Friday, 30 May 2025
ค้นหา พบ 48455 ที่เกี่ยวข้อง

อุบลราชธานี-ด่วน!!! 'เสียงปืนแตก' ยิงปะทะทหารกัมพูชาที่ช่องบก ล่าสุดทหารไทยปลอดภัย ยังคงตรึงกำลังเข้มในพื้นที่

(28 พ.ค.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ว่าเมื่อเวลา 05.30 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี รายงานว่าได้เกิดเหตุปะทะกับกำลังทหารกัมพูชาที่เข้ามาวางกำลังในพื้นที่อ้างสิทธิ์ ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อตกลงระหว่างสองประเทศ

ฝ่ายไทยได้ส่งชุดประสานงานเข้าพูดคุยตามแนวทางปกติ แต่เกิดความเข้าใจผิดจากฝ่ายกัมพูชาที่เข้าใจว่าเป็นการเคลื่อนกำลัง จึงเปิดฉากใช้อาวุธยิงใส่ ทำให้ฝ่ายไทยต้องตอบโต้ โดยการปะทะกินเวลาราว 10 นาที

ต่อมาในเวลา 05.55 น. พลตรี ทล โซะวัน รองผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ของกัมพูชา ได้โทรศัพท์ประสานกับ พันเอก บุญเสริม บุญบำรุง รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ฝ่ายไทย เพื่อยุติการปะทะ ทั้งสองฝ่ายตกลงหยุดยิงและตรึงกำลังในพื้นที่

ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาผ่านกลไกทวิภาคี เพื่อหาข้อยุติในประเด็นการอ้างสิทธิ์ และวางแนวทางปฏิบัติร่วมกันอย่างสันติ โดยกองทัพบกยืนยันว่า กำลังพลฝ่ายไทยทุกนายปลอดภัย ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต พร้อมรายงานความคืบหน้าเพิ่มเติมให้ทราบในโอกาสต่อไป

‘พระแก้วนพรัตน์เมืองอุบล’ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ คู่ราชธานีแห่งอีสาน (๒) | THE STATES TIMES Story EP.170

'จังหวัดอุบลราชธานี’ เป็นหนึ่งในจังหวัดของไทยที่มี ‘พระแก้ว’ หรือ พระพุทธรูปที่ทำจากแก้วมงคลมากที่สุดในประเทศไทย โดยตามความเชื่อแล้ว แก้ว 9 ประการ ได้แก่ เพชร มณี มรกต บุษราคัม โกเมน นิลกาฬ มุกดา เพทาย และไพฑูรย์ 

นอกจากนี้ยังมีความเชื่อว่าหากมีครบทั้ง 9 บ้านเมืองนั้นจะเจริญเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งอุบลฯ มี ‘พระแก้ว’ ประดิษฐานอยู่ถึง 6 องค์ ทั้งยังเชื่อว่าอีก 3 องค์ก็มีอยู่เพียงแต่ยังค้นหาไม่พบ

วันนี้ THE STATES TIMES Story ได้หยิบยกเรื่องราวของ ‘พระแก้ว’ ได้แก่ ‘พระแก้วโกเมน’ / ‘พระแก้วนิลกาฬ’ / ‘พระแก้วมรกต’ / ‘พระแก้วมณีแดง’ / ‘พระแก้วหยดน้ำค้าง’ มาเล่าสู่กันฟัง เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ไปฟังกันเลย…

‘ศูนย์คุณธรรม’ ผนึกภาคีเครือข่ายสื่อมวลชนทั่วปท. จัดอบรมพัฒนาศักยภาพเสริมบทบาทสื่อสร้างสรรค์

ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) ร่วมกับภาคีเครือข่ายสื่อมวลชน จัดอบรมหลักสูตร “พัฒนาศักยภาพแกนนำเครือข่ายสื่อพลังบวก สร้างสรรค์สังคมไทย” เสริมบทบาทสื่อสร้างสรรค์ สร้างสื่อพลังบวก

(28 พ.ค.68) ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) ร่วมกับภาคีเครือข่ายสื่อมวลชน จัดอบรมหลักสูตร “พัฒนาศักยภาพแกนนำเครือข่ายสื่อพลังบวก สร้างสรรค์สังคมไทย” โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 70 คนจากสื่อส่วนกลาง และสื่อท้องถิ่นจังหวัดต่างๆ จาก 4 ภูมิภาค ทั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม กล่าวเปิดอบรมโดยเน้นว่า “สื่อคือพลังเปลี่ยนแปลงสังคม หากสื่อนำเสนอด้วยเจตนาและคุณธรรม สังคมไทยจะแข็งแรงจากภายใน” พร้อมย้ำถึงบทบาทของศูนย์คุณธรรมในการส่งเสริมคุณธรรมผ่านนโยบายและการสร้างเครือข่ายทางสังคม

ขณะเดียวกัน นายจักร์กฤษ เพิ่มพูล กรรมการนโยบายไทยพีบีเอส ในฐานะประธานเครือข่ายสื่อคุณธรรม ได้กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมอบรมว่า “ในยุคที่ข้อมูลล้นทะลัก เราต้องการ ‘สื่อ’ ที่ไม่เพียงแต่มีความไว แต่ต้องมีคุณธรรมและจริยธรรมในการนำเสนอ” พร้อมเปิดใจว่าการจัดอบรมครั้งนี้คือพื้นที่ในการเชื่อมโยงคนสื่อที่มีอุดมการณ์เดียวกัน

