Sunday, 28 April 2024
ประวิตร_วงษ์สุวรรณ

'บิ๊กป้อม' พร้อมคณะ ลงพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ติดตามสถานการณ์น้ำ - แผนรับมือน้ำท่วม

เมื่อเวลา 08.40 น.วันที่ (17 ต.ค. 65) ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง พล.อ.ชัยชาญช้างมงคล รมช.กลาโหม เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.สุราษฎร์ธานี ติดตามสถานการณ์น้ำและแผนงานด้านทรัพยากรน้ำ จากสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และแผนการดำเนินงานโครงการแก้มลิงสระบัว (อ่างเก็บน้ำทุ่งกระจูด) ของกรมชลประทาน รวมถึงกรมโยธาธิการและผังเมือง จะนำเสนอแผนการดำเนินงานโครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนเมืองสุราษฎร์ธานี และเตรียมรับมือสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 

ขณะเดียวกันรับฟังรายงานสถานการณ์ปาล์มน้ำมันในประเทศ โดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร พบปะประชาชน และเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน จากนั้นช่วงบ่าย พล.อ.ประวิตร จะลงพื้นที่ติดตามโครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนเมืองสุราษฎร์ธานี และติดตามโครงการแก้มลิงสระบัว (อ่างเก็บน้ำทุ่งกระจุด) ต.ท่าสะท้อน อ.พุนพิน และพบปะประชาชน ก่อนเดินทางกลับ กทม.

'บิ๊กป้อม' กำชับมาตรการป้องกัน-ลดอุบัติเหตุบนท้องถนน บังคับใช้กฎหมายเข้มข้น เพื่อลดการบาดเจ็บ-เสียชีวิต

พลเอก ประวิตร เน้นมาตรการเชิงรุกในการจัดการแก้ไขปัญหาป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ย้ำบังคับใช้กฎหมายควบคู่กับการสร้างจิตสำนึก และมีความรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมเพิ่มจุดตรวจถนนสายรอง 

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รายงานต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (25 ตุลาคม 2565) ว่าคณะกรรมการนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติเห็นชอบแผนบูรณาการป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาล และช่วงวันหยุด พ.ศ. 2566 โดยให้วิเคราะห์จุดเกิดเหตุซ้ำซาก ทั้งช่วงเทศกาล และไม่ใช่เทศกาล เพื่อนำมาวางแผน ป้องกันความเสี่ยงเชิงรุก และใช้ระบบ War Room ช่วยในการติดตาม ประเมินผล 

รองนายกรัฐมนตรี กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยกวดขันการกระทำที่ผิดวินัยจราจรอย่างสม่ำเสมอ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งอาสาสมัครต่างๆ เตรียมความพร้อมล่วงหน้า และแจ้งให้หน่วยงานในสังกัด ที่เกี่ยวข้องทราบ รวมถึงให้ส่งเสริมการสร้าง 'วัฒนธรรมความปลอดภัย' ตลอดจนให้ความสำคัญกับการบังคับใช้กฎหมาย ควบคู่กับการสร้างความตระหนักให้มีจิตสำนึก และมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยเฉพาะการขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด การดื่มแล้วขับและการไม่สวมหมวกนิรภัย โดยเพิ่มจุดตรวจในถนนสายรอง เน้น ในช่วงเวลา 16.00 -  20.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด และให้ทุกหน่วยงานดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดการบาดเจ็บ และเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนอย่างต่อเนื่อง ให้เป็นไปตามแผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน พ.ศ. 2565 - 2570 เน้นมาตรการเชิงรุกในการจัดการและแก้ไขปัจจัยเสี่ยง ด้านคน ถนน และยานพาหนะ พร้อมทั้งเร่งรัดมาตรการสวมหมวกนิรภัย 100% โดยให้ความสำคัญกับพื้นที่อำเภอที่มีจำนวน ผู้เสียชีวิตจากการไม่สวมหมวกนิรภัยสูง ตลอดจนมุ่งเน้นมาตรการสร้างการรับรู้การบังคับใช้กฎหมาย อย่างเข้มงวด

