Sunday, 19 May 2024
พังงา

พังงา – ด่วน !! ใช้รถทหารรับผู้ป่วยโควิดจากคลัสเตอร์ใหม่กลุ่มค้าสะตอบ้านบางคลี พบผู้ป่วยแล้วกว่า 40 ราย ยอดรวมจังหวัดทะลุ 500 ราย ผู้ว่าสั่งปิดหมู่บ้านทันที

เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านบางคลี ม.8 ต.นาเตย อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอท้ายเหมือง นำรถขนส่งทางทหารเข้ารับผู้ป่วยยืนยัน 20 รายในพื้นที่ซึ่งเป็นพื้นที่ระบาดคลัสเตอร์ใหม่ของจังหวัดพังงาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตะกั่วป่า ซึ่งมีผู้ป่วยบางรายที่เป็นเด็กน้อยที่ต้องขึ้นรถไปกับคุณแม่ และบางครอบครัวต้องขึ้นรถไปรักษาตัวทั้งบ้าน ขณะคนที่ผลตรวจไม่พบเชื้อต้องกักตัวเองที่บ้าน และบางส่วนต้องเข้ากักตัวที่สถานที่กักตัวของอำเภอท้ายเหมือง สำหรับผู้ป่วยในคลัสเตอร์บ้านบางคลีพบผู้ป่วยครั้งแรกในวันที่ 22 กรกฎาคม จำนวน 3 รายและล่าสุดพบผู้ป่วยแล้วรวมกว่ า40 ราย ซึ่งมีผู้ป่วยชุดแรกได้ปกปิดข้อมูลทำให้บุคลากรทางการแพทย์ ในคลินิกเอกชน ในโรงพยาบาลตะกั่วทุ่ง โรงพยาบาลท้ายเหมืองและโรงพยาบาลพังงา ต้องถูกกักตัวเป็นจำนวนมาก ซึ่งล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาได้ออกประกาศปิดพื้นที่ ห้ามคนเข้า-ออกป้องกันการแพร่ระบาดแล้ว

นายสมคิด ปาทาน ผู้ใหญ่บ้านบางคลี เปิดเผยว่า ตอนนี้มีแนวโน้มว่าจะมีผู้ติดเชื้อหลายรายแต่ส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการ สหหรับการระบาดเกิดขึ้นจากชุมชนพรุวังช้าง เป็นกลุ่มชาวบ้านที่ซื้อสะตอมารวบรวมแกะเมล็ดนำไปขายต่างจังหวัด ซึ่งคาดว่าติดเชื้อมาจากต่างจังหวัดแล้วมาแพร่เชื้อในชุมชน ซึ่งบางรายยังไปร่วมกิจกรรมทางศาสนาในมัสยิด และล่าสุดพบว่าผู้ป่วยในวันนี้บางคนเปิดร้านค้าในหมู่บ้าน บางรายขายอาหารในโรงเรียนและออกเร่ขายอาหารในหลายหมู่บ้าน ซึ่งคาดว่าน่าจะมีกลุ่มเสี่ยงอีกเป็นจำนวนมาก ล่าสุดตนเองได้ใช้เสียงตามสายประชาสัมพันธ์ไม่ให้ชาวบ้านตกใจ ขณะที่จุดที่เกิดการระบาดนั้นจะสามารถควบคุมได้ ตอนนี้ได้ปิดทางให้เข้า-ออกได้ทางเดียวเท่านั้น พร้อมประกาศคนในห้ามออก คนนอกห้ามเข้า

