Friday, 9 May 2025
ค้นหา พบ 47953 ที่เกี่ยวข้อง

ชาวทุ่งหวังเฮ ขอบคุณ ‘เจือ ราชสีห์’ ผลักดันงบ 72 ล้าน ขยายถนน ปรับปรุงผิวจราจร เส้นทางมุ่งสู่ ‘วัดทรายขาว’

(6 พ.ค. 68) นายเจือ ราชสีห์ ที่ปรึกษาของรองนายกรัฐมนตรีและของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วย พระครูสังฆรักษ์พิเชษฐ์ จิตตปาโล เจ้าอาวาสวัดทรายขาว พร้อมด้วยนายสัตยา ปล้องใหน่ นายช่างโยธา นายภูริเดช รัตนะ วิศวกร ตัวเเทนจากกรมทางหลวงชนบท และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ตำบลทุ่งหวัง ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามความคืบหน้าของโครงการ 

พร้อมแจ้งข่าวดีให้พี่น้องชาวตำบลทุ่งหวังได้รับทราบหลังได้รับข่าวดีเกี่ยวกับงบประมาณสนับสนุนโครงการขยายถนนเเละปรับปรุงผิวจราจร ถนนสายทางหลวงชนบทหมายเลข สข.3005 ในช่วงเเยกไฟเเดงวัดทุ่งหวังใน -ผ่านทางหน้าวัดทรายขาว สิ้นสุดการก่อสร้างบริเวณทางขึ้นวัดเขาหลง หมู่6-หมู่8 ตำบลทุ่งหวัง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา เป็นระยะทาง 3 กิโลเมตรเเละความกว้างเดิมของถนน 8 เมตร ขยายเป็นความกว้าง 12 เมตร ปรับผิวจราจรพร้อมติดตั้งไฟส่องสว่างตลอดเส้นทาง ด้วยงบประมาณรวม 72 ล้านบาท

โครงการนี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการเดินทางให้แก่ประชาชนในพื้นที่ รวมถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาสักการะหลวงปู่ทวด ณ วัดทรายขาว ตำบลทุ่งหวัง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นแหล่งศรัทธาสำคัญของจังหวัด

ความคืบหน้านี้เกิดจากการประสานงานและผลักดันตั้งแต่ต้นโดยนายเจือ ราชสีห์ ในขณะดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดจนสามารถผลักดันงบประมาณมาดำเนินการได้สำเร็จ ล่าสุด นายเจือ ราชสีห์ ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามการเตรียมการก่อสร้าง  ได้ดำเนินงานจะเป็นไปตามแผนและสามารถเริ่มได้ในเร็วๆ นี้ เเละผมขอเเสดงความยินดีกับพี่น้องชาวตำบลทุ่งหวังด้วยครับ

‘ดร.อธิป’ เผย!! Jensen Huang ประธานบริษัท NVIDIA ผู้นำด้านชิปประมวลผล ให้ข้อมูลสำคัญ!! ‘จีน’ กำลังไล่ทัน ‘สหรัฐฯ’ ในเทคโนโลยี AI แล้ว

(5 พ.ค. 68) ดร.อธิป อัศวานันท์ นักเขียน อาจารย์พิเศษในมหาวิทยาลัยชั้นนำ ผู้ก่อตั้งบริษัทสตาร์ทอัพทางอินเทอร์เน็ต ที่ประสบความสำเร็จ ไดโพสต์คลิป โดยมีใจความว่า …

Jensen Huang ประธานบริษัท NVIDIA เพิ่งเปิดเผยว่าจีนกำลังไล่ทันสหรัฐในเทคโนโลยี AI แล้ว!!
ประเทศไทยของเรา โดยเฉพาะบอร์ด AI แห่งชาติ ควรจะเรียนรู้อะไรบ้างจากตรงนี้?

