Tuesday, 7 May 2024
ช่วยเหลือประชาชน

ปทุมธานี มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เชิญถุงยังชีพพระราชทานช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2566  เวลา 9.00 น. ณ ศาลาการเปรียญวัดพืชอุดม ตำบลพืชอุดม อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย โดยมีพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ดำรงตำแหน่ง นายกกิตติมศักดิ์ตลอดชีพ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการมูลนิธิฯ เชิญถุงยังชีพพระราชทานมอบให้แก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี จำนวน 1,199 ถุง โดยมี นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนางปาริชาติ ธีระศิลป์ รองผู้จัดการมูลนิธิฯ นางบุษบา บุญญลักษม์  ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดปทุมธานี นางสาวกันตรัตน์ เริ่มสูงเนิน ปลัดจังหวัดปทุมธานี นายสมชาย ตรีณาวงษ์ นายอำเภอลำลูกกา นางสาวสุพีพร โมรา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปทุมธานี สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดปทุมธานี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เข้าร่วมพิธี ถวายถุงยังชีพพระราชทานแด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 58 รูป และมอบถุงยังชีพพระราชทานให้แก่ประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอลำลูกกา 7 ตำบล 

ประกอบด้วย ตำบลลาดสวาย ตำบลบึงคำพร้อย ตำบลลำลูกกา ตำบลบึงทองหลาง ตำบลลำไทร ตำบลพืชอุดม ตำบลบึงคอไห จำนวน 1,141 ถุง อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ได้ประสบกับสภาวะฝนตกหนักติดต่อกันในพื้นที่ ทำให้ปริมาณน้ำสะสมในแม่น้ำ ลำคลองต่างๆ เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน สิ่งสาธารณประโยชน์ เส้นทางสัญจร และพื้นที่ทางการเกษตร ได้รับผลกระทบ จำนวน 8 ตำบล 87 หมู่บ้าน 8 ชุมชน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 2,020 ครัวเรือน 2,984 คน พื้นที่ทางการเกษตร 3,870 ไร่ ได้รับความเสียหาย โดยจังหวัดปทุมธานีได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย ทั้งนี้อำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแล้ว ปัจจุบันสถานการณ์ได้คลี่คลาย แต่ยังคงมีพื้นที่บางส่วนของตำบลบึงคอไหและตำบลพืชอุดม อำเภอลำลูกกา ที่ยังมีน้ำท่วมขัง การได้รับถุงยังชีพพระราชทานจากมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ในครั้งนี้ ได้ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ประชาชนเป็นอย่างยิ่ง

‘ผู้บัญชาการทหารเรือ’ ยกย่อง-ชื่นชม 'เรือเอก สมใจ เอี่ยมสุข' กำลังพลกองทัพเรือ คืนชีพผู้ถูกคนร้ายยิงที่ชลบุรีด้วย CPR

เมื่อวันที่ 30 พ.ย.66 พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีมอบประกาศเกียรติคุณชมเชย กำลังพลกองทัพเรือที่ประกอบคุณงามความดี เป็นประโยชน์แก่ประชาชนและสร้างชื่อเสียงแก่กองทัพเรือ จำนวน 7 นาย ณ ห้องสุพรรณหงส์ อาคารส่วนบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยาน เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร   

สำหรับกำลังพลทั้ง 7 นายที่เข้ารับมอบประกาศเกียรติคุณยกย่องชมเชย จากผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นกำลังพลจากหน่วยต่างๆ ของกองทัพเรือ ที่ได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนอันแสดงถึงความกล้าหาญและความเสียสละในการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุในทันทีซึ่งถือเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคมและได้สร้างภาพลักษณ์ที่ดีของกองทัพเรือให้ปรากฏต่อสาธารณชน 

ทั้งนี้ 1 พลทหารแห่งกองทัพเรือ ที่ได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนอันแสดงถึงความกล้าหาญและความเสียสละในการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุในทันที ได้แก่...