ด้านนายปรารถนา สมบัติปิยะ กำนันตำบลนาเตย กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ได้ร่วมกับอำเภอท้ายเหมือง ผู้นำท้องที่ รพ.สต. อสม. ลงพื้นที่คัดกรองกลุ่มเสี่ยงสูงไปตรวจซึ่งพบว่าติดเชื้อ 8 ราย จึงจัดตั้งด่านปิดทางเข้า-ออกหมู่บ้าน และมีบางคนที่ติดเชื้อไปแล้วยังไปเร่ขายของ ร่วมพิธีกรรมทางศาสนา พบปะเพื่อนบ้าน ซึ่งตอนนี้ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ถ้าไม่จำเป็นอย่าออกจากบ้าน เพราะพบผู้ป่วยในพื้นที่แล้วกว่า 40 ราย ขณะที่การปิดหมู่บ้านนั้น ทางตนเองและผู้นำท้องที่และผู้มีจิตกุศลได้นำข้าวสารอาหารที่จำเป็นมาสำรองไว้ที่ด่านตรวจเพื่อเป็นเสบียงให้กับคนในชุมชนประมาณ 50 ครัวเรือน จำนวนกว่า 200 คน

ขณะที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 จังหวัดพังงา (ศบค.พง) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันที่ 25 กรกฎาคม 2564 เวลา 16.00 น.ว่าพบผู้ป่วยรายใหม่ 29 ราย อำเภอท้ายเหมืองคลัสเตอร์บ้านบางคลี 20 ราย อำเภอตะกั่วทุ่ง 1 ราย รับผู้ป่วยจากกรุงเทพฯ 7 ราย จากอยุธยา 1 ราย รวมผู้ป่วยสะสมระลอกใหม่ 501 ราย


ภาพ/ข่าว  อโนทัย งานดี / พังงา

พังงา - รมช.มหาดไทย 'นิพนธ์ บุญญามณี' เดินสายตรวจความพร้อมการรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อเตรยมรับการท่องเที่ยว

ที่บริเวณด่านหน้า รพ.สต.บ้านเตรียม อ.คุระบุรี จังหวัดพังงา 'นายนิพนธ์ บุญญามณี' รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางจากจังหวัดระนอง เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ ด่านตรวจป้องกันโควิด-19 จังหวัดพังงา ฝั่งรอยต่อจังหวัดระนอง ก่อนมอบ เสื้อกั๊ก “บำบัดทุก บำรุงสุข” ให้กับ นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เนื่องในวันกำนันผู้ใหญ่บ้าน และเดินทางต่อไป จ.กระบี่

โดยพบว่า จังหวัดพังงาเป็นจังหวัดต้น ๆ ของประเทศไทย ที่สามารถบริหารจัดการ และรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี และถือเป็นจังหวัดที่มีความพร้อม ในการนำร่องเปิดโมเดลอันดามันแซนด์บ๊อก ต่อจากภูเก็ตแซนด์บ๊อก ซึ่งจะสามารถสร้างรายได้ ฟื้นฟูคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน ควบคู่กับการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส

ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จังหวัดพังงา พบว่า ในระลอกแรก พบผู้ติดเชื้อ 2 ราย ระลอกที่2 ไม่พบผู้ติดเชื้อ ส่วนระลอก3 ข้อมูลล่าสุดพบ 806 ราย โดยจังหวัดพังงายังคงใช้มาตรการ SEAL พื้นที่ชุมชนที่เกิดการระบาด SCAN ตรวจหาผู้ป่วย และ CLEAN พร้อมกับมาตรการ รักษา เยียวยา ฟื้นฟูผู้ติดเชื้อ

ส่วนการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ด้วยการฉีดวัคซีน คาดว่าในช่วยปลายปี จะครบตามจำนวนที่วางแผนเอาไว้


ภาพ/ข่าว  อโนทัย​ งานดี / พังงา​

พังงา - “จี้แดง” วันดี ปิยนามวาณิช ได้รับเลือกเป็นประธานกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดพังงา ต่ออีก 1 วาระแบบไร้คู่แข่ง

