Tuesday, 29 April 2025
ค้นหา พบ 47744 ที่เกี่ยวข้อง

เอกอัครราชทูตจีนแสดงความเสียใจ พร้อมหนุนไทยหาสาเหตุอาคารถล่ม

(1 เม.ย. 68) นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย กล่าวแสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิต และยืนยันว่าทางการจีนจะร่วมมือกับไทยในการสืบหาสาเหตุ เนื่องจากมีบริษัทจีนเกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคารนี้ โดยรัฐบาลจีนได้สั่งให้บริษัทผู้ก่อสร้างให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ พร้อมทั้งให้ความเชื่อมั่นว่าการสอบสวนของทางการไทยจะเป็นไปอย่างยุติธรรม

ขณะที่ นายอนุทินกล่าวขอบคุณทางการจีนที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือประเทศไทยเมื่อเกิดเหตุสาธารณภัยมาโดยตลอด โดยเฉพาะเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ ซึ่งสร้างความเสียหายรุนแรงที่สุดที่อาคาร สตง. แห่งใหม่ที่พังถล่ม 

ส่วนอาคารอื่น ๆ ทั้งในกรุงเทพมหานครและจังหวัดอื่น ๆ ได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อยและยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ทางการไทยจึงเร่งสืบหาสาเหตุของการถล่ม เนื่องจากอาคารดังกล่าวเพิ่งสร้างเสร็จและถูกออกแบบให้ทนต่อแผ่นดินไหว กระทรวงมหาดไทยจึงแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง โดยให้รายงานผลภายใน 7 วัน

โลกกำลังเดินทางสู่...ขาลง เพื่อจัดระเบียบมนุษย์ ด้วยผู้คนไร้ศีล ไร้สามัญสำนึก สนับสนุนสิ่งเลว ๆ เหยียบย่ำสิ่งดี ๆ

(1 เม.ย. 68) สังคมไทยเปลี่ยนไปแล้วโดยสิ้นเชิง เมื่อสถานศึกษาไม่ได้ช่วยให้คนไทยฉลาด คนจบการศึกษาสูง ๆ มาจากเมืองนอกเมืองนาก็ไม่ได้หมายความว่าจะมี “สามัญสำนึก” หรือ “คิดเป็น” ผู้คนจำนวนมากยังแยกแยะดีชั่วไม่ออก มองหาแต่ “ความสุขสบายส่วนตัว” โดยไม่คิดโอบกอดสังคมส่วนรวม 

หนำซ้ำผู้คนจำนวนไม่น้อยยังเคารพคนที่เปลือก นับถือเศรษฐีโดยไม่สนที่มาของเงิน กอดคอยิ้มหวานกับเหล่าอาชญากรเพียงเพราะเป็นคนที่ร่ำรวย แสดงความนอบน้อมต่อผู้มีอิทธิพลแม้เบื้องหลังจะใหญ่โตมาจากสิ่งเทา ๆ ก็ถึงเวลาที่โลกต้องออกแรงจัดระเบียบมนุษย์กันสักครั้ง

ความรุนแรงของธรรมชาตินับจากนี้ไปจะไม่มีคำว่า “เบา” 

เมื่อพลังงานเลว ๆ ที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์ แผ่กระจายปกคลุมท้องฟ้า จนดำมืดไปด้วยอากาศพิษ โลกก็จำต้องออกแรงขยับเขยื้อนดูดกลืนสิ่งสกปรกให้หายไปจากแผ่นดิน เพื่อความสว่างไสวของ “ความดีงาม” เกิดขึ้นอีกคราว และดำรงอยู่อย่าง “ยั่งยืน” เพื่อมวลมนุษยชาติที่ตั้งมั่นในศีลสืบไป 

ผู้คนจำนวนมาก ไร้ความเชื่อเรื่องการ “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” ต่างไม่เกรงกลัวต่อบาป โดยเฉพาะบาปที่มาจากการทำร้ายชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เอาเปรียบสังคมที่ร่วมอาศัย รวมถึงไม่ดูแลใส่ใจธรรมชาติที่เกิดและเติบโตมาจากโลกใบเดียวที่เรามี หมักหมมจนเหม็นเน่า กลายเป็นขยะที่มาจาก “พฤติกรรมเลว ๆ ของมนุษย์” ความชั่วช้าที่ถูกปกปิดไว้ จะถูกธรรมชาติช่วยเผยอเปิดออกให้ผู้คนที่ยังหลับใหล โง่งมงายแต่ของใหม่ ยินดีแต่สิ่งที่ตนเองได้ประโยชน์ ได้รับรู้จนกระจ่างต่อหัวใจ 

