Monday, 9 June 2025
ค้นหา พบ 48659 ที่เกี่ยวข้อง

ตำรวจเติร์กรวบนายกเทศมนตรีนครอิสตันบูล หลังมีข่าวเตรียมลงชิงตำแหน่ง ปธน.

(19 มี.ค. 68) สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตุรกีได้ออกหมายจับ เอแกรม อีมาโมลู (Ekrem İmamoğlu) นายกเทศมนตรีนครอิสตันบูล พร้อมส่งกำลังตำรวจเข้าตรวจค้นที่พักของเขาในวันนี้

ตามรายงานจากแหล่งข่าวภายในประเทศ การออกหมายจับครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดทางการเมืองในตุรกี โดยยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดแน่ชัดเกี่ยวกับข้อกล่าวหาที่อีมาโมลูต้องเผชิญ อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์ว่าอาจเกี่ยวข้องกับ ข้อกล่าวหาด้านการทุจริต หรือประเด็นทางการเมืองที่อ่อนไหว

แหล่งข่าวจากฝ่ายความมั่นคงเปิดเผยว่า ตำรวจได้เข้าตรวจค้นบ้านพักของอีมาโมลู ในช่วงเช้ามืด และกำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนเพิ่มเติม ด้านเจ้าตัวยังไม่มีแถลงการณ์ใดๆ เกี่ยวกับการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ แต่มีการโพสต์คลิปวิดีโอผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (ทวิตเตอร์) จากภายในที่พักของเขา ระบุว่า 

“มีตำรวจนับร้อยนายมาอยู่หน้าประตูบ้านผม เรากำลังเผชิญกับการใช้อำนาจเผด็จการครั้งใหญ่ ผมขอฝากความหวังไว้กับประชาชน”

เอแกรม อีมาโมลู เป็นบุคคลสำคัญทางการเมืองของตุรกี และถือเป็น คู่แข่งทางการเมืองสำคัญของประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอร์โดอัน โดยเขาสังกัดพรรคฝ่ายค้าน พรรครีพับลิกันประชาชน (CHP) และเคยได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครอิสตันบูลถึงสองครั้ง ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในเวทีการเมืองของตุรกี

นักวิจารณ์ประณามการคุมขังดังกล่าวว่าเป็นประเด็นทางการเมืองและเป็นส่วนหนึ่งของการปราบปรามฝ่ายค้านที่ยังคงดำเนินต่อไปของรัฐบาล หลังจากที่เออร์โดกันพ่ายแพ้อย่างยับเยินในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นและนายกเทศมนตรีเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งตอนนี้ประเทศกำลังเตรียมเข้าสู่การเลือกตั้งครั้งสำคัญในอนาคต

ภายหลังการจับกุมอิมาโมกลู ผู้ว่าการอิสตันบูลได้สั่งระงับสิทธิในการประท้วงในเมืองจนถึงวันที่ 23 มีนาคม “พื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน” นอกจากนี้สถานีรถไฟใต้ดินและถนนบางสายในตัวเมืองอิสตันบูลยังถูกปิดอีกด้วย

ทั้งนี้ แถลงการณ์ล่าสุดจากสำนักงานอัยการสูงสุดแห่งอิสตันบูล ระบุว่า อีมาโมลู และคนอื่นๆ อีกประมาณ 100 คนที่เกี่ยวข้องกับเขา ถูกกล่าวหาว่าเป็นสมาชิกขององค์กรอาชญากรรม เรียกสินบน ขู่กรรโชก และฉ้อโกงโดยเจตนา 

โดยทางด้าน ภรรยาของนายกเทศมนตรีที่ถูกคุมขัง กล่าวถึงข้อกล่าวหาต่อสามีของเธอว่า “ใครๆ ก็คงหัวเราะเยาะเรื่องแบบนี้” “เรื่องแบบนี้เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน มันเป็นการใส่ร้ายที่ร้ายแรงมาก และทุกอย่างจะต้องถูกเปิดเผย”

ทรัมป์สั่งปล่อยแฟ้มลับคดี JFK 80,000 หน้า เริ่มต้นยุคใหม่แห่งความโปร่งใส เผยทุกข้อมูลไม่มีเซ็นเซอร์

(20 มี.ค. 68) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งการให้เปิดเผยเอกสารลับจำนวน 80,000 หน้า ที่เกี่ยวข้องกับการลอบสังหารประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี (JFK) ในปี 1963 โดยไม่มีการแก้ไขหรือเซ็นเซอร์ข้อมูลใดๆ

การเปิดเผยครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการสร้างความโปร่งใสของรัฐบาล โดยทัลซี แก็บบาร์ด ผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ ระบุว่า นี่เป็นการเริ่มต้นยุคใหม่ของความโปร่งใสสูงสุด

เอกสารที่เปิดเผยประกอบด้วยข้อมูลเกี่ยวกับการสืบสวนของคณะกรรมาธิการวอร์เรนในปี 1964 ซึ่งสรุปว่า ลี ฮาร์วีย์ ออสวอลด์ เป็นผู้ลงมือสังหารเคนเนดีเพียงคนเดียว อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสังเกตว่าเอกสารบางส่วนอาจชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ของการมีส่วนร่วมของกลุ่มอื่น ๆ เช่น ซีไอเอ หรือกลุ่มผู้ลี้ภัยคิวบา

นอกจากนี้ เอกสารยังเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับปฏิบัติการลับของซีไอเอในช่วงทศวรรษที่ 1960 รวมถึงการพยายามโค่นล้มฟิเดล คาสโตร ผู้นำคิวบา

แม้ว่าการเปิดเผยเอกสารครั้งนี้จะได้รับการยกย่องว่าเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความโปร่งใส แต่ผู้เชี่ยวชาญและนักประวัติศาสตร์บางคนยังคงสงสัยว่าเอกสารเหล่านี้จะเปิดเผยข้อมูลใหม่ที่สำคัญหรือไม่ โดยระบุว่าเอกสารส่วนใหญ่เป็นข้อมูลที่เคยถูกเปิดเผยมาก่อนหน้านี้แล้ว

การเปิดเผยเอกสารครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางข้อกล่าวหาว่า “รัฐเร้นลึก” (Deep State) คือการปกครองลับรูปแบบหนึ่งประกอบด้วยเครือข่ายอำนาจที่ดำเนินการอย่างเป็นอิสระจากคณะผู้นำทางการเมืองของประเทศ เพื่อผลักดันระเบียบวาระหรือเป้าหมายของตนเอง ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบสังหารเคนเนดี อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนยืนยันข้อกล่าวหาดังกล่าว

ทั้งนี้ เอกสารทั้งหมดสามารถเข้าถึงได้ที่หอจดหมายเหตุแห่งชาติในรัฐแมริแลนด์ และจะถูกเผยแพร่ออนไลน์เมื่อมีการแปลงเป็นดิจิทัลแบบเสร็จสมบูรณ์

สตม.รวบฟิลิปปินส์สองผัวเมีย หนีหมายจับคดีหลอกลงทุนกว่า 150 หมาย ซุกไทย

(19 มี.ค. 68) บก.สส.สตม. ได้รับการประสานงานจากสถานเอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์ ประจำประเทศไทย ขอความร่วมมือ  ให้ช่วยตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายกับ Mr.Cerrone (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี และ Mrs.Marve (สงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี สองสามี-ภรรยา สัญชาติฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับของทางการฟิลิปปินส์ และเป็นบุคคลที่องค์การตำรวจสากล ได้ออกประกาศสีแดง  (Interpol Red Notice) ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงรูปแบบเครือข่ายหลอกให้ลงทุน” โดยมีผู้เสียหายจำนวนมาก เป็นเหตุให้ถูกหมายจับรวมกันกว่า 150 หมาย และได้หลบหนีเข้ามาอยู่ในประเทศไทย ในเบื้องต้น ผบก.สส.สตม. ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าพฤติการณ์ของบุคคลต่างด้าวทั้งสองมีเหตุอันควรให้ เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว เนื่องจากเป็นบุคคลซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างประเทศ ได้ออกหมายจับ จึงเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร พร้อมกับขึ้นบัญชีเป็นคนต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักร และสั่งการให้ กก.2 บก.สส.สตม. สืบสวนติดตามหาตัว ต่อมาจากการสืบสวนทราบว่า Mr.Cerrone และ Mrs.Marve ได้เช่าบ้านพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.ชะอำ จว.เพชรบุรี จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ จนกระทั่งพบบุคคลทั้งสอง จึงได้แจ้งหนังสือแจ้งการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร นำตัวส่ง กก.3 บก.สส.สตม. เพื่อกักตัวไว้รอการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป จากการสอบถาม Mr.Cerrone และ Mrs.Marve ให้การว่า ทั้งสองคนเป็นประธานบริษัทการลงทุนแห่งหนึ่งในประเทศฟิลิปปินส์ ได้ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการระดมทุน กระทั่งมีปัญหาเรื่องการเงิน ทำให้บริษัทขาดทุนอย่างหนัก และภายหลังได้ถูกออกหมายจับ จึงได้พาครอบครัวหลบหนีมายังประเทศไทย สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิด   ในด้านต่าง ๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่น ๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี 11120 หรือติดต่อตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดในพื้นที่ หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง

‘ครูลิลลี่’ โพสต์ภาพสุดประทับใจ หนึ่งในลูกศิษย์มากราบหลังสอบติดเตรียมอุดม

เมื่อวันที่ (19 มี.ค. 68) อ.กิจมาโนชญ์ โรจนทรัพย์ (ครูลิลลี่) ครูสอนภาษาไทยชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความว่า เรื่องมีอยู่ว่า…นักเรียนคนนี้ชื่อ “พอดี” หนึ่งในลูกศิษย์ 658 คนที่สอบติดเตรียมอุดม รุ่น 88

วันนี้น้องกลับมากราบครูด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความกตัญญู 

ภาพนี้ทำให้หัวใจฉันสั่นไหวไม่ใช่เพราะความภาคภูมิใจในฐานะครูเพียงอย่างเดียว แต่เพราะมันคือภาพสะท้อนของความพากเพียร ความมุ่งมั่น และเส้นทางที่นักเรียนฟันฝ่ามาจนถึงวันนี้

ในทุกตัวเลขมีเรื่องราว ใน 658 คนนี้ มีหยาดเหงื่อ แรงใจ และความฝันของลูกศิษย์มากมาย ฉันเห็นเธอพยายาม ฉันเห็นเธออดทน และวันนี้ฉันได้เห็นเธอเติบโต

ขอบใจนะหนูพอดี… ที่กลับมาบอกครูว่า “หนูทำได้” และขอบคุณที่ทำให้ครูรู้ว่า การเป็นครูคือความหมายที่งดงามที่สุดของชีวิต

‘พีระพันธุ์’ ลงพื้นที่มอบเอกสารจัดที่ดินให้ชาวสุพรรณ 65 ราย เดินหน้าลดความเหลื่อมล้ำ แก้ปัญหาความยากจนอย่างเป็นรูปธรรม

‘พีระพันธุ์’ ลงพื้นที่ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี มอบเอกสารจัดที่ดินให้ชาวบ้านไร้ที่ทำกิน 65 ราย ขับเคลื่อนนโยบายบริหารที่ดินของรัฐอย่างเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ แก้ปัญหาความยากจน

เมื่อวันที่ (19 มี.ค. 68)  ที่ศาลาการเปรียญวัดวังยาว ต.วังยาว อ.ด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานมอบเอกสารการจัดที่ดินในพื้นที่ป่าองค์พระ ป่าเขาพุระกำ และป่าเขาห้วยพลู ให้แก่ผู้ขอรับการจัดที่ดินตามนโยบายรัฐบาลในลักษณะแปลงรวม เนื้อที่ 557 ไร่ จำนวน 65 ราย โดยมี นายพิริยะ ฉันทดิลก ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี นายอุดม โปร่งฟ้า นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี ปลัดจังหวัดสุพรรณบุรี ผู้แทนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ หัวหน้าสำนักงานจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอด่านช้าง อปท. อบต. ผู้นำชุมชน และประชาชน ร่วมพิธี

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า รัฐบาลตระหนักถึงปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ไม่มีที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต รายได้ที่ไม่มั่นคง รัฐบาลจึงมีนโยบายในการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน โดยมีคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ หรือ คทช. ในการขับเคลื่อนมาตรการและแนวทางการกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรมเพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับที่ดินของรัฐ และบูรณาการการบริหารจัดการที่ดิน และทรัพยากรดินของประเทศ ให้เป็นเอกภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด ลดความเหลื่อมล้ำ ช่วยแก้ไขปัญหาความยากจนของพี่น้องประชาชน ซึ่งจังหวัดสุพรรณบุรีมีการบูรณาการการทำงานของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ส่วนราชการ และภาคีเครือข่ายในพื้นที่ ตลอดจนการบูรณาการขับเคลