Saturday, 18 May 2024
พังงา

‘จุรินทร์’ เตรียมปราศรัยใหญ่ จ.สุราษฎร์ฯ-พังงา 29-30 เม.ย.นี้ มั่นใจ!! ‘ปชป.’ รักษาแชมป์เก่าได้ ครองเก้าอี้ ส.ส.ยกจังหวัด

(28 เม.ย. 66) นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย ทีมโฆษกประจำศูนย์เลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ในวันที่ 29 เม.ย.- 30 เม.ย. 66 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมแกนนำพรรคฯ เตรียมล่องใต้ ลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดพังงา เพื่อพบปะกับพี่น้องประชาชนพร้อมเปิดเวทีปราศรัย 3 เวที โดยจะเริ่มต้นกิจกรรมตั้งแต่ในช่วงเย็นที่ 29 เม.ย.เปิดเวทีปราศรัยบริเวณข้างโรงแรมวังใต้ ตำบลตลาด อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี และในวันที่ 30 เม.ย.ช่วงเย็ นจะมีปราศรัยที่ อำเภอเมือง จังหวัดพังงา และช่วงค่ำไปปราศรัยที่อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา บริเวณศาลเจ้าเล่งสั้นเก้ง (ศาลเจ้าท้ายเหมือง)

‘ชวน’ การันตี!! ‘จุรินทร์’ เป็นคนดี-ซื่อสัตย์ เหมาะนั่งเก้าอี้นายกฯ วอนชาวพังงาหนุน ‘ปชป.’ มั่นใจ!! คว้าเก้าอี้ ส.ส. ภาคใต้ไม่ต่ำกว่า 40

(30 เม.ย.66) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรค นายบำรุง ปิยนามวาณิช ผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ และ น.ส. รัศมี ทองสิริไพรศรี รองโฆษกพรรค ร่วมกันขึ้นรถแห่หาเสียงตั้งแต่เที่ยงวัน โบกมือทักทายเพื่อขอคะแนนเสียงให้กับ นางกันตวรรณ ตันเถียร ผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดพังงา บัตรสีม่วง เบอร์ 1 และ บัตรสีเขียว พรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 26

โดยนายชวน ได้กล่าวบนรถแห่ ว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ อย่าให้ระบบเงินซื้อเสียง เข้ามาทำลายการเมือง ทำลายประชาธิปไตยสุจริต ขอให้พี่น้องประชาชนเลือกคนดี คนพังงา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์มาเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อมารักษาเกียรติ ศักดิ์ศรีของชาวพังงา และสนับสนุน กันตวรรณ ตันเถียร เบอร์ 1 ให้ได้เป็น ส.ส. ระบบเขต พร้อมทั้งขอบคุณชาวพังงาที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์มาโดยตลอด ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ขอให้เลือกพรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 เพื่อให้เราได้เสียงมากพอ ให้ลูกหลานชาวพังงาได้เป็นตัวแทนพี่น้องประชาชนมีโอกาสเข้าไปทำงานในสภา

พร้อมกับระบุว่า ตนใช้เวลาพิสูจน์ถึง 22 ปี ในเส้นทางการเมือง ส่วนนายจุรินทร์ก็ใช้เวลาพิสูจน์ร่วม 30 ปี ถ้าไม่ใช่เป็นคนดีจริง พรรคก็ไม่เลือกให้มาเป็นหัวหน้าพรรค พร้อมกับได้ยืนยันความสามารถของนายจุรินทร์ในการเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป เพราะเป็นคนซื่อสัตย์สุจริต มีความรู้ความสามารถ จึงขอให้ประชาชนทั้งประเทศช่วยกันสนับสนุนให้พรรคประชาธิปัตย์ เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ด้วยการสนับสนุนประชาธิปัตย์ทั้งคนทั้งพรรค ซึ่งระหว่างที่รถแห่ผ่านบริเวณชุมชน มีพี่น้องประชาชนชาวพังงา ได้ยินเสียงจึงออกมาโบกมือทักทายยิ้มแย้มให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้นายจุรินทร์ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ถึงความมั่นใจในจำนวนที่นั่งของภาคใต้ ว่า จากการพูดคุยกับ นายเดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรคที่ดูแลพื้นที่ภาคใต้ และจากการลงพื้นที่ด้วยตนเอง ก็เชื่อมั่นว่า ภาคใต้มีโอกาสที่จะได้ 40+ เป็นไปได้สูงมาก ซึ่งคนที่รับผิดชอบโดยตรงประเมินให้ฟัง และตนก็รู้สึกเช่นเดียวกันจากการลงพื้นที่ แต่ในภาคใต้เป็นธรรมดาที่มีหลายพรรคลงมา เหมือนกับหลายยุคหลายสมัยที่มีหลายพรรคลงมาแข่งขันกัน แต่สุดท้ายประชาธิปัตย์ยังยืนหยัดอยู่ได้ เพราะผลงาน อุดมการณ์ ความเป็นสถาบันทางการเมือง และการทำการเมืองสุจริต ไม่ซื้อเสียง ซึ่งเป็นศักดิ์ศรีของคนภาคใต้ ที่ทำให้เห็นว่าประชาธิปัตย์ เป็นพรรคการเมืองที่หนักแน่น มั่นคง มีอุดมการณ์ สามารถฝากอนาคตของบ้านเมืองเอาไว้ได้

