทุ่งหว้า กล่าวว่า การออกปฏิบัติการ รื้อถอนโพงพางในครั้งนี้ ต้องจัดการอย่างเร่งด่วน พบว่าการแอบทำโพงพางมีผลเสี่ยงต่อระบบนิเวศใต้น้ำ สัตว์น้ำสูญพันธ์ได้ และวันนี้หากรู้ว่าคนที่ลักลอบทำผิด แน่นอนต้องโดนโทษทางแกฎหมายเป็นเงินตั้งแต่ 1 แสนบาท จนถึง 5 แสนบาท ปรับจำนวน 5 เท่าของสัตว์น้ำที่จับได้

นิตยา แสงมณี // ผู้สื่อข่าวภูมิภาคประจำจังหวัดสตูล

สตูล ส่งมอบเรือของกลางคืนมาเลเซีย หลังถูกโจรกรรมมาซุกในสตูล พร้อมเดินหน้าตามหาคนผิดต่อไป การส่งมอบคืนในครั้งนี้เป็นการร่วมมือในการแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติและการแก้ปัญหาความมั่นคงทางทะเล

(30 ส.ค. 67) ที่ผ่านมา ที่ด่านศุลกากรตำมะลัง จังหวัดสตูล มีพิธีส่งมอบเรือของกลางคืนให้แก่ทางการมาเลเซีย โดยนายศักระ กปิลกาญจน์  ผู้ว่าราชการจังหวัด  ผอ.ศรชล.ได้มอบหมายให้  น.อ.แสนย์ไท บัวเนียม รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสตูล เป็นประธานในพิธี สำหรับเรือลำนี้เป็นเรือประมงสัญชาติมาเลเซีย ชื่อ KHF 818 ขนาด 38.46 กรอสตัน ถูกพบเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2567 โดยเจ้าหน้าที่ตรวจท่าปฏิบัติการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคจังหวัดสตูล พบว่าเรือลำนี้เข้ามาจอดที่อู่เรือในตำบลตำมะลัง อำเภอเมืองสตูล โดยไม่ได้รายงานการเข้ามาต่อเจ้าท่าตามกฎหมาย จากการสอบสวนพบว่า เรือลำนี้เป็นของนายอี เทีย จาย สัญชาติมาเลเซีย ซึ่งถูกโจรกรรมมาจากท่าเรือประมงกัวลาเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2565 และได้มีการแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจกัวลาเคดาห์แล้ว ในการส่งมอบครั้งนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจังหวัดสตูลเข้าร่วม อาทิ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองสตูล ,นายด่านศุลกากรสตูล, ผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการด่านตรวจประมงเขต 9 สตูล, ประมงจังหวัดสตูล,หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลเกาะหลีเป๊ะ (สตูล),กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 5,กองร้อยตำรวจตะเวนชายแดนที่ 436 สตูล และเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสตูลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำหรับฝ่ายมาเลเซียมีมูฮัมหมัด ไครูลานัวร์ บิน อิบราฮิม รองสารวัตรตำรวจน้ำลังกาวี รัฐเคดาห์ และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานประมงรัฐเคดาห์ มารับมอบเรือ

ทั้งสองฝ่ายได้ตรวจสอบสภาพเรือและยืนยันว่าไม่มีความเสียหายเพิ่มเติม การส่งมอบครั้งนี้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายและไม่มีการเรียกร้องผลประโยชน์ใดๆ ทางการไทยยังเน้นย้ำว่าจะเร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว การส่งมอบเรือคืนครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความร่วมมืออันดีระหว่างไทยและมาเลเซียในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ และการรักษาความมั่นคงทางทะเลร่วมกัน

นิตยา แสงมณี // ผู้สื่อข่าวภูมิภาคประจำจังหวัดสตูล

สตูล หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลเกาะหลีเป๊ะ (สตูล) ตรวจยึดเครื่องมือทำการประมงอวนลากแผ่นตะเฆ่ในพื้นที่เขตทะเลชายฝั่ง

