Wednesday, 14 May 2025
ค้นหา พบ 48047 ที่เกี่ยวข้อง

‘อังกฤษ’ ออกกฎใหม่!! คุมเข้ม!! คนเข้าเมือง ยกระดับวีซ่าทำงาน!! เทียบเท่าปริญญาตรี

(12 พ.ค. 68) Amthaipaper (หนังสือพิมพ์ไทยในอังกฤษ) รายงานว่า รัฐบาลสหราชอาณาจักรภายใต้การนำของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อีเว็ตต์ คูเปอร์ ประกาศปฏิรูประบบตรวจคนเข้าเมืองครั้งใหญ่ โดยมีเป้าหมายหลักในการลดจำนวนผู้อพยพอย่างจริงจัง  
ประเด็นสำคัญในนโยบายใหม่นี้  
•  ยกระดับเกณฑ์วีซ่าทำงาน (Skilled Worker Visa)
จากเดิมที่พิจารณาจากระดับทักษะต่ำ จะปรับขึ้นเป็น RQF ระดับ 6 เทียบเท่าปริญญาตรี เท่านั้น
•  จำกัดวีซ่าทำงานทักษะต่ำ อนุญาตเฉพาะตำแหน่งงานที่ ขาดแคลนอย่างมาก และจะเป็นการอนุญาตแบบ ชั่วคราว เท่านั้น
•  ส่งเสริมการจ้างงานคนในประเทศ
รัฐบาลจะสนับสนุนให้นายจ้าง ฝึกอบรมแรงงานภายในประเทศ มากขึ้น เพื่อลดการพึ่งพาแรงงานจากต่างชาติ
•  ตั้งกลุ่มวิเคราะห์ตลาดแรงงาน (LMEG) จัดตั้ง Labour Market Evidence Group (LMEG) เพื่อวิเคราะห์ปัญหาด้านทักษะแรงงาน และเสนอแนะแนวทางแก้ไข
•  เร่งรัดการส่งกลับผู้พำนักผิดกฎหมาย
มีการดำเนินการส่งกลับผู้ที่พำนักอยู่ในสหราชอาณาจักรโดยไม่มีสิทธิ์แล้วกว่า 24,000 คน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2024
•  ยังคงเปิดรับผู้มีทักษะสูง
รัฐบาลยืนยันว่าจะยังคงเปิดรับ “ผู้มีทักษะสูง” จากต่างประเทศ แต่ต้องเป็นผู้ที่มีความสามารถเป็นที่ต้องการจริง
•  ขยายระยะเวลาขอสัญชาติ
ผู้ยื่นขอสัญชาติจะต้องอาศัยอยู่ในสหราชอาณาจักรเป็นเวลา 10 ปี (จากเดิม 5 ปี)
•  Fast-track สำหรับผู้มีส่วนร่วมสูง
ผู้ที่มี "ส่วนร่วมสูง" ต่อเศรษฐกิจและสังคม เช่น แพทย์ พยาบาล หรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง จะสามารถยื่นขอสัญชาติได้เร็วขึ้น
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับคนไทยในสหราชอาณาจักร   
•  ผู้ถือวีซ่าทำงานต่ำกว่าระดับปริญญา
คนไทยที่ทำงานสายงานที่ไม่จำเป็นต้องมีวุฒิปริญญา เช่น ผู้ดูแลผู้สูงอายุ (care workers), แม่บ้าน, พนักงานบริการร้านอาหาร อาจ ไม่สามารถต่อวีซ่า หรือขอวีซ่าใหม่ ได้ง่ายเหมือนเดิม
•  โอกาสทำงานของนักเรียนไทยลดลง
น้องๆ นักเรียนไทยที่เรียนจบและต้องการอยู่ทำงานต่อ อาจต้องแสดงให้เห็นว่าได้งานใน ระดับปริญญา และได้รับ ค่าจ้างตามเกณฑ์ที่สูงขึ้น
•  ธุรกิจไทยในสหราชอาณาจักร
ร้านอาหารไทย หรือธุรกิจไทยขนาดเล็กที่พึ่งพาแรงงานจากไทย อาจประสบปัญหา
•  แรงกดดันด้านกฎหมายและวีซ่า
คนที่อยู่ในสหราชอาณาจักรโดย ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย หรืออยู่เกินระยะวีซ่า อาจถูก ตรวจสอบและผลักดันออกนอกประเทศ เข้มงวดมากขึ้น
•  การปรับตัวของชุมชนไทย
พี่น้องคนไทยอาจต้อง พัฒนาทักษะและวุฒิการศึกษา ให้สูงขึ้น หรือพิจารณา เปลี่ยนประเภทวีซ่า เช่น วีซ่านักเรียน วีซ่าคู่สมรส หรือวีซ่าธุรกิจ
คำแนะนำสำหรับพี่น้องคนไทย
•สำหรับผู้ที่ถือวีซ่าทำงานในปัจจุบัน ควรตรวจสอบเงื่อนไขวีซ่าของตนเองอย่างละเอียด และเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น
• น้องๆ นักเรียนไทย ควรวางแผนการศึกษาและเส้นทางอาชีพในอนาคต โดยคำนึงถึงนโยบายใหม่นี้
• ธุรกิจไทยควรพิจารณาแผนการจ้างงานในระยะยาว และอาจต้องลงทุนในการฝึกอบรมพนักงานที่มีอยู่
• หากต้องการขอสัญชาติ ควรวางแผนการอยู่ในสหราชอาณาจักรในระยะยาว และพิจารณาแนวทางการพัฒนาทักษะเพื่อเพิ่มโอกาสในการเป็น "ผู้มีส่วนร่วมสูง"