“ผมลงพื้นที่เองก็เห็น และสัมผัสได้ว่า พี่น้องชาวใต้มีความรู้สึกอย่างไรกับพวกเราชาวประชาธิปัตย์ และจากการสำรวจภายในของพรรค ก็สอดคล้องกับที่รองหัวหน้าภาคใต้ประเมินให้ฟัง ตรงกันหมดชัดเจน และผลโพลบางโพลก็บอกว่า ในซีกรัฐบาลเดิม เราก็มีโอกาสที่จะมาที่ 1 ก็มีความเป็นไปได้ทั้งนั้น แต่เราก็จะทำงานหนัก ไม่หยุดหรอก จนกว่าจะถึงวันเลือกตั้ง และถึงหมดการเลือกตั้งแล้ว ประชาธิปัตย์ก็ยังอยู่เพื่อรับใช้พี่น้องต่อไป” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

สำหรับที่จังหวัดพังงา ตนมีความเชื่อมั่นว่าชาวพังงายังสนับสนุนผู้สมัครของพรรคทั้ง 2 เขต และไม่ทิ้งพรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 จากการที่ตนเป็น ส.ส.จังหวัดพังงา 6 สมัย และเป็น ส.ส. บัญชีรายชื่อ 5 สมัย รวม 11 สมัย ไม่เคยทิ้งจังหวัดพังงา จึงมั่นใจว่าพี่น้องชาวพังงาจะสนับสนุนต่อไปทั้งคนทั้งพรรค

‘จุรินทร์’ ปราศรัยบ้านเกิด ‘พังงา’ ขอให้มั่นใจ!! ‘ปชป.’ พาประเทศฝ่าวิกฤต ลั่น!! หากได้เป็น รบ. จะเดินหน้านโยบาย “สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ” 

(30 เม.ย.66) ที่ จ.พังงา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ขึ้นเวทีปราศรัย ที่จ.พังงา พร้อมด้วย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรค นายบำรุง ปิยนามวาณิช ผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ เพื่อขอคะแนนเสียงให้กับ นางกันตวรรณ ตันเถียร ผู้สมัคร ส.ส. จ.พังงา เขต 1 เบอร์ 1 นายราเมศ รัตนะเชวง ส.ส. จ.พังงา เขต 2 เบอร์ 5 และ พรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 26

นายจุรินทร์ ปราศรัยเพื่อชักชวนให้พี่น้องชาวพังงา เลือกคนจ.พังงาให้ได้เป็นผู้แทนราษฎร พร้อมกล่าวว่า เวลามีเลือกตั้ง คนแรกที่จะโดนมากที่สุด คือนายจุรินทร์ คนที่พูดก็คือพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม มักจะพูดว่านายจุรินทร์ ไม่มีผลงาน เป็นผู้แทนฯพังงามาตั้งหลายสมัย แต่อยากจะถามสักคำว่า คนที่พูดแบบนี้ ได้เคยทำอะไรให้พังงาบ้างมั้ย นอกจากมาลงสมัครแล้วก็โจมตีนายจุรินทร์ โจมตีพรรคประชาธิปัตย์ แต่ถ้าจะให้พูดว่าได้ทำอะไรมาบ้าง คงต้องพูดกันถึงเช้า วันนี้จดมาเต็มที่เลยเพื่อมาพูดให้เต็มบรรทัดว่า พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ นางกันตวรรณ เป็นผู้แทนฯได้ทำอะไรมาบ้าง จะได้รู้เสียบ้าง ทำมาตั้งแต่บางคนยังไม่เกิดเลย” นายจุรินทร์ กล่าว

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า จากการลงพื้นที่หาเสียงทั่วประเทศ ประชาธิปัตย์ดีขึ้นแล้ว เสียงตอบรับก็ดีขึ้นในทุกภาค ปักษ์ใต้บ้านเราเที่ยวที่แล้วเรามีผู้แทน 50 คน ประชาธิปัตย์เหลือ 22 คน แต่เที่ยวนี้ได้คุยกับ นายเดชอิสม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรคภาคใต้ ประเมินกันแล้ว เรามั่นใจว่าเที่ยวนี้เฉพาะในปักษ์ใต้ เราจะได้ ส.ส. ไม่ต่ำกว่า 40 บวก จากผู้แทนฯ 60 คน และทุกภาคทั่วประเทศ ก็เชื่อว่าคะแนนประชาธิปัตย์ดีขึ้น ล่าสุดซุปเปอร์โพลได้ไปสำรวจมา เฉพาะ 4 พรรคที่ร่วมรัฐบาล พรรคการเมืองที่ได้รับความนิยมมากเป็นลำดับ 1 คือพรรคประชาธิปัตย์ และถ้าประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ก็จะเดินหน้านโยบาย “สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ” และ 16 นโยบาย ที่ได้ประกาศไว้ 

‘มาร์ค-ตั๊น’ อ้อนคนพังงา หนุน ‘ปชป.’ สานงานพัฒนาใต้ต่อเนื่อง ชี้ โค้งสุดท้ายซื้อเสียงดุ จี้!! กกต.ทำงานเชิงรุก เรียกความเชื่อมั่น ปชช.

