Saturday, 19 April 2025
ธนกรวังบุญคงชนะ

‘ธนกร’ หนุน ‘นายกฯ-รัฐบาล’ เดินหน้า นโยบายปราบการทุจริต เน้น!! ความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ให้นักลงทุน

(23 มิ.ย.67) นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ  สส.แบบบัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) กล่าวว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ประสานความร่วมมือกับกระทรวงการต่างประเทศติดตามจับกุมตัวนายชนินทร์ เย็นสุดใจ ผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีทุจริต บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น หรือ STARK ฐานความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ฐานตกแต่งบัญชีและงบการเงิน และฐานฉ้อโกงประชาชนฯ ข้อหายักยอกทรัพย์และข้อหาฟอกเงิน มูลค่าความเสียหายกว่า 14,778 ล้านบาท  ซึ่งใช้เวลากว่า 8 เดือนในการติดตามตัว ผู้ต้องหาที่ทุจริตหลบหนีไปต่างประเทศกว่า 1 ปีกลับมาเข้าสู่กระบวนการได้สำเร็จ  จึงขอชื่นชมนายกรัฐมนตรี รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่จริงจังต่อนโยบายปราบปรามการทุจริตในตลาดทุนและทุกระดับ

ทั้งนี้ ขอฝากรัฐบาล เดินหน้านโยบายการปราปรามทุจริตในทุกแวดวง ทุกระดับอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การใช้งบประมาณของทุกกระทรวง ทุกกรม ข้าราชการประจำ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเฉพาะตลาดทุนของไทย ตนขอฝาก คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ตรวจสอบเข้มงวด เกี่ยวกับบริษัทในตลาดทุน ให้เกิดความโปร่งใสตรวจสอบได้และป้องกันการทุจริต

“เช่นคดีหุ้น STRAK คดีนี้ ต้องใช้เวลาและกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อติดตามตัวผู้ต้องหานานถึง 8 เดือน ที่หลบหนีไปต่างประเทศ  ซึ่งเป็นคดีที่มีผลกระทบกับนักลงทุนทั้งรายเล็ก รายกลาง และรายใหญ่ ส่งผลต่อภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อตลาดทุนไทย  หากมีการเข้มงวดกวดขันให้รัดกุมจะสร้างความเชื่อมั่นกับนักลงทุนได้มากขึ้น”นายธนกร กล่าวทิ้งท้าย

‘ธนกร’ หนุน ‘พีระพันธุ์’ ออกมาตรการ ลดค่าใช้จ่ายพลังงาน เพื่อลดภาระค่าครองชีพ มั่นใจ!! การเพิ่มวงเงิน ‘บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ’ 3 เดือน ช่วยกลุ่มเปราะบางได้แน่

(29 มิ.ย. 67) นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ สส.แบบบัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า จากสถานการณ์ราคาพลังงานน้ำมันและก๊าซหุงต้มที่มีการปรับขึ้นราคา ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายในครัวเรือนของพี่น้องประชาชน ตนขอสนับสนุนนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ครั้งที่ 2/2567 ที่เห็นชอบมาตรการบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนในสถานการณ์วิกฤตราคาพลังงาน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางผู้มีรายได้น้อย สำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งจะเพิ่มวงเงินช่วยเหลือค่าน้ำมัน (กลุ่มเบนซิน และกลุ่มดีเซล โดยให้ใช้กับยานพาหนะ)อีก 120 บาท/คน/เดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม – ธันวาคม 2567  

นอกจากนี้ ยังมีมติลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) เพื่อช่วยลดภาระของประชาชน ให้คงราคาขายส่งหน้าโรงกลั่นก๊าซ LPG ที่ 20.9179 บาทต่อกิโลกรัม (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ราคาขายปลีก LPG อยู่ที่ประมาณ 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2567

ทั้งนี้ รัฐบาลโดยกระทรวงพลังงาน เร่ง ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขับเคลื่อนมาตรการดังกล่าว โดยการประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและกลุ่มสถานีบริการที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อลดภาระค่าครองชีพแก่ผู้มีรายได้น้อยมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น 

“รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางผู้มีรายได้น้อย ผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เรื่องค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ทั้งน้ำมัน ก๊าซหุงต้ม ก๊าซ LPG หวังช่วยตรึงราคาพลังงาน ลดค่าใช้จ่าย บรรเทาความเดือดร้อนได้ในระยะ 3 เดือน” นายธนกร กล่าวทิ้งท้าย

‘ธนกร’ ยัน ‘สส.รทสช.’ พร้อมทำงานทันทีที่เปิดประชุมสภาฯ เตรียมเดินหน้า ‘รื้อ-ลด-ปลด-สร้าง’ ปรับราคาพลังงาน เพื่อปชช.

(6 ก.ค.67) นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) กล่าวว่า ทันทีที่เปิดประชุมสภาสมัยสามัญ ประจำปีครั้งที่หนึ่ง 36 สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ เราพร้อมเต็มที่ ในการเข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเดินหน้าพิจารณาร่างกฎหมายสำคัญ หลายฉบับ โดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เตรียมเสนอร่างกฎหมายที่จะแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนหลายเรื่อง โดยเฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวกับแนวทาง ‘รื้อ ลด ปลด สร้าง’ การปรับโครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งหัวหน้าพรรคและทีมกฎหมายของพรรคได้เร่งดำเนินการเพื่อเตรียมยื่นบรรจุวาระเพื่อ ต้องการสร้างความเป็นธรรมด้านน้ำมันเชื้อเพลิงให้พี่น้องคนไทยทั้งประเทศโดยเร็ว

นายธนกร กล่าวว่า ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่ากรณีฝ่ายค้านเสนอให้เพิ่มวันในการประชุมสภา ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่จะเร่งพิจารณากฎหมายสำคัญให้ออกมาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนโดยเร็ว แต่ขณะเดียวกัน สส. เป็นผู้แทนประชาชน ควรจัดเวลาลงพื้นที่ไปรับฟังปัญหาจากพี่น้องประชาชนด้วยตัวเอง เพื่อจะนำเข้าสู่การหารือและแก้ปัญหาผ่านสภาต่อไป จึงเป็นเรื่องการบริหารเวลาให้เหมาะสมเพื่อทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศและพี่น้องประชาชน

“สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ นำโดยนายพีระพันธุ์ และ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค เราพร้อมที่จะทำหน้าที่เป็นผู้แทนประชาชนในสภาพิจารณากฎหมายที่สำคัญให้ออกมาอย่างรวดเร็วเพื่อแก้ปัญหาให้กับพี่น้องคนไทย โดยเฉพาะกฎหมายปรับโครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิง จะส่งผลดีโดยตรงในการลดค่าครองชีพ ลดรายจ่ายให้กับประชาชน จึงมองว่าประชุมกี่วันเราก็พร้อม แต่ที่สำคัญสส.ก็ต้องลงไปรับฟังปัญหาจากประชาชนให้ครบทุกพื้นที่ด้วย จึงเห็นว่าควรบริหารเวลาให้เกิดความเหมาะสมเกิดประโยชน์ที่สุด“ นายธนกร กล่าวทิ้งท้าย

'ธนกร' ขอบคุณ 'รัฐบาลเศรษฐา' เดินหน้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐต่อเนื่อง ชี้!! ดูแลคนจนได้ตรงเป้าสุด แนะ!! ปรับเพิ่มวงเงินรับ ศก.ยุคข้าวของแพง

(25 ก.ค.67) นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ สส.แบบบัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้เสนอแนะต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่า ตนได้อ่านข้อมูลรายงานประจำปีกระทรวงการคลังอย่างละเอียด ก็ต้องขอบคุณกระทรวงการคลัง เพราะ 'โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ' เป็นโครงการที่เกิดขึ้นในสมัยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีและเกิดขึ้นในปี 2559 ซึ่งเป็นโครงการต้นแบบและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศไทยที่จะใช้ดูแลพี่น้องประชาชนผู้มีรายได้น้อยอย่างตรงเป้าหมายที่สุด ซึ่งปัจจุบันผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐประมาณ 14 ล้านคน แม้ว่าในช่วงแรกโครงการดังกล่าว จะถูกวิพากษ์วิจารณ์มากมาย ว่าไม่ได้ช่วยพี่น้องคนยากคนจน แต่สุดท้ายโครงการนี้กลับเป็นโครงการที่ประชาชนคนไทยทั้งประเทศชื่นชมมากที่สุด เพราะดูแลคนยากคนจนอย่างตรงเป้าหมายที่สุดแล้ว  