‘ดร.อภิชาต’ โพสต์ข้อความขอบคุณ คณะผู้ก่อการร่วมก่อตั้งศูนย์ฯ EEC Aviation เผย!! มีความเชี่ยวชาญผลิตบุคลากร ยกระดับการศึกษาด้านอากาศยาน แบบ EEC Model

(12 พ.ค. 68) ดร.อภิชาต ทองอยู่ ประธานคณะทำงานประสานงานด้านการพัฒนาบุคลากรในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก EEC HDC ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ...

ศูนย์ฯ EEC Aviation ที่ มทร.ธัญญบุรี เป็นศูนย์เครือข่ายความเชี่ยวชาญการผลิตบุคลากร & ยกระดับการศึกษาด้านอากาศยานตามนโยบายในการตอบโจทย์การลงทุนและการพัฒนาบุคลากรยุคใหม่แบบ EEC Model ที่พัฒนาขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง EEC - มทร.ธัญญบุรี - Lion Air (EEC+สถาบันการศึกษา+ภาคอุตสาหกรรม) มุ่งปรับสร้าง Eco system ในระบบการศึกษาและการผลิตบุคลากรสู่อุตสาหกรรมอากาศยานฯ ที่เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) 

การสร้างความก้าวหน้าตามเป้าหมายการผลิต-ยกระดับบุคลากรของศูนย์ฯนี้ขับเคลื่อนไปอย่างก้าวหน้าต่อเนื่องทั้งมิติของการจัดการศึกษา การผลิตบุคลากร และการยกระดับทักษะบุคลากร ตลอดจนถึงความร่วมมือกับกลุ่มอุตสาหกรรมอากาศยาน ฯ บนฐานความร่วมมือและถ่ายทอดเทคโนโลยีร่วมกับภาคอุตสาหกรรมการบินและอากาศยานตลอดมา...

ปัจจุบัน ศูนย์เครือข่ายเชี่ยวชาญอากาศยาน EEC, สถาบันการบินแห่ง มทร.ธัญบุรี ได้ผ่านการตรวจรับรองยกระดับเป็นสถาบันฝึกอบรมนายช่างภาคพื้นดิน ( MTO Part 147) จาก CAAT ใน Phase 4 ได้ใบประกาศรับรองอย่างเป็นทางการแล้ว การสร้างงานของสถาบันฯจึงยกระดับปรับฐานการศึกษา-การสร้างคนสู่อุตสาหกรรมการบินตามมาตรฐานสากล! นับเป็นอีกก้าวของสถาบันที่ฟันฝ่าทุกอุปสรรค์และสร้างงาน-สร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วนมาจนถึงวันนี้! สถาบันฯช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมอากาศยานของประเทศ ที่มีมูลค่าหลายแสนล้านในแต่ละปี! โดยเฉพาะในช่วงที่กำลังมุ่งสร้างประเทศสู่การเป็น Hub ด้านอากาศยาน & การซ่อมบำรุงอากาศยานที่กำลังเร่งดำเนินอยู่ที่ "อู่ตะเภา" เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) อย่างมุ่งมั่น!!