(9 พ.ค. 66) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และอดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย น.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร รองเลขาธิการพรรคฯ และผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลงพื้นที่เพื่อรณรงค์หาเสียงให้ นางกันตวรรณ ตันเถียร กุลจรรยาวิวัฒน์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 พังงา เบอร์ 1 ที่เทศบาลเมืองพังงา โรงเรียนบ้านกระโสม โรงเรียนบ้านบางจัน และตลาดโคกกลอย จังหวัดพังงา

โดยนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หวังว่าพี่น้องชาวพังงาจะให้การตอบรับพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง โดยเฉพาะนางกันตวรรณ ที่ทำงานในพื้นที่มาอย่างยาวนาน และดีใจที่พี่น้องประชาชนยังเข้ามาทักทายแสดงความผูกพันกับพรรค เชื่อว่าประชาชนเห็นการทำงานมาตลอด และพร้อมที่จะให้การสนับสนุน ขอเน้นย้ำให้เลือกพรรคการเมือง เลือกนักการเมืองที่มีความซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ยึดถืออุดมการณ์นี้มาโดยตลอด

ด้าน น.ส.จิตภัสร์ กล่าวว่า ประสบการณ์การทำงานของนางกันตวรรณ กว่า 22 ปี เป็น ส.ส. 5 สมัยที่ได้รับคะแนนเลือกตั้งสูงที่สุดในประเทศ เมื่อปี 54 ล่าสุดยังได้เป็นประธานคณะกรรมาธิการการ (กมธ.) เกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร ที่พูดจริงทำจริง ร่วมคิดร่วมทำ มีผลงานทำงานเพื่อชาวพังงา ทั้งหมดนี้การันตีในตัวเองแล้ว จึงเชื่อมั่นว่าพี่น้องชาวพังงาจะให้โอกาสเลือกนางกันตวรรณอีกครั้ง เพราะเรามีความผูกพันกันอย่างยาวนาน เพื่อพัฒนาจังหวัดพังงาสู่ความยั่งยืน

“ขณะนี้ทราบว่าบางจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงรุนแรงในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง จึงขอฝากถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เข้าไปดูแลตรวจสอบในเชิงรุก สร้างความเชื่อมั่น และขอให้ประชาชนช่วยกันรณรงค์ต่อต้านการทุจริต ไม่ขายสิทธิ์ ไม่ซื้อเสียง ไม่โกง หากอยากได้รัฐบาลดีต้องได้ผู้แทนฯ ที่ดี อยากได้รัฐบาลซื่อสัตย์ ก็ต้องได้ผู้แทนฯ ที่ซื่อสัตย์ ตั๊นจึงมั่นใจว่าพี่น้องชาวพังงาที่มีศักดิ์ศรี จะเข้าคูหากาพรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 2 ใบ” น.ส.จิตภัสร์ กล่าว

‘เศรษฐา’ ฟิต!! ยกทัพลุย ‘พังงา’ รับฟังผู้ประกอบการ ‘ด้านท่องเที่ยว’ พร้อมผลักดันสร้างสนามบินแห่งใหม่ หวังกระตุ้นเม็ดเงินเข้าประเทศ

(26 ส.ค.66) ที่รร.มอริซี เขาหลัก พังงา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ พร้อมด้วย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะทำงานด้านนโยบายพรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพท. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ จ.พังงา เพื่อพูดคุยกับผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว มีนายเอกรัฐ หลีเส็น ผวจ.พังงา และ นายกฤษ สีฟ้า อดีตผู้สมัครสส.พังงาพรรคพท.โดยผู้ประกอบการได้เสนอให้มีการก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่ให้สามารถรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ จัดระบบขนส่งมวลชนให้มีคุณภาพ เพื่อรับนักท่องเที่ยวสร้างรายได้ให้จ.พังงาและจังหวัดใกล้เคียง และขอให้รัฐบาลช่วยจัดกิจกรรมดึงนักท่องเที่ยวให้เข้ามาในช่วงโลซีซัน

จากนั้นนายเศรษฐา กล่าวว่า แปลกใจไม่มีนายกฯ มาถึงจ.พังงาถึง 10 ปี เพราะทราบกันดีว่าพื้นที่โซนนี้เป็นแหล่งรายได้ที่มีอนาคต ทำรายได้ให้ประเทศ พรรคพท.ไม่มีสส.ในพื้นที่ ต้องขอบคุณนายกฤษ รวมถึงนายพร้อมพงษ์ที่ดูแลพื้นที่ไม่เหน็ดเหนื่อยแม้เพื่อไทยไม่มีสส. แต่ตนก็จะมาพื้นที่อีก แม้เราไม่มีสส.แต่เพื่อไทย ไม่ยึดเรื่องการเมืองแต่ยึดคนไทยทั้งประเทศ เราดูองค์รวมการพัฒนาประเทศเป็นหลัก วันนี้เศรษฐกิจตกต่ำมาก เราต้องเพิ่มรายได้ซึ่งการเพิ่มรายได้ที่ชัดเจน คือเรื่องของการท่องเที่ยว เรารับฟังการสร้างสนามบินใหม่ ขอให้มั่นใจสนามบินใหม่รับเที่ยวบินขนาดใหญ่ได้แน่นอน และโครงการต่างๆ ที่มีการพูดถึงแม้หากดูรายโครงการอาจคุ้มทุนช้า แต่ถ้าดูองค์รวมผลตอบแทนน่าจะคุ้ม หากรัฐบาลพท.ผ่านการถวายสัตย์แล้วจะไม่ดูแยกโปรเจกต์ แต่จะดูองค์รวมทั้งหมด ไม่ใช่แค่พังงา ภูเก็ต จะไปดูถึงระนอง รวมถึงจะไปดูเรื่องหลังบ้านเรื่องสิ่งแวดล้อมต้องทำควบคู่ไปกับการเติบโตของเศรษฐกิจ การดึงดูดนักท่องเที่ยวใหม่ก็สำคัญเช่นกัน สำหรับการท่องเที่ยวด้านสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ ที่จะมีการพักอาศัยระยะยาวและมีค่าใช้จ่ายที่ดี แต่ถ้าหลายจังหวัดเปิดพร้อมกันอาจขาดแคลนบุคลากร รัฐบาลก็จะให้ความสำคัญในส่วนนี้ด้วย สำหรับเรื่องของอีวีบัส ผู้ว่าการท่าฯ ระบุติดต่อได้เลยพร้อมทำได้เลย เรื่องครม.สัญจร อาจแยกเป็นครม.เศรษฐกิจ หรือครม.มั่นคงเป็นกลุ่มเล็กสะดวกมากกว่า ยืนยันว่าจะกลับมาอีก 

จากนั้นนายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์หลังพูดคุยกับผู้ประกอบการว่า มีข้อเสนอที่คล้ายคลึงกับจ.ภูเก็ต ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐาน สนามบิน เมื่อถามว่าโอกาสสร้างสนามบินพังงา เป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญของพรรคพท.ที่จะต้องผลักดันให้เกิดขึ้น เมื่อถามว่าในระยะสั้นเราจะนำสนามบินเดิมมาปรับปรุงหรือจัดสร้างสนามบินใหม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ต้องรับฟังความคิดเห็นทั้งหมดก่อน แต่หากจะทำก็อยากให้ดีเลย และเข้าใจว่ามีแผนอยู่แล้ว และมีการกำหนดที่ไว้แล้ว 

เมื่อถามถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กจะส่งต่องานให้ นายเศรษฐา กล่าวว่า ขอบคุณ แต่ตนยังไม่ได้อ่านเฟซบุ๊กของพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งตนจะรับไปพิจารณา และมีหลายท่านที่อยู่ในรัฐบาลเดิม ก็จะไปพูดคุยและไปรับฟังงานที่ทำค้างไว้ โดยเฉพาะการลงทุนที่ทำจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นอะไรที่น่าจะสามารถต่อยอดไปได้ 

เมื่อถามว่าแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่พล.อ.ประยุทธ์จะฝากไว้กับรัฐบาลใหม่ พรรคพท.จะสานต่ออย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็ต้องมาดูกันว่าในส่วนไหนที่สามารถทำได้หรือไม่ได้อย่างไร เพราะโลกปัจจุบันก็เปลี่ยนแปลงไปโดยเร็วพอสมควร ซึ่งต้องดูให้ดีก่อน ไม่อยากบอกว่าเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม ย้ำว่าขอศึกษาก่อน 

เมื่อถามว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใหม่ลงตัวขึ้นพร้อมที่จะเสนอชื่อเลยหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ใกล้เคียงมาก พยายามเต็มที่ โดยชื่อที่มีการนำเสนอในข่าวถือว่าใกล้เคียง เรามีคณะเจรจาและการเจรจาก็เป็นไปในทิศทางที่ดี โดยลงรายละเอียดไปถึงรัฐมนตรีช่วยฯ ว่าควบคุมกรมอะไร อยู่ในช่วงการต่อรอง สำคัญกว่าสิ่งอื่นใดคือเรื่องของความถนัดของบุคคลที่จะมาดูแลในเรื่องของกรมนั้นๆ ด้วย เพราะเราต้องเอาเรื่องของความเจริญบ้านเมืองเป็นหลัก ไม่ใช่เรื่องของการแบ่งสรรอะไรอย่างเดียว อีกนิดเดียว ขอให้ใจเย็น เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยรอบนี้ ได้กระทรวงมหาดไทยไปคุมภูมิภาคท้องถิ่นทั่วประเทศ พรรคเพื่อไทยจะเสียเปรียบหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ต้องดูไปก่อน ขอดูก่อนว่าจะมีการแบ่งงานกันอย่างไร เพราะต้องมีรัฐมนตรีช่วยด้วย ขอให้ใจเย็นๆ