‘สมศักดิ์-สุริยะ’ เข้ากราบลา ‘บิ๊กป้อม’ แล้ว หลังตัดสินใจย้ายพรรค ยันไม่มีความขัดแย้ง

ลาแล้ว! ‘สมศักดิ์-สุริยะ’ เข้ากราบลา ‘บิ๊กป้อม-อ.วิษณุ’ หลังตัดสินใจการเมือง ก่อนแถลงใหญ่ 17 มี.ค.นี้ เผยยังเคารพทั้ง 2 ท่าน แต่แนวทางทำการเมืองมีเหตุผลหลายประการ ยันไม่มีความขัดแย้ง ด้าน ‘สันติ-วิรัช-ธรรมนัส’ ร่วมวงอาหารเที่ยงชื่นมื่น

เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เดินทางเข้ามูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ เพื่อกราบลา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.หลังจากตัดสินใจย้ายไปทำงานร่วมสังกัดพรรคเพื่อไทย (พท.) และเตรียมจะยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค และรัฐมนตรีแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศพูดคุยเป็นไปด้วยดี พูดคุยด้วยความเข้าใจ ไม่มีปัญหาติดใจ โดยในวงสนทนาที่ร่วมรับประทานอาหารนี้ มี นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค , นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ร่วมวงพูดคุยและร่วมรับประทานอาหารกลางวันร่วมกันด้วย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความชื่นมื่น

‘บิ๊กป้อม’ นำคณะลงพื้นที่ตลาดมูโนะ พร้อมสั่งถอดบทเรียน - เยียวยาเต็มที่

‘พล.อ.ประวิตร’ ลงใต้ ขอบคุณน้ำใจคนไทยทั่วประเทศหลั่งไหลบริจาคช่วยพี่น้องชาวมูโนะ สั่งระดมเร่งด่วนฟื้นฟูพื้นที่และช่วยเหลือด้านจิตใจ การเงิน อาชีพและการศึกษา

(7 ส.ค. 66) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง, รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะ เดินทางลงภาคใต้ พื้นที่ ต.มูโนะ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ตรวจดูพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งเยี่ยมให้กำลังใจพี่น้องชาวมูโนะและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือประชาชน จากเหตุโกดังพลุดอกไม้ไฟระเบิดที่ผ่านมา

โดย พล.อ.ประวิตร และคณะ เดินทางไปสนามกีฬามหาราช รับทราบรายงานสถานการณ์ความเสียหายและการช่วยเหลือ จาก ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส, อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ รวมทั้งผู้แทน สธ. และศธ. มีผู้ได้รับผลกระทบ 682 ครัวเรือน เสียชีวิต 11 ราย บาดเจ็บ 389 ราย บ้านเรือนเสียหาย 682 หลัง รร.เสียหาย 3 แห่ง โดยมีการพระราชทานความช่วยเหลือทั้งสิ่งของพระราชทานและโรงครัวพระราชทานต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน ต่อจากนั้นได้เดินทางไปยังพื้นที่เกิดเหตุตรวจเยี่ยมความคืบหน้าในการซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนและโรงเรียนบ้าน มูโนะ พร้อมทั้งเดินทางไป รพ.สุไหงโก-ลก เยี่ยมและให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งทีมแพทย์และสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในพื้นที่

พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อพี่น้องชาวมูโนะ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้น ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย บ้านเรือนและอาคารสถานที่ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง และที่สำคัญมีผลกระทบต่อจิตใจและขวัญของพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างมาก ขอเป็นเป็นกำลังใจให้กับทุกคน เพื่อการก้าวผ่านความยากลำบากครั้งสำคัญนี้ไปด้วยกัน โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะช่วยเหลือดูแลและไม่ทอดทิ้งกัน 