วัตถุประสงค์ของการอบรมครั้งนี้ คือการยกระดับความรู้ความเข้าใจด้านคุณธรรม จริยธรรม และการใช้สื่ออย่างสร้างสรรค์ในยุคดิจิทัล พร้อมเปิดเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เสริมสร้างกลไกเครือข่ายสื่อที่มีพลังบวกและมีอุดมการณ์ร่วมในการขับเคลื่อนคุณธรรมในสังคมในประเด็นสำคัญ อาทิ บทบาทของสื่อในยุค AI และออนไลน์ , กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) , จริยธรรมวิชาชีพและแนวทางสร้างสื่อปลอดภัย , การสื่อสารคุณธรรมและความหวังในบริบทสังคมไทย

กิจกรรมภายในงานประกอบด้วยการบรรยายโดยผู้เชี่ยวชาญ เช่น นายระวี ตะวันธรงค์ ที่ปรึกษาสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ และกรรมการจริยธรรม สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ , นายอภิศิลป์ ตรุงกานนท์ ผู้ก่อตั้ง เว็บไซต์ Pantip.com , นายโกศล สงเนียม เลขาธิการสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และการเสวนธุรกิจกับการอยู่รอดขององค์กรสื่อ เช่น นายสกล ถาวรกาญจน์ สถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ. FM 91, นายสัมฤทธิ์ เจียมเจริญพรกุล บรรณาธิการ ATV,นายวิรุฬ รัตนปริคณน์ สถานีโทรทัศน์ TNN 2 รวมถึงนักวิชาชีพสื่อมวลชนอีกหลายท่าน โดยมีเวิร์กช็อปกลุ่มย่อย การระดมความคิดเห็น และข้อเสนอระดับพื้นที่และเชิงนโยบายด้านสื่อคุณธรรม เพื่อสร้าง “แกนนำสื่อ” ที่มีอุดมการณ์ในการใช้พลังของสื่ออย่างสร้างสรรค์ต่อไป

การอบรมปิดท้ายด้วยการมอบเกียรติบัตรให้แก่ผู้เข้าร่วมอบรม โดย รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม พร้อมร่วมกันประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันในการสร้างสื่อเพื่อสังคมคุณธรรมอย่างยั่งยืนต่อไป

ทหารกัมพูชา ดับ 1 จากการปะทะทหารไทยที่ ‘เขาช่องบก’ โฆษก ‘ทบ.กัมพูชา’ อ้างไทยเริ่มก่อน ทำเหตุการณ์บานปลาย

(28 พ.ค. 68) จากกรณีเหตุยิงปะทะกันระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชา บริเวณชายแดนพื้นที่พิพาท เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยโฆษกกองทัพกัมพูชา เหมา พัลลา ระบุว่า ทหารกัมพูชากำลังลาดตระเวนตามปกติ ก่อนถูกฝ่ายไทยเปิดฉากยิง

ด้านกองทัพไทยชี้แจงว่า ทหารกัมพูชาได้เข้ามาในพื้นที่พิพาท จึงส่งกำลังไปเจรจา แต่เกิดความเข้าใจผิด ทำให้ฝั่งกัมพูชาเป็นฝ่ายยิงก่อน และไทยจึงตอบโต้ การปะทะยืดเยื้อราว 10 นาที ก่อนที่ผู้บังคับบัญชาท้องถิ่นจะสื่อสารกันและสั่งหยุดยิง

กัมพูชาระบุว่ามีทหารเสียชีวิต 1 นาย และได้เคลื่อนย้ายศพออกจากพื้นที่เพื่อประกอบพิธี ขณะที่ฝ่ายไทยยืนยันว่าไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้

ไทยและกัมพูชามีประวัติข้อพิพาทเรื่องดินแดนมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะบริเวณเขาพระวิหาร ซึ่งได้รับสถานะมรดกโลกเมื่อปี 2551 และศาลโลกตัดสินให้กัมพูชามีอธิปไตยในปี 2556 ซึ่งก่อนหน้านี้ในเดือนกุมภาพันธ์ก็เคยเกิดเหตุปะทะเล็กน้อยจากกรณีกำลังพลกัมพูชานำครอบครัวเข้าพื้นที่และร้องเพลงชาติใกล้ชายแดน ทำให้เกิดความตึงเครียดขึ้น

29 พฤษภาคม พ.ศ. 2528 ครบรอบ 40 ปี โศกนาฏกรรมเฮย์เซล หนึ่งในเหตุการณ์สุดเลวร้ายในโลกฟุตบอล

วันนี้เมื่อ 40 ปีก่อน เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งโศกนาฏกรรมที่ยากจะลืมเลือน เพราะถือเป็นเรื่องเลวร้ายที่สุดเรื่องหนึ่งในโลกฟุตบอล ณ เฮย์เซล สเตเดียม (คิง โบดวง สเตเดียม ปัจจุบัน) ในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม สังเวียนนัดชิงชนะเลิศระหว่างสโมสรลิเวอร์พูล กับ ยูเวนตุสในศึกฟุตบอลยูโรเปี้ยนคัพ หรือ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในปัจจุบัน ในวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2528 (ค.ศ.1985)

เหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นจากแฟนฟุตบอลทั้งสองฝ่ายทะเลาะกันส่งผลให้อัฒจันทร์พังลงมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 39 คน เป็นชาวอิตาลีแฟนบอลยูเวนตุส 32 คน, เบลเยียม 4 คน, ฝรั่งเศส 2 คน, และไอร์แลนด์ 1 คน รวมถึงมีบาดเจ็บอีกกว่า 600 คนเลยทีเดียว

จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ลิเวอร์พูลถูกสั่งห้ามเข้าแข่งขันฟุตบอลยุโรปทุกรายการเป็นเวลา 6 ปี เช่นเดียวกับทุกสโมสรในอังกฤษก็ถูกสั่งห้ามเข้าแข่งขันฟุตบอลยุโรปทุกรายการเป็นเวลา 5 ปี


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top