เมื่อถามว่าผู้แทนการค้าไทยที่ในรัฐบาลเดิมเหมือนจะมีบทบาทน้อย รัฐบาลใหม่จะนำมามีบทบาทอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า ปัจจุบันการค้าโลกเป็นเรื่องสำคัญ เรื่องเอฟทีเอ เรื่องการเปิดตลาดเป็นเรื่องสำคัญ เรื่องการเชื้อเชิญนักลงทุนของต่างประเทศเข้ามา เป็นเรื่องที่เราต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งตามความเข้าใจของตน ผู้แทนการค้าไทยมี 5 คน และสามารถตั้งประธานได้อีก 1 คน จะเป็นหัวหอกสำคัญในการพัฒนาประเทศ ส่วนจะเป็นของพรรคพท.ทั้งหมดเลยหรือไม่นั้น ตรงนี้เราต้องให้เกียรติกันนิดนึง เราต้องดูความเหมาะสมและความสามารถของบุคลากร เมื่อถามว่าที่บอกว่าครม.สัดส่วนของพรรคพท.ลงตัวร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วหรือยัง นายเศรษฐา กล่าวว่า “นิดๆ หน่อยๆ 2-3 ตำแหน่ง” เมื่อถามว่าทีมเศรษฐกิจของพรรคพท.จะเป็นทีมที่แข็งแกร่งหรือไม่เพราะนายกฯ จะควบตำแหน่งรมว.คลังด้วยตัวเอง นายเศรษฐา กล่าวว่า อยากให้ผลงานเป็นตัวพิสูจน์ ไม่อยากพูด แต่เราพยายามเต็มที่ ในสภาวะที่ค่อนข้างจะลำบากเศรษฐกิจที่มีปัญหา คาดว่ามีความคาดหวังสูง แต่ตนเชื่อว่าคนที่ถูกคัดเลือกตัวมาก็พร้อมที่จะทำงานบนความเหน็ดเหนื่อย 

เมื่อถามว่า รมช.คลังต้องทำงานรู้ใจรัฐมนตรีเลยหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นธรรมดาที่ต้องทำงานร่วมกันได้ แต่เชื่อว่าทั้ง 11 พรรคที่มาทำงานร่วมกัน เข้าใจถ่องแท้ถึงความต้องการและปัญหาของพี่น้องประชาชน เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่กระทรวงมหาดไทยที่เดิมมีชื่อของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แต่ล่าสุดมีชื่อเป็นรองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ท่านจะเสียใจหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนคิดว่าทุกคนเข้าใจ และกระทรวงใหญ่ๆ ตนก็คิดว่ามีการพูดคุยกันแล้ว หลายคนที่เป็นผู้ใหญ่และไม่ใช่แค่พรรคเดียวก็มีความเข้าใจ และชำนาญไม่ใช่แค่กระทรวงเดียว หลายคนผ่านการทำงานมาเยอะ เชื่อว่าเหมาะสมและพร้อม เมื่อถามว่าวันที่ 28 ส.ค.นี้รายชื่อ ครม.จะเรียบร้อยหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า “หวังว่า” 

เมื่อถามว่ากระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท จะใช้ได้เมื่อไหร่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เราเดินหน้าเต็มตัวแน่นอน ขอดูรายละเอียดอีกเล็กน้อย ซึ่งในวันที่ 28-29 ส.ค. นี้จะมีการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาพบปะพูดคุยกัน เพื่อจะรวบรวมข้อมูลแล้วจะขอเขียนไทม์ไลน์อีกครั้ง หวังว่าในไตรมาส 1 ปีหน้าจะทำได้ เมื่อถามว่ามีผลสำรวจของศรีปทุมโพลระบุว่าพรรคพท.มีความนิยมลดลงจะเร่งฟื้นความเชื่อมั่นอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนคิดว่าผลงานอย่างเดียว วันนี้เราทำงานตลอดทุกวัน ทุกคนไม่มีความเหน็ดเหนื่อย ส่วนเรื่องของความคาดหวังของบุคคลอื่นนั้น เราควบคุมไม่ได้ และเชื่อว่าทุกคนจะเข้าใจถึงความบอบบางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ที่เราจะต้องเดินหน้าไปด้วยกันให้ได้

'เกาะสิมิลัน' คัมแบ็ก!! อ้าแขนรับ นทท. 'เช้าไป-เย็นกลับ-พักแรม' เอาใจ 'สายแชะ-ดำน้ำ-คลำคลื่นทะเล' 15 ต.ค.66-16 พ.ค.67

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน คิกออฟ!! ฤดูกาลท่องเที่ยว 66-67 แค่วันแรกโกยนักท่องเที่ยวกว่า 1,300 คน เยือน 'สิมิลัน-เมียง' พร้อมเรียงแถวเช็กอิน 2 จุดไฮไลต์ประจำเกาะ 'หินเรือใบ-หาดเจ้าหญิง'