พล.อ.ประวิตร ยังได้กำชับ ขอให้ทุกส่วนราชการในพื้นที่ทั้งภาครัฐ เอกชนและทหารร่วมระดมความช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ โดยเฉพาะการก่อสร้างและปรับปรุงบ้านพักอาศัยที่เสียหาย รวมทั้งระบบสาธารณูปโภคในพื้นที่ให้สามารถใช้การได้เร็วที่สุด ทั้งนี้การก่อสร้างปรับปรุง รร.มูโนะ ได้สั่งการมอบหมายให้ รมว.ศธ.ลงพื้นที่รับทราบปัญหาตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อปรับปรุงและก่อสร้างอาคารใหม่ทดแทนอาคารเดิมที่เสียหาย ซึ่งทราบว่ามีภาคเอกชนร่วมสนับสนุนสร้างอาคารใหม่ให้กับเด็กเล็ก ที่กำลังจะเปิดเทอมในเร็ววันนี้ และให้ติดตามเยียวยาครูและนักเรียนที่ได้รับผลกระทบโดยให้เร่งซ่อมแซมบ้านครูและนักเรียนที่เสียหาย จำนวน 120 หลัง และบาลัยจำนวน 2 หลัง รวมถึงจัดหาอุปกรณ์การเรียนการสอนที่เสียหาย เพื่อให้สถานศึกษาสามารถกลับมาเปิดได้โดยเร็ว ทั้งนี้ ขอให้ สธ.ให้ความสำคัญในการเข้าไปเยียวยาผลกระทบด้านจิตใจกับผู้ได้รับผลกระทบอย่างทั่วถึงและต่อเนื่อง

สำหรับการฟื้นฟูที่พักอาศัยและพัฒนาอาชีพ ได้กำชับ รมว.ที่เกี่ยวข้อง ร่วมระดมธนาคาร สถาบันการเงินของรัฐ และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เข้ามาให้การช่วยเหลือด้านเงินทุนโดยปราศจากดอกเบี้ย โดยให้ ศอ.บต.ประสาน กระทรวงการคลัง จัดหามาตรการด้านการเงินและการคลัง เป็นกรณีพิเศษ เพื่อช่วยเหลือประชาชน เช่น การพักชำระหนี้จากความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น โดยเตรียมเสนอ ครม.ต่อไป

พล.อ.ประวิตร ยังได้กล่าวขอบคุณน้ำใจคนไทยทั่วประเทศ ที่ร่วมหลั่งไหลบริจาคเงินกว่า 23.24 ล้านบาทและความช่วยเหลืออื่น ๆ มาอย่างไม่ขาดสายผ่านจังหวัด โดยย้ำขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งนำเงินดังกล่าวใช้ให้ตรงกับวัตถุประสงค์ของผู้บริจาคด้วยความรวดเร็ว ทั่วถึงเป็นธรรมและโปร่งใส พร้อมทั้งขอขอบคุณและเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่รัฐจากทุกหน่วยงาน รวมทั้งอาสาสมัครและภาคเอกชน ที่ร่วมกันเร่งให้ความช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องชาวมูโนะ ที่ได้รับผลกระทบหลังจากเกิดเหตุการณ์ต่อเนื่องมา โดยขอให้กรมประชาสัมพันธ์ ให้ความสำคัญและคงความต่อเนื่องในการสร้างความเข้าใจในภาวะวิกฤตกับประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำกับกระทรวงมหาดไทย, ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอให้ถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้น โดยจะต้องไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีกในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นความเสียหายที่ไม่อาจยอมรับได้และจะต้องมีผู้รับผิดชอบ โดยขอให้สอบลึกเชื่อมโยงกับทุกหน่วยงานและเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ละเลยหน้าที่หรือแสวงประโยชน์อันมิชอบอย่างจริงจัง เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างและสร้างความสูญเสียเช่นที่เกิดขึ้น