ผมในฐานะประธาน คทง.EEC HDC ต้องขอขอบคุณคณะผู้ก่อการร่วมก่อตั้งศูนย์ฯ EEC Aviation ดร.นิพนธ์ - ผอ.สถาบันฯ/ ดร.ถวัลย์ เที่ยนทอง ผู้แทน Lion Air จากอุตสาหกรรมการบิน/ คทง. EEC HDC ทุกท่าน/ ดร.ณิชากร ทองเปลว ผอ.MDD สกพอ./ รวมถึงท่านอธิการ มทร.ธัญญบุรี ดร.สมหมาย/ ที่ทุกท่าน-ทุกภาคส่วนได้ร่วมสนับสนุนขับเคลื่อนศูนย์ฯและสถาบันการบินฯต่อเนื่องมาจนวันนี้! นับเป็นอีกความก้าวหน้า-ที่บ้านเมือง & สังคมร่วมภูมิใจได้อย่างเต็มภาคภูมิ

‘จีน - สหรัฐฯ’ เดินหน้าเจรจาการค้า แก้ไขปัญหาภาษี เน้น!! เคารพซึ่งกันและกัน อยู่ร่วมกันอย่างสันติ

(12 พ.ค. 68) เพจเฟซบุ๊ก ‘Jaroensook Limbanchongkit Pone’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า …

การเจรจาการค้าระหว่าง #จีน และ #สหรัฐฯ คืบหน้าไปมาก

ทั้งจีนและสหรัฐต่างชื่นชมความคืบหน้าที่เกิดขึ้นระหว่างการเจรจาการค้าที่เจนีวาเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมุ่งลดความตึงเครียดที่เกิดจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ

รองนายกรัฐมนตรีจีน เหอ หลี่เฟิง ผู้นำด้านการค้าและเศรษฐกิจจีน-สหรัฐ พบกับผู้นำของสหรัฐ ได้แก่ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐ สก็อตต์ เบสเซนต์ และผู้แทนการค้าสหรัฐ เจมีสัน กรีร์ ที่เจนีวาเมื่อวันเสาร์และวันอาทิตย์ นับเป็นการประชุมระดับสูงครั้งแรกระหว่างทั้งสองฝ่ายนับตั้งแต่สงครามภาษีตอบโต้กันครั้งล่าสุด

“บรรยากาศของการประชุมเป็นไปอย่างตรงไปตรงมา เจาะลึก และสร้างสรรค์ การประชุมมีความคืบหน้าไปมากและมีฉันทามติที่สำคัญ” เขากล่าวในการแถลงข่าวเมื่อเย็นวันอาทิตย์

เขากล่าวว่าทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกันที่จะจัดตั้งกลไกการปรึกษาหารือเกี่ยวกับประเด็นการค้าและเศรษฐกิจ ระบุผู้นำของแต่ละฝ่าย และจะดำเนินการปรึกษาหารือเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นการค้าและเศรษฐกิจที่ทั้งสองฝ่ายมีความกังวลร่วมกัน

ทั้งสองฝ่ายจะสรุปรายละเอียดที่เกี่ยวข้องโดยเร็วที่สุดและจะออกแถลงการณ์ร่วมที่บรรลุในการประชุมในวันจันทร์นี้ ตามที่นายเหอกล่าว

เมื่อถูกถามว่าจะออกแถลงการณ์ร่วมในวันจันทร์นี้เมื่อใด นายหลี่เฉิงกัง ผู้เจรจาการค้าระหว่างประเทศและรองรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของจีน ตอบว่าหากอาหารจานนี้อร่อย เวลาก็ไม่ใช่ปัญหา

นายหลี่กล่าวว่า "ไม่ว่าแถลงการณ์นี้จะออกเมื่อใด จะเป็นข่าวใหญ่และเป็นข่าวดีสำหรับโลก"

นายเหอ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณรัฐบาลสวิสที่เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งนี้ และเขายังกล่าวอีกว่า "ความเป็นมืออาชีพและความขยันขันแข็ง" ของเพื่อนร่วมงานชาวอเมริกันนั้น "น่าประทับใจ"

เขากล่าวว่าในช่วงกว่าสามเดือนที่ผ่านมา สงครามการค้าโลกที่สหรัฐฯ เป็นผู้ก่อขึ้นได้ดึงดูดความสนใจจากทั่วโลก

ภาษีศุลกากรที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ กำหนดให้กับจีนตั้งแต่ต้นปีรวมแล้วสูงถึง 145 เปอร์เซ็นต์ โดยภาษีศุลกากรรวมของสหรัฐฯ ต่อสินค้าจีนบางรายการสูงถึง 245 เปอร์เซ็นต์ จีนตอบโต้ด้วยภาษีศุลกากรต่อสินค้าสหรัฐฯ ถึง 125 เปอร์เซ็นต์ สถานการณ์นี้ถูกบางคนอธิบายว่าเป็นเหมือนการคว่ำบาตรทางการค้า

“จุดยืนของจีนต่อสงครามการค้าครั้งนี้ชัดเจนและสม่ำเสมอ นั่นคือ จีนไม่ต้องการทำสงครามการค้า เพราะสงครามการค้าไม่ได้ทำให้มีผู้ชนะ แต่ถ้าสหรัฐฯ ยืนกรานที่จะบังคับให้จีนทำสงครามนี้ จีนจะไม่กลัวและจะสู้จนถึงที่สุด” เขากล่าว โดยย้ำจุดยืนของจีน

เขากล่าวว่าการพบปะครั้งนี้มีประโยชน์และเป็นก้าวแรกที่สำคัญที่ทั้งสองฝ่ายดำเนินการเพื่อแก้ไขความแตกต่างอย่างเหมาะสมผ่านการเจรจาอย่างเท่าเทียม เพื่อเชื่อมช่องว่างความแตกต่างและกระชับความร่วมมือ

เขาย้ำว่าธรรมชาติของการค้าและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างจีนและสหรัฐฯ เป็นประโยชน์ร่วมกันและเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย

“สิ่งสำคัญคือการปฏิบัติตามหลักการเคารพซึ่งกันและกัน การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย และการหาหนทางแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสมผ่านการพูดคุยและปรึกษาหารืออย่างเท่าเทียม เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่มีเสถียรภาพ มั่นคง และยั่งยืน” เขากล่าว

เขากล่าวว่าฝ่ายจีนพร้อมที่จะทำงานร่วมกับฝ่ายสหรัฐฯ เพื่อปฏิบัติตามฉันทามติสำคัญที่ผู้นำทั้งสองประเทศบรรลุในการโทรศัพท์หารือเมื่อวันที่ 17 มกราคมอย่างจริงจัง และด้วยแนวทางที่เป็นรูปธรรมในการแก้ไขปัญหา

“เรายินดีที่จะมีส่วนร่วมในบทสนทนาอย่างเข้มข้นและการปรึกษาหารืออย่างเท่าเทียม จัดการความแตกต่างของเรา ใช้ประโยชน์จากศักยภาพของความร่วมมือ ขยายผลลัพธ์จากการทำงานร่วมกัน และทำให้ผลประโยชน์ร่วมกันมากขึ้น” เขากล่าว
“เราสามารถส่งเสริมการพัฒนาใหม่ด้วยความสัมพันธ์ทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างจีนและสหรัฐฯ และเพิ่มความแน่นอนและเสถียรภาพให้กับเศรษฐกิจโลกมากขึ้น”