(11 ก.ย. 67) หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลเกาะหลีเป๊ะ (สตูล) ศูนย์ฯ กระบี่ กองตรวจการประมง กรมประมง โดยนายสุขเกษม ศรีงาม หัวหน้าหน่วยฯ และนายชัยวัฒน์ รุ่งแก้ว เจ้าพนักงานประมงปฏิบัติงาน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ นำเรือตรวจประมงทะเล 214 จำนวน 5นาย ออกปฎิบัติงาน ควบคุมการทำการประมง เมื่อมาถึงพื้นที่ ต.แหลมสน อ.ละงู จ.สตูล จากการสังเกตการณ์พบเห็นกลุ่มเรือประมงหางยาวกำลังลักลอบทำการประมงโดยใช้เครื่องมืออวนลากแผ่นตะเฆ่ในเขตทะเลชายฝั่ง ทางด้านทิศใต้ของเกาะกล้วย พื้นที่ ต.แหลมสน อ.ละงู จ.สตูล จึงได้นำเรือตรวจประมง 214 เข้าประชิดแต่กลุ่มเรือดังกล่าวได้ตัดอวนและทำการเร่งเครื่องหลบหนีการจับกุม จนไม่สามารถติดตามได้ทัน จึงทำการตรวจยึดของกลางอวนลากแผ่นตะเฆ่ จำนวน 4 ปาก สัตว์น้ำจำนวน 2 กิโลกรัม (ทำลายด้วยวิธีการฝังกลบ) ซึ่งมีความผิดตามมาตรา 36 มาตรา 67(3) แห่ง พรก.ประมง 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และความผิดตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดเครื่องมือทำการประมง วิธีการทำการประมง และพื้นที่ทำการประมงที่ห้ามใช้ทำการประมงในที่จับสัตว์น้ำเขตทะเลชายฝั่ง พ.ศ. 2566 ข้อ 2 (1) มีบทกำหนดโทษตามมาตรา 129, 147, และ 169 แห่ง พรก. ประมง 2558  และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยได้ทำบันทึกตรวจยึดเครื่องมือทำการประมง นำส่ง สภ.ละงู อ.ละงู จ.สตูล เพื่อประกอบเป็นหลักฐานและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

นิตยา แสงมณี // ผู้สื่อข่าวภูมิภาคประจำจังหวัดสตูล

สตูล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 / ผู้อำนวยการ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมหน่วยงานของกองทัพเรือบนเกาะต่างๆในจังหวัดสตูล

(11 ก.ย. 67) พลเรือโท สุชาติ ธรรมพิทักษ์เวช ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 / ผู้อำนวยการ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมหน่วยงานของกองทัพเรือในพื้นที่เกาะจังหวัดสตูลโดยมี นาวาโท ธนภูมิ ประทีป ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 452 หัวหน้าสถานีตรวจการณ์ทางทะเลเกาะปูยูและหัวหน้าตรวจการณ์ทางทะเลเกาะยาวพร้อมกำลังพลให้การต้อนรับที่เกาะปูยู โดยได้รับการสนับสนุนเรือรับ-ส่งกำลังพลในการให้การต้อนรับจาก หน่วยงานศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลโดย นาวาเอก แสนไทย์ บัวเนียม และต่อมา นาวาโทน้ำน่าน  บุนนาค ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่491ร่วมให้การต้อนรับพร้อมทั้งกำลังพล ที่เกาะหลีเป๊ะ

ทั้งนี้เพื่อติดตามผลการปฏิบัติงานในห้วงที่ผ่านมา และรับทราบปัญหาอุปสรรคข้อขัดข้องของหน่วยต่างๆ ตลอดจนเยี่ยมบำรุงขวัญเพื่อสร้างกำลังใจให้กับกำลังพลในการปฏิบัติงานเพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และตรวจความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์เพื่อให้หน่วยต่างๆ ในทัพเรือภาคที่ 3 ทั้งพื้นที่ฝั่งและในพื้นที่เกาะต่างๆ ให้มีความพร้อมในการป้องกันประเทศและช่วยเหลือพี่น้องประชาชนครอบคลุมทั้ง 6 จังหวัด ของฝั่งทะเลอันดามันจากภัยต่างๆ โดยเฉพาะภัยจากธรรมชาตินับวันจะมีความรุนแรง และเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนมิอาจจะทันตั้งตัว ดังนั้น หน่วยต่างๆ ของทัพเรือภาคที่ 3 และหน่วยงานศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลในพื้นที่จังหวัดสตูลจะต้องมีความพร้อม และตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้สามารถช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ทันท่วงที และช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด

นิตยา แสงมณี // ผู้สื่อข่าวภูมิภาคประจำจังหวัดสตูล

สตูล ทัพเรือภาคที่ 3 โดยหน่วยปฏิบัติการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 452 กองทัพเรือ จัดกิจกรรมเนื่องในวันกองทัพเรือประจำปี 2567