‘บิ๊กป้อม’ อารมณ์แจ่มใส เข้าครัวโชว์ฝีมือทำ ‘ผัดซีอิ๊ว’ บอก!! หากทีมวอลเลย์บอลสาวไทยกลับมา จะทำเลี้ยงทั้งทีม

(22 ก.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานโอลิมปิกแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่เก็บตัวเงียบนับตั้งแต่การแถลงนโยบายรัฐบาล โดยเข้าทำงานที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ และในช่วงเที่ยงวันเดียวกันนี้ พล.อ.ประวิตร ได้เข้าครัวทำผัดซีอิ๊ว ซึ่งเป็นเมนูโปรด เลี้ยงบุคคลคนใกล้ชิดยามว่างจากภารกิจ และรอติดตามการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง รอบคัดเลือกโอลิมปิก 2023 ที่ประเทศโปแลนด์ เวลา 19.30 นี้ ที่ทีมชาติไทย จะพบกับ ทีมชาติสโลวิเนีย 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประวิตร ปรุงอาหารอย่างอารมณ์ดี พร้อมกับกล่าวกับบุคคลใกล้ชิดว่า “วันนี้จะติดตามเชียร์ทีมวอลเลย์บอลหญิงไทย หลังจากเอาชนะทีมเจ้าภาพโปแลนด์ 3-2 เซต และในการแข่งขันวันนี้ ขอให้ได้รับชัยชนะ หากทีมวอลเลย์บอลเดินทางกลับมาถึงประเทศไทย จะทำผัดซีอิ๊ว เลี้ยงทั้งทีม”

‘บิ๊กป้อม’ อวยพรชาวไทยมุสลิม เนื่องในวันอีฎิ้ลฟิตริ  ขอทุกท่านสุขภาพแข็งแรง มีแต่ความสันติสุขตลอดไป

(10 เม.ย. 67) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวเนื่องในโอกาสวันอีฎิ้ลฟิตริ ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1445 ว่า 

“เนื่องในโอกาสวันสำคัญทางศาสนาอิสลาม วันอีฎิ้ลฟิตริ ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1445 ขอร่วมอำนวยพรแก่พี่น้องชาวไทยมุสลิมทุกท่าน และเชื่อมั่นว่าผลบุญที่ได้จากการบำเพ็ญศาสนกิจตามบทบัญญัติของศาสนาอิสลาม ด้วยความศรัทธาอันแรงกล้า มั่นคงและอดทน เพื่อน้อมถวายจิตใจอันบริสุทธิ์แด่องค์พระผู้อภิบาลจะบำรุงให้ท่านทั้งหลายมีความอิ่มเอมใจ และมีความสันติสุขตลอดไป ในวาระนี้ขอพระผู้เป็นเจ้าได้โปรดประทานความเมตตา ความสุขสวัสดี ความเจริญรุ่งเรือง และกำลังใจ กำลังกายที่สมบูรณ์แข็งแรงแก่พี่น้องชาวไทยมุสลิมทุกท่านโดยทั่วกัน”

‘บิ๊กป้อม’ ประกาศ ‘พลังประชารัฐ’ เป็นพรรคอนุรักษ์นิยมทันสมัย อุดมการณ์แน่วแน่ ‘ปกป้องสถาบัน ทันสมัยเศรษฐกิจ มีชีวิตที่สดใส’

(26 เม.ย. 67) พรรคพลังประชารัฐ ได้จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 1/2567 โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย คณะกรรมการบริหารพรรค สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ตัวแทนภาค และตัวแทนสาขา และสมาชิกพรรค เข้าร่วมกันอย่างพร้อมเพรียง อาทิ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ประธานที่ปรึกษาพปชร., ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค, นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรค, พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ นายทะเบียนพรรค, นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค, นางสาวตรีนุช เทียนทอง รองหัวหน้าพรรค, นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา, นายสกลธี ภัททิยกุล, นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์, นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร

โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวเปิดการประชุมว่า สวัสดี สมาชิกพรรคพลังประชารัฐทุกท่าน วันนี้เป็นการประชุมใหญ่สามัญของพรรคพลังประชารัฐ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 43 กำหนดให้พรรคการเมืองต้องจัดทำรายงานการดำเนินกิจการของพรรคการเมืองในรอบปีปฏิทินที่ผ่านมา เพื่อเสนอต่อที่ประชุมใหญ่ของพรรคการเมืองเพื่ออนุมัติภายในเดือนเมษายนของทุกปี ขณะนี้มีผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วยคณะกรรมการบริหารพรรค ผู้แทนสาขา พรรคการเมือง ตัวแทนพรรคการเมือง ประจำจังหวัด สมาชิกพรรค จำนวนทั้งหมด เกินกว่า 250 คนครบองค์ประชุม ตามที่กฎหมายกำหนด

พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า ช่วงเวลา 1 ปี ที่ผ่านมาคณะกรรมการบริหารพรรคร่วมกับ คณะกรรมการยุทธศาสตร์และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้ขับเคลื่อนการทำงานให้เป็นไปตามอุดมการณ์และเจตจำนงของพรรคทุกประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน ให้มีสวัสดิการที่ดี มีรายได้ มีความสุข ทุกครอบครัว และเพื่อเร่ง พัฒนาประเทศ ให้เจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น 

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้พรรคฯ เป็นที่ศรัทธาของพี่น้องประชาชนเพิ่มมากขึ้น พรรคจึงได้เตรียมปรับตัวเองให้สอดรับกับสถานการณ์ และเตรียมพร้อมสำหรับการเป็นพรรคการเมืองที่เข้มแข็งและเป็นที่ยอมรับ ของพี่น้องประชาชน ทุกเพศ ทุกวัย ทุกกลุ่มอาชีพ ให้มากยิ่งขึ้น

”วันนี้พรรคพลังประชารัฐจึงขอประกาศตัวเองว่า เราขอเป็นพรรค ‘อนุรักษ์นิยมทันสมัย’ ที่มีอุดมการณ์แน่วแน่ ในการปกป้องสถาบันและบริหารเศรษฐกิจ ที่ทันสมัยเพื่อสร้างชีวิตที่สดใส ให้กับคนไทย ทั้งประเทศ 66 ล้านคน ด้วยสโลแกนใหม่ ที่เห็นอยู่บนเวทีนี้ คือ ‘ปกป้องสถาบัน ทันสมัยเศรษฐกิจ มีชีวิตที่สดใส’ โดยเมื่อถึงเวลา ที่เหมาะสมซึ่งอีกไม่นานนัก พรรคจะได้ประกาศรายละเอียดทั้งหมดอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง”

สำหรับการประชุมดังกล่าวเป็นไปตามข้อกำหนดให้พรรคการเมืองมีการจัดประชุมเพื่อรายงานการดำเนินกิจการของพรรคการเมืองในรอบปีและงบการเงินของพรรคการเมือง ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยมีวาระสำคัญในการพิจารณาในหลายประเด็น โดยเฉพาะการแก้ไขข้อบังคับเรื่องระเบียบการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการขับเคลื่อนพรรคให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบันตามแนวทาง ‘อนุรักษ์นิยมทันสมัย’

จากนั้น นายไพบูลย์ ได้แถลงผลการประชุม ซึ่งในการประชุมวันนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยมีวาระการพิจารณาที่สำคัญ เรื่องการแก้ไขข้อบังคับพรรคให้เป็นไปตามกรอบกฎหมาย แก้ไขข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ พ.ศ. 2566 มีการแก้ไข 9 ข้อ และจากการพิจารณาตรวจสอบงบการเงินประจำปี 2566  ผลการดำเนินงานได้ดำเนินงานเป็นไปตามมาตรฐานการดำเนินงานทางการเงินสำหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ ซึ่งพรรคพปชร. มีรายได้ทั้งสิ้น 321.875 ล้านบาท มีค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้น 328 ล้านบาท ปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมด 60,970 ราย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top