ดังนั้นโครงการนี้ จึงมีความสำคัญและต้องขอขอบคุณรัฐบาลนี้ ภายใต้การนำนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีที่ได้ดำเนินโครงการนี้และดูแลพี่น้องประชาชนกลุ่มเปราะบางผู้มีรายได้น้อยต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และตนยังมีข้อเสนอแนะด้วยว่า อยากให้ทางกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการปรับปรุงเงื่อนไข เนื่องจากวันนี้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศมีการเปลี่ยนแปลงไปแล้ว เพราะฉะนั้นบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ควรจะปรับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ให้กับพี่น้องประชาชนเพิ่มขึ้น เพราะวันนี้ราคาสินค้าต่าง ๆ ก็ปรับขึ้น สิ่งที่พี่น้องประชาชนต้องแบกรับค่าครองชีพ ค่าอาหาร ค่าบริโภค ค่าเดินทางเหล่านี้ ภาครัฐต้องมีการปรับเปลี่ยนเพิ่มวงเงินให้กับพี่น้องประชาชนไม่มากก็น้อย ซึ่งได้มีการสำรวจข้อมูลออกมาแล้วจึงขอให้ไปดูรายละเอียดและปรับเงื่อนไขให้เกิดความเหมาะสม 

ขณะเดียวกัน ข้อมูลผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐกว่า 14 ล้านคน มีข้อมูลอาชีพ การศึกษา รายได้ และต่าง ๆ เหล่านี้ จึงขอให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำข้อมูลเหล่านี้ไปปรับปรุงและออกแบบเพื่อนำไปสู่การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในแต่ละด้านให้ตรงเป้าหมาย นอกจากนั้นยังมองว่าการอบรมสัมมนาผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐควรจะมีการเพิ่มอบรมด้านอาชีพให้ตรงกับตลาดของแรงงานเกี่ยวกับทักษะการศึกษาและให้สามารถเข้าถึงแหล่งการบริการของภาครัฐให้มากยิ่งขึ้น

"วันนี้รัฐบาลนี้เป็นมืออาชีพและมีการดำเนินการต่อหลายโครงการในสมัยรัฐบาลชุดที่แล้ว ที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน สามารถนำมาปรับปรุงต่อยอดให้ดีขึ้นกว่าเดิม ต้องขอขอบคุณพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ ลุงตู่ที่ทำโครงการดี ๆ นี้ ไว้ให้กับพี่น้องประชาชนและเชื่อว่า ทุกวันนี้พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ต่างก็คิดถึงลุงตู่ที่ได้ทำโครงการดี ๆ ไว้มากมาย" นายธนกร กล่าว

‘ธนกร’ ชี้ ‘พณ.-กรมการค้าภายใน’ ต้องลงพื้นที่ ควบคุมราคาสินค้า เผย!! ชาวบ้านบ่นอุบ ข้าวของแพง วอนรัฐบาลเห็นใจ ‘ผู้มีรายได้น้อย’

(27 ก.ค.67) นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ สส.แบบบัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาจากที่ตนได้ลงพื้นที่ย่านการค้า ร้านอาหารและตลาดต่าง ๆ ได้รับฟังเสียงสะท้อนปัญหาค่าครองชีพจากพี่น้องประชาชน พบว่า ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าราคาสินค้าปรับราคาขึ้นเกือบทุกชนิด โดยบางรายการแม้ไม่ปรับราคาแต่กลับลดปริมาณลงเพราะต้นทุนวัตถุดิบปรับราคา โดยเฉพาะอาหารตามสั่งที่ต้องใช้วัตถุดิบเครื่องปรุงรส ทั้งน้ำตาล,ผงชูรส รวมถึงผักที่ราคาสูงขึ้น ทำให้ผู้ขายจึงจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาอาหาร ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคตามมาเป็นทอด ๆ 