ที่ห้องประชุมโรงแรม เลอ เอราวัณ อ.เมืองพังงา นายก้องเกียรติ รองรัตนพันธ์ ผอ.กลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดพังงา เป็นประธานการประชุมการคัดเลือกคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดพังงา โดยมีคณะกรรมการพัฒนาสตรีระดับอำเภอจาก 8 อำเภอและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเข้าร่วม ซึ่งที่ประชุมได้มีมติอย่างเอกฉันท์เลือก “จี้แดง”นางวันดี ปิยนามวาณิช ประธานคณะกรรมการสตรีจากอำเภอตะกั่วทุ่ง และประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดพังงา ที่เพิ่งหมดวาระ เป็นประธานคณะกรรมการฯต่ออีก1วาระแบบไร้คู่แข่ง พร้อมกันนั้นทางที่ประชุมได้เลือกรองประธานและคณะกรรมการด้านต่าง ๆ พร้อมคณะที่ปรึกษา เพื่อดำเนินงานขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ ในการพัฒนาสตรีของจังหวัดพังงาในวาระ 4 ปี

“จี้แดง” นางวันดี ปิยนามวาณิช กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณคณะกรรมการพัฒนาสตรีจากทุกอำเภอและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ได้ให้เกียรติและไว้วางใจให้เป็นประธานอีก1วาระ กรมการพัฒนาชุมชนได้เริ่มดำเนินงานพัฒนาสตรีในชนบทตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายตั้งแต่ พ.ศ.2505 จนถึงปัจจุบัน โดยยึดนโยบายให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตสตรีให้มีความพร้อมเกี่ยวกับคุณลักษณะส่วนตัว ชีวิตในครอบครัว และการมีส่วนร่วมในสังคม โดยกระตุ้นให้สตรีมีความคิดริเริ่ม ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ มีความกระตือรือร้น มีความเชื่อมั่นในตัวเอง สามารถช่วยตนเองและครอบครัวได้ ตลอดจนมีความรู้ในการประกอบอาชีพและมีส่วนรับผิดชอบในการพัฒนาท้องถิ่น

โดยจัดตั้งและพัฒนาองค์กรสตรีแต่ละระดับ เพื่อเป็นแกนนำในการคิด ตัดสินใจ วางแผน แก้ไขปัญหาชนบทและการพัฒนาสตรี ประกอบกับคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบและอนุมัติให้ประกาศใช้ปฏิญญาสตรีไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่  4 มกราคม  2537 โดยให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กร ธุรกิจ สื่อมวลชนและประชาชนร่วมมือกันในการพัฒนาสตรีเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งที่ผ่านมาคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดพังงา ได้ดำเนินการกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตสตรีในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาบุคลิกภาพ การสนับสนุนด้านอาชีพ การปลูกผักสวนครัวสร้างแหล่งอาหารในชุมชน การส่งเสริมและอนุรักษ์การแต่งกายด้วยผ้าพื้นถิ่น การให้ความรู้ในการใช้โซเชียลมีเดีย ฯลฯ รวมถึงการร่วมสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ของกรมการพัฒนาชุมชนและจังหวัดพังงาด้วยดีอย่างเสมอมา


ภาพ/ข่าว  อโนทัย งานดี / พังงา

พังงา - ‘จุรินทร์’ หนุนศูนย์กลางการแพทย์และสุขภาพโลกแห่งอันดามัน ส่งเสริมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ รับอันดามันแซนด์บ็อกซ์ 7+7

ริมชายหาดโรงแรม ลา ฟลอร่า หาดบางเนียง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดศูนย์กลางการแพทย์และสุขภาพโลกแห่งอันดามัน (The Andaman World Medical & Wellness Hub) และร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ นวดไทย สมุนไพร และทันตกรรม ระหว่าง สมาคมโรงแรมที่พักส่งเสริมสุขภาพอันดามันและอ่าวไทย กับ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพังงา โดยมีนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นางกันตวรรณ ตันเถียร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพังงา นายชาติชาย กิติยานันท์  นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพังงา นายพงศกร เกตุประภากร ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา ส่วนราชการและผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวเข้าร่วม