เมื่อคำเตือนจากฟ้า คำบัญชาจากสวรรค์ “ส่งจดหมายเตือนผู้คน” ด้วยการ “สั่นสะเทือนแผ่นดิน” ใครที่คิดได้ ตระหนัก ยอมรับ และกล้าหาญที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง “เพื่อโลกเพื่อสังคม” ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ก็ถือว่าเป็น “มนุษย์หัวใจงาม” ส่วนคนที่ขนาด “บาปมนุษย์” ไล่ล่ามาถึงปลายจมูก ทั้งน้ำท่วม โรคระบาด ฟ้าถล่ม แผ่นดินสะเทือน ก็ยังมองเป็นเรื่องขำขัน ไม่รู้ร้อนรู้หนาว ยังเดินหน้าให้ราคาสนับสนุน “มนุษย์ที่เลว ๆ บนผืนแผ่นดินไทย” ก็คงต้องปล่อยไปตามกรรม 

โปรดจำไว้ว่า ธรรมชาติมีไว้ให้ผู้คนหวงแหน รักษา มิใช่การอยู่เพื่อเอาชนะ หรือทำลาย

คน..ก็เช่นกัน เมื่อมีบุญได้เกิดเป็นคนก็ควรกล้าหาญปกป้องคนดี มิใช่การหลับหูหลับตาสนับสนุนคนเลว ๆ ที่ทำร้ายชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และเพื่อนพ้องประชาชน 

ไต้หวันถอนทีมกู้ภัยที่เตรียมเดินทางไปเมียนมา เหตุวิกฤติการเมืองภายในยังคงรุนแรง กองทัพกบฏยังทิ้งระเบิดไม่เลิก

(1 เม.ย. 68) สำนักข่าว Focus Taowan รายงานว่า นายหลิว ซื่อ ฟาง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของไต้หวัน แถลงเมื่อวันจันทร์ที่ 31 มีนาคม 2568 ว่ารัฐบาลได้ตัดสินใจยุบทีมกู้ภัยที่เตรียมเดินทางไปยังเมียนมาเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากแผ่นดินไหวขนาด 7.7 ริกเตอร์ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ผ่านมา

นายหลิวระบุว่า การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากกระทรวงมหาดไทยไต้หวันได้พิจารณาสถานการณ์ด้านความปลอดภัยอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะความขัดแย้งทางทหารที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างกองทัพเมียนมาและกลุ่มกบฏในพื้นที่ ทำให้การส่งทีมกู้ภัยเข้าไปปฏิบัติงานในพื้นที่ประสบภัยอาจเป็นอันตรายอย่างมาก

“แม้เราต้องการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม แต่สถานการณ์ความขัดแย้งที่ยังดำเนินอยู่ทำให้เราต้องตัดสินใจเช่นนี้เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่” นายหลิวกล่าว

ขณะที่ รายงานของสื่อระหว่างประเทศระบุว่า กองทัพเมียนมายังคงโจมตีพื้นที่บางส่วนในประเทศที่กำลังอยู่ในภาวะสงคราม ซึ่งเป็นช่วงหลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในประเทศ จนถึงขณะนี้มีรายงานว่าคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 1,700 ราย โดยสหประชาชาติได้กล่าวถึงการโจมตีครั้งนี้ว่า “เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจและไม่สามารถยอมรับได้อย่างสิ้นเชิง”

สำหรับเหตุการณ์แผ่นดินไหวดังกล่าวส่งผลกระทบรุนแรงต่อหลายพื้นที่ของเมียนมา โดยมีรายงานความเสียหายเป็นวงกว้าง ขณะที่ประชาคมระหว่างประเทศกำลังเร่งพิจารณาวิธีการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเหมาะสมต่อไป

ทั้งนี้ รัฐบาลไต้หวันยืนยันว่าจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพร้อมให้การสนับสนุนในรูปแบบอื่นที่เหมาะสมโดยไม่กระทบต่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และอาสาสมัคร

‘วินท์ สุธีรชัย’ ชี้ “เหล็กแข็งนอกอ่อนใน” ไม่เหมาะใช้สร้างตึกสูง เหตุเพราะไม่อาจรับมือแผ่นดินไหวที่จะเกิดขึ้นอีกในอนาคต

(1 เม.ย. 68) นายวินท์ สุธีรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะ สตีล จำกัด (มหาชน) และกรรมการปรับปรุงและยกร่างกฎหมาย กระทรวงพลังงาน โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า “เหล็กแข็งนอกอ่อนใน” -> ทำความรู้จักกับ เหล็กเส้นข้ออ้อย “T” หรือ Temp Core ที่อยู่ในตึก สตง. ที่ถล่มในเหตุแผ่นดินไหวที่ผ่านมา

