Friday, 10 May 2024
นราธิวาส

นราธิวาส - ผบ.ฉก.นราธิวาส ลาดตระเวนทางน้ำ ติดตามความคืบหน้าโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมพื้นที่ชายแดน ตามแผนงานโครงการก่อสร้างรั้วชายแดนไทย - มาเลเซีย

ที่ห้องประชุมหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ค่ายกัลยาณิวัฒนา ตำบลกะลุวอเหนือ อำเมือง จังหวัดนราธิวาส พลตรีเฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส พร้อมด้วย พันเอก ก่อเกียรติ เข็มแดง รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ให้การต้อนรับ พลโท สิทธิพงษ์ จันทรัตน์  ผู้อำนวยการศูนย์บูรณาการระบบ กล้องโทรทัศน์วงจรปิด CCTV ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ สำนักอำนวยการข่าวกรอง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เดินทางมาตรวจเยี่ยมติดตาม การดำเนินตามโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมพื้นที่ชายแดน พร้อมทั้งประสานการปฏิบัติกับหน่วยโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมพื้นที่ชายแดน ตามแผนงานโครงการก่อสร้างรั้วชายแดนไทย-มาเลเซีย ในรายการจัดหาวัสดุสำหรับก่อสร้างรั้วความมั่นคงอิเล็กทรอนิกส์ตามแนวชายแดน ระยะทาง 6 กิโลเมตร โดยได้รับฟัง การชี้แจงบรรยายสรุปของหน่วยตามแผนงานโครงการก่อสร้างรั้วชายแดนไทย - มาเลเซีย สอบถามปัญกาข้อขัดข้องในการดำเนินงาน

จากนั้น ได้เดินทางต่อไปยัง ด่านศุลกากรตากใบ อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส เพื่อลงเรือลาดตระเวน ตรวจพื้นที่ในการดำเนินการก่อสร้างรั้วอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 4 ท่าข้าม ได้แก่ 1. ท่าข้ามบันได 2. ท่าข้ามศรีพงัน 3. ท่าข้ามปะลุกา และ 4.ท่าข้ามกัวลอต๊ะ  โดยโครงการก่อสร้างรั้วชายแดน ไทย-มาเลเชีย เริ่มต้นเมื่อปี 2560โดย พลตรี ไพศาล หนูสังข์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 ซึ่งในขณะนั้น ดำรงตำแหน่ง รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส มีเจตนารมณ์ ต้องการให้ สร้างรั้วป้องกันชายแดนขึ้น จึงให้ชุดควบคุม ป้องกันชายแดน เสนอโครงการขึ้นมา เพื่อป้องกันสกัดกั้นยับยั้ง การลักลอบขนย้าย อาวุธ ยาเสพติด แรงงานต่างด้าว สิ่งผิดกฎหมายต่าง ๆ และการคัดกรองบุคคล ตลอดจนการป้องกัน การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด -19 หรือ โรคติดต่อ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

เพื่อให้พื้นที่ชายแดน มีความมั่นคงปลอดภัยความต้องการงบประมาณที่เสนอขอ ประกอบด้วย 4 รายการ ได้แก่ 1.การก่อสร้างผนังเขื่อนป้องกันตลิ่ง ระยะทาง 7.528 กิโลเมตร 2. การสร้างรั้วตาข่าย ระยะทาง 15 กิโลเมตร  3. การสร้างฐานปฏิบัติการย่อย จำนวน 3 ฐาน และ 4 รั้วความมั่นคงอิเล็กทรอนิกส์ ระยะทาง 6 กิโลเมตร

โดยเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2564 คณะอนุกรรมาธิการแผนงานบูรณาการ 2 ในคณะกรรมาธิการ วิสามัญ พิจารณาร่าง พ.ร.บ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 สภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณาให้ผ่านจำนวน 2 รายการ ได้แก่ การก่อสร้างผนังเขื่อนป้องกันตลิ่งระยะทาง 7.528 กิโลเมตร และรั้วความมั่นคงอิเล็กทรอนิกส์ระยะทาง 6 กิโลเมตร ซึ่งแบ่งจ่ายในปีงบประมาณปี 2565 -2567