ทั้งนี้ จึงขอฝากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงมาแก้ปัญหาในเชิงรุก หากสินค้าประเภทใดที่เป็นสินค้าควบคุมควรจะต้องมีการตรวจสอบว่าผู้ประกอบการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่  แต่ส่วนไหนที่ไม่ใช่สินค้าควบคุม จะมีมาตรการใดออกมาช่วยลดรายจ่ายประจำวัน ลดค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชนได้

“รัฐบาลโดยกระทรวงพลังงาน ออกมาตรการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน โดยตรึงราคา ทั้งค่าไฟฟ้า ราคาน้ำมันดีเซล เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบางรวมถึงประชาชนทั่วไปไว้แล้ว แต่ในส่วนของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาหารการกิน ของใช้ในบ้าน สินค้าอุปโภคบริโภค ยังไม่มีมาตรการใดออกมาที่ชัดเจน จึงขอฝากไปยังกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง เร่งออกมาตรการและควบคุมราคาสินค้าประเภทต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือลดค่าใช้จ่าย บรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเรื่องค่าครองชีพสูง ค่าแรงขั้นต่ำยังไม่ปรับขึ้น และช่วงที่เศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ในช่วงนี้” นายธนกร กล่าวทิ้งท้าย

‘ธนกร’ สะกิดรัฐสภา คิดถี่ถ้วนก่อน แก้ รธน. ด้าน ‘จริยธรรม’ ชี้!! ‘ปัญหาเศรษฐกิจ-ปากท้อง’ เร่งด่วน-ต้องรีบทำมากกว่า

(20 ก.ย. 67) ที่จังหวัดราชบุรี นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค ในฐานะกรรมาธิการและที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ ได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดการสัมมนาและปาฐกถาเรื่อง ‘บทบาทหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมาธิการ กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน’ โดยมีนางสาววริษฐา สงวนเสริมศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี และนส.กุลวลี นพอมรบดี สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติให้การต้อนรับ

นายธนกร กล่าวว่า คณะกรรมาธิการฯ ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของประชาชนและตระหนักถึงปัญหาของประชาชนในพื้นที่ จึงได้มาเผยแพร่ความรู้ สร้างความเข้าใจในเรื่องบทบาทหน้าที่และอำนาจของสภาผู้แทนราษฎร บทบาทของคณะกรรมาธิการฯ ซึ่งมีทั้งการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล และการสนับสนุนการทำงานของรัฐบาล รวมทั้งการเปิดเวทีอันเป็นช่องทางที่ประชาชนได้สะท้อนปัญหา เสนอข้อร้องเรียนต่าง ๆ ผ่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นผู้แทนของประชาชนในพื้นที่ได้ 

ทั้งนี้ นายธนกร ยังกล่าวว่า กรณีที่พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนกำลังเตรียมเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา เรื่องมาตรฐานจริยธรรมและความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ของสส. และรัฐมนตรี ซึ่งฝ่ายค้านโดยพรรคประชาชนก็เห็นพ้องด้วยนั้น ส่วนตัวมองว่ารัฐธรรมนูญปี 2560 เป็นรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงและผ่านการทำประชามติของประชาชน หากจะเป็นการแก้รายมาตรา ก็ควรแก้ในส่วนที่จำเป็นเร่งด่วน หรือแก้ปัญหาปากท้องให้ประชาชนก่อนจะดีกว่า โดยรัฐธรรมนูญ มาตรา 160(4) (5) มีเจตนารมณ์สำคัญในการป้องกันบุคคลที่ปราศจากคุณธรรม จริยธรรม และความซื่อสัตย์สุจริต เข้ามามีอำนาจในการบริหารบ้านเมือง หากมีการแก้ไขตรงนี้หรือทำให้เบาลงอาจจะเป็นการเปิดช่องให้บุคคลที่ไม่ซื่อสัตย์สุจริตโดยแท้เข้ามามีอำนาจได้ 