ไม่นานมานี้ ทาง 'อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน' ต.เกาะพระทอง อ.คุระบุรี จ.พังงา ได้เปิดทริปเอาใจสายท่องเที่ยวแบบเช้าไป-เย็นกลับ และรวมถึงกลุ่มที่ต้องการรูปแบบพักแรมอีกครั้ง ในวันเปิดฤดูกาล (15 ต.ค.) โดยงานนี้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติชุดแรก เข้ามาท่องเที่ยวแล้วกว่า 1,300 คน 

สำหรับทริปฤดูท่องเที่ยวหนนี้ จะเปิดฟลอร์โดยเรือสปีดโบ้ท ที่จะพานักท่องเที่ยวเดินทางออกจากท่าเรือบ้านทับละมุ อ.ท้ายเหมือง เพื่อไปทำกิจกรรมท่องเที่ยวต่างๆ ในหมู่เกาะสิมิลัน 

เริ่มจากจุดแรกเป็นจุดดำน้ำดูปะการังและปลาสวยงาม ที่หน้าเกาะเก้า หรือเกาะบางู จากนั้นก็เดินทางต่อไปที่เกาะแปด หรือเกาะสิมิลัน ซึ่งเป็น 1 ใน 2 เกาะไฮไลต์ ที่สามารถขึ้นฝั่งเที่ยวได้ในอุทยานฯแห่งนี้ 

โดยเกาะแปด หรือ 'เกาะสิมิลัน' นั้น ถือเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะสิมิลัน สามารถทำกิจกรรมดำน้ำได้ทั้งน้ำลึกและน้ำตื้น 

สำหรับเกาะแปดมีไฮไลต์ คือ 'หินเรือใบ' สัญลักษณ์แห่งหมู่เกาะสิมิลัน ที่มีลักษณะเป็นก้อนหินขนาดใหญ่ที่ดูคล้ายใบเรือยักษ์ตั้งอยู่ริมหน้าผาแบบหมิ่นเหม่ชวนให้สงสัยว่าตั้งอยู่ได้อย่างไร ซึ่งนักท่องเที่ยวต้องเดินขึ้นเขาไปเล็กน้อย เพื่อไปสัมผัสกับหินเรือใบ แต่ขอบอกว่า บนนั้นเป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่จะมองเห็นท้องทะเลได้อย่างสวยงามกว้างไกล

นอกจากนี้เกาะแปดยังมีสิ่งน่าสนใจอื่น ๆ อาทิ 'อ่าวเกือก' เป็นรูปโค้งเหมือนเกือกม้า หาดทรายขาวละเอียดเนียนนุ่มน้ำทะเลสวยใสน่าเล่น อีกทั้งยังมีหินรูปร่างแปลกตาอยู่ทางด้านเหนือของเกาะ ได้แก่ หินรูปรองเท้าบู๊ท หินรูปหัวเป็ดโดนัลด์ดั๊ก

ขณะที่เกาะเมียง หรือ เกาะสี่ ที่เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวไฮไลต์นั้น มีจุดท่องเที่ยวสำคัญอยู่ที่ 'หาดเจ้าหญิง' และ 'หาดเล็ก' รวมถึงเป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ที่ สล.1 (เกาะเมียง) ที่มีทั้งร้านค้าสวัสดิการของอุทยานฯ หน่วยรักษาความปลอดภัยฐานทัพเรือพังงา และหน่วยช่วยเหลือพยาบาล 

สำหรับหาดเจ้าหญิง เป็นหาดหน้าเกาะเมียงหรือเกาะสี่ ในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน มีหาดทรายขาวละเอียดยาวประมาณ 400 เมตร นับเป็นทรายขาวสวยมากที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย น้ำทะเลสีฟ้า เป็นจุดลงเล่นน้ำและดำน้ำตื้น มีปะการังกระจายอยู่เป็นกลุ่มต่อเนื่องไปถึงแนวโขดหิน

ส่วนหาดเล็ก ที่เป็นหาดอยู่ทางด้านตะวันออกของเกาะ สามารถเดินจากหาดเจ้าหญิงตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทาง 300 เมตร เป็นป่าดิบชื้น ระหว่างทางหากโชคดีก็จะพบกับปูไก่ ปูเจ้าถิ่นของหมู่เกาะสิมิลัน และบริเวณหาดเล็กนี้ยังมีแนวปะการังขนาดเล็กกระจายเป็นหย่อมๆ มีปลาทะเลสวยงามตามแนวปะการัง เช่น ปลาการ์ตูนส้มขาว หรือที่คนนิยมเรียกว่า 'นีโม' ปลาผีเสื้อ และหอยมือเสือ รวมถึงเต่าทะเล 

สำหรับฤดูกาลท่องเที่ยวหมู่เกาะสิมิลันปี 2566-2567 เปิดให้เข้าเที่ยวชมแล้ว ระหว่างวันที่ 15 ต.ค.66 ถึง 15 พ.ค.67 ห้ามพลาด!!

