Thursday, 9 May 2024
นายก

‘เศรษฐา’ ฟิตจัด!! เรียกรัฐมนตรี-หน่วยงาน ถกสางงาน พร้อมเข้ากระทรวงการคลังติดตามงาน บ่ายนี้

(20 พ.ย. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางมาปฎิบัติหน้าที่ โดยตั้งแต่ช่วงเช้าได้เชิญสภาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) มาหารือที่ตึกไทยคู่ฟ้า จากนั้น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ขึ้นหารือต่อ

นายกฯ มอบให้นายภูมิธรรม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ (ก.น.บ) แทน ซึ่งจะมีการประชุม เวลา 11.00 น. เนื่องจากนายกฯ ได้หารือกับสภาพัฒน์ฯ จนได้ข้อสรุปบางเรื่องแล้ว จึงได้มอบหมายให้นายภูมิธรรมประชุมแทน

จากนั้นเวลา 10.30 น. นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.ต่างประเทศ เข้าพบ คาดว่า จะมารายงานความคืบหน้าการช่วยเหลือ 266 คนไทย กลับจากเมืองเล่าก์ก่าย ประเทศเมียนมา รวมถึงการเตรียมความพร้อม มอบนโยบายให้กับ3 หน่วยงานหลักได้แก่ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) หลังไปโรดโชว์ระหว่างการประชุมเอเปค สหรัฐอเมริกา

ขณะเดียวกัน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ได้ขึ้นไปพบนายกฯ ที่บนตึกไทยคู่ฟ้าด้วย ซึ่งคาดว่าน่าจะรายความพร้อม งานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จ.สุโขทัย ตามโครงการ ‘Thailand Winter Festivals’ ที่นายกฯ มีกำหนดการจะเดินทางไปร่วมงานในวันที่ 27 พ.ย.นี้

มีรายงานว่า ในช่วงบ่าย นายกฯจะเดินทางไปกระทรวงการคลัง คาดว่าจะไปติดตามงานในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ร้อยเอ็ด…ชาวร้อยเอ็ดปลื้ม นายกฯ เศรษฐา Kick off นโยบาย 30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว

วันนี้( 7 มกราคม 2567 ) เวลา 18.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน Kick off นโยบาย 30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รองประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ, นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยมี นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวต้อนรับ ตลอดจนผู้บริหาร บุคลากรสาธารณสุข รองผุ้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำชุมชน อสม. และประชาชน เข้าร่วม  จำนวน 10,101 คน ที่ ลานหน้าหอโหวด101 บึงพลาญชัย อำเภอเมืองร้อยเอ็ด

โดยนโยบาย 30 บาท รักษาทุกที่ เป็นการพัฒนาระบบสาธารณสุขของประเทศ ให้เจริญก้าวหน้า ตลอดจนอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงาน ลดภาระงานของบุคลากร จึงกำหนดให้เรื่องดิจิทัลสุขภาพเป็นหนึ่งในนโยบายการดำเนินงาน โดยมีเป้าหมายหลักในการยกระดับนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ซึ่งมีการ Kick off  ใน 4 จังหวัดนำร่อง เพื่อนำไปขยายผลอีก 8 จังหวัดในระยะที่ 2 และขยายครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศต่อไป

ทั้งนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขที่ให้ความสำคัญกับการเพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกคน ทุกกลุ่ม ทุกพื้นที่ ผลักดันให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพจากหน่วยบริการทุกระดับ ทุกสังกัด และยกระดับหน่วยบริการให้เป็นโรงพยาบาลอัจฉริยะ (Smart Hospital) นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้จัดบริการสุขภาพ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยทางไซเบอร์และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทำให้ช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาล ลดระยะเวลารอคอย และลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของประชาช

โกสิทธิ์/ร้อยเอ็ด (ห)
087-864-4400  081-377-2689

'นายกฯ' มอบคำขวัญวันครู ปี 2567 "ครูวางฐานคิด ส่งเสริมศิษย์สร้างสรรค์"

(9 ม.ค. 67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความผ่าน X มอบคำขวัญวันครู ประจำปี 2567 ว่า...