'เรือเอก สมใจ เอี่ยมสุข' ซึ่งได้ให้การช่วยเหลือผู้ป่วยซึ่งถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงจนได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณหน้าทางเข้าหมู่บ้านบุญฤทธิ์โครงการ 2 ในพื้นที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยได้ทำการปฐมพยาบาลด้วยการฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน CPR พร้อมทั้งประสานรถพยาบาลกู้ชีพฉุกเฉินเพื่อนำส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ

โอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้กล่าวชื่นชม เรือเอก สมใจ เอี่ยมสุข ด้วยว่า การให้การช่วยเหลือประชาชนในเหตุการณ์ดังกล่าว แสดงออกซึ่งความกล้าหาญ ไม่ลังเลที่จะเสียสละ เข้าช่วยเหลือ 

ถือเป็นบุคคลตัวอย่างของสังคม เป็นกำลังพลที่ทำให้กองทัพเรือเป็นที่เชื่อมั่นของพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายที่ได้มอบไว้ให้ในการให้การช่วยเหลือประชาชน และการกำหนดให้กำลังพลทุกนายมีความรู้ในการปฐมพยาบาลโดยวิธีช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐานหรือ CPR โดยสามารถให้การช่วยเหลือประชาชนได้ในทันทีที่ประสบเหตุ

‘บิ๊กดุง’ ชื่นชม!! 'พันจ่าเอก ทรัพย์อำนวย ศรีชม' กำลังพล ‘ทร.’ หลังคืนชีพชาวพม่าหมดสติที่สัตหีบด้วย CPR

เมื่อวันที่ 30 พ.ย.66 พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีมอบประกาศเกียรติคุณชมเชย กำลังพลกองทัพเรือที่ประกอบคุณงามความดี เป็นประโยชน์แก่ประชาชนและสร้างชื่อเสียงแก่กองทัพเรือ จำนวน 7 นาย ณ ห้องสุพรรณหงส์ อาคารส่วนบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยาน เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร   

สำหรับกำลังพลทั้ง 7 นายที่เข้ารับมอบประกาศเกียรติคุณยกย่องชมเชย จากผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นกำลังพลจากหน่วยต่างๆ ของกองทัพเรือ ที่ได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนอันแสดงถึงความกล้าหาญและความเสียสละในการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุในทันทีซึ่งถือเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคมและได้สร้างภาพลักษณ์ที่ดีของกองทัพเรือให้ปรากฏต่อสาธารณชน 

ทั้งนี้ 1 พลทหารแห่งกองทัพเรือ ที่ได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนอันแสดงถึงความกล้าหาญและความเสียสละในการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุในทันที ได้แก่...

'พันจ่าเอก ทรัพย์อำนวย ศรีชม' ซึ่งได้ให้การช่วยเหลือชายชาวพม่านอนหมดสติและไม่หายใจบริเวณถนนหน้าธนาคารกรุงไทย สาขาสัตหีบ โดยได้เข้าทำการตรวจสอบและช่วยเหลือด้วยการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน CPR จนทำให้ผู้ป่วยกลับมาหายใจได้ด้วยตนเองและนำส่งตัวเข้ารับการรักษาได้อย่างปลอดภัย

โอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้กล่าวชื่นชม พันจ่าเอก สุวิทย์ อ่อนอินทร์ กำลังพลจากหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ด้วยว่า การให้การช่วยเหลือประชาชนในเหตุการณ์ดังกล่าว แสดงออกซึ่งความกล้าหาญ ไม่ลังเลที่จะเสียสละ เข้าช่วยเหลือ 

ถือเป็นบุคคลตัวอย่างของสังคม เป็นกำลังพลที่ทำให้กองทัพเรือเป็นที่เชื่อมั่นของพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายที่ได้มอบไว้ให้ในการให้การช่วยเหลือประชาชน และการกำหนดให้กำลังพลทุกนายมีความรู้ในการปฐมพยาบาลโดยวิธีช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐานหรือ CPR โดยสามารถให้การช่วยเหลือประชาชนได้ในทันทีที่ประสบเหตุ

‘รมว.พีระพันธุ์’ เป็นประธานหล่อองค์พระมหาโพธิสัตว์กวนอิมพันมือ พร้อมเปิดมูลนิธิฯ ให้ความช่วยเหลือ ปชช.ที่ประสบภัยใน จ.ราชบุรี

เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 66 ที่พุทธสถานเต๋อฮว่า อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เดินทางมาเป็นประธานในพิธีหล่อองค์พระมหาโพธิสัตว์กวนอิมพันกร พร้อมทั้งเปิดมูลนิธิวงษ์พิทักษ์ร่วมประชาชนสงเคราะห์ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย และประสบอุบัติเหตุ โดยมี นายอัครเดชร วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี และโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้การต้อนรับ