‘กรมทรัพย์สินทางปัญญา’ ขึ้นทะเบียน ‘มังคุดทิพย์พังงา’ เป็นสินค้า GI มุ่งจัดระบบควบคุมคุณภาพสินค้า-สร้างมูลค่าเพิ่ม-ดึงรายได้สู่ชุมชนอย่างยั่งยืน

(26 ต.ค. 66) นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ขึ้นทะเบียน ‘สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์’ หรือ ‘GI’ เพื่อคุ้มครองสินค้าที่มีอัตลักษณ์เฉพาะในแต่ละท้องถิ่น เพิ่มมูลค่าสินค้า สร้างรายได้ให้แก่ชุมชนอีกทั้งยังเป็นการควบคุมคุณภาพสินค้าเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค

ล่าสุด กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) รายการใหม่ คือ ‘มังคุดทิพย์พังงา’ พืชเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดพังงา ที่มีการเพาะปลูกกันมาอย่างยาวนาน มีชื่อเสียงและมีผลผลิตจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ โดยมีตลาดส่งออกที่สำคัญ เช่น จีน เวียดนาม เป็นต้น สร้างรายได้เข้าสู่ชุมชนกว่า 280 ล้านบาท

‘มังคุด’ ถือเป็นราชินีแห่งผลไม้เมืองร้อน รสชาติอร่อย เป็นที่นิยมของผู้บริโภค โดยชื่อ ‘ทิพย์พังงา’ มีความหมายว่า ‘ผลไม้ของเทวดาที่มีรสเลิศจากจังหวัดพังงา’ มีลักษณะเด่นคือ เป็นมังคุดพันธุ์พื้นเมือง ผลทรงกลม เปลือกค่อนข้างหนา แห้ง แตกลาย เนื้อสีขาว หนานุ่ม ไม่ฉ่ำน้ำ รสชาติหวานอมเปรี้ยว ปลูกและผลิตในเขตพื้นที่จังหวัดพังงา ซึ่งสภาพพื้นที่ส่วนใหญ่มีความลาดชัน ดินระบายน้ำดี อีกทั้งลักษณะภูมิอากาศแบบมรสุมเมืองร้อน ทำให้จังหวัดพังงามี 2 ฤดู คือ ฤดูฝนและฤดูร้อน

ด้วยสภาพภูมิประเทศและสภาพภูมิอากาศดังกล่าว ประกอบกับกระบวนการปลูกมังคุดของเกษตรกรชาวพังงาที่เน้นการดูแลรักษาแบบธรรมชาติ จึงเกิดเพลี้ยไฟในช่วงออกดอกและติดผลอ่อน มีผลดีคือ ทำให้โครงสร้างของผิวเปลือกเปลี่ยนแปลง มีรอยแยกระหว่างเซลล์เกิดเป็นช่องว่างบนผิว ทำให้ผิวของผลมังคุดส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นลาย ระบายน้ำในผลออกมาได้ดี ส่งผลให้เนื้อมังคุดสีขาว แห้ง ไม่ฉ่ำน้ำ และเปลือกมังคุดค่อนข้างหนาทำให้เนื้อมังคุดไม่ช้ำง่าย

‘มังคุดทิพย์พังงา’ ถือเป็นสินค้า GI ลำดับที่ 3 ของจังหวัดพังงา ต่อจากทุเรียนสาลิกาพังงา และข้าวไร่ดอกข่าพังงาที่ได้ขึ้นทะเบียน GI ไปก่อนหน้านี้ ซึ่งกรมทรัพย์สินทางปัญญาจะเดินหน้าส่งเสริมการจัดทำระบบควบคุมคุณภาพสินค้า และสนับสนุนช่องทางการตลาด เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า และสร้างรายได้ให้เกษตรกรในชุมชนอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ กรมทรัพย์สินทางปัญญา ขอเชิญชวนทุกท่านติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหว และร่วมสนับสนุนผู้ประกอบการสินค้า GI ได้ที่ Facebook Page : GI Thailand หรือโทรสายด่วน 1368

พังงา เพิ่มขีดความสามารถการปฐมพยาบาลด้วยการทำ CPR 'เพิ่มโอกาสการรอดชีวิต'

กองพันต่อสู้อากาศยานที่ 22 จัดการอบรมการกู้ชีพพื้นฐานให้กับกำลังพล และการปฐมพยาบาลเพื่อเพิ่มขีดความสามารถ ในการช่วยชีวิตด้วยการทำ CPR (Cardiopulmo nary Resuscitation ) และการใช้เครื่องฟื้นคืนคลื่นหัวใจด้วยไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ (AED ) จากวิทยากร โรงพยาบาลฐานทัพเรือพังงา ทัพเรือภาคที่ 3 โดยมี นาวาโท ศักรินทร์ ซื่อสงวน ผู้บังคับกองพันต่อสู้อากาศยานที่ 22 เป็นประธาน 

พิธีเปิดการฝึกอบรม ณ ห้องประชุมกองบังคับการกองพันต่อสู้อากาศยานที่ 22 ตำบลลำแก่น อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารเรือ ประจำปีงบประมาณ 2567

‘อัครเดช’ นำคณะกมธ.ฯ ลงพื้นที่ จ.พังงา แหล่งแร่ลิเธียม เตรียมเร่ง ให้ผลิตแบตฯป้อน ยานยนต์ไฟฟ้า ตามนโยบายรัฐบาล 

(10 มี.ค.67) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.)การอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร นำคณะกมธ.ฯลงพื้นที่จังหวัดพังงา เพื่อติดตามโครงการสำรวจและผลิตแร่ลิเธียมในการสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของอาเซียน โดยมีนายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา อุตสาหกรรมจังหวัดพังงา และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับและให้ข้อมูลกับคณะกมธ.