'ครู' คือผู้นำความรู้ทั้งจากทั้งในตำรา และจากประสบการณ์ที่สั่งสมมาถ่ายทอดให้กับศิษย์ งานของครูในโลกยุคใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้ จึงไม่ใช่แค่การสอนหนังสือให้ความรู้ตามตำรา แต่ครูยังต้องใส่ใจสอนวิธีคิด และวิธีจัดการกับข้อมูลที่มีอยู่อย่างหลากหลาย เพื่อให้ศิษย์สามารถจัดระเบียบความคิดได้ รวมถึงเติบโตขึ้นเป็นคนที่มีความสามารถในการแสวงหาความรู้ได้ด้วยตัวเองอย่างมีคุณภาพ

คำว่าครูสำหรับผม คือ ผู้สร้าง และ ผู้ให้ ครับ 'สร้าง' คือ สร้างบุคลากรที่มีคุณภาพให้กับสังคม 'ให้' คือ ให้หลักคิดแก่ผู้คนเพื่อนำไปต่อยอดได้ 

ดังคำขวัญวันครูแด่ครูทุกท่านที่เสียสละดังนี้ครับ... “ครูวางฐานคิด ส่งเสริมศิษย์สร้างสรรค์”

‘เอกชน’ หนุน 8 วิสัยทัศน์ ‘นายกฯ’ จุดพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย แนะรัฐทำวันสต๊อปเซอร์วิสภาคธุรกิจ ชูฮับท่องเที่ยว-การบิน-อาหาร

(26 ก.พ.67) นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการอาหารแปรรูปและอาหารแห่งอนาคต กล่าวถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลง 8 วิสัยทัศน์ จุดพลังศักยภาพประเทศไทยเป็นที่ 1 ในภูมิภาค ว่า ถือเป็นการแสดงวิสัยทัศน์อนาคตของประเทศไทยครั้งแรก ที่ประกาศชัดเจนมีทั้งหมด 8 วิสัยทัศน์ การประกาศลักษณะนี้เป็นเรื่องที่ดีเพราะหลายฝ่ายไม่เพียงเฉพาะภาครัฐบาล แต่มีภาคเอกชน รวมถึงภาคประชาชน จะได้เห็นมุมมองและทิศทางที่เป็นแนวนโยบายสำหรับเศรษฐกิจที่จะเดินไปข้างหน้าในทิศทางเดียวกัน เพื่อทำให้สิ่งเหล่านี้เดินหน้าได้ไม่สะดุด หรือติดอุปสรรคสามารถแก้ปัญหาร่วมกันได้

นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า จาก 8 วิสัยทัศน์ โดยเฉพาะเรื่องฮับการท่องเที่ยวสามารถทำได้แน่นอน แต่รายละเอียดต่างๆ ที่หลายฝ่ายจะเติมเข้าไปนั้น ถือเป็นเรื่องสำคัญ เดิมทีอาจจะเน้นปริมาณนักท่องเที่ยว แต่ขณะนี้ต้องเสริมนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ เพื่อเพิ่มรายได้ให้มากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในประเทศรอบด้าน เพราะการท่องเที่ยวเป็นกลไกลที่เกี่ยวข้องกับประชากรมากกว่า 1 ใน 3 ของประเทศ

ขณะเดียวกัน ด้านอื่นๆ ก็น่าสนใจ เช่น ศูนย์กลางด้านอาหาร ประเทศไทยมีความพร้อมในด้านนี้มากพอสมควร ซึ่งสิ่งที่ท่านนายกฯ ได้พูดว่าในน้ำมีปลา ในนามีข้าว และในกระเป๋ามีเงิน ซึ่งเป็นเรื่องถูกต้อง เพราะเดิมทีในน้ำมีปลา ในนามีข้าว นี่คือความเพียงพอที่จะบริโภคในประเทศ และทำให้คนในประเทศพึ่งพาอาศัยกัน แต่ปัจจุบันไทยจำเป็นต้องมีเม็ดเงินจากต่างประเทศเข้ามาหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจด้วย

ดังนั้น การที่จะทำให้กระเป๋ามีเงินต้องมีหลายเรื่องที่ทำร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นรัฐ เอกชน ประชาชน รวมไปถึงเกษตรกร ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องทำต่อ โดยเฉพาะเรื่องอาหารที่ท่านนายกฯ เคยพูดถึงไว้ในหลายเรื่อง เช่น เรื่องอาหารแห่งอนาคต จะเป็นการต่อยอดการผลิตอาหารดั้งเดิมของไทยที่ทำตลาดได้ดีอยู่แล้ว แต่การที่จะไปถึงอนาคตเรื่องนี้จะเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเกี่ยวข้องกับเกษตรกรให้ปรับเปลี่ยนการปลูกพืชใหม่ๆ มากกว่าการปลูกพืชชนิดเดียว เพื่อให้พึ่งพาตัวเองได้

“อีกทั้งเรื่องอาหารฮาลาล ไทยต้องมีใบรับรองที่เข้มแข็ง เพื่อการส่งออกไปประเทศอื่นๆ ได้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ เช่น กลุ่มตะวันออกกลาง และแอฟริกา จะผลักดันให้ประเทศไทยสามารถส่งอาหารได้เอง แทนที่จะต้องให้ประเทศที่เป็นชาวมุสลิมออกใบรับรองให้ เพื่อส่งสินค้าออกไปประเทศต่างๆ ได้เอง”นายวิศิษฐ์ กล่าว