1: การทุ่มงบสนับสนุนสตาร์ทอัพด้าน AI! ... จีนตั้งกองทุนขนาดยักษ์กว่า 4.5 ล้านล้านบาทเพื่อสนับสนุนสตาร์ทอัพด้าน AI โดยเฉพาะ!
แล้วไทยล่ะ? เรายังทำแบบเล็กๆ แค่ร้อยถึงพันล้านบาทเท่านั้น ไม่ต้องเทียบกับจีน เทียบกับเพื่อนบ้านเราก็ยังสู้ไม่ได้
และไม่ใช่แค่ให้เงิน แต่เราต้องสร้างระบบนิเวศที่สมบูรณ์ ตั้งแต่การลดภาษี จัดตั้งเขตนวัตกรรมพิเศษ ดึงผู้เชี่ยวชาญต่างชาติมาร่วมงาน และมี Sandbox ให้ทดลองผลิตภัณฑ์ AI ได้จริง

2: ลงทุนสร้าง "ทุนทางปัญญา"! ... Jensen Huang เน้นย้ำว่า "นักวิจัย AI ราว 50% ของโลกเป็นชาวจีน" และในสหรัฐเองก็มีนักวิจัย AI จีนมากกว่านักวิจัยอเมริกัน!!

นี่คือจุดเปลี่ยนเกม - ทุนมนุษย์สำคัญกว่าเทคโนโลยี!
ไทยต้องมีโครงการทุนการศึกษาระดับแสนคนต่อปีในด้าน AI ตั้งแต่มัธยมถึงปริญญาเอก
มีโครงการดึงคนเก่งกลับประเทศด้วยค่าตอบแทนที่แข่งขันได้จริงๆ
และสร้างสถาบันวิจัยด้าน AI แห่งชาติที่ให้เงินเดือนนักวิจัยแข่งกับบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่ได้!
และเราต้องปฏิรูปหลักสูตรการศึกษาทั้ง ระบบให้เน้น AI, Coding และ Data Science ตั้งแต่ประถม เพื่อสร้างคนรุ่นใหม่ที่คิดเป็นระบบ และพร้อมนำ AI ไปใช้ในทุกสาขาอาชีพ!!

3: เล่นเกมระยะยาวไร้เส้นชัย! ... Jensen Huang บอกว่า AI คือ "เกมที่ไม่มีวันจบ" ไม่มีวันที่คนใดคนหนึ่งจะชนะตลอดกาล!
ไทยต้องวางยุทธศาสตร์ AI 20 ปี ที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามรัฐบาล

มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องที่ไม่หวังผลเร็ว และมีความอดทนสูง เหมือนที่เกาหลีใต้ทำกับอุตสาหกรรม K-Pop ที่ใช้เวลากว่า 20 ปีกว่าจะประสบความสำเร็จระดับโลก!!

ต้องสร้างวิสัยทัศน์ร่วมของชาติด้าน AI ที่ทุกภาคส่วนเห็นพ้องต้องกัน และยึดมั่นในเป้าหมายระยะยาว แม้จะมีอุปสรรคหรือความล้มเหลวระหว่างทาง
เพราะการพัฒนา AI ไม่ใช่การวิ่ง 100 เมตร แต่เป็นมาราธอนที่ต้องอาศัยความอดทนและการปรับตัวตลอดเวลา!
ถ้าจีนทุ่มงบกว่า 4 ล้านล้านบาทให้สตาร์ทอัพ AI ไทยจะให้แค่พันล้านไม่ได้อีกแล้ว! เราต้องทุ่มงบพัฒนาคนและสตาร์ทอัพแบบจริงจัง!
ถ้าเราไม่เริ่มตอนนี้ เราจะเป็นได้แค่ผู้บริโภคเทคโนโลยี ไม่ใช่ผู้นำด้านนวัตกรรม! และในยุคที่ AI กำลังเปลี่ยนโลก ประเทศที่ไม่สามารถพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองได้ จะถูกทิ้งไว้ข้างหลังอย่างไม่มีทางตามทัน!!

ขอบคุณสำหรับทุกความเห็น และเราจะร่วมกันผลักดันต่อเพื่อประเทศไทยของเราครับ

มิ้นท์ I Roam Alone ประสบอุบัติเหตุร้ายแรง ขณะขี่ม้าท่องเที่ยวในประเทศเนปาล เผย!! อยากกลับไปเที่ยวที่ ‘เทือกเขาหิมาลัย’ อีก แต่ไม่ขอขี่ม้าอีกแล้ว

(5 พ.ค. 68) ทำเอาแฟนคลับใจหายใจคว่ำอีกครั้ง เมื่อนักเดินทางสาวชาวไทยชื่อดัง อย่าง "มิ้นท์ I Roam Alone" ประสบอุบัติเหตุร้ายแรงขณะขี่ม้าท่องเที่ยวในประเทศเนปาล แต่กลับรอดชีวิตมาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ พร้อมบาดแผลเพียงเล็กน้อย