หลังจากพิธีเปิดและพิธีลงนามรองนายกรัฐมนตรีได้เดินเยี่ยมชมบูธต่างๆ เช่นอาหารเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ กิจกรรมกีฬาเพื่อสุขภาพ กิจกรรมนวดและสปาเพื่อสุขภาพ ก่อนจะมาติดใจการใช้อัคคีบำบัด ซึ่งมีการจุดไฟเผาบนหน้าท้องของผู้รับริการ แล้วหันไปถามผู้บังคับการตำรวจภูธรพังงาว่าช่วยดูหน่อยว่าจะต้องดำเนินคดีวางเพลิงหรือไม่ และบอกว่าเมื่อกี้เกือบจะหยิบดอกไม้จันทน์มาวางด้วย สร้างรอยยิ้มและเสียงฮาให้กับผู้ร่วมงานก่อนจะร่วมหมุนน้ำแข็งหลอดสมุนไพรพร้อมชิมอย่างอร่อย

นายจุรินทร์ฯ กล่าวว่า รู้สึกปลื้มใจที่จังหวัดพังงาได้ริเริ่มเป็นศูนย์กลางการแพทย์และสุขภาพโลกแห่งอันดามัน โดยถือเป็นการนำร่องด้านสุขภาพในภูมิภาคอันดามัน และสามารถแผ่ขยายสู่ระดับนานาชาติ ได้แก่ ระดับอาเซียนต่อไป ซึ่งจังหวัดพังงาเป็นจังหวัดที่มีจุดเด่นในเรื่องการท่องเที่ยว และพื้นที่เชื่อมต่อรองรับนักท่องเที่ยวจากจังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ประกอบกับในพื้นที่มีการส่งเสริมการปลูกสมุนไพร จึงนำมาประสานความร่วมมือกับผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ เช่น การนวดแผนไทย การดูแลรักษาสุขภาพ และการรักษาทางด้านทันตกรรม

ในวันนี้ถือว่าเป็นการนำร่อง แทนที่เราจะขายทะเลและหาดทรายอย่างเดียว ก็จะขายในเรื่องของการให้บริการและผลิตภัณฑ์ทางสุขภาพของไทยด้วยเช่นสมุนไพรไทยผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องอาหารเชิงสุขภาพของไทย การให้บริการเรื่องการนวดแผนไทยสปาไทย รวมทั้งการให้บริการด้านทันตกรรม ซึ่งสำนักงานสาธารสุขจังหวัดพังงาก็จะเข้ามาร่วมมือด้วย ถือว่าเป็นการเริ่มต้นก่อนจะก็ขยายผลต่อไป

ทั้งในเรื่องของผลิตภัณฑ์และการให้บริการและพื้นที่ ที่จะต่อไปยังภูเก็ตไปกระบี่และจังหวัดอันดามัน ซึ่งถือว่าเป็นการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมที่จะทำให้พังงากลายเป็น HUB หรือเป็นศูนย์กลางของการให้บริการด้านการแพทย์และสุขภาพอันดามันต่อไป คาดว่าโครงการนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดได้อีกทางหนึ่ง โดยเฉพาะการสร้างงาน สร้างรายได้ ทั้งภาคการเกษตร การจ้างงาน และการปลูกสมุนไพร


ภาพ/ข่าว  อโนทัย งานดี / พังงา

พังงา - หน่วยแพทย์ พอ.สว. ออกบริการฉีดวัคซีนพระราชทานซิโนฟาร์ม ให้ผู้ต้องราชทัณฑ์เรือนจำจังหวัดพังงา

เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ได้ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล บุคลากรสาธารณสุข ในการออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการฉีดวัคซีนพระราชทาน “ซิโนฟาร์ม” เข็มที่ 1 ให้กับผู้ต้องราชทัณฑ์กลุ่มเสี่ยงในเรือนจำจังหวัดพังงา จำนวน 300 คน  เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันลดความรุนแรงและการเสียชีวิตให้กับผู้ต้องราชทัณฑ์ในเรือนจำหากเกิดการเจ็บป่วยจากโควิด 19  โดยมีนายอาคม ภูศรี ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดพังงา และนายวิชัย ชูจิต สาธารณสุขอำเภอเมืองพังงา ร่วมให้การต้อนรับ เรือนจำจังหวัดพังงามีผู้ต้องขังทั้งสิ้น 2,378 คน มีมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวด ทั้งเจ้าหน้าที่ ผู้ต้องขัง และมาตรการการเข้าเยี่ยมของญาติ

จังหวัดพังงาได้รับ จัดสรรวัคซีนพระราชทานซิโนฟาร์ม พอ.สว. เพื่อนำไปฉีดให้กับประชาชนกลุ่มเป้าหมาย อาทิเช่น ผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้ป่วยติดเตียง ผู้มีรายได้น้อย ผู้นำศาสนา จำนวน 5,000 โดส กำหนดฉีดตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2564 จนถึงวันที่ 29 กันยายน 2564 เพื่อช่วยให้ประชาชนกลุ่มเปราะบางในทุกพื้นที่ของจังหวัดพังงาได้เข้าถึงวัคซีนป้องกันโควิด-19 สร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ป้องกันและลดโอกาสในการติดเชื้อโควิด-19

ตม.จว.พังงา จับกุม! ชาวเมียนมา ‘ฆ่าเพื่อนร่วมชาติตนเอง’ หลังหลบหนีนาน 17 ปี ก่อนจนมุม!!

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัย เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย หรือลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติ ที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. มอบหมายให้ พล.ต.ต.อาชยน  ไกรทอง รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.ภัคพงศ์  บูรณ์ชนะ ผกก.ตม.จว.พังงา และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.พังงา แถลงข่าวการจับกุมคนร้าย ดังนี้

นายติ๋วหรือยาว สัญชาติ เมียนมา อายุ 46 ปี หมายจับศาลจังหวัดพังงา ที่ ส.12/2548  ลง  26 ม.ค.48 ต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน” หมดอายุความวันที่ 29 ก.ย.67 

สืบเนื่องจาก พงส.สภ.ทับปุด ได้รับแจ้งว่า พบศพชายไม่ทราบชื่อ 1 ราย (ทราบชื่อภายหลัง คือ นายลับ อายุ 25 ปี สัญชาติเมียนมา) บริเวณ สวนปาล์ม ม.1 ต.บ่อแสน อ.ทับปุด จ.พังงา ต่อมา พงส.สภ.ทับปุด ได้รวบรวมพยานหลักฐาน และทราบสาเหตุเกิดจากผู้ตายมีปากเสียงกับเพื่อนร่วมชาติที่ทำงานเดียวกันบ่อยครั้ง ทำให้เกิดความโกรธแค้น จึงร่วมกันฆ่าผู้ตาย แล้วทิ้งศพไว้ ในที่เกิดเหตุ พงส.ฯ จึงได้ออกหมายจับต่างด้าวชาวเมียนมา จำนวน 4 ราย ดังนี้ นายดำ นายติ๋วหรือยาว นายโทน และนายซอ