ทั้งนี้ ในพิธีดังกล่าว นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรค นำทีม สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ อาทิ นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ รองหัวหน้าพรรค, น.ส.กุลวดี นพอมรบดี สส.ราชบุรี, พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร สส.นครปฐม พร้อมข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ใน จ.ราชบุรี นำโดยนายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผวจ.ราชบุรี พ่อค้า ประชาชนชาว จ.ราชบุรีร่วมงานจำนวนมาก

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ต้องขอบคุณชาว จ.ราชบุรี ที่ได้เลือกนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ เป็น สส.ราชบุรี ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้เข้ามาเป็นตัวแทนรับใช้ประชาชนในพื้นที่ นายอัครเดชถือว่าเป็นกำลังสำคัญของตนและพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ และมีความตั้งใจที่จะทำงานเพื่อพี่น้องชาวราชบุรีอย่างจริงจังตลอดมา 

สำหรับ พรรครวมไทยสร้างชาติมุ่งมั่นที่เข้ามาทำงาน โดยนโยบายหนึ่งที่ตนตั้งใจจะทำก็คือ การแก้ปัญหาราคาพลังงานให้กับประชาชนเพราะปัญหาพลังงานเกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตของประชาชน ตนมุ่งมั่นตั้งใจว่าถ้าได้มาเป็นรัฐบาลจะพยายามปรับปรุงแก้ไขอย่างเต็มที่ เมื่อพรรครวมไทยสร้างชาติได้เป็นรัฐบาล และมีโอกาสมาทำงานตรงนี้จะทำตามที่ได้พูดไว้ ตั้งใจจะแก้ปัญหานี้ให้ยั่งยืน โดยเฉพาะการปรับโครงสร้างราคาพลังงานที่ไม่มีใครเคยทำได้มา 40 ปีจนเกิดปัญหากับประชาชน ตนและพรรครวมไทยสร้างชาติจะเข้ามาทำให้ได้ ทำให้ดี และยั่งยืนเพื่อลดภาระด้านพลังงานให้กับประชาชนได้มีชีวิตที่ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม ภายหลังเสร็จพิธี นายพีระพันธุ์พร้อมคณะได้มอบเครื่องอุปโภค-บริโภคให้กับประชาชนผู้ยากไร้ เพื่อช่วยเหลือในการดำรงชีวิต

ด้านนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า เนื่องจาก อ.จอมบึง จ.ราชบุรี เป็นพื้นที่หนึ่งที่มีชาวไทยเชื้อสายจีนมาตั้งรกรากอาศัย และทำมาหากินมาเป็นระยะเวลายาวนานแล้ว จะเห็นได้ว่าในพื้นที่มีสถาปัตยกรรมจีนต่าง ๆ ปรากฎให้เห็นมากมาย  ดังนั้นนายวุฒิพงศ์ และคุณแม่สมจิตต์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาและมารดาของตน ซึ่งเป็นคนไทยเชื้อสายจีน จึงได้มีดำริในการก่อตั้งศาลาแปดเหลี่ยมในรูปแบบสถาปัตยกรรมจีน เพื่อประดิษฐานพระโพธิสัตว์กวนอิมปางพันกร และศาลทีกง หรือ ‘ศาลเทียนสี่ฟูมู่’ หรือ ‘ศาลเทวดา ฟ้าดิน’ รวมทั้งยังได้ก่อตั้งศาลหลวงปู่ไต่ฮงกง ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะแบบหลวงพ่อพระใส พร้อมองค์ไฉ่ซิงเอี๊ย หรือ ‘เทพเจ้าแห่งโชคลาภ’ ให้พุทธศาสนิกชนโดยทั่วไปได้มากราบสักการะบูชา 