เหตุการณ์ระทึกขวัญเกิดขึ้นหลังจากมิ้นท์ขึ้นขี่ม้าได้เพียงไม่นาน ม้าเกิดอาการตื่นตกใจและสะบัดอย่างรุนแรง จนมิ้นท์พลัดตกลงจากหลังม้า เท้าซ้ายของเธอติดอยู่กับที่พักเท้า ทำให้ถูกม้าลากไปกับพื้นขรุขระและเต็มไปด้วยหิน เป็นระยะทางยาวนาน ท่ามกลางความตกใจของผู้ที่เห็นเหตุการณ์ ซึ่งต่างคิดว่าเธอคงไม่รอดชีวิต หรือหากรอดก็คงบาดเจ็บสาหัส

โดย มินท์ ได้โพสต์เล่าเหตุการณ์ระทึก หลังประสบอุบัติเหตุที่เนปาล โดยระบุข้อความว่า …

มิ้นท์ประสบอุบัติเหตุรุนแรงที่เนปาลค่ะ

คนที่เห็นเหตุการณ์ไม่มีใครคิดว่าจะมีชีวิตรอดมาได้ หรือถ้ารอดมาก็ไม่น่าจะเป็นเหมือนเดิม สิ่งที่เกิดขึ้นเร็วมากเลยล่ะ หลังจากขึ้นม้าไปได้ไม่ถึง 2 นาที เพิ่งจะลูบขนม้าเบาๆบอกกับม้าว่า ‘เป็นเด็กดีนะลูก’ ผ่านไปแป๊บเดียวก่อนเข้าทางเดินเล็กๆเลียบผา เจ้าม้าก็ตัดสินใจกระโดดเตะเข้าหน้าเจ้าของ (คนจูง) แล้วก็เตะซ้ำอีกทีที่สะโพกจนเจ้าของล้มลง เขาเลยปล่อยเชือกจูงม้าที่มิ้นท์อยู่บนหลังไป

ม้าที่ตื่นตกใจก็วิ่งๆกระโดดๆไปจนมิ้นท์ตกลงมา แต่ด้วยความที่เรารักสัตว์มาก(มั้ง) เท้าซ้ายเลยตัดสินใจรั้งม้าไว้ติดอยู่กับที่พักเท้าไม่หลุดออกมาด้วย ในขณะที่ม้าพยายามจะไป จะพยายามจะสะบัด สุดท้ายมิ้นท์เลยโดนลากไปกับม้า ตัวฟาดไปฟาดมากับพื้นอยู่นาน ข้างซ้ายหิน ขวาก็หินและเป็นเหวลงไปด้วย คนเห็นร้องไอ้หยา! คิดว่าตายแน่ๆ ดูยังไงก็ไม่รอด มิ้นท์ใช้สติเป็นเครื่องมือ คว้าหางม้าหรือขนก้นม้าไว้ซักอย่าง เกร็งตัวขึ้นมาแล้วเอาขาซ้ายออกมาได้สำเร็จ! แต่ผลก็คือแผ่นหลังสะบักสะบอม ฝุ่นตลบไม่รู้ว่าช้ำในอะไรตรงไหน

ส่วนใบหน้าปลอดภัยเหมือนอยู่คนละเหตุการณ์กัน ไม่มีริ้วรอยใดนอกจากตีนกาเลย

ความควายยังไม่ทันหาย ความกระทิงก็เข้า ประกันภัยพิเศษที่ซื้อมาสำหรับการอพยพโดยเฮลิคอปเตอร์โดยเฉพาะ (ไม่ใช่ของไทยนะคะ) เลือกรอเฮลิคอปเตอร์ที่ ‘ไกลที่สุด’ ของตัวเอง ทำให้กู้ภัยแทบจะกลายเป็นกู้ร่าง กว่าจะถึงหลังคาโรงพยาบาลก็ผ่านไปแล้ว 10 ชั่วโมง 
ไว้จะมาเล่าให้ฟังละเอียดอีกครั้งเพื่อคนอื่นจะได้ไม่เจอเหมือนกันเนอะ