หลี่ เฉิงกัง หัวหน้าผู้เจรจาของจีน อธิบายถึงลักษณะเด่นสามประการของการประชุมครั้งนี้ว่า “การเคารพซึ่งกันและกัน ความเท่าเทียมและผลประโยชน์ร่วมกัน ความเป็นมืออาชีพ และประสิทธิภาพสูง”

ด้าน เบสเซนต์ รมว.คลังสหรัฐฯ กล่าวในวันอาทิตย์ว่าการเจรจาครั้งนี้ "มีประสิทธิผล"

"ผมดีใจที่จะรายงานว่าเราได้บรรลุความคืบหน้าที่สำคัญระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนในการเจรจาการค้าที่สำคัญยิ่ง" เขากล่าวกับผู้สื่อข่าว
เบสเซนต์กล่าวว่าเขาได้แจ้งให้ทรัมป์ทราบถึงความคืบหน้าของการเจรจาแล้ว

ปธน.ทรัมป์กล่าวบนโซเชียลมีเดียในวันอาทิตย์ว่า "วันนี้เป็นการประชุมที่ดีมากกับจีนที่สวิตเซอร์แลนด์ มีการหารือกันหลายเรื่องและหลายฝ่ายเห็นด้วย การเจรจารีเซ็ตใหม่ทั้งหมดเป็นไปอย่างเป็นมิตรแต่สร้างสรรค์

"สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าเราสามารถบรรลุข้อตกลงได้เร็วเพียงใด ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าบางทีความแตกต่างอาจไม่มากเท่าที่คิด" กรีเออร์กล่าวในวันอาทิตย์

‘ชมพู่ พรพรรณ’ ได้ MVP รับเงินรางวัล 10,000 ดอลลาร์ และเป็นสาวไทยคนแรก ที่คว้าแชมป์ลีก สหรัฐอเมริกา

(12 พ.ค. 68) เพจ ‘วอลเลย์บอลหญิงรวมดาว🇹🇭’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ...

ยินดีกับ "ชมพู่" ได้ MVP รับเงินรางวัล 10,000 ดอลลาร์และเป็นสาวไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ลีกสหรัฐอเมริกา

ทีม Orlando Valkyries รับถ้วยรางวัล   และเงินรางวัล 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ (32,965,000 บาท)
ลีกอเมริกา Pro Volleyball Federation (PVF) รอบชิงชนะเลิศ
Orlando Valkyries (ทีมชมพู่) ชนะ Indy Ignite 3:1 (25-21, 25-19, 19-25, 25-15)

ประธานมูลนิธิสืบฯ โพสต์ข้อความ!! สร้างกระเช้าภูกระดึง ไม่กระทบสิ่งแวดล้อม หนุน!! พัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน สร้างภูมินิเวศ รอบภูเขา ให้สวยงาม

(12 พ.ค. 68) นายศศิน เฉลิมลาภ ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ...

อ่านโพสต์ของ ดร.นณณ์ ผาณิตวงศ์ แล้วก็ชัดเจนว่า ด้วยเทคโนโลยีการสร้างในปัจจุบัน ตัวกระเช้าเอง ไม่ได้สร้างผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมเท่าไหร่ ลำพังสร้างกระเช้าไม่ใช่ปัญหา 

แต่ในแง่เศรษฐศาสตร์ ระบุว่า ตัวงบประมาณที่จะใช้สร้างและการดูแลรักษา ลำพังนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวทั่วๆไปมันไม่เพียงพอที่จะให้คุ้มทุนได้เพราะ ตัวภูกระดึงเองเป็นสภานที่ท่องเที่ยวโดดเดี่ยวใครจะมาตรงนั้นคือจะมาภูกระดึงเท่านั้น ซึ่งพอขึ้นไปข้างบนมันไม่ได้มีอะไรที่จะรับการท่องเที่ยวให้คนมาเยอะแยะได้ และไม่มีอะไรดึงดูดให้คนขึ้นไปชมวิวแล้วกลับ เหมือนสถานที่ท่องเที่ยวหลายๆแห่งในต่างประเทศที่ให้ขึ้นไปดูวิว หรือไหว้พระ แบบเป็นนักท่องเที่ยวด่วนๆ อยู่ไม่กี่นาทีหรือไม่กี่ชั่วโมงก็กลับ มันไม่มีอะไรรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนั้นเลย ดังนั้น... 

