Sunday, 28 April 2024
ประวิตร_วงษ์สุวรรณ

'เพื่อไทย' แนะ 'ประวิตร' เร่งแก้หนี้นอกระบบ ชี้!! หากชักช้าจะยิ่งเป็นการซ้ำเติมประชาชน

นางมนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนม ในฐานะรองเลขาธิการ พรรคเพื่อไทยเปิดเผยว่า จากกรณีที่กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจครึ่งแรกของปี 2565 พบผู้ประกอบการปิดกิจการสูงถึง 7,500 บริษัท ถือว่าเป็นสัญญาณอันตราย ที่ชี้ชัดว่าเศรษฐกิจประเทศไทยยังไม่พ้นปากเหว นับแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ภายหลังเกิดปัญหาการระบาดของโควิด รัฐบาลประเมินสถานการณ์ผิดพลาด และออกมาตรการที่ไม่จริงใจส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการรายย่อยหลายแสนรายปิดตัวลง

ผลที่ออกมาอยากให้รัฐบาลย้อนไปดูตัวเองว่า บริหารประเทศอย่างไร เงินกู้จำนวน 1.5 ล้านล้าน ที่รัฐบาลบอกว่าจะนำมาช่วยผู้ประกอบการ ก็ไม่เป็นความเป็นจริงไม่มีผู้ประกอบการหลายหมื่นบริษัท เข้าไม่ถึงเงินกู้ที่รัฐบาลจัดไว้ ทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี หลายแห่งต้องประสบปัญหาด้านเงินทุน จนไปต่อไม่ได้

'สมชัย' เขียนจดหมายเปิดผนึกถึง 'บิ๊กป้อม' ช่วยส่งสัญญาณให้รัฐสภาฯ รื้อทิ้งอำนาจส.ว.

เมื่อวันที่ 2 กันยายน นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย และเป็นอดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะคณะผู้รณรงค์แก้ไข ม. 272 ได้เขียนจดหมายเปิดผนึก ถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาราชการนายกรัฐมนตรี เรื่อง ขอเสียงสนับสนุนอย่างจริงใจในการแก้รัฐธรรมนูญ ม. 272 โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

“วันที่ 6 และ 7 กันยายน พ.ศ.2565 นี้ ประธานรัฐสภาได้กำหนดให้เป็นวันประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาวาระสำคัญเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยในเรื่องด่วน วาระที่ 6 เป็นข้อเสนอในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ของประชาชน 64,151 รายชื่อ เพื่อแก้ไขในบทเฉพาะกาลมาตรา 272 ประเด็นการตัดอำนาจสมาชิกวุฒิสภาในการเลือกนายกรัฐมนตรีในช่วง 5 ปีแรกของรัฐสภา

หลักการแก้ไขดังกล่าว เป็นการทำให้ประเทศคืนสู่ความเป็นประชาธิปไตยที่เป็นสากลและเคยเป็นหลักปฏิบัติในรัฐธรรมนูญที่ผ่านมาทุกฉบับ ตลอดจนความจำเป็นที่ต้องมีรัฐบาลที่วุฒิสภาร่วมให้ความเห็นชอบเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการทำงานตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนปฏิรูปประเทศนั้นสิ้นสุดลงแล้ว โดยอิงจากรายงานผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2565 ได้ระบุถึงความสำเร็จของการดำเนินงานในทุกเรื่อง และจะสิ้นสุดในปลายปี พ.ศ. 2565 นี้

'ผู้นำฝ่ายบริหาร' ตอกย้ำทัศนคติ 'ข้าราชการ' เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของปชช. 

บทความจากหนังสือพิมพ์มติชน วันที่ 3 กันยายน 2565 ได้นำเสนอหัวข้อ 'ไม่ใช่นายประชาชน' ซึ่งเขียนถึงการทำงานของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หลังเข้ารับตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรีมาตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค. 65 โดยระบุว่า...

