‘โรม’ นำทีมหาเสียงกำแพงเพชร ชี้ 8 ปี รบ.ประยุทธ์ล้มเหลว ชูปราบปรามยาเสพติด-ทุจริตคอร์รัปชัน วอน! ขอโอกาสจาก ปชช.
(11 มี.ค. 66 ) รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล เดินทางไปที่ จ.กำแพงเพชร เพื่อช่วยหาเสียง ร่วมกิจกรรมแห่รถรอบเมือง และเดินในงาน ‘นบพระเล่นเพลง’ ร่วมกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กำแพงเพชร พรรคก้าวไกล จำนวน 4 คน ได้แก่ สุกิจ ศุภกิจเจริญ สมชาย ผลมา ประพันธ์ จิตคำ และ จันทร์ดี หลวงนัน
โดยช่วงเช้า แวะพูดคุยกับประชาชนที่ตลาดศูนย์การค้ากำแพงเพชร รังสิมันต์กล่าวว่า ผลตอบรับที่ได้กลับมาดีเกินคาด เชื่อว่า 8 ปีที่ผ่านมาทำให้ชาวกำแพงเพชรและคนไทยทุกคนเห็นแล้วว่ารัฐบาลที่มีที่มาจากเผด็จการไม่ได้อยู่ข้างประชาชนฝ่ายใดเลย พวกเขาหลอกลวงว่าจะเข้ามาแก้ไขความขัดแย้ง ปราบปรามคอร์รัปชัน แต่ถ้าประชาชนได้ฟังการอภิปรายของตนและ ส.ส. พรรคก้าวไกล ก็จะทราบว่าทุกวันนี้มีการโกงกินบ้านเมืองอยู่ทุกหย่อมหญ้า แม้แต่กระบวนการยุติธรรมก็ถูกสั่นคลอนความน่าเชื่อถือ
ล่าสุดคือกรณี อุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา ที่มีข้อครหาเกี่ยวข้องพัวพันกับการฟอกเงินขบวนการค้ายาเสพติดของ ‘ทุนมินลัต’ ตั้งแต่ตนอภิปรายในสภาฯ เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้ ยังไม่เห็นความคืบหน้าของการนำตัว ส.ว.อุปกิต มาแจ้งข้อหาเพื่อจะฟ้องคดีต่อไป ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ตำรวจสืบนครบาล (บก.สส. บช.น.) ที่จับทุนมินลัตและขยายผลมาถึง ส.ว.อุปกิต ได้เคยขอหมายจับต่อศาลแล้ว และศาลก็อนุมัติหมายจับให้ แต่ในวันเดียวกันกลับถอนการอนุมัติ จนแม้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบการขอหมายจับอุปกิตยังทนไม่ไหว ต้องออกจดหมายเปิดผนึกชี้แจง ระบุว่าการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ประวิงเวลาในการดำเนินคดีกับอุปกิต จะก่อให้เกิดผลเสียร้ายแรงต่อศรัทธาของประชาชน และการเพิกถอนหมายจับด้วยเหตุผลว่าเป็น ‘บุคคลสำคัญ’ ก็ทำลายหลักการว่า ‘บุคคลย่อมเสมอภาคภายใต้กฎหมาย’ ดังนั้น หากเราปล่อยให้บ้านเมืองเป็นเช่นนี้ต่อไป แม้แต่เจ้าหน้าที่รัฐที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมายังอาจถูกแทรกแซง แล้วประชาชนจะหันไปพึ่งพาใครได้ ประเทศไทยจะมีอนาคตได้อย่างไร