เมื่อปลายปี 2562 สภ.ทับปุด ได้ส่งหมายจับศาลจังหวัดพังงา ที่ ส.12/2548  ลง 26 ม.ค.48 ผู้ต้องหาชื่อ นายติ๋วหรือยาว (พม่า) สัญชาติ เมียนมา ต้องหาว่ากระทำผิดฐาน ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน หมดอายุความวันที่ 29 ก.ย.67   มาให้  เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.พังงา รู้สึกคุ้นว่าเคยเห็นหน้ามาก่อน คล้ายกับแรงงานที่เคยทำข้อมูลท้องถิ่นไว้ จึงได้ติดตามสืบสวนหาตัวผู้ต้องหารายดังกล่าวตลอดมา กระทั่งวันที่ 19 ต.ค.64 ได้รับคำสั่งให้ระดมหมายจับของศูนย์ CCOC เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.พังงา จึงได้นำหมายจับพร้อมภาพถ่ายของผู้ต้องหา ไปให้ เจ้าหน้าที่ รายงานตัว 90 วัน ของ ตม.จว.พังงา ตรวจสอบ ทราบว่าเมื่อ วันที่ 15 ต.ค.64 ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งรายงานตัว 90 วัน จากหนังสือเดินทาง บุคคล คล้ายผู้ต้องหาตามหมายจับ แล้วได้นำภาพของหนังสือเดินทาง และข้อมูลเลขประจำตัวคนต่างด้าว  13 หลัก ราย  MR.MIN สัญชาติ เมียนมา ถือหนังสือเดินทาง MC xxxxx มามอบให้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.พังงา เพื่อสืบค้นข้อมูลจากระบบฐานข้อมูลของ สตม. ทำให้ทราบที่อยู่ของผู้ต้องสงสัย

 

 

พังงา - “นิพนธ์ฯ” ย้ำ! ที่ดินคือชีวิต เพราะเป็นทั้งที่อยู่อาศัย – ที่ทำกิน และมรดกให้ลูกหลาน ก่อนมอบโฉนด 1,500 แปลง แก่ชาวจังหวัดพังงา

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 พฤศจิกายน 2564  นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการมอบโฉนดที่ดินให้แก่ประชาชน ตำบลบ้านท้ายช้าง อำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา ตามโครงการ “มอบโฉนดที่ดินทั่วไทย นำสุขคลายทุกข์ให้ประชาชน” โดยมี นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมที่ดิน นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น.รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เจ้าพนักงานที่ดิน ข้าราชการ และประชาชนในพื้นที่ ร่วมมอบโฉนดที่ดินครั้งนี้ด้วย

นายนิพนธ์ กล่าวว่า โครงการมอบโฉนดที่ดินทั่วไทยนี้ เกิดขึ้นภายใต้หลักคิด ที่ดินคือชีวิต เพราะเป็นทั้งที่อยู่อาศัยที่ทำกินและเป็นมรดกให้ลูกหลาน ซึ่งเป็นนโยบาย นำสุขคลายทุกข์ให้ประชาชน เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล โดยกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทยต้องการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ยังไม่มีเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาความยากจน ตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งจังหวัดพังงาขณะนี้สามารถดำเนินการไปแล้วจำนวน 1,500 กว่าแปลง ตนต้องการที่จะเร่งรัดในการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินให้แก่พี่น้องประชาชนที่ถือครองที่ดินอยู่ ทำประโยชน์ในที่ดินนั้นมายาวนาน และที่ดินนั้นไม่ใช่ที่ดินของรัฐ

การมีเอกสารสิทธิ์ในที่ดินของตนเอง ถือว่าเป็นความมั่นคงในการถือครองที่ดิน คืนความสุขให้กับพี่น้องประชาชน สร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมในการเข้าถึงการใช้ทรัพยากรที่ดินของชาติ สร้างความมั่นใจ ประชาชนไม่ต้องเสี่ยงต่อการถูกดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกที่ดินของทางราชการ สามารถนำโฉนดที่ดินไปประกอบการพัฒนาในอาชีพของตนเอง เพิ่มผลผลิตและรายได้ ซึ่งเป็นผลดีในทางเศรษฐกิจของตนเองได้ต่อไป ซึ่งเมื่อพี่น้องได้รับโฉนดที่ดินแล้วขอให้เก็บรักษาดูแลไว้ให้ดี ใช้ที่ดินทำกินให้เกิดประโยชน์ในการสร้างรายได้เลี้ยงชีพครอบครัว อย่ายกที่ดินให้คนอื่น ที่สำคัญให้ระมัดระวังเรื่องการทำนิติกรรมสัญญาใด ๆ เกี่ยวกับที่ดิน ขอให้รักษาที่ดินนี้ให้ดีเพื่อส่งมอบเป็นมรดกให้ลูกหลานของพี่น้องในรุ่นต่อไป นายนิพนธ์ กล่าว