ถึงจะรอเฮลิคอปเตอร์กู้ภัยนานมาก แต่ดวงแข็งเป็นทุนเดิม (จนคิดอยากจะทำของขลังให้คนบูชารุ่น ‘ดีนะที่ไม่ตาย’) ประกอบกับแม่บอกว่า ‘หมอดูบอกว่าแกอายุยืน’ ก็เลยรอดกลับมารักษาตัวที่ไทยได้ 

ทุกคนบอกว่านี่คือปาฏิหาริย์แม้แต่คุณหมอเอง เพราะจริงๆถ้าก้มดูร่างกายตัวเองแล้ว มิ้นท์รอดจากอุบัติเหตุรุนแรงด้วยบาดแผลที่น้อยที่สุดเท่าที่คนคนนึงจะโชคดีได้

ถึงตอนนี้จะยังมีรอยช้ำนิดหน่อย และปวดกล้ามเนื้ออยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าโชคดีมากที่ไม่ตายจริงๆ ไว้จะมาคอยอัพเดทเนอะ

อยากกลับไปอีกอาณาจักรที่แสนพิเศษกลางเทือกเขาหิมาลัยแห่งนี้อีก แต่รอบหน้าไม่ม้าแล้ว ฮี่ๆๆๆๆ

สส.ภูเก็ต' ซัดเดือดใส่!! ‘กรณ์’ อดีต รมว.คลัง ไร้วิสัยทัศน์เลอะเทอะ ไม่เข้าใจคนในพื้นที่

(5 พ.ค. 68) นายฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล สส.ภูเก็ต เขต 3 พรรคประชาชน กล่าวตอบโต้กรณีนายกรณ์ จาติกวณิช อดีต รมว.คลัง โพสต์เฟซบุ๊กตำหนิภูเก็ตเมืองโทรมไม่สะอาดรถติดมาก

โดยระบุว่า หลังจาก กรณ์ จาติกวณิช - Korn Chatikavanij โพสท์ในเฟสบุ๊ก ว่า.. ผมไปภูเก็ตมา 2 วัน 1 คืน เป็นครั้งแรกที่กลับไปในรอบ 2 ปี ไปทีไรก็แฮปปี้ ชอบบรรยากาศของที่นี่ เที่ยวนี้ขอยืนยันว่า

1. รถโคตรติด กรุงเทพชิดซ้ายเลย จากสนามบินไปป่าตอง 1 ชม. 20 นาที – ในบ่ายวันหยุด! ทานข้าวเย็นในตัวเมือง ใช้เวลาเดินทางชั่วโมงกว่า (ตอน 3 ทุ่ม!) เพื่อไปที่พักที่ป่าตอง
2. เมืองดูโทรม เส้นทางถนน ทางเดิน ร้านค้าริมทาง ดูโทรมมาก
3. หาดไม่สะอาดเหมือนแต่ก่อน
4. แต่ในแง่โอกาสทางเศรษฐกิจ ไม่มีเมืองไหนในประเทศไทยที่สู้ได้
5. แรงงานบริการเป็นชาวต่างชาติเยอะมาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะภาษาเขาดีกว่า
6. ชาวรัสเซียมีอิทธิพลกับเศรษฐกิจภูเก็ตมากขึ้นเรื่อยๆ

ผมขอขอบคุณสำหรับคำติชมครับ และทุกปัญหาที่ว่ามา พวกเรา สส.ภูเก็ต รับทราบ และกำลังดำเนินการแก้ไข แต่ด้วยกลไกรัฐบาลที่ไร้ความใส่ใจ การแก้ปัญหาร่วมกันนั้น ทำให้บางปัญหา ไม่ได้รับการแก้ไข ตั้งกระทู้ไป ก็ไม่มาตอบ

และ ผมขอแลกเปลี่ยนประเด็นครับ ว่า หากมีข้อเสนอแนะ ที่เป็นประโยชน์ ก็จะรับไว้เพื่อนำไปปรับปรุง แก้ไข แต่ มีแต่คำติ ผมก็ขอ แสดงความคิดเห็น ในมุมของคนในพื้นที่ครับ ว่า บางส่วนของความคิดเห็น ที่คุณกรณ์ เสนอนั้น ไม่เหมาะสม ในฐานะ อดีตขุนคลัง ไร้ซึ่งวิสัยทัศน์

เช่นเรื่อง ให้เลิกคิด เรื่องรถไฟฟ้า แล้วให้ทำถนนแบบ Overpass และ การเพิ่มโรงพยาบาลเอกชน ที่ราคาไม่โหดเกินไป นั้น เป็นความคิดที่เลอะเทอะ ไม่เข้าใจคนในพื้นที่ 