“นอกจากนี้ ยังเป็นการเริ่มต้นในการก่อตั้งมูลนิธิวงษ์พิทักษ์ร่วมประชาสงเคราะห์ เนื่องจาก อ.จอมบึง ยังไม่มีอาสาสมัครกู้ภัยอย่างเป็นทางการ ดังนั้น คุณพ่อวุฒิพงศ์ และคุณแม่สมจิตต์ มีความประสงค์ที่จะร่วมกันก่อตั้งมูลนิธิฯ เพื่อให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยและประสบอุบัติเหตุ และช่วยเหลือทางราชการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเหตุการณ์ต่างๆ ในอนาคต เราหวังว่ามูลนิธิวงษ์พิทักษ์ร่วมประชาชนสงเคราะห์ จะได้ปฏิบัติภารกิจเพื่อเป็นประโยชน์ให้กับชาว จ.ราชบุรีอย่างเต็มที่ ตามวัตถุประสงค์ของคุณพ่อวุฒิพงศ์ และคุณแม่สมต่อไป” นายอัครเดชกล่าว

‘บิ๊กป้อม’ ส่ง ‘สส.นราธิวาส พปชร.’ รุดช่วยผู้ประสบอุทกภัย ชายแดนใต้ หลังฝนตกหนักทำน้ำท่วมหลายพื้นที่ พร้อมติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด

(17 ธ.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายวานจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ติดตามสถานการณ์พายุฝน เข้าพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เนื่องจากมีความห่วงใยในสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ ที่มีฝนตกหนักต่อเนื่อง โดยเฉพาะ 4 จังหวัด คือ จังหวัดยะลา, จังหวัดนราธิวาส, จังหวัดสงขลา และจังหวัดปัตตานี โดยได้ประสานงาน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค, นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 3 และ นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 2 เข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน พร้อมติดตามสถานการณ์และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเฝ้าระวัง และให้ความช่วยเหลือ ผ่านทีมงาน สส.ในพื้นที่พปชร.อย่างต่อเนื่อง

โดยล่าสุด นายสัมพันธ์ และนายอามินทร์ ได้ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดและเข้าช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง เนื่องจากปีนี้ พายุฝนตกชุกเข้ามาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทำให้พี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งในวันนี้ ก็เตรียมระดมทีมเจ้าหน้าที่ ส่งถุงยังชีพ เพื่อช่วยเหลือเบื้องต้นให้กับพี่น้องประชาชนใน จ.นราธิวาส พร้อมสอบถามปัญหาความเดือดร้อน เพื่อนำไปสู่การประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป

‘ผบ.ทอ.’ ชื่นชม!! ‘2 กำลังพล ทอ.’ เข้าช่วยเหลือประชาชน ประสบเหตุรถคว่ำบนทางขึ้นภูทับเบิก ยกเป็นแบบอย่างที่ดี

เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 67 พลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ได้ยกย่อง ข้าราชการกองทัพอากาศ จำนวน 2 คน คือ พันจ่าอากาศเอก ณัฐพงษ์ แก้วคำ และ พันจ่าอากาศเอก ชิษณุพงศ์ นาโค ปฏิบัติราชการสนาม ณ สถานีรายงานภูหมันขาว กองบัญชาการควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ โดยขณะปฏิบัติหน้าที่ได้รับมอบหมายให้เดินทางออกจากที่ทำงานเพื่อไปจัดซื้อเสบียง ระหว่างทางได้พบรถยนต์กระบะของประชาชนเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำบนเส้นทางขึ้นภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว พันจ่าอากาศเอก ณัฐพงษ์ แก้วคำ ซึ่งทำหน้าที่พลขับได้หยุดรถและรีบเข้าไปช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบเหตุทันที ในขณะที่ พันจ่าอากาศเอก ชิษณุพงศ์ นาโค ได้ช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในที่เกิดเหตุ โดยข้าราชการทั้ง 2 คน ได้ร่วมกันช่วยเหลือผู้ประสบเหตุรถยนต์กระบะพลิกคว่ำ จำนวน 3 คน ได้อย่างปลอดภัยด้วยความกล้าหาญและเสียสละ

ทั้งนี้ พลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้แสดงความชื่นชมและยกย่องให้เป็นแบบอย่างอันดีให้แก่ข้าราชการของกองทัพอากาศ ในการดูแลเอาใจใส่ช่วยเหลือประชาชนและพร้อมเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกสถานการณ์

 

ชื่นชม!! ‘4 พยาบาลทหารอากาศหญิง’ รุดเข้าช่วยหญิงชรา หลังเป็นลมหมดสติ บริเวณทางเข้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