“กรอบของคำว่าจริยธรรมในรัฐธรรมนูญ ถือเป็นด่านพิสูจน์เพื่อใช้กลั่นกรองบุคคลที่จะก้าวเข้าสู่อำนาจว่าเป็นผู้มีคุณธรรมจริยธรรมหรือไม่ เป็นการตรวจคัดกรองอย่างเข้มข้น เพราะหากแต่งตั้งให้คนที่มีความประพฤติผิดทางจริยธรรมเข้ามาบริหารบ้านเมือง อาจจะส่งผลเสียต่อประเทศชาติและประชาชนได้ ตนจึงเห็นด้วยที่ควรยึดและยกมาตรฐานตามรัฐธรรมนูญ ฉบับปราบโกงให้สูงเข้าไว้ก่อน ผมเชื่อว่า ท่านสส.ท่านรัฐมนตรีทุกคน ต่างก็หวังดีและตั้งใจทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองอยู่แล้ว ประชาชนต้องการ ผู้บริหารประเทศที่มีมาตรฐาน คุณธรรม จริยธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต เข้ามาปกครองบ้านเมือง จึงขอฝากรัฐสภาให้มีการคิดทบทวนในประเด็นนี้ให้รอบคอบ เพราะถ้ารัฐสภา ทั้งสส.และสว.ร่วมกันแก้รัฐธรรมนูญในเรื่องจริยธรรมดังกล่าว อาจถูกสังคมและประชาชนมองว่าเป็นการแก้เพื่อตัวเอง แก้เพื่อนักการเมืองเสียเอง และหากถูกยื่นร้องให้ตรวจสอบอาจส่อไปในทางที่ขัดต่อกฎหมายได้ จึงควรคิดพิจารณาให้รอบคอบ” นายธนกร ระบุ

‘ธนกร’ แนะรัฐ!! ส่งเสริมการท่องเที่ยว ให้ต่อเนื่อง มั่นใจ!! โกยรายได้เข้าไทย รับไฮซีซันยาวทั้งปี 68

(8 ธ.ค. 67) นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรมต.ประจำสำนักนายกฯ รองหัวหน้าพรรคและ  สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ   กล่าวว่า หลังจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. เปิดเผยตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เดินทางเข้ามาพักผ่อนท่องเที่ยวในประเทศไทย ภาพรวมปี 2567 ประเมินว่าจะอยู่ที่ 35 ล้านคน โดยคาดการณ์ว่าจากนโยบายและแคมเปญของรัฐบาลที่สนับสนุนให้จัดกิจกรรมบิ๊กอีเวนท์ตั้งแต่ปลายปีนี้ยาวจนถึงปี 2568 ทั้งปี ที่จะมีทั้งการแข่งขันวอลเลย์บอลและไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาซีเกมส์ ช่วงปลายปีนั้น มั่นใจว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในประเทศไปแตะถึง 40 ล้านคนเป็นครั้งแรกได้ ซึ่งตนขอฝากให้รัฐบาล โดยเฉพาะกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ททท.ออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวให้เกิดความต่อเนื่อง และไม่เพียงแค่ดึงดูดชาวต่างชาติเท่านั้น แต่ควรจะมีโครงการส่งเสริมคนไทยเที่ยวในประเทศให้มากขึ้นด้วย พร้อมกับการประชาสัมพันธ์ให้คนไทยภาคภูมิใจและเป็นเจ้าบ้านที่ดี ต้อนรับนักท่องเที่ยวให้เกิดความประทับใจ

"มั่นใจว่า การท่องเที่ยวจะสร้างรายได้เข้าประเทศเป็นไปตามเป้า ทำให้ตัวเลขเศรษฐกิจ จีดีพีเติบโตขึ้น ซึ่งรัฐบาลเอง ควรจะเร่งเครื่องมาตรการและโครงการต่างๆ เข้ามาเสริมเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ทั้งการสร้างงาน สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้และลดค่าครองชีพให้กับประชาชน การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำให้เกิดความเหมาะสม โดยมองว่าควรทำควบคู่กับการแก้หนี้สินในครัวเรือนไปพร้อมกัน จะเป็นการแก้ปัญหาในระยะยาวให้เกิดความยั่งยืนได้  อีกทั้ง ต้องเร่งแก้ปัญหายาเสพติด เป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลต้องเดินหน้าลุยปราบปรามและแก้ไขให้เห็นผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วด้วย" นายธนกร กล่าว