โดย หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสได้จัดกำลังพลลงพื้นที่ เพื่อพบปะ สร้างความเข้าใจ ถึงเหตุผลและความจำเป็น ในการก่อสร้างรั้วชายแดน และให้ลงนามในหนังสือยินยอม ให้ก่อสร้างรั้วชายแดนในที่ดินของตนซึ่งมีผู้ที่มีที่ดินติดแนวชายแดน จำนวน 293 ราย ได้ยินยอมให้สร้างรั้วชายแดนเพราะเข้าใจในสภาพปัญหาในพื้นที่ และรับทราบว่าในการสร้างรั้วชายแดน ได้เปิดช่องทางบริเวณจุดผ่อนปรนให้สามารถเดินทางเข้า-ออก ตามวิถีชีวิตของประชาชน ตามแนวชายแดน และเหตุผลอีกประการหนึ่งที่ประชาชนที่มีที่ดิน ติดแนวชายแดนยินยอมให้สร้างรั้วชายแดน คือ การที่แนวชายแดน ด้านประเทศมาเลเซียได้สร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งตลอดแนวชายแดนทำให้ตลิ่งฝั่งไทยถูกกัดเซาะมาอย่างยาวนาน

 

นราธิวาส - สุไหงโก-ลก ออกกฎเหล็ก! ไม่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ห้ามเข้าโดยเด็ดขาด

นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ในฐานะ ผอ.ศบค.อ.สุไหงโก-ลก มีมติออกมาตรการให้ผู้ที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก ต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 มาอย่างน้อย 1 เข็ม จากแอปพลิเคชั่นหมอพร้อม หรือ ไลน์หมอพร้อมมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ ยกเว้นกรณีเร่งด่วนด้านการแพทย์ หรือ มีเหตุจำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และหากตรวจสอบพบว่ายังไม่ได้ฉีดวัคซีนจะไม่อนุญาตให้เข้ามาในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก อย่างเด็ดขาด โดยเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 27 ต.ค. 64 เป็นต้นไป

จากการตระเวนตรวจสอบที่จุดตรวจจุดสกัด 3 แห่ง ที่มุ่งหน้าจาก อ.ตากใบ สู่เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก คือ จุดตรวจจุดสกัดบ้านน้ำตก และเส้นทางที่มุ่งหน้าจาก อ.แว้ง สู่เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก คือ จุดตรวจจุดสกัดบ้านบือเร็ง รวมทั้งเส้นทางที่มุ่งหน้าจาก อ.สุไหงปาดี สู่เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก คือ จุดตรวจจุดสกัดบุณยลาภนฤมิตร มีเจ้าหน้าที่ อส.ประจำที่ว่าการ อ.สุไหงโก-ลก เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุไหงโก-ลก และเจ้าหน้าที่ไทยอาสาป้องกันชาติ หรือ ทสปช. แยกย้ายกันตรวจสอบประชาชนที่ขับยานพาหนะทุกชนิดผ่านจุดตรวจ ด้วยการขอตรวจสอบหลักฐานการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 จากแอปพลิเคชั้นหมอพร้อม หรือ ไลน์หมดพร้อม มายื่นยันต่อเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ ว่าผ่านการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 มาแล้ว และมีประชาชนบางส่วนที่ยังไม่เคยผ่านการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เจ้าหน้าที่จะไม่อนุญาตให้เข้าพื้นที่เขตเทศบาลโดยเด็ดขาด แต่หากต้องการเข้ามีกิจธุระจำเป็น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้รอที่จุดตรวจจุดสกัด เพื่อประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อ.สุไหงโก-ลก นำวัคซีนป้องกันโควิด-19 มาบริการฉีดให้ถึงที่ แต่ทุกคนให้การปฏิเสธขอกลับภูมิลำเนา เพื่อไปฉีดวัคซีนตามโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแต่ละแห่ง ซึ่งมีบริการออกหน่วยฉีดให้กับประชาชนทุกวัน

นอกจากนี้แล้ว ณ อาคารรื่นอรุณ เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ยังมีมาตรการเตรียมความพร้อมที่จะเปิดด่านพรมแดน 2 แห่ง คือ ด่านพรมแดน อ.ตากใบ ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับด่านพรมแดนเป็งกาลังกูโบ และด่านพรมแดนบูเก๊ะตา อ.แว้ง ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับด่านพรมแดนบูกิตบุหงา ประเทศมาเลเซีย ไปมาหาสู่กันในวันที่ 1 พ.ย. 64 ที่จะถึงนี้ เนื่องจากนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจส่วนใหญ่ จะมุ่งหน้ามาใช้บริการตามสถานประกอบการต่าง ๆ ในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก อาทิ ร้านอาหาร ตลาดสด แผงลอย สถานีขนส่งรถประจำทาง และสถานประกอบการโรงแรมต่าง ๆ ที่อาจจะสุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อและการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทางโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก ได้ขอความร่วมมือจากเจ้าของกิจการและผู้ประกอบการต่างๆข้างต้นทุกแห่ง มาทำการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยชุดตรวจ ATK หรือ ANTIGEN TEST KIT หากพบว่ามีผลเป็นบวก แพทย์จะประเมินอาการและให้ยาต้านเชื้อไวรัสมากินที่บ้านเป็นเวลา 5 วัน พร้อมทั้งจะมีการติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง และเมื่อผล RT – PCR ออกมาแล้ว จะประสานให้ไปพบแพทย์อีกครั้งที่คลีนิค ARI ของโรงพยาบาล

นราธิวาส - พัฒนาฝีมือแรงงานนราธิวาส! ประชุมขับเคลื่อนโครงการเพิ่มทักษะด้านอาชีพ แก่นักเรียนที่ไม่ได้เรียนต่อหลังจบการศึกษาภาคบังคับ

นายบุญพาศ รักนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการเพิ่มทักษะด้านอาชีพแก่นักเรียนที่ไม่ได้เรียนต่อหลังจบการศึกษาภาคบังคับครั้งที่ 1/2564 ณ ห้องประชุมบางนรา สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 25 นราธิวาส อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส เพื่อพิจารณากำหนดแผนการดำเนินงานโครงการ กำหนดหลักสูตรที่จะเปิดอบรม มอบหมายหน่วยงานต้นสังกัดสถานศึกษาจัดทำแบบสอบถามและแบบสรุปการสำรวจและจำแนกนักเรียนของจังหวัดนราธิวาส รวมถึงความร่วมมือจัดสรรงบประมาณสนับสนุนเพิ่มเติมในการดำเนินโครงการฯ นอกเหนือจากงบประมาณปกติของสถาบันฯ

นายเสริมสกุล พจนการุณ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 25 นราธิวาส เปิดเผยว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการเพิ่มทักษะด้านอาชีพแก่นักเรียนที่ไม่ได้เรียนต่อหลังจบการศึกษาภาคบังคับจังหวัดนราธิวาสจากหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดนราธิวาส และกระทรวงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ภาคการศึกษา ภาคเอกชนและภาคประชาสังคม จำนวน 28 คน มีอำนาจหน้าที่อำนวยการวางแผนการดำเนินโครงการ โดยให้ความเห็นชอบปฏิบัติ ขั้นตอนการดำเนินงาน 12 ขั้นตอน ให้ความเห็นชอบหลักสูตรและงบประมาณ และจัดเตรียมตลาดแรงงาน มอบหมายและประสานการปฏิบัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำกับติดตามในการสำรวจและจำแนกกลุ่มนักเรียนเป้าหมาย ติดตามและสนับสนุนในการดำเนินการฝึกอาชีพและประเมินผลการดำเนินการโครงการ

ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแผนการดำเนินงานโครงการฯ โดยกำหนดประชุมชี้แจงผู้อำนวยการโรงเรียนและครูแนะแนว ระหว่างวันที่ 7 – 9 ธันวาคม 2564 สถานศึกษานำนักเรียนกลุ่มเป้าหมายเข้าศึกษาดูงาน ณ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 25 นราธิวาส ระหว่างวันที่ 21 – 25 ธันวาคม 2564 แต่เนื่องจากกลางเดือน เมษายน - พฤษภาคม 2564 เป็นช่วงเทศกาลถือศีลอด ดังนั้นจึงได้กำหนดวันรายงานตัวและปฐมนิเทศ ในวันที่ 17 พฤษภาคม 2565 สำหรับหลักสูตรที่เปิดฝึก เป็นหลักสูตรเตรียมเข้าทำงาน ระยะเวลาฝึก 420 ชั่วโมง

 

 

นราธิวาส - พิธีถวายผ้าไตรกฐินพระราชทาน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ วัดตันติการาม อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส

ที่ วัดตันติการาม หมู่ที่ 3 ตำบลตันหยงลิมอ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส พลตรี ไพศาล หนูสังข์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานในพิธีถวายผ้าไตรกฐินพระราชทาน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ขอรับพระราชทานผ่านราชเลขานุการในพระองค์ เพื่อนำมาทอดถวายแด่พระสงฆ์ที่จำพรรษาครบถ้วนไตรมาส ณ วัดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเป็นการทำนุบำรุง สืบสานวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีในพระพุทธศาสนา

โดยมี พระเทพศีลวิสุทธิ์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 18 เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วย พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ, พันเอก ยุทธนา สายประเสริฐ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 151 / หัวหน้าคณะทำงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ คณะที่ 3, เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ หัวหน้าส่วนราชการ ตลอดจนพุทธศาสนิกชนในพื้นที่เข้าร่วมพิธี ซึ่งปัจจัยที่รวบรวมได้จากบริวารกฐินผู้มีจิตศรัทธาในครั้งนี้ มียอดรวมทั้งสิ้น 1,059,411 บาท ในการนี้ วัดตันติการาม จะนำไปทำนุบำรุง บูรปฏิสังขรณ์ศาสนสถานที่ชำรุดเสียหายภายในวัด เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจแก่พุทธศาสนิกชนในพื้นที่ โดยพิธีจัดขึ้นภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

 

นราธิวาส - ผู้บัญชาการทหารเรือ ตรวจเยี่ยมหน่วยในพื้นที่ค่ายจุฬาภรณ์ ย้ำ!กำลังพลทำหน้าที่ด้วยความจงรักภักดี เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม

พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พร้อมด้วยนายกสมาคมภริยาทหารเรือและคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกำลังพลกองทัพเรือ กรมทหารราบที่ 3 กองพลนาวิกโยธิน หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ ณ ค่ายจุฬาภรณ์ อ.เมือง จ.นราธิวาส โดยมี นาวาเอกโยธิน ธนะมูล ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 3 กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน / ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ ให้การต้อนรับ

โดยพล.ร.อ.สมประสงค์ ผบ.ทร.ได้ถวายสักการะ พระอนุสาวรีย์ พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ องค์บิดาของทหารเรือไทย และตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ จากนั้นได้ให้โอวาทและทักทายกำลังพลจากหน่วยต่าง ๆ ที่เข้าร่วมในพิธี โดยใจความสำคัญที่ผู้บัญชาการทหารเรือเน้นย้ำแก่กำลังพลที่ร่วมในพิธีคือ หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินกองทัพเรือมีหน้าที่พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งเอกราช และอธิปไตยของชาติในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ สร้างความปลอดภัยและให้การช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อนในด้านต่าง ๆ แก่ประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ

ทราบดีว่าที่ผ่านมาทุกคนนั้น ได้ปฎิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ ในพื้นที่เสี่ยง พื้นที่ที่มีความแตกต่างด้านวัฒนธรรม และพื้นที่ที่มีความแตกต่างทางสังคมของประชาชน แต่ก็ได้ทุ่มเทและมุ่งมั่นเสียสละ ไม่ย่อท้อในการทำหน้าที่ทำให้ได้รับความร่วมมือและความเชื่อมั่นจากประชาชนในพื้นที่ ส่งผลให้การปฎิบัติภารกิจของกองทัพเรือนั้นลุล่วงตามวัตถุประสงค์ ของหน่วยเหนือ ขอแสดงความชื่นชมและภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง

ขอให้ทุกท่านนั้นเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา การปฏิบัติหน้าที่นั้นขอให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความละเอียดรอบคอบ ไม่ประมาท การที่จะทำหน้าที่ให้ได้รับความสำเร็จนั้น ต้องได้รับการยอมรับจากประชาชน ที่ผ่านมานั้นทุกท่านได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย รักษาความสงบ รักษาความเรียบร้อย รักษาเอกราชและอธิปไตยใน พื้นที่ที่รับผิดชอบเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากลำบาก

อย่างไรก็ตามการดำรงไว้ซึ่ง หน้าที่และภารกิจที่ดีอยู่แล้วนั้นเป็นเรื่องที่ยากกว่า ก็ขอให้ทุกท่านดำรงความต่อเนื่องในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืนต่อไป การยอมรับของประชาชนในพื้นที่นั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด หากประชาชนในพื้นที่ยอมรับการปฎิบัติงาน หรือให้ความร่วมมือ นั่นคือความสำเร็จสูงสุด ของการปฏิบัติการ ก็อยากจะฝากให้ทุกท่านให้ปฎิบัติหน้าที่ต่อเนื่อง อย่างเต็มกำลังความสามารถ ด้วยความจงรักภักดี ด้วยสติรู้ตัว ด้วยปัญญารู้คิด สุจริตจริงใจ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าส่วนอื่น และขอให้มุ่งมั่น ในอุดมการณ์ความรักชาติความเสียสละที่ทุกท่านนั้นได้ดำเนินการต่อเนื่องมาโดยตลอด

 

นราธิวาส - โซเชียลแห่ชื่นชม!! ชายวัยกลางคน นำดินมาถมถนนในหมู่บ้าน ที่เป็นหลุมเป็นบ่อ

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ยะลา ว่า ในโซเชียลแห่ชื่นชมชายชุดผ้าโสร่ง เสื้อแขนยาว สวมหมวก(กะปีเยาะ) ในชุดมาลายูมุสลิม พร้อมรถพ่วงข้าง นำดินมาถมถนนในหมู่บ้านที่เป็นหลุมเป็นบ่อโดยไม่ได้หวังผลประโยชน์  สะท้อนความเดือดร้อนของชาวบ้านในพื้นที่บันนังสาเร็ง อ.เมือง จ.ยะลา

โดยเฉพาะเพจเฟซบุ๊กชื่อ “ที่นี่จังหวัดยะลา TINEE-YALA” ได้เผยแพร่ภาพที่ถ่ายโดย อับดุลรอนิง โต๊ะยอ พร้อมสมาชิกที่เข้ามาแสดงความเห็นและแชร์จำนวนมาก โดยข้อความมีดังนี้

#ชื่นชมด้วยใจ จิตอาสาที่ไม่ต้องการผลประโยชน์และไร้ผ้าคล้องคอ

ภาพนี้เรียกได้ว่าคือสุดความประทับใจต่อชายชราคนหนึ่ง ที่อาสามาปิดหลุม ปิดบ่อกลางถนนเพื่อไม่ให้เกิดความอันตรายต่อคนสัญจรไปมา โดยชายชรารายนี้ขับมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง พร้อมทุกดินมาด้วยจำนวนหนึ่ง และพาพลั่วมาด้วยหนึ่งด้าม โดยขับรถไปยังถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ แล้วเขาก็จอดรถและได้นำพลั่วตักดินแล้วกลบบนถนนที่เป็นหลุมทันที

นราธิวาส - จัดกิจกรรม สืบสานวิถีพหุวัฒนธรรม! “ลงแขกดำนา” สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ณ แปลงนาบ้านโคกยาง อ.ตากใบ จ.นราธิวาส

แปลงนาบ้านโคกยาง หมู่ที่ 5 ตำบลพร่อน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส พลตรีเฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส /ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เดินทางมาเป็นประธาน เปิด กิจกรรม สืบสาน วิถีพหุวัฒนธรรม “ลงแขกดำนา” สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยมี นายอำเภอตากใบ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรตากใบ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจตำรวจนราธิวาส 93 ประธานองค์กรภาคประชาชนเพื่อสันติ และเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัดนราธิวาส หัวหน้าส่วนราชการ พี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ ผู้นำท้องที่ และประชาชนชาวไทยพุทธ ไทยมุสลิม ในพื้นที่ร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ซึ่งกิจกรรมดังกล่าว จัดขึ้นภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ พลตรีเฉลิมพร ขำเขียว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส กล่าวว่า กิจกรรมในวันนี้ เกิดขึ้นโดยหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ร่วมกับองค์กรภาคประชาชนเพื่อสันติ และเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัดนราธิวาส ได้จัดกิจกรรมสืบสานวิถีพหุวัฒนธรรม “ลงแขกดำนา” เพื่อการฟื้นฟู รักษาประเพณี อันสวยงามในการร่วมมือ ร่วมใจ ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ของสังคมพหุวัฒนธรรม ของพี่น้องประชาชนไทยพุทธ พี่น้องประชาชนไทยมุสลิม

ซึ่งมีมาตั้งแต่อดีต ภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม ไม่ใช่มีแค่เรื่องดำนายังมีเรื่องกินเหนียวงานแต่ง งานฮารีรายอ ที่คนสมัยก่อนได้ทิ้งไว้เป็นมรดก มันเป็นนัยยะสำคัญของภูมิปัญญาของคนสมัยก่อน ในกระบวนการสร้างความรัก สร้างความเข้าใจต่อกัน  การสร้างสภาวะแวดล้อม ให้เกื้อกูลต่อการหนุนเสริมความไว้วางใจ ถือเป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะทำให้เกิดความสงบเรียบร้อย  ที่จะนำไปสู่เพื่อความสันติสุข นำสู่แนวคิดความเป็น“พลเมืองในบริบทของสังคมพหุวัฒนธรรม” กระตุ้นให้เกิดกลไก การจัดการชุมชนตามธรรมชาติ พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ศักยภาพผู้นำและประชาชน ให้สอดคล้องกับบริบทพื้นที่ ทรัพยากร ภูมิปัญญาและวิถีชุมชนที่ยั่งยืน เนื่องด้วยอำเภอตากใบ  เป็นแหล่งปลูกข้าวของจังหวัดนราธิวาส ซึ่งข้าวเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ มีการปลูกสืบทอดกันจนเป็นวิถีชีวิต แต่ด้วยสภาพความเปลี่ยนไป ของบริบททั้งด้านสังคมและพื้นที่ ทำให้พื้นที่ทำนาลดลง แต่ข้าวเป็นพืชที่มีความสำคัญ ในการสร้างความมั่นคงในครัวเรือนและชุมชน กระผมต้องขอชื่นชมท่านทั้งหลาย ที่รวมกลุ่มกันปลูกข้าว ร่วมกันพัฒนาการผลิตและการตลาด  

โดยกิจกรรมการลงแขกดำนาในวันนี้ นอกจากจะเป็นการลดต้นทุนแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมความรัก ความสามัคคี  เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ความร่วมมือของคนในชุมชน พี่น้องประชาชนไทยพุทธ พี่น้องประชาชนไทยมุสลิมที่อาศัยอยู่ร่วมกันในสังคม ซึ่งมีความหลากหลาย ภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม ให้สอดคล้องกับนโยบาย ของกองอำนวยการ รักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ที่ต้องการให้พี่น้องประชาชน มีส่วนร่วมในกระบวนการเสริมสร้างสันติสุขอย่างยั่งยืน และพัฒนาเศรษฐกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ของประชาชนให้ดีขึ้น เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน นำมาสู่การอยู่ร่วมกัน อย่างสันติสุขที่แท้จริงในสังคม

 

นราธิวาส - ผบ.กองกำลังเทพสตรี ตรวจช่องทางธรรมชาติ หวั่น!! โควิด ‘โอมิครอน’ แพร่ข้ามชาติ