ประการแรก : ไม่ใช่เพิ่มโรงพยาบาลเอกชน แต่ คือ การยกระดับมาตรฐาน โรงพยาบาลรัฐ ให้มีคุณภาพเทียบเท่าเอกชน ซึ่ง ในอดีตรัฐบาลที่ผ่านๆ มา ก็ไม่เคยคิดที่จะแก้ไข

ประการต่อมา : การสร้างถนนยกระดับ (Overpass) แต่ แม้เรามีถนนยกระดับ สัก 3 ชั้น ก็แก้รถติดไม่ได้ครับ และ หากมีการก่อสร้างจริง ทั้งๆ ที่เราไม่มีการลดปริมาณรถยนต์ส่วนตัวลง จะเกิดปัญหาการจราจรอย่างหนัก เพราะภูเก็ต มีถนนเส้นหลัก เพียงเส้นเดียว อีก 2 เส้น ก็กำลังขยายเลนการจราจร หนึ่งในปัญหารถติด เพราะ เรามีรถยนต์ส่วนตัวมากเกินไป การเพิ่มขนส่งสาธารณะ จึงควรเป็นเรื่องหลักในการแก้ปัญหาการจราจรติดขัด มาห้ามคนภูเก็ต มีรถไฟฟ้านี่ อยากถามครับว่า ไม่อยากเห็นภูเก็ตพัฒนาเป็นเมืองระดับโลก ใช่ไหม ครับ?

ที่สำคัญที่สุด เรื่อง การกระจายอำนาจ ซึ่งเป็นเรื่องที่คนภูเก็ตเรียกร้อง มาตลอด ต้องไม่ใช่แค่ เขตเศรษฐกิจพิเศษ หรือ แค่เลือกผู้ว่าฯ ได้เอง แต่หมายรวมถึง การแก้ไข ปรับปรุง กฎหมาย และโครงสร้างการกระจายอำนาจทั้งหมดครับ ไม่งั้น ก็จะเหมือน กรุงเทพ ที่สุดท้ายก็ติดล็อกในข้อกฎหมายอยู่ดี และ เสียดายครับ รัฐบาลที่ผ่านๆมา ชอบพูดสวยหรู เรื่อง กระจายอำนาจ เรื่องภูเก็ตจัดการตนเอง แต่พอมีอำนาจ เรื่องนี้ก็ไม่เคยนำมาแก้ไขให้สำเร็จ ท่าน เคยเป็นอดีตรัฐมนตรี คงเล่าให้ฟังได้ว่า สมัยนั้น ทำไม ไม่ทำ

‘โดนัลด์ ทรัมป์’ สั่งขึ้น!! ภาษีนำเข้าภาพยนตร์ที่สร้างนอกสหรัฐฯ 100% ส่งผลกระทบต่อ อุตสาหกรรมภาพยนตร์ ในออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์

(5 พ.ค. 68) เพจเฟซบุ๊ก ‘Jaroensook Limbanchongkit Pone’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า … 

การที่ทรัมป์สั่งขึ้นภาษีนำเข้าภาพยนตร์ที่สร้างนอกสหรัฐฯ 100% สร้างความปั่นป่วนให้กับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์

นายโทนี่ เบิร์ค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของออสเตรเลีย ตอบโต้กลับโดยระบุว่า พวกเขาจะปกป้องอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของตนอย่าง "ชัดเจน"
ด้านนายกรัฐมนตรีคริสโตเฟอร์ ลักซอน ของนิวซีแลนด์ กล่าวว่า พวกเขากำลังรอรายละเอียดอยู่ แต่ไม่ต้องกังวล พวกเขาจะเป็น "แชมป์เปี้ยนที่ยิ่งใหญ่" สำหรับทีมงานภาพยนตร์ของพวกเขา

หมายเหตุ : ประมาณ 20-30% ของภาพยนตร์อเมริกัน โดยเฉพาะภาพยนตร์ที่ใช้งบสูง จะถ่ายทำในต่างประเทศ เพื่อใช้ประโยชน์จากต้นทุนที่ต่ำกว่า แรงจูงใจทางภาษี และสถานที่ถ่ายทำที่หลากหลาย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top