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ทำหน้าที่รักษาการรองนายกรัฐมนตรีมาตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค. หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งพักการทำหน้าที่นายกฯ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น หลังจาก พล.อ.ประวิตรเข้าทำหน้าที่รักษาการนายกฯ ได้ทำหน้าที่ประธานการประชุม ครม. การเสนอความช่วยเหลือแก่ กทม.ในการป้องกันน้ำท่วม การสั่งการในปัญหาที่ประชาชนสนใจ อาทิ กรณีครูลืมเด็กนักเรียนไว้ในรถตู้จนเสียชีวิต 

และล่าสุด ได้ลงพื้นที่ฉะเชิงเทรา มอบนโยบายสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำบางปะกง การเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนเพื่อการผลิตน้ำประปาเพื่อการอุปโภคและบริโภค ตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี

รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงปัญหาของฉะเชิงเทราคือน้ำเค็มที่เข้าพื้นที่ และป้องกันไม่ให้น้ำเค็มเข้า จ.ปราจีนบุรี โดยจะอนุมัติงบ 100 กว่าล้านบาท เพื่อศึกษาการทำประตูน้ำป้องกันน้ำเค็ม รวมถึงสำรองน้ำดิบไว้ผลิตถึงปี 2580 และกล่าวด้วยว่า ถ้าประชาชนไม่มีน้ำก็จะด่ารัฐบาล ประชาชนมีอย่างเดียวคือต้องด่ารัฐบาล แต่ขอความเห็นใจให้ข้าราชการทุกคนที่พยายามทำงานให้พวกเราได้อยู่ดีกินดีขึ้นเพื่อความเป็นอยู่ที่ดี และเข้าใจน้ำเค็มที่ทะลักเข้ามาจะมีผล โดยเฉพาะน้ำประปาเพื่อการอุปโภคบริโภคของประชาชนในฉะเชิงเทรา จำเป็นอย่างยิ่งที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งหาแนวทางเพื่อให้เป็นระบบในระยะยาวเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทุกปี 

'โรม' สงสัยเหตุใดสุขภาพ 'บิ๊กป้อม' ดีขึ้นอย่างชัดเจน หรือเพราะ 'บิ๊กตู่' ไม่ได้อยู่ในบทบาทสำคัญแบบเดิม 

(3 ก.ย. 65) นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงกรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุถึงคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาปมนายกฯ 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ยืนยันว่าไม่นับเริ่มการเป็นนายกฯ ตั้งแต่ 24 ส.ค. 2557 ว่า การเขียนคำชี้แจงเช่นนี้ หมายความว่าพล.อ.ประยุทธ์ ต้องการอยู่ยาว ซึ่งเป็นสิ่งที่ขัดต่อภาพลักษณ์ที่ต้องการบอกกับสังคมว่าไม่อยากอยู่ยาว เพราะตอนนี้เกิดสภาวะเสพติดอำนาจไปเสียแล้ว ถ้าเรามองอย่างใจเป็นธรรม กฎหมายเขียนเพื่อป้องกันการผูกขาดอำนาจ 

ดังนั้นจึงต้องนับการดำรงตำแหน่งนายกฯ ตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค. 2557 โดยนับวันโปรดเกล้าฯ เป็นวันแรก การที่พล.อ.ประยุทธ์ ส่งทีมกฎหมายเขียนคำชี้แจงเช่นนี้ก็กล้าเสียเหลือเกิน สรุปแล้วช่วงปี 2557 พล.อ.ประยุทธ์ เป็นอะไร โจร หรือคนยึดอำนาจ ตนไม่เข้าใจว่าจะต้องเล่นแร่แปรธาตุตีความกฎหมายเป็นอื่นเพื่อให้ขัดแย้งกับข้อเท็จจริงไปเพื่ออะไร

'บิ๊กป้อม' ลั่น!! รัฐบาลพร้อมดูแลเกษตรกรให้อยู่ดีกินดี อ้อน!! บอกอายุมากแล้ว แต่พยายามทำงานเพื่อปชช.

พล.อ.ประวิตร ติดตามสถานการณ์น้ำ-ปาล์มน้ำมัน ชี้รัฐบาลพร้อมดูแลเกษตรกรให้อยู่ดีกินดี ย้ำใช้ใจบันดาลแรง เพื่อมีกำลังใจช่วยให้ประชาชนอยู่ดีกินดีและมีความสุข อ้อนบอกอายุมากแล้ว แต่พยายามทำงานเพื่อปชช.