(5 ก.พ.67) จากกรณีที่นาวาอากาศเอกหญิง วัลลภา อันดารา รองผู้อำนวยการวิทยาลัยพยาบาลทหารอากาศ พร้อมด้วยคณะอาจารย์ นาวาอากาศโทหญิง ชญาพัฒน์ ทองปากน้ำ, นาวาอากาศตรีหญิง อุษณีย์ บุญบรรจบ และเรืออากาศโทหญิง ภัทรพร โชคสมงาม ร่วมเดินทางส่งนักเรียนพยาบาลทหารอากาศ นันท์นภัส เภสัชชา ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเดินทางไปศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตร์ ณ สาธารณรัฐเกาหลี 

โดยขณะเดินทางกลับ คณะอาจารย์ พบผู้สูงอายุ มีอาการวูบ หน้ามืด และล้มนอนข้างถนน ทางเข้าออกท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดย คณะอาจารย์ได้ร่วมกันช่วยปฐมพยาบาลจนอาการดีขึ้นและส่งต่อให้พยาบาลของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิดูแลต่อ 

ทั้งนี้ พลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศแสดงความชื่นชมต่อความมีจิตสาธารณะของคณะอาจารย์ ในการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุได้อย่างทันท่วงที และแสดงถึงจรรยาบรรณของวิชาชีพพยาบาลในการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ จนรอดพ้นภาวะอันตราย เป็นแบบอย่างที่ดีของข้าราชการกองทัพอากาศ ในการมีจิตสาธารณะ

‘วราวุธ’ ส่งทีม ‘ศรส.-พมจ.นนทบุรี’ เร่งช่วยชายสูงวัยตาบอด เตรียมพาตรวจสุขภาพ หลังอาศัยในบ้านกองขยะ-ไร้น้ำไร้ไฟ

(17 ก.พ. 67) ที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยถึงกรณีกระทรวง พม.ให้การช่วยเหลือชายสูงวัย อายุ 65 ปี พิการตาบอดข้างหนึ่ง ส่วนตาอีกข้างมองเห็นลางๆ อาศัยเพียงลำพังในบ้านเก่าสภาพผุพังทรุดโทรม ภายในบ้าน และรอบบ้านเต็มไปด้วยขยะ และไม่มีน้ำประปา-ไฟฟ้า ในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี ว่า ขณะนี้ หน่วยงานของกระทรวงพม. ทั้งทีมพม.หนึ่งเดียว และ พม.จังหวัดนนทบุรี ได้ลงพื้นที่เข้าไปช่วยเหลือดูแลคุณตาคนดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการซ่อมแซม ปรับปรุงสภาพของบ้านที่พักอาศัย สำหรับผู้สูงอายุและคนพิการ การติดตั้งน้ำประปา-ไฟฟ้า การติดต่อญาติพี่น้องว่ามีบุตรหลาน หรือว่าคนรู้จักเป็นญาติอยู่ที่ไหน ในการที่จะช่วยดูแล และเรื่องกรรมสิทธิ์โฉนดที่ดินที่คุณตาอาศัยอยู่ และการมอบเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้สูงอายุ ซึ่งขณะนี้ คุณตาได้รับเบี้ยความพิการ และเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ อีกทั้งจะหาเจ้าหน้าที่เข้าดูแลรายเคส เข้าไปดูแลอย่างสม่ำเสมอ ในเบื้องต้นนี้ก่อน ส่วนเรื่องการที่จะย้ายคุณตาไปอยู่ที่ไหน คงจะต้องดูในระยะต่อไป

ทั้งนี้ วันที่ 19 ก.พ. 67 ทางเทศบาลนครนนทบุรี จะเข้าไปช่วยทำความสะอาดภายในบ้านและบริเวณโดยรอบ และวันที่ 20 ก.พ. 67 ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน หรือ ‘ศรส.จ.นนทบุรี’ ของกระทรวงพม. จะพาคุณตาไปตรวจสุขภาพ นอกจากนี้ ศรส.จ.นนทบุรี และเทศบาลนครนนทบุรี จะช่วยกันติดตามช่วยเหลือดูแลคุณตาเป็นระยะๆ อีกด้วย