นายธนกร กล่าวต่อว่า หลังจากผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติเรื่องความพึงพอใจของประชาชนต่อผลงานของรัฐบาลในรอบ 2 เดือน ออกมาว่าคนไทยส่วนใหญ่ 48.8% ยังมีความพึงพอใจอยู่ในระดับปานกลาง มองว่า หากรัฐบาลเร่งเครื่องทำผลงานให้ชัดเจน ทั้งการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว ปรับค่าแรงขั้นต่ำ ควบคู่กับการแก้หนี้ ลดความเหลื่อมล้ำ แก้ยากจน และปราบปรามยาเสพติด อาชญากรรมออนไลน์ให้เห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้น เชื่อว่า ระดับความพึงพอใจของประชาชนที่มีต่อผลงานรัฐบาล ในรอบ 90 วัน จะปรับระดับเพิ่มขึ้นได้แน่นอน

‘ธนกร’ สวน ‘ปิยบุตร’ หยุดเสี้ยมปม กม.จัดระเบียบกลาโหม ย้ำชัด กองทัพเป็นความมั่นคงของชาติ นักการเมืองไม่ควรแทรกแซง

‘ธนกร’ สวน ‘ปิยบุตร’ หยุดเสี้ยมปม กม.จัดระเบียบกลาโหม ยัน สส.ฟังเสียงประชาชน ปัดมีใบสั่งจากชนชั้นนำ ย้ำชัด กองทัพเป็นความมั่นคงของชาติทุกมิติ ลั่น นักการเมืองไม่ควรล้วงลูกทหาร ยกเทียบตร.ไม่อยู่ใต้ครม. ชี้ หากทำผิดก็อยู่ยาก ป้องกันรัฐประหารไม่ได้ 

วันที่ (11 ธ.ค. 67) นายธนกร วังบุญคงชนะ  อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ รองหัวหน้าพรรคและสส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์โจมตีนักการเมืองที่ออกมาประกาศไม่เอาร่างพ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหมว่าไม่ให้ความสำคัญกับเสียงของประชาชน ฟังแต่ชนชั้นนำนั้น ว่า ตนมองถึงเจตนาเบื้องลึกของนายปิยบุตร พยายามใช้วาทกรรมสร้างความแตกแยกให้ประชาชนเข้าใจผิดๆ ต่อนักการเมือง ผู้แทนราษฎรและเชื่อมโยงให้ถึงชนชั้นนำที่คนไทยทุกคนต่างทราบดี ว่าหมายถึงบุคคลระดับสูง ซึ่งเป็นสิ่งที่นายปิยบุตรมักแสดงออกลักษณะนี้มาโดยตลอด มองว่าเป็นเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ จึงเรียกร้องให้หยุดพฤติกรรมยุแยงสร้างความแตกแยกในสังคมเสียที โดยยืนยันว่า ผู้แทนราษฎรต้องรับฟังเสียงของประชาชนเป็นใหญ่ พิจารณากฎหมายที่เกิดประโยชน์ต่อภาพรวมประเทศและยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ซึ่งใบอนุญาตจากชนชั้นนำตามที่นายปิยบุตรออกมากล่าว อ้างนั้น ล้วนแต่ไม่เป็นความจริง

ทั้งนี้ นายธนกร ระบุว่า ร่างพ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่…) พ.ศ… เป็นกฎหมายที่มีความสำคัญ เพราะกองทัพถือเป็นสถาบันหลักของชาติที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงทุกมิติ หากจะแก้ไขเพื่อสามารถให้ฝ่ายการเมืองเข้าไปแทรกแซงการเปลี่ยน แปลงองค์ประกอบของสภากลาโหมที่มีอำนาจในการแต่งตั้งตำแหน่งหลักในกองทัพได้นั้น เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม ควรพิจารณาด้วยความรอบคอบ เปรียบเทียบกับคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.)ให้อำนาจพิจารณาแต่งตั้งตำแหน่งสำคัญโดยไม่ต้องนำรายชื่อเข้าขอเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เช่นเดียวกับสภากลาโหม 