>> ปั้นฮับการบินโอกาสเมืองรอง
นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ฮับการบิน ก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวโดยตรงไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับเรื่องของคมนาคมในประเทศเท่านั้น เช่น คนไทยเดินทางในประเทศมีทั้งรถยนต์ และเครื่องบิน ขณะนี้จะเห็นว่าสนามบินมีการใช้งานเต็มที่และสถานการณ์ราคาตั๋วเครื่องบินมีราคาสูง สาเหตุจากสายการบินให้บริการไม่เพียงพอ รวมถึงมีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ถ้าไปดูสนามบินอินเตอร์ในต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น จะมีหลายเมืองที่เป็นศูนย์การบินระดับอินเตอร์รองรับการท่องเที่ยว โดยไม่จำเป็นต้องไปสนามบินในเมืองหลัก

ดังนั้น ถ้านักท่องเที่ยวมีมากและไม่สามารถไปลงในสนามบินพื้นฐาน หรือที่เป็นเมืองหลวงแล้ว ทำให้เมืองรองเริ่มมีโอกาส เพราะการมีชื่อเสียงในด้านการท่องเที่ยวของไทย หากสามารถทำให้นักท่องเที่ยวลงที่เมืองรอง และจากนั้นเชื่อมต่อโลจิสติกส์ในประเทศได้ เช่น รถยนต์เช่า รถไฟเชื่อมระหว่างเมืองจะเปิดโอกาสให้เมืองรองได้ดี โดยสามารถขายการท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรมผ่านซอฟต์พาวเวอร์ได้เช่นกัน ซึ่งรัฐบาลต้องใช้โซเชียลมิเดียต่างๆ ในการโฆษณาให้เกิดการรับรู้เป็นวงกว้าง

>> ขอวันสต๊อปเซอร์วิสภาคธุรกิจ
นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า มุมมองนักลงทุนต่างชาติต่อเศรษฐกิจไทย ซึ่งจังหวะ 3-4 ปีที่ผ่านมา สถานการณ์มีความขัดแย้งต่างๆ เกิดขึ้นทั่วโลก แม้จะเกิดขึ้นในบางภูมิภาค แต่ส่งผลทำให้การค้าขายระหว่างประเทศมีปัญหาค้าขายยากขึ้น มีปัญหาทั้งอาจจะส่งสินค้าไปในทางตรงไม่ได้ รวมถึงการย้ายฐานการผลิตมาผลิตในประเทศที่มีความเป็นกลาง และสามารถส่งของไปในประเทศใดก็ได้ หรือเป็นประเทศที่มีการผลิตและมีต้นทุนไม่สูง หรือเป็นประเทศผู้ผลิตและสามารถกระจายสินค้าไปประเทศอื่นได้ เพราะมีสัญญาการค้าเสรี (เอฟทีเอ) หรือโลจิสติกส์ที่ดี

สำหรับประเทศไทยภาพที่ชัดเจน เมื่อนักลงทุนมาลงทุนแล้ว ไม่เพียงแต่ขายสินค้าให้กับคนในประเทศ แต่มีการเชื่อมต่อไปยังประเทศอาเซียน ระยะสั้นขายผ่านทางรถยนต์ หรือประเทศที่อยู่ไกลจะส่งสินค้าไปทางเรือได้ เรื่องทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกันหมดทั้งโลจิสติกส์ การดึงคนมาลงทุน และที่สำคัญในภาวะที่หลายประเทศกำลังหาแหล่งลงทุนใหม่ หรือย้ายฐานการผลิตก็ต้องหาประเทศอื่นเพื่อการทำธุรกิจ

“ประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกนั้น ดังนั้น จะต้องทำอย่างไรให้ประเทศเรามีเสน่ห์และมีเสน่ห์มากขึ้น“นายวิศิษฐ์ กล่าว

ทั้งนี้ มีเรื่องที่นายกฯ เคยพูดไว้ และเป็นเรื่องที่เอกชนเคยร้องขอมานานแล้ว คือ วันสต๊อปเซอร์วิสต่างๆ การเชื่อมโยงเอกสาร ข้อมูลเพื่อการทำธุรกิจต่างๆ หรือการจัดตั้งธุรกิจใหม่ และต้องทำอย่างไรให้สามารถจัดการได้ในที่เดียวแทนที่จะต้องวิ่งไปใน 10-20 หน่วยงานเพื่อยื่นเอกสาร หากสามารถทำจบได้บนสมาร์ทโฟนและสามารถทำได้ในที่เดียวทุกเอกสารวิ่งไปได้ในหลายหน่วยงาน และมีการตอบรับผ่านอิเล็กทรอนิกส์สามารถลดต้นทุน ลดความยุ่งยาก และสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนได้มากขึ้น