นายวราวุธ กล่าวต่อไปว่า ต้องขอขอบคุณสื่อมวลชนที่ได้แจ้งข่าว จนทำให้ทางกระทรวง พม. หรือแม้แต่ทีมงานเจ้าหน้าที่ของกระทรวง พม. สามารถเข้าไปช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องกลุ่มเปราะบางได้ ซึ่งต้องเรียนว่าในประเทศไทยยังมีพี่น้องกลุ่มเปราะบางอีกจำนวนมากในทุกๆ จังหวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดที่มีความเป็นอยู่ที่หนาแน่น มีปริมาณประชากรที่เยอะ ทำให้บางครั้งจะทำให้การเข้าไปถึงในแต่ละครอบครัวนั้น อาจจะไม่ละเอียดเท่าที่ควร

ดังนั้น การบูรณาการการทำงาน การพูดคุยกัน ข้ามหน่วยงานของทุกๆฝ่ายนั้น เป็นหัวใจสำคัญ คงจะไม่ใช่หน้าที่ของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง หรืออาสาสมัครของกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง แต่เป็นการทำงานร่วมกัน การแชร์ข้อมูลกัน การบอกต่อซึ่งกันและกัน เพราะว่าบางครั้ง เมื่อเราไปทำงาน จะไปพบปะกับเหตุการณ์ต่างๆ แล้วนำมาบอกเล่ากันว่า เกิดปัญหาตรงนั้นตรงนี้ ซึ่งการแชร์ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นหนทางในการที่ทำให้ทุกหน่วยงานเรียกว่ารัฐบาล สามารถเข้า ไปแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้อย่างทันท่วงที

ซึ่งแน่นอน อาจจะมีตกหล่นบ้าง ต้องกราบขออภัยจริงๆ แต่ในบริบทของกระทรวง พม. นั้น เรามีแนวทางในการที่จะเข้าไปเยียวยา สนับสนุน ดูแล แก้ไขปัญหาในทุกๆ บริบท เพียงแต่ว่าบางครั้ง ถ้าหากมีคนแจ้งเหตุเข้ามาแล้ว กระทรวง พม. จะรีบส่งทีมปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วของศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน หรือ ศรส. เข้าไปแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น และหลังจากนั้น เราจะดูว่าการช่วยเหลือในระยะกลางและระยะยาว จะสามารถแก้ไขให้คุณภาพชีวิตของบุคคลนั้นดีขึ้นได้อย่างไร

นอกจากนี้ นายวราวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากพบเห็นผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อน สามารถโทรแจ้งมาที่ ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน หรือ ศรส. ผ่านฮอตไลน์ 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกระทรวง พม. มีทีมปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว พร้อมลงพื้นที่ช่วยเหลือทันที

‘วราวุธ’ ส่งทีม ‘ศรส.- พม.’ รุดเยี่ยมคุณยายป่วยร่างกายผิดรูป พร้อมเร่งประสานหน่วยงานเข้าช่วยเหลือ ให้ได้สิทธิคนพิการ

(26 ก.พ.67) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการเผยแพร่คลิป วอนช่วยเหลือ คุณยายป่วยร่างกายผิดรูป เดินคล้ายคนคอหัก หันหน้าไม่ได้ ย่านอารีย์ กทม. ล่าสุด วันนี้ (26 ก.พ. 67) เวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิการเคลื่อนที่เร็ว ศรส. หรือ ‘ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน’ กระทรวง พม. พร้อมด้วยศูนย์คุ้มครองคนไทยที่พึ่งกรุงเทพมหานคร ได้ลงพื้นที่บริเวณชุมชนวัดมะกอกกลางสวน เขตพญาไท กรุงเทพฯ พบ คุณยายตามที่รับแจ้ง อายุ 69 ปี มีสภาพร่างกายคอผิดรูป ป่วยด้วยโรคพาร์กินสัน อาศัยอยู่ที่บ้านกับสามีอายุ 73 ปี บุตรสาวอายุ 44 ปี และหลานอายุ 15 ปี