“มติรทสช. มีจุดยืนชัดเจน ไม่เห็นด้วยที่จะให้ฝ่ายการเมืองเข้าไปแทรกแซงกระทรวงกลาโหม เพราะหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ทั้งทหารและตำรวจ ควรปราศจากการเมืองเข้าไปล้วงลูกทุกกระบวนการ ซึ่งเหตุผลที่จะแก้ไขเพื่อป้องกันรัฐประหารนั้นตนมองว่า หากรัฐบาลหรือใครก็ตามทั้งทหาร ตำรวจ กระทำความผิดก็ไม่สามารถอยู่ในตำแหน่งได้ การแก้กฎหมายจึงป้องกันการรัฐประหารไม่ได้  ส่วนการที่นายปิยะบุตรออกมาพูดให้ประชาชนเกิดความสับสนเข้าใจผิด เชื่อมโยงไปถึงชนชั้นนำ เป็นการเบี่ยงประเด็นเพื่อโจมตีทุกฝ่ายให้เกิดความแตกแยก เป็นการกระทำที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง ขอพี่น้องประชาชนอย่าหลงเชื่อวาทกรรม” นายธนกร ย้ำ

‘ธนกร’ วอน!! รัฐบาล เร่งคลอด มาตรการเข้มข้น เพื่อควบคุมฝุ่น PM 2.5 จี้!! ‘ผู้ว่าฯ กทม. - บก.จร.’ ใช้ยาแรง บังคับใช้กฎหมาย ให้เข้มงวดมากขึ้น

(12 ม.ค. 68) นายธนกร วังบุญคงชนะ  สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงสถานการณ์ค่าฝุ่น PM 2.5 ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีระดับสีส้มและสีแดงบางจุด ว่า ตนขอฝาก ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เร่งประเมินสถานการณ์ และยกระดับมาตรการ รับมือป้องกันผลกระทบให้มีความเข้มข้นขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นดูแลสุขภาพประชาชน ที่แม้ว่าวันนี้ค่าฝุ่น จะอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ในช่วงวันที่ 12 - 19 ม.ค. 2568 ความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสลับลดลง ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ในช่วงนี้อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส ในช่วงเช้ามีอากาศเย็นและลมแรง จากสภาวะอากาศที่แห้ง เสี่ยงต่อการเกิดการลุกไหม้ได้ ขอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบความเข้ม เอาผิดผู้ที่จุดไฟเผาป่าหรือบริเวณรกร้าง เพราะถือว่าทำให้เกิดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมเป็นวงกว้าง

ทั้งนี้อีกสาเหตุหลักของฝุ่นPM 2.5 มาจากรถบรรทุกที่ใช้น้ำมันดีเซลที่ควันดำ รถบรรทุกขนาดใหญ่และกลุ่มของรถสาธารณะขนส่งมวลชน  จึงขอฝากทางกทม. ร่วมกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)กำกับการตรวจรถเมล์ รถในสังกัด ของขสมก. รวมทั้งขอทางกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ตรวจวัดมลพิษรถยนต์ควันดำ พวกรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่ยังพบเห็นการปล่อยควันดำตามท้องถนนอยู่เป็นประจำ ต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดมากขึ้น เพื่อลดผลกระทบทางมลพิษแก่ประชาชน

"เป็นห่วงว่า หากสถานการณ์ฝุ่นPM 2.5 ทั้งในกรุงเทพมหานครและทั่วประเทศทวีความรุนแรงขึ้น จะส่งผลต่อสุขภาพของพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะเด็กเล็กและผู้สูงวัย ขอทางรัฐบาล ผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร ออกมาตรการใช้ยาแรง คุมเข้มเรื่องควันดำจากรถยนต์  จัดให้มี การเวิร์คฟอร์มโฮมทำงานจากที่บ้านของส่วนราชการในสังกัดที่สามารถควบคุมบริหารจัดการได้  