 

พังงา - ‘จุรินทร์’ ควง 3 รัฐมนตรีพรรคประชาธิปัติย์ลงพื้นที่พังงา เตรียมเสนอโครงการ 6 จังหวัดอันดามันกว่า 2,000 ล้านเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร

อาคารเอนกประสงค์ โรงเรียนท้ายเหมืองวิทยา อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกยางพารา และปาล์มน้ำมัน และเป็นประธานในพิธีมอบเช็คชำระหนี้และมอบโฉนดที่ดินของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรแก่เกษตรกรจังหวัดพังงา โดยมีนายบุญเติม เรณุมาศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นำส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วยกลุ่มเกษตรกร อสม.พี่น้องประชาชนร่วมให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นและชูป้ายให้กำลังใจเชียร์ให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ กล่าวว่า วันนี้มาทำภารกิจ 3 เรื่อง

1.คณะรัฐมนตรีมอบให้ตนเป็นผู้ช่วยกลั่นกรองโครงการสำคัญของ 6 จังหวัดอันดามัน (ระนอง พังงา ภูเก็ต  กระบี่ ตรังและสตูล) ได้โครงการสำคัญ 16 โครงการ รวมงบประมาณ 2,128 ล้านบาท สำหรับจังหวัดพังงามี 3 โครงการ ประกอบด้วย 1.สนามบินพังงา 2.โครงการสร้างตึกอุบัติเหตุฉุกเฉินหลังใหม่ของโรงพยาบาลพังงาและโรงพยาบาลตะกั่วป่า 3.โครงการพัฒนาริมทะเลเขาหลักและท้ายเหมือง เป็นแหล่งท่องเที่ยว

2.ในฐานะที่ตนเองเป็นประธานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ที่ช่วยแก้ปัญหาหนี้สินที่เกิดจากการทำการเกษตร ไม่ให้ที่ดินตกเป็นของธนาคารหรือสถาบันการเงิน จนสูญเสียที่ดินทำกิน โดยการรับโอนหนี้จากสถาบันการเงินมาเป็นหนี้กองทุนฯและชำระกับกองทุนฯแทน แบบไม่มีดอกเบี้ย และไม่มีการยึดที่ดินทำกิน ในวันนี้มามอบโฉนดคืนและมอบเกียรติบัตรให้กับผู้ที่ผ่อนชำระหนี้กองทุนครบแล้ว และมอบงบฟื้นฟูและพัฒนาชีวิตเกษตรกร พร้อมกันนี้ได้มีการมอบเช็คเงินโครงการฟื้นฟูและพัฒนาอาชีพเกษตรกรจำนวน 7 องค์กร 7 โครงการ จำนวนเงิน 3,435,000 บาท มอบโฉนดที่ดินและเกียรติบัตรจำนวน 12 คน และมอบใบรับรองการขึ้นทะเบียนองค์กรเกษตรกรจำนวน 58 องค์กร จำนวนสมาชิก 5,409 คน

 

'ปลัดฯ แรงงาน' เยือน สพร.พังงา ดันแรงงานสร้างอาชีพ หนุนการท่องเที่ยวหลังเปิดประเทศ

นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ติดตาม รับฟังผลการดำเนินงาน พร้อมตรวจเยี่ยมการฝึกอบรมของสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานพังงา (สพร .พังงา) จำนวน 3 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตรการประกอบธุรกิจกาแฟ มีผู้เข้ารับการฝึกอบรมจำนวน 20 คน หลักสูตรภาษาอังกฤษเพื่อการทำงานด้วยรูปแบบทางไกล มีผู้เข้ารับการฝึกอบรมจำนวน 20 คน และหลักสูตรการล้างและบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศภายในบ้าน มีผู้เข้ารับการฝึกอบรมจำนวน 15 คน รวมถึงร่วมกิจกรรมปลูกต้นไม้ (ต้นรวงผึ้ง) ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำพระองค์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ณ สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานพังงา

นายบุญชอบ กล่าวว่า สำหรับจังหวัดพังงา เป็นหนึ่งในกลุ่มจังหวัดอันดามันที่มีทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ มีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามและมีชื่อเสียงระดับโลก มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาตินิยมมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดการสร้างอาชีพและรายได้ให้กับคนในพื้นที่และประเทศชาติ แต่ภายหลังจากการระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้รายได้จากการท่องเที่ยวลดลง ดังนั้น ในส่วนของกระทรวงแรงงาน โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จึงมีส่วนสำคัญเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ด้วยการสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้มั่นคง โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับการสร้างงาน สร้างอาชีพ ที่จะนำไปสู่การเกิดรายได้ของแรงงานทั้งในระดับท้องถิ่น ชุมชน และระดับอื่น ๆ

ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอเป็นกำลังใจให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ รวมถึงผู้เข้ารับการฝึกอบรมทุกคน และขอฝากไว้ว่าในการพัฒนาทักษะฝีมือจะต้องเลือกพัฒนาให้สอดรับกับความต้องการของแรงงานที่อยู่ในพื้นที่และตลาดแรงงานมีความต้องการด้วย จึงจะส่งผลให้แรงงานเกิดอาชีพที่มั่นคง มีรายได้ที่ยั่งยืน ขอให้ สพร.พังงา ได้พัฒนาหลักสูตรให้ทันต่อสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะช่วงของการเปิดประเทศเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวนี้ รวมถึงให้บูรณาการการทำงานร่วมกันกับ 5 เสือแรงงาน และหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันพัฒนาแรงงานให้มีคุณภาพต่อไป

 

พังงา - รองผู้ว่าฯพังงา ตรวจเยี่ยมแผงขายสินค้า! โครงการหมูพาณิชน์ ลดราคาช่วยประชาชน

เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หน้าสำนักงานพาณิชย์จังหวัดพังงา นายเถลิงศักดิ์ นุชประหาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พร้อมด้วยนายชัยรัตน์ ชื่นเจริญ พาณิชย์จังหวัดพังงา และนายพรภิรมย์ ฟุ้งตระกูล ปศุสัตว์จังหวัดพังงา ตรวจเยี่ยมโครงการหมูพาณิชน์ลดราคาช่วยประชาชน เพื่อจำหน่ายเนื้อหมูให้กับประชาชนผู้บริโภค ในราคากิโลกรัมละ 150 บาท ระหว่างวันที่ 11-14 มกราคม 2565

ซึ่งโครงการดังกล่าวมีร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 3 จุด คือ จุดที่ 1 ร้านหมูโก้ศักดิ์ ตำบลถ้ำน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดพังงา จุดที่ 2 ร้านหมูนายดิน ตลาดสดเทศบาลเมืองพังงา และจุดที่ 3 หน้าสำนักงานพาณิชย์จังหวัดพังงา

สำหรับจุดจำหน่ายที่ 3 บริเวณหน้าสำนักงานพาณิชย์จังหวัดพังงา ได้รับความร่วมมือจากสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดพังงา จัดจำหน่ายเนื้อหมู ราคากิโลกรัมละ 150 บาท ไข่ไก่เบอร์ 3 แผงละ 90 บาท ทั้งนี้สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.พังงา จำกัด ได้นำข้าวหอมมะลิมาจำหน่ายในราคาถูกกว่าท้องตลาด เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนผู้บริโภคด้วย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top