นราธิวาส-นายกฯ ประทับใจการต้อนรับอย่างอบอุ่นของชาวนราธิวาส ย้ำรัฐบาลเดินหน้าแก้ไขปัญหา หวังให้เกิดสันติภาพและความสงบสุขโดยเร็ว

วันนี้ (29 กุมภาพันธ์ 2567) เวลา 11.30 น. ณ ห้องประชุมพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลาม และศูนย์การเรียนรู้คัมภีร์อัล-กุรอาน ตำบลละหาร อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะ เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลาม และศูนย์การเรียนรู้คัมภีร์อัล-กุรอาน
 
โดยนายกฯ ได้แวะทักทายชาวบ้าน ที่สวมใส่ชุดไทยชุดพื้นบ้านรำให้การต้อนรับ และเยี่ยมชมกิจกรรม “นวัต .. วัฒนธรรม” ภายในแนวคิด Culture, Creative and Innovation โดยอำเภอสุไหงปาดี นำการแสดงพื้นบ้าน กลองบานอ กรือโต๊ะ ซึ่งจะเป็นการละเล่นตีกลองเพื่อต้อนรับบุคคลในโอกาสสำคัญ การรำซิละ ศิลปะการแสดงพื้นบ้านรวมถึงชมผลิตภัณฑ์ของชุมชน อาทิ กระเป๋ากระฉูด กาแฟ ริต้ายี่งอ โดยใช้น้ำผึ้งชาญณรงค์
 
จากนั้น นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมหารือยกระดับการท่องเที่ยวและพัฒนาการท่องเที่ยว ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
 
นายกฯ กล่าวมอบนโยบายด้านการท่องเที่ยวและพัฒนาการท่องเที่ยวในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตอนหนึ่งว่า ขอบคุณสำหรับการต้อนรับที่ประทับใจ ซึ่งดูได้จากแววตาของประชาชนทุกคนที่มาให้การต้อนรับ มองเห็นโอกาสที่รัฐบาลนำมาสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเข้าใจถึงแนวทางการดำเนินงานที่รัฐบาลจะพยายามทำ ไม่ว่าเรื่องการส่งเสริมวัฒนธรรม รวมถึงของดี ๆ และอาหารภาคใต้ ที่ยังไม่ได้การมีการเผยแพร่และนำเสนอให้คนจังหวัดอื่นรู้ รวมถึงต่างประเทศยังรับรู้ไม่ทั่วถึง
 
นายกฯ กล่าวว่าพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้มีปัญหาเรื่องความไม่สงบที่เกิดขึ้นตั้งแต่อดีตมาอย่างยาวนาน รัฐบาลชุดนี้จะแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ส่วนเรื่องของด่านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด่านศุลกากร ด่านตรวจคนเข้าเมือง ที่มีปัญหาอยู่ตอนนี้ ได้มีการสั่งการให้เร่งบูรณาการแก้ไขปัญหาอย่างทันที รวมถึงเรื่องของถนนทางหลวง ไม่ว่าจะเป็นระยะสั้นหรือระยะยาว ได้มีการหารือกันตลอด โดยจะเริ่มทำภายในสิ้นปีนี้ ในส่วนเรื่องของสนามบินขึ้นอยู่กับดีมานด์และซัพพลาย  ถ้าเกิดสามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีของดี ๆ มีสิ่งดี ๆ ตนเองเชื่อว่าจะเกิดดีมานด์ มีความต้องการที่จะมาลงทุนสนามบินเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ได้มีการพูดคุยกับฝ่ายความมั่นคงถึงการใช้สนามบินร่วมกันแล้ว
 
นายกฯ กล่าวต่อไปว่า  หลาย ๆ เรื่องตนเองเชื่อว่ารัฐบาลเข้าใจถึงปัญหาการเดินทางลงพื้นที่ครั้งนี้ รัฐบาลนำคณะมาครบทุกกระทรวง รวมถึงฝ่ายความมั่นคง และ สส.ในพื้นที่ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และได้พูดคุยถึงปัญหาต่าง ๆ ด้วยแล้ว ถือว่าการลงพื้นที่สามวันนี้ เป็นสามวันที่มีคุณค่า ซึ่งรัฐบาลจะมามาเยี่ยมเยียนอีกในปีหน้า เพื่อมาติดตามความคืบหน้าของโครงการต่าง ๆ ที่รัฐบาลได้มีการจัดสรรงบประมาณลงมาในพื้นที่ พร้อมกล่าวย้ำว่า หน้าที่ของรัฐบาลจะพยายามทำและแก้ไขปัญหาต่อไป เพื่อให้เกิดสันติภาพและความสงบสุขในระยะเวลาใกล้นี้

ข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร / อัสมา บินมานุ จ.นราธิวาส


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top