พร้อมกันนี้ในโรงเรียนขอให้งดกิจกรรมกลางแจ้งปรับเปลี่ยนห้องเรียนให้ปลอดฝุ่นพิษหรือเพิ่มเครื่องฟอกอากาศ เพื่อช่วยดูแลสุขภาพเด็กเล็กและประถมวัยที่มีความเปราะบาง เชื่อว่าหากรัฐบาล ผู้ว่าราชการทุกจังหวัด รวมถึง กทม. ออกมาตรการเข้มข้นจะสามารถลดผลกระทบที่มีต่อสุขภาพพี่น้องประชาชนลงได้มาก" นายธนกร กล่าวทิ้งท้าย

‘ธนกร’ ฝาก รัฐบาลยกระดับคุมเข้มชายแดนเมียนมา หนุนร่วมมือจีนลุยปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์-ค้ามนุษย์ขั้นเด็ดขาด

‘ธนกร’ ฝาก รัฐบาลยกระดับคุมเข้มชายแดนเมียนมา หลัง สั่งตัดไฟ-เน็ต-น้ำมันแล้ว เชื่อ กระทบแก๊งคอลเซ็นเตอร์-ค้ามนุษย์หนักแน่ หวั่น เกิด 'เมียวดีเอฟเฟค' โต้กลับ หนุน นายกฯ ถกจีน เร่งตั้งคกก. แก้ภัยข้ามชาติลุยปราบขั้นเด็ดขาดช่วยลดความเดือดร้อน ปชช.

(6 ก.พ. 68) นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองหัวหน้าพรรคและสส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวหลัง จากที่ทางการไทยได้ตัดกระแสไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต และน้ำมัน ไม่จ่ายไปยังพื้นที่ 5 จุด ตามแนวชายแดนในประเทศเมียนมา เพื่อตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ว่า ตนเห็นด้วยและขอสนับสนุนรัฐบาลในการดำเนินการดังกล่าวเพื่อเป็นการตัดช่องทางไม่ว่ามากหรือน้อยก็สามารถสร้างผลกระทบให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในพื้นที่นั้นได้อย่างแน่นอน และขอให้มีการสำรวจในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายค้ามนุษย์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์จากพวกทุนสีเทาในพื้นที่อื่นๆ เพิ่มเติมด้วยนอกเหนือจาก 5 จุดที่ได้ตัดไฟ ตัดอินเทอร์เน็ตและตัดการส่งน้ำมันไปแล้ว เพื่อเป็นการขยายพื้นที่หากพบการกระทำความผิดเพิ่มเติม

นอกจากนี้ ขอฝากกระทรวงกลาโหม เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงตามแนวชายแดนทุกหน่วยงาน เตรียมแผนรับมือสถานการณ์ พร้อมยกระดับการรักษาความปลอดภัยตามแนวชายแดนให้เข้มข้นขึ้น เนื่องจากเกรงว่า มาตรการตัดไฟฟ้าของไทยอาจส่งผลกระทบต่อหลายกลุ่มของฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ไม่อยากให้เกิดปรากฏการณ์ 'เมียวดีเอฟเฟค' เหตุความไม่สงบตามแนวชายแดนตามมา ทั้งนี้เพื่อป้องกันและรักษาความมั่นคงปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนชาวไทยบริเวณแนวชายแดนอ.แม่สอด จ.ตากและพื้นที่ใกล้เคียงด้วย

“การเยือนประเทศจีนของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ ทราบว่ามีวาระความร่วมมือ ระหว่างกันในการตั้งคณะกรรมการแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ การปราบปรามเครือข่ายค้ามนุษย์ ร่วมกันทั้งไทยและจีนรวมถึงในอาเซียนด้วย จึงขอให้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจังเด็ดขาดให้เห็นผลเป็นรูปธรรมชัดเจน เพื่อจะช่วยเหลือลดความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนคนไทยได้ดีขึ้น“ นายธนกร กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top