พลเรือโท สุวัจ ดอนสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 มอบหมายให้ นาวาโท ธนภูมิ ประทีป ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 452 จัดกิจกรรมเนื่องในวันกองทัพเรือ ประจำปี 2567 ในพื้นที่จังหวัดสตูล ซึ่งในปีนี้หน่วยปฏิบัติการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 452 ได้จัดกิจกรรมฟังสารจากพลเรือเอกจิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือเนื่องในวันกองทัพเรือ กิจกรรมจิตอาสาบริจาคโลหิต ณ โรงพยาบาล สตูลจังหวัดสตูล กิจกรรมปล่อยพันธุ์ปลาน้ำจืดจำนวน 20,000 ตัว ณ อ่างเก็บน้ำภายในหน่วย ปฏิบัติการต่อสู้ อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 452 และกิจกรรม บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ เก็บขยะ ณ ชายหาดแหลมสน บ้าน บุโบย หมู่ที่ 3 ตำบลแหลมสน อำเภอละงูจังหวัดสตูล ซึ่งกิจกรรมต่าง ๆ นี้ได้มีหน่วยงานต่างๆเข้าร่วมกิจกรรมเช่น หน่วยงานทหารเรือในพื้นที่อำเภอละงู หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งองค์การบริหารส่วนตำบลแหลมสนและเทศบาลตำบลกำแพง รวมถึงบุคลากรของสถานศึกษาและนักเรียนลูกเสือเนตรนารี จากโรงเรียนบ้านบุโบย โรงเรียนบ้านบ้านกาแบง โรงเรียนบ้านสวนกลาง และโรงเรียนบ้านบ่อเจ็ดลูกอำเภอละงู จังหวัดสตูล นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมจัดเลี้ยงอาหารกลางวัน มื้อพิเศษแก่กำลังพลของหน่วย ผลการจัดกิจกรรมต่างๆเป็นไปด้วยความเรียบร้อยบรรลุตามวัตถุประสงค์ทุกประการ

วันกองทัพเรือได้กำหนดขึ้นตรงกับวันที่ 20 พฤศจิกายนของทุกปีเนื่องด้วยพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ทรงประกอบพิธีเปิดโรงเรียนนายเรือเมื่อ 20 พฤศจิกายนพุทธศักราช 2449 ณ พระราชวังเดิม ธนบุรี กองทัพ เรือจึงถือเอาวันมหามงคลนี้เป็น 'วันกองทัพเรือ'

สตูล ทัพเรือภาค 3 จัดวันเด็กสุดอลังการ เนรมิตฮีโร่-เรือรบ สร้างฝันเด็ก 700 คน ชายฝั่งทะเลอันดามัน

สถานีเรือละงู ฐานทัพเรือพังงา ทัพเรือภาคที่ 3 จัดงานวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2568 อย่างยิ่งใหญ่ โดยมี น.อ.แสนย์ไทย บัวเนียม รองผู้อำนวยการ ศรชล.จังหวัดสตูล เป็นประธานในพิธี ภายใต้การดูแลของ น.ต.ปรัชญ์ ขำเจริญ หัวหน้าสถานีเรือละงูพร้อมด้วยนาวาโท ธนภูมิ ประทีป ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 452,เรือโท สุโภชน์ ทองย้อย รองผู้บังคับหน่วยหน่วยปฏิบัติการต่อสู้อากาศและรักษาฝั่งที่ 452 และเจ้าหน้าที่จากทหารเรือ

บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความสนุกสนาน เมื่อทหารเรือแปลงกายเป็นฮีโร่ในตำนานเดินทั่วงาน ให้น้องๆนักเรียน  5 โรงเรียนชายฝั่งทะเล( โรงเรียนบ้านกาแบง , โรงเรียนบ้านบุโบย , โรงเรียนบ้านสวนกลาง ,โรงเรียนเพียงหลวง 4 ,ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลแหลมสน 3 ศูนย์)  700 คน ได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก พร้อมจัดแสดงยุทโธปกรณ์ทางทหารให้เด็กๆ ได้สัมผัสประสบการณ์จริง ทั้งการทดลองจับอาวุธ และทดลองยิงปืน ไฮไลท์สำคัญของงานคือการนำเรือ ต.114 มาจอดเทียบท่า เปิดโอกาสให้นักเรียนจากโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลได้ขึ้นชมยุทโธปกรณ์บนเรือ โดยมีทหารเรือเป็นมัคคุเทศก์พิเศษ นอกจากนี้ยังมีการสาธิตการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำ สร้างความประทับใจให้เด็กๆ จนหลายคนเอ่ยปากอยากเป็นทหารเรือในอนาคต 

ภายในงานยังจัดให้มีการแสดงความสามารถของเด็กๆ ทั้งการร้องเพลงและการเต้นรำ พร้อมแจกของรางวัลมากมาย โดยทัพเรือภาคที่ 3 ได้จัดงานวันเด็กครอบคลุม 6 พื้นที่ตลอดชายฝั่งทะเลอันดามัน เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้และสัมผัสประสบการณ์เกี่ยวกับกองทัพเรือ อันจะเป็นแรงบันดาลใจในการเติบโตเป็นกำลังสำคัญของชาติต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top