นายวราวุธ กล่าวว่า จากข้อมูลทราบว่า คุณยายป่วยด้วยโรคพาร์กินสันตั้งแต่ปี 2561 และมีอาการคอผิดรูปในช่วงปี 2564 และป่วยติดเตียงมาตลอด จนกระทั่งปี 2566 มีอาการดีขึ้น จึงสามารถเดินได้ ปัจจุบันรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลในพื้นที่ แต่แพทย์ยังไม่ออกใบรับรองความพิการ โดยปกติคุณยายมักจะออกไปเก็บของเก่าย่านอารีย์ มีรายได้ประมาณวันละ 100 บาท ซึ่งจะเดินออกไปประมาณ 3 ชั่วโมง แล้วกลับบ้านเพื่อมาทานยาตามเวลา จนกระทั่งเมื่อ 2 วันที่แล้ว ได้หายออกไปและไม่ได้กลับบ้านตามเวลา ทำให้ไม่ได้กินยา ไม่มีแรง ซึ่งมีคนพบคุณยายไปนอนอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ จึงแจ้งสามีให้ไปรับ สำหรับรายได้ของครอบครัวมาจากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ขายข้าวโพดปิ้ง และเก็บของเก่า

นายวราวุธ กล่าวว่า สำหรับแนวทางการช่วยเหลือ ทางศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งกรุงเทพมหานคร ได้มอบถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น และจะดำเนินการสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้การช่วยเหลือบุตรสาวผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวที่มีรายได้น้อย อีกทั้ง ทาง ศรส. ได้ประสานกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) และกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) ให้การช่วยเหลือตามสิทธิสวัสดิการคนพิการและผู้สูงอายุ โดยนัดลงพื้นที่เยี่ยมคุณยายร่วมกันอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (27 ก.พ. 67) และประสานโรงพยาบาลเพื่อประเมินความพิการ สำหรับการรับสิทธิสวัสดิการคนพิการต่อไป

นายวราวุธ กล่าวว่า หากพบเห็นผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อนทางสังคม ขอให้โทรแจ้งมาที่ ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) กระทรวง พม. ผ่านฮอตไลน์ 1300 บริการตลอด 24 ชั่วโมง โดยหน่วยปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว ศรส. พร้อมลงพื้นที่ช่วยเหลืออย่างรวดเร็วทันที

‘ตร.ขอนแก่น’ หวังดีช่วยเหลือชาวบ้านน้ำมันหมด แต่ดันเติมผิดประเภท พร้อมยืดอกรับผิด ขอรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทุกประการ

(25 มี.ค. 67) เพจเฟซบุ๊ก สภ.เมืองขอนแก่น ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงเกี่ยวกับกรณี ตำรวจ สภ.ขอนแก่น ได้เข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนที่น้ำมันรถยนต์หมด จึงได้นำน้ำมันไปเติมให้กับรถยนต์คันดังกล่าวของประชาชน ซึ่งต่อมามีชาวเน็ตเข้ามาทักท้วงว่า เติมน้ำมันผิดชนิดหรือไม่นั้น

ล่าสุด เพจ สภ.เมืองขอนแก่น ได้ออกมาโพสต์ยอมรับกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และจะรับผิดชอบกับค่าเสียหายทั้งหมด

พร้อมระบุข้อความว่า รายงานเหตุการณ์เข้าช่วยเหลือรถประชาชนน้ำมันหมด สภ.เมืองขอนแก่น ขอรายงานเหตุการณ์ วันนี้ (24 มี.ค.67) เวลา 14.30 น. ร.ต.ท.วรทรรศน์ กัสนุกา รอง สว.(ป.)ฯ ปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวรประจำการ (20-1) พร้อมด้วย จ.ส.ต.ฉัตรชัย เมืองทอง ระหว่างออกตรวจได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุแก่นนคร แจ้งว่าประชาชนรถยนต์น้ำมันหมดขอความช่วยเหลือ โดยได้ไปซื้อน้ำมัน จำนวน 300 บาท ตามที่เจ้าของรถแจ้งมาและนำไปเติมให้เรียบร้อย จากนั้นได้โพสต์ข้อความลงในโซเชียลเฟซบุ๊ก ได้มีคอมเมนต์แจ้งว่าได้เติมน้ำมันผิดประเภท

ต่อมาเวลา 20.00 น. จึงได้ทำการตรวจสอบที่ปั๊มน้ำมัน พบว่าได้ซื้อน้ำมันผิดจริง (ดีเซล B7) ซึ่งเกิดจากการสื่อสารกันคลาดเคลื่อน โดย สภ.เมืองขอนแก่น จะรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทุกประการและกราบขออภัยเจ้าของรถที่เกิดเหตุการณ์นี้

“เราดูแลคุณ เพื่อให้คุณไปดูแลประชาชน”


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top