นอกจากนี้ คณะกมธ.ฯยังได้ลงพื้นที่เขตแหล่งแร่เรืองเกียรติ ตำบลกะใหล อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา เพื่อดูสถานที่จริงพร้อมรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้รับอาชญาบัตรสำรวจแร่ ผู้นำท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ นำโดย นายวิชัช ไตรรัตน์ นายก อบต.กะใหล ได้ชี้แจงรายละเอียดสถานการณ์ปัจจุบันในพื้นที่

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ประธานคณะกมธ.ฯให้สัมภาษณ์ว่า ได้หารือกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา อุตสาหกรรมจังหวัดพังงา ตลอดจนผู้อำนวยการอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ในเรื่อง การนำแร่ลิเธียมซึ่งเป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำในการผลิตแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าตามนโยบายของรัฐบาล เนื่องจากเป็นโครงการที่สำคัญรัฐบาลให้สนับสนุนในการผลิตเพื่อนำมาป้อนอุตสาหกรรมรถไฟฟ้า

ทั้งนี้ จากการประชุมหารือกับหลายฝ่าย และลงไปดูแหล่งแร่ลิเธียมที่กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานได้ประกาศเป็นแหล่งแร่ลิเธียมในตำบลกะไหล พบปะกับผู้นำท้องถิ่นและประชาชนในพื้นที่ ข้อมูลเบื้องต้นทราบว่าทางจังหวัดพังงามีนโยบายจะทำเหมืองแร่ลิเธียมให้ควบคู่ไปกับการสร้างรายได้ของจังหวัดด้านการท่องเที่ยว ซึ่งการท่องเที่ยวถือเป็นอุตสาหกรรมหลักของจังหวัดพังงา เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อจำนวนมาก

นายอัครเดช กล่าวว่า คณะกมธ.ฯได้รับทราบข้อมูลจากผู้สำรวจเหมืองแร่ที่ได้รับอาชญาบัตรสำรวจแร่ลิเธียมพบว่าใบอนุญาตในการสำรวจขาดอายุความตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และขณะนี้มีนักลงทุนหลายราย สนใจเข้ามาลงทุนสำรวจแต่ยังติดขัดในข้อกฎหมาย ติดขัดในเรื่องผู้รับสิทธิ์สำรวจกฎหมายไม่อนุญาตให้สำรวจซ้ำซ้อนกันได้คณะกมธ.จึงรับข้อร้องเรียนดังกล่าวเพื่อนำกลับมาหารือกับกระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยว เพื่อแก้ไขปัญหาให้การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมต้นน้ำของการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าสามารถทำได้จริงตามนโยบายสำคัญที่รัฐบาลให้การสนับสนุน ซึ่งข้อจำกัดเหล่านี้คณะกมธ.ฯจะมาหารือเพื่อแก้ปัญหาต่อไป

ประธานคณะกมธ.กล่าววย้ำว่า ในการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่พวกเขาอยากให้ทางรัฐบาล และส่วนราชการได้สนับสนุนให้มีการสำรวจขุดเจาะแร่ลิเทียมอย่างจริงจัง เพื่อสร้างงานให้กับชุมชน จังหวัดและประเทศ พวกเขามีความเป็นห่วงว่าถ้าทำไม่จริงจัง ในอนาคตเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไป แร่ลิเธียมมูลค่าอาจจะลด ขณะที่แร่ลิเธียมมีมูลค่าสูงจึงอยากให้รัฐบาลสำรวจขุดเจาะเพื่อสร้างงานสร้างรายได้ให้กับประชาชนและสร้างรายได้ให้กับประเทศ ประชาชน ไม่ได้คัดค้านแต่เป็นห่วงว่าในระหว่างที่ดำเนินโครงการต้องทำ CSR และควบคุมเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับชุมชนและแหล่งท่องเที่ยว

“การขุดเจาะสำรวจแร่ลิเธียมทราบว่ามีหลายจังหวัด ในจังหวัดราชบุรี ก็มีการสำรวจ ของจังหวัดพังงาได้ดำเนินการมา 3 ปีแล้วสำรวจขุดเจาะได้กว่า 200 หลุม มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มากพอสมควรว่า สามารถทำเป็นอุตสาหกรรมเปิดเหมืองนำแร่ลิเธียมมาผลิตเป็นแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างคุ้มค่าการลงทุน อย่างไรก็ตามคณะกมธ.ฯจะนำข้อมาหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกระทรวงอุตสาหกรรมในการเร่งและแก้ไขปัญหา ให้ประชาชนในพื้นที่ต่อไป”นายอัครเดชกล่าว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top