พล.ต.วรเดช เดชรักษา ผบ.กองกำลังเทพสตรี/ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 ได้เดินทางมายังด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก เพื่อเป็นประธานประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ พ.อ.กำธร ศรีเกตุ รอง ผบ.ฉก.นราธิวาส พ.ต.ท.ธีระโชติ  ปฐมวณิชกะ ผบ.ร้อย ตชด.447 เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากร เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร เจ้าหน้าที่ทหารพราน ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ เจ้าหน้าที่ทหารชุดควบคุมป้องกันชายแดน ในการวางมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน OMICRON ที่พบการแพร่ระบาดในประเทศมาเลเซีย

ซึ่งในที่ประชุม พล.ต.วรเดช เดชรักษา ผบ.กองกำลังเทพสตรี/ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 ได้รับฟังการบรรยายสรุปของแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยว โดยภาพรวมมีมาตรการที่เคร่งครัด สามารถป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นอย่างดี โดยเน้นย้ำทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าตั้งอยู่ในความประมาท เนื่องจากทราบว่า สายพันธุ์ติดโดยง่ายและไม่มีการแสดงอาการให้เห็น ซึ่งทุกคนถือว่าสุ่มเสี่ยงอย่าตั้งอยู่ในความประมาท

โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่กองกำลังที่ถูกส่งมาปฏิบัติหน้าที่แนวพรมแดน ทั้ง ตชด. ชุดควบคุมป้องกันชายแดน เจ้าหน้าที่ทหารพราน เราได้ปฏิบัติหน้าที่มากว่า 2 ปีแล้ว ต้องพยายามสร้างการข่าวและดึงชาวบ้านเข้ามามีส่วนร่วม ในการชี้เบาะแสเพื่อทำลายเครือข่ายกลุ่มขบวนการคนนำพาโดยเฉพาะกลุ่มแรงงานต่างด้าว ที่ลักลอบเข้าตามช่องทางธรรมชาติ เพราะคนกลุ่มนี้ถือว่าเป็นกลุ่มที่เสี่ยงในการนำพาโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเข้ามาแพร่ระบาด จึงถือว่าการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคได้ถูกจุด

ต่อมา พล.ต.วรเดช เดชรักษา ผบ.กองกำลังเทพสตรี/ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 ได้เดินทางไปเยี่ยมกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ตามช่องทางธรรมชาติ บริเวณบ้านน้ำตก ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งถือว่าเป็นช่องทางธรรมชาติ ที่กลุ่มขบวนการนำพาแรงงานต่างด้าว ลักลอบหลบหนีข้ามแดนจากรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย เป็นจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งได้พบปะพูดคุยกับเจ้าหน้าที่กองกำลัง

นราธิวาส - ศอ.บต.นำร่องโครงการ 1 ข้าราชการ 1 ครัวเรือนยากจน จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจข้อมูลครัวเรือนที่มีฐานะยากจนเพื่อช่วยเหลือ

นายธารธรรม คำแป้น นิติกร ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมด้วย นายอับดุลเลาะ สือรี กำนัน ต.รือเสาะ นายอัสรี หะยีสือนิ ผู้ใหญ่บ้าน ม.10  ต.รือเสาะ และบัณฑิตอาสา ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ได้เดินทางไปยังบ้านของนางเจ๊ะมะ สะอิ อยู่บ้านเลขที่ 292/3 ม.10 บ้านบาซาบาตอ ต.รือเสาะ อ.รือสา จ.นราธิวาส เพื่อสำรวจข้อมูลครัวเรือนที่มีฐานะยากจน ตามโครงการ นำร่องโครงการ 1 ข้าราชการ 1 ครัวเรือนยากจนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นโครงการนำร่องของ ศอ.บต.ที่บูรณาการขจัดความยากจนพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ประชุมคณะกรรมการศูนย์บูรณาการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงจังหวัดชายแดนภาคใต้วางแผนการดำเนินงานนำร่องให้ข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้าง ศอ.บต. เป็นข้าราชการนำร่องประกบครัวเรือนยากจนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้  ซึ่งมีจำนวนนำร่อง 379 ครัวเรือน ใน 43 อำเภอ จากจำนวนสำรวจทั้งสิ้น 37,395 ครัวเรือน โดยพิจารณาจากเกณฑ์ความยากจนทับซ้อน 5 มิติ คือ มิติความจนด้านสุขภาพ รายได้ การศึกษา ความเป็นอยู่ และความจนด้านมิติการเข้าถึงบริการภาครัฐ หวังขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน

พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เปิดเผยว่าการแก้ไขปัญหาความยากจน เป็นนโยบายหลักของรัฐบาล ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จชต. โดย ศอ.บต. ในฐานะหน่วยนำการพัฒนา จะเป็นหน่วยขับเคลื่อน เสริม และเพิ่มเติม เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน โดยจะมี การนำร่องโครงการ ให้ข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้าง ศอ.บต. ลงพื้นที่ประกบครัวเรือนเป้าหมาย ซึ่งขณะนี้ได้มอบหมายงานเรียบร้อยแล้ว และเตรียมลงพื้นที่ตามแผนที่วางไว้ อย่างไรก็ตาม การลงพื้นที่ประกบ ช่วยเหลือประชาชนในโครงการ 1 ข้าราชการ 1 ครัวเรือนยากจนในครั้งนี้ เป็นการนำร่องเพื่อค้นหารูปแบบที่ดีที่สุด ในการช่วยเหลือประชาชนให้พ้นเกณฑ์ ความยากจนอย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งเป้าให้เห็นเป็นรูปธรรมในไตรมาสที่จะถึงนี้

 

ผู้การตำรวจร่วม 3 ฝ่าย แถลงทลายเครือข่ายส่งยาเสพติดทางทะเล ผ่านประเทศที่ 3 เป็นครั้งแรก!!

พล.ต.ต.แวสาแม สาและ  ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พล.ต.เฉลิมพร ขำเขียว ผบ.ฉก.นราธิวาส พ.ต.อ.นราวี บินแวอารง ผกก.สภ.ตากใบ และนายกฤษฎา สุขสบาย ปลัด อ.ตากใบ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมแถลงข่าวการจับกุมตัว นายสุภัทร คะทะวะรัตน์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123 หมู่ 2 ต.ภูเขาทอง อ.สุคิริน จ.นราธิวาส และ น.ส.ช่อผกา อภัยสวัสดิ์ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64/1 หมู่ 3 ต.น้ำรอบ อ.พุนพิน จ.สุราษฏร์ธานี

ซึ่งทั้ง 2 คน เป็นสามีภรรยา พร้อมของกลางกัญชาแห้งอัดแท่ง ห่อด้วยกระดาษฟลอยด์สีบรอนด์ทอง พันด้วยเทปใส บรรจุอยู่ในกระสอบปุ๋ยสีขาว และห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกทึบแสงสีดำอีกชั้นหนึ่ง จำนวน 34 กระสอบ รวม 94 แท่ง น้ำหนัก 1,680 ก.ก. ซึ่งมีมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท ขณะลักลอบขนย้ายอำพรางมากับรถยนต์เทรลเลอร์ 18 ล้อ ยี่ห้อ HINO สีแดง หมายเลขทะเบียน 87-2674 สระบุรี โดยมีท่อนไม้ยูคาลิปตัสปิดทับไว้ จาก จ.นครพนม ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ ที่บริเวณชายทะเลบ้านกูบู ม.6 ต.ไพรวัน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 8 ธ.ค. 64 ที่ผ่านมา

ด้าน พล.ต.ต.แวสาแม สาและ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส เปิดเผยว่า 2 สามีภรรยา ให้การรับสารภาพว่าได้รับจ้างขนยาเสพติดมาจาก จ.นครพนม โดยซักทอดถึงเจ้าของรถยนต์เทรลเลอร์ 18 ล้อ เป็นผู้ว่าจ้าง ให้ขับรถนำกัญชาแห้งอัดแท่งมาส่งชายทะเลบ้านกูบู ม.6 ต.ไพรวัน แล้วจะมีทีมขนถ่ายจากรถยนต์เทรลเลอร์ ไปลงเรือกอและแล้วนำไปส่งให้เรือบรรทุกที่ทอดสมออยู่ห่างจากชายฝั่งทะเลด้าน อ.ตากใบ ประมาณ 5 ไมล์ทะเล

 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top