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ประชุมติดตามสถานการณ์น้ำ การคาดการณ์ และการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคใต้ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่กล่าวต้อนรับ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) นำเสนอสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคใต้ ขณะที่ กรมชลประทานนำเสนอแผนการดำเนินการโครงการระบบส่งน้ำพร้อมอาคารประกอบอ่างเก็บน้ำคลองแห้ง ต.กระบี่น้อย อ.เมือง โดยสรุปภาพรวม ปริมาณฝน จ.กระบี่ สูงกว่าปี 64 ร้อยละ 8 ขณะที่เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) นำเสนอแผนดำเนินการโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร พื้นที่ดำเนินการ ส.ป.ก.จังหวัดกระบี่ บ้านสองแพร่ง หมู่ที่ 9 บ้านหว่างคลองไทย หมู่ที่ 10 ต.กระบี่น้อย อ.เมืองขณะที่รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นำเสนอสถานการณ์ปาล์มน้ำมันในพื้นที่ 

ทั้งนี้ภายหลังการประชุมพล.อ.ประวิตร ได้เยี่ยมชมนิทรรศการสินค้าพื้นบ้าน พร้อมอุดหนุนผลิตภัณฑ์สินค้าพื้นบ้าน และเซ็นชื่อบนเรือหัวโทงจำลอง บ้ายเกาะกลาง จ.กระบี่ เพื่อเป็นที่ระลึกอีกด้วย 

จากนั้น พล.อ.ประวิตร พบปะกับเกษตรกรชาวสวนปาล์ม โดยมีตัวแทนชาวสวนปาล์มชูป้ายให้กำลังใจ ข้อความว่า "ลุงป้อมสู้ สู้" และ "อสร.กระบี่รักลุงป้อม" โดยพล.อ.ประวิตร กล่าวว่า วันนี้ตนลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและปาล์มน้ำมัน ตั้งใจมาพบพี่น้องชาวสวนปาล์ม เพื่อรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนด้วยตัวเอง เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ชาวสวนปาล์มหลายจังหวัดในภาคใต้มาพบตนที่ทำเนียบรัฐบาล ในฐานะตนเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมัน (กนป.) ที่ทำต่อเนื่องมา 8 ปี มีความห่วงใยชาวสวนปาล์มอย่างมาก ได้พยายามลดต้นทุน ทำราคาให้ดีขึ้น ออกมาตรการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ปีนี้มีผลงานออกมาชัดเจน และได้ไปขอบคุณตน อย่างไรก็ตามต้องไม่ให้มีผู้บริโภคเดือดร้อน

'เพื่อไทย' ชม 'บิ๊กป้อม' รักษาการฯ เพียงไม่กี่วัน เห็นผลงานโดดเด่น

(6 ก.ย. 65) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจากที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ต้องเข้ามาทำหน้าที่แทนพล.อ.ประยุทธ์ ปรากฎว่าการทำงานของพล.อ.ประวิตร ในเวลาไม่กี่วันกลับทำได้ดีกว่าพล.อ.ประยุทธ์ มาก เข้าใจปัญหาและเข้าถึงใจประชาชนได้มากกว่าพล.อ.ประยุทธ์ ขนาดทำให้พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเสียศูนย์ออกมาแสดงอาการหวงตำแหน่งเดิมอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยรูปนั่งคุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกฯ และ รมว. สาธารณสุข นั่งพร้อมกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา โดยไม่ได้คำนึงถึงความเหมาะสม เพราะโดยตำแหน่งแล้วนายอนุทิน ที่เป็นรองนายกฯ ย่อมมีฐานะสูงกว่าพล.อ.ประยุทธ์ ที่เป็น รมว. กลาโหมเท่านั้น ยิ่งแสดงถึงภาพการยึดติดและอิจฉาทำใจไม่ได้ที่มีกับพล.อ.ประวิตร ทั้งที่น่าจะรู้ว่าเวลาของตนเองหมดแล้ว แต่ยังพยายามจะดันทุรัง 

ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ลงพื้นที่ กลับเสียคะแนน เพราะนั่งรถกันกระสุนและไม่ยอมเปิดหน้าต่างคุยกับประชาชน โดยอ้างว่าเปิดไม่ได้เพราะเป็นรถกันกระสุน ซึ่งถ้าหากกลัวคนทำร้ายและกลัวตายขนาดนี้ ก็ไม่น่าจะยังดื้อรั้นจะอยู่ตำแหน่งต่อไปอีกเลย ควรออกไปได้แล้ว ทั้งสองเรื่องนี้แสดงถึงความเสื่อมของพล.อ.ประยุทธ์ได้ชัดเจนและพิสูจน์ได้เลยว่าใครเหมาะจะมาเป็นนายกฯ ก็จะทำได้ดีกว่า จากผลงานของพล.อ.ประวิตรเพียงไม่กี่วันมานี้พิสูจน์แล้ว

นายพิชัย กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร โชว์ฟอร์มเหนือชั้นกว่าพล.อ.ประยุทธ์ แล้ว ก็อยากให้เร่ง แก้ไขปัญหาของประเทศที่ควรจะเร่งทำทันที อย่าปล่อยให้มีปัญหามากขึ้นเหมือนพลเอกประยุทธ์ ทำโดยนอกจากนโยบายของพรรคพลังประชารัฐที่ยังไม่ได้ทำแล้ว อยากให้เร่งทำ 8 เรื่องดังนี้…

1.) การแก้ไขหนี้ ทั้งหนี้ธุรกิจและหนี้ครัวเรือน โดยจัดระบบการพิจารณาลดหนี้ ลดดอกเบี้ย ยืดเงินต้น เพื่อให้ประชาชนทำธุรกิจและประคองชีวิตต่อได้ โดยหนี้ไม่ท่วม และวิธีแก้ที่ดีที่สุดคือการต้องเพิ่มรายได้ เพื่อให้ชำระหนี้ได้ เรื่องนี้ควรเร่งทำก่อนดอกเบี้ยจะขึ้นไปอีกมาก

2.) การปรับโครงสร้างราคาพลังงาน ทั้งราคาน้ำมัน ก๊าซ และ ไฟฟ้า เพื่อแก้ไขให้ยุติธรรม อย่าให้บริษัทพลังงานและนายทุนพลังงานเอาเปรียบประชาชน

3.) การเจรจาพื้นที่ทับซ้อน ไทย-กัมพูชา เพื่อให้ได้พลังงานในราคาถูก อีกทั้งยังจะมีรายได้เข้ารัฐสามารถนำไปทำสวัสดิการได้

4.) เร่งก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ หนองคาย-เวียงจันทน์-จีน เพื่อให้ส่งสินค้าไทยไปจีน และนักท่องเที่ยวจีนมาไทยได้

'บิ๊กป้อม' ผูกเนคไทผ้าไหมลายผ้าขาวม้า ชวนใช้ผลิตภัณฑ์จากคนไทย สนับสนุนเกษตรกร

เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 65 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมผ้าไหมไทย เพื่อสร้างรายได้ให้กับพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม เกิดการหมุนเวียนเศรษฐกิจในชุมชน ต่อยอดสู่การค้าต่างประเทศ จึงร่วมเป็นพรีเซ็นเตอร์แบบไม่คิดค่าใช้จ่ายให้กับกรมหม่อนไหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อสนับสนุนการแปรรูปผ้าไหมไทย 

ซึ่งครั้งนี้ได้นำลายผ้าขาวม้ามาพัฒนาดัดแปลงเป็นลายเนคไท ที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่ม รวมทั้งเป็น 'ซอฟต์พาวเวอร์' ที่มีความงดงามเป็นเอกลักษณ์ จากเดิมที่ผ้าไหมไทยได้รับความนิยมจากทั่วโลกอยู่แล้ว จะยิ่งส่งเสริมให้เป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้น และนำมาใส่ได้ทุกโอกาสมากขึ้น และพล.อ.ประวิตร ยังเชิญชวนให้รัฐมนตรีทุกคนได้ร่วมสนับสนุนด้วย เพื่อเป็นผู้นำในการส่งเสริมผลิตภัณฑ์จากเกษตรกร ช่วยยกระดับความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น และนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิต และสร้างรายได้ให้ชุมชนอย่างยั่งยืน