เหล็กเส้นข้ออ้อยที่ใช้ในไทย ปัจจุบันที่มีให้ประชาชนเลือกใช้ มีแบบ T และ Non-T

เหล็กเส้น Non-T เป็นวิธีการผลิตแบบดั้งเดิม คือ การหลอมเศษเหล็กให้เป็น Billet และรีดด้วยความร้อน 1,200+ องศาเซลเซียสให้เป็นรูปทรงเหล็กเส้นข้ออ้อย สุดท้ายจึงปล่อยเย็นตามธรรมชาติ ราคาแพงกว่าโดยรวม

เหล็กเส้น T หรือ Temp Core เข้ามาในประเทศไทย ปี 2561 โดยผู้ประกอบการจีนนำเครื่องจักรมาลงทุนในไทย ซึ่งใช้เทคโนโลยีในการฉีดน้ำหล่อเย็นเพื่อลดอุณหภูมิเหล็กเส้นจากที่ร้อนๆให้เย็นด้วยความรวดเร็ว ซึ่งการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิแบบฉับพลันนี้ทำให้ “เปลือก” ของเหล็กเส้นแข็งขึ้นเป็นอย่างมาก ทำให้สามารถ “ลดต้นทุนวัตถุดิบ” ได้โดยการลดคุณภาพเศษเหล็กที่นำมาหลอม และไปเพิ่มความแข็งตอนปลายทางได้ เหล็กเส้น T จึงมีราคาถูกกว่าโดยรวม

ด้วยราคาที่ถูกกว่าของเหล็กเส้น T ทำให้เหล็กเส้น T เป็นที่นิยมของตลาดโดยรวมในประเทศไทยมากกว่าเหล็กเส้น Non-T ถึง 4-5 เท่า

สิ่งที่น่าสนใจคือ กรมทางหลวง ไม่ยอมรับเหล็กเส้น T โดยให้เหตุผลว่าถนนและสะพานที่มีรถขับผ่านเยอะจะเกิด “ความล้า” (Fatigue) ซึ่งทำให้โครงสร้างขยับตัวจากการสั่นอย่างต่อเนื่องคล้ายๆเหตุการณ์แผ่นดินไหว และจะทำให้เหล็กเส้น T ซึ่งไม่มีความแข็งเท่ากันทั้งเส้นแตกหักได้ง่าย

ดังนั้นหากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวในไทยอีกในอนาคตซึ่งทำให้เกิด “ความล้า” ในเหล็กคล้ายๆถนนและสะพานที่มีรถขับผ่าน อาคารสูงๆที่ใช้เหล็กเส้น T จะมีความเสี่ยงอีกหรือไม่???

ผมมองว่าการใช้เหล็กเส้น T ที่ “แข็งนอกอ่อนใน” ไม่เหมาะกับการสร้างตึกสูงในไทย ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดแผ่นดินไหวแล้ว

เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ควรจะเป็นบทเรียนให้ผู้ออกกฎหมายและวิศวกรในไทยคำนึงถึงการสร้างอาคารโดยการใช้เหล็กที่สามารถรับมือกับแผ่นดินไหวที่จะเกิดขึ้นอีกได้ในอนาคต

ทีมกู้ภัยจากจีน 15 คน เดินทางถึงมัณฑะเลย์แล้ว พร้อมเริ่มปฏิบัติการช่วยเหลือภัยพิบัติแผ่นดินไหวในเมียนมา

(1 เม.ย. 68) สมาชิกจากหน่วยรับมือเหตุฉุกเฉินระหว่างประเทศของสภากาชาดจีนจำนวน 15 คน เดินทางถึงเมืองมัณฑะเลย์ของเมียนมาเมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา เพื่อเริ่มปฏิบัติการบรรเทาภัยจากเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในพื้นที่

การเดินทางของทีมกู้ภัยครั้งนี้ได้รับการประสานงานจากกระทรวงการจัดการเหตุฉุกเฉินของจีน และสภากาชาดจีน โดยทีมงานจะทำหน้าที่ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับประเมินสถานการณ์และให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

เหตุแผ่นดินไหวในเมียนมาร์ครั้งนี้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อหลายพื้นที่ รวมถึงเมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย ทีมกู้ภัยจากจีนจะทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิต และช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว

“ด้วยความร่วมมือกับสภากาชาดเมียนมา เราเตรียมให้การสนับสนุนฉุกเฉินในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับที่พักพิง อาหาร และน้ำ การช่วยเหลือทางการแพทย์สำหรับผู้บาดเจ็บ การสนับสนุนการจัดการศพอย่างปลอดภัย การช่วยให้สมาชิกในครอบครัวที่พลัดพรากจากกัน หรือไม่ทราบชะตากรรมและที่อยู่ของคนที่พวกเขารัก ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง” เดอ แบ็ก ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) ประจำประเทศเมียนมา กล่าว

ทั้งนี้ ทีมกู้ภัยจีนถือเป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อรับมือกับภัยพิบัติครั้งนี้ พร้อมทั้งแสดงถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหว
 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top