แต่มีการเพิ่มโครงการศูนย์ศึกษาธรรมชาติอะไรไม่รู้ไว้ข้างบนหลังแปด้วย แล้วก็คาดการณ์ให้มันคุ้มทุนว่าจะมีนักเรียนหรือใครก็ไม่รู้ขึ้นไปเพื่อเที่ยวศูนย์ที่ว่านี่แล้วก็กลับลงมา โดยที่พีคกว่านั้นคือศูนย์ที่ว่านี่ ค่าก่อสร้างก็ไม่ได้รวมอยู่ในงบโครงการกระเช้า เพราะถ้ารวมก็เจ๊งอีกอยู่ดี 

คืออันนี้ชัดเจนว่าพยายามแต่งตัวเลขให้โครงการคุ้มทุน 

เพราะลำพังตัวโครงการเองมันไม่คุ้มทุน ประเทศไทยไม่ได้ร่ำรวยขนาดจะสร้างโครงการที่ไม่จำเป็น ดูแลตัวเองไม่ได้ ต้องคอยเอางบมาเติม หรือต้องปล่อยพังเสียหาย ใช้การไม่ได้ เพราะไม่มีงบมาเติม

รอบนี้ได้ข่าวว่าจะศึกษาใหม่อีก ตามที่ได้ยินมาคือเสียเงินอีก 25 ล้าน มันมีอะไรเปลี่ยนไปหรือถึงจะต้องศึกษาใหม่? บางทีก็ไม่เข้าใจว่าประเทศนี้นึกอยากจะเสียเงินค่าศึกษาอะไรก็ศึกษา คิดโครงการบ้าบออะไรขึ้นมาก็ได้ ขุดโครงการอะไรขึ้นมาจากหลุมมาศึกษาใหม่เมื่อไหร่ก็ได้ คือแค่ค่าศึกษานี่ ถ้าเอาไปทำอย่างอื่น ก็ได้ตั้งเยอะแยะแล้ว...

อันนี้ ดร.นณณ์ โพสต์ไว้เมื่อวาน
https://www.facebook.com/share/p/1E8metZdp9/?mibextid=qi2Omg

ผมมาคิดต่อว่าถ้าเป็นแบบนั้น เราควรทำอะไรกับภูมินิเวศรอบภูเขาภูกระดึง 
เอาเงินที่จะศึกษาเรื่องกระเช้า มาทำแผนพื้นที่วงแหวนรอบภูกระดึงว่า ควรพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนอย่างไร 

ปัจจุบันพื้นที่เกษตรโดยรอบ ยังเป็นพืชเชิงเดี่ยว แห้งแล้ง แต่ยังมีพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่เป็นต้นน้ำที่ค่อนข้างมีสภาพดี ถ้ามีการปรับการปลูกพืชให้เหมาะสม น่าจะทำให้พื้นที่รอบๆกลับมาสวยงาม และเพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยวแบบที่พักระยะยาว หรือรูปแบบที่เหมาะสมอื่นๆได้ หากมีการศึกษาทางวิชาการจริงๆ

นอกจากภูกระดึงแล้ว มีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆมากมายโดยรอบ หากจะพัฒนาความเชื่อมโยงถึงกัน 

แล้วมามองว่า เที่ยวภูกระดึง กันหนักๆ ช่วงปลายฝนต้นหนาว ถึงก่อนแล้ง แต่ช่วงอื่นๆ ยังมีนักท่องเที่ยวมากระจายรายได้ในพื้นที่วงแหวนนี้ตลอดปี โดยไม่ต้องขึ้นภูกระดึงจะทำอย่างไร ??

ศึกษาเรื่องแบบนี้กันไว้ตรงไหนหรือเปล่าครับ 

เผื่อชวน Nonn Panitvong มาช่วยอ่าน น่าจะสนุกดี


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top