'ลุงป้อม' ปลื้ม!! นักตบลูกยางสาวไทยชนะต่อเนื่อง ชื่นชมความท็อปฟอร์ม แสดงถึงฝึกซ้อมมาเต็มที่

รองโฆษกรัฐบาล เปิดเผย 'พล.เอกประวิตร' ปลื้มผลงานนักตบลูกยางสาวไทยชนะต่อเนื่อง นัดที่ 2 ชนะรวด 3 เซ็ต ชมท็อปฟอร์มแสดงถึงฝึกซ้อมมาเต็มที่

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการนายกรัฐมนตรี ได้ติดตามชมเพื่อเป็นกำลังใจเชียร์ทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยที่ลงสนามแข่งนัดแรกของการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงอาเซียน กรังด์ปรี 2022 ครั้งที่ 2 มาตลอด และวันนี้ (10 กันยายน 2565) ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติอินโดนีเซีย ทีมชาติสาวไทยก็สามารถเอาชนะไปได้ 3-0 เซ็ต

'บิ๊กป้อม' ขอคนกรุงเชื่อมั่น ทุกฝ่ายต่างเร่งแก้น้ำท่วม ย้ำ!! ไม่ท่วม พร้อมยัน 'ชัชชาติ' แข็งแกร่งต้องชื่นชม

ขอคนกรุงเทพมั่นใจ ทุกฝ่ายต่างเร่งแก้น้ำท่วม ย้ำ!! ไม่ท่วม และ 'ชัชชาติ' แข็งแกร่งต้องชื่นชม 

พล.อ.ประวิตร​ วงษ์สุวรรณ​ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2565

'ชัชชาติ' ขอบคุณ 'บิ๊กป้อม' ทำโครงการบ้านมั่นคง ช่วยคลองลาดพร้าว ระบายน้ำคล่องตัวดีขึ้นมาก

(14 ก.ย. 65) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ออกเดินทางจากมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ตรวจเยี่ยมพื้นที่น้ำท่วมเขตมีนบุรี และเขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร โดยจุดแรกเวลา 15.10 น. ไปที่ประตูระบายน้ำคลองแสนแสบ (ตอนมีนบุรี) มี พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายวิรัตน์ รัตนเศรษฐ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ นายชาญวิทย์ วิภูศิริ ส.ส.มีนบุรี พรรคพลังประชารัฐ ให้การต้อนรับ

พล.อ.ประวิตร รับฟังการบรรยายเรื่องการบริหารจัดการน้ำภายในคันกั้นน้ำพระราชดำริและโครงการก่อสร้างโรงบำบัดน้ำเสียมีนบุรี ระยะ 1 และระยะ 2 จากนายชัชชาติ โดยนายชัชชาติระบุว่า ช่วงที่ผ่านมาฝนตกในพื้นที่กทม.จำนวนมาก ตอนนี้อยู่ระหว่างการเร่งระบายน้ำ โดยหลังจากนี้จะเสนอแผนทำทางด่วนน้ำให้การระบายน้ำไม่ต้องไปผ่านบริเวณพระโขนง โดยจะเร่งเสนอคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ในเดือนต.ค.นี้ 

นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังมีปัญหาน้ำหลายคลองยังอยู่ในสถานการณ์วิกฤต จึงต้องเร่งระดมเครื่องสูบน้ำจากหลายหน่วยงานเข้ามาสนับสนุน โดยภายใน 1-2 วันนี้จะเร่งทยอยปิดล้อมหมู่บ้าน เพื่อสูบน้ำออกจากบริเวณที่ท่วมขังให้เร็วที่สุด

นายชัชชาติ รายงานว่า ปริมาณน้ำที่ประตูระบายน้ำแห่งนี้ยังไม่เท่าในปี 2554 ยังมีความห่างในระดับความสูงของน้ำอีกประมาณ 50 เซนติเมตร พร้อมระบุว่า ปริมาณน้ำในพื้นที่มีนบุรีไม่หนักมาก ที่หนักคือคลองประเวศ ลาดพร้าวและคลองเปรมประชากร ซึ่งต้องขอขอบคุณ พล.อ.ประวิตร ที่ไปทำเรื่อง 'บ้านมั่นคงในคลองลาดพร้าว' ดีขึ้นมาก ทำให้การระบายน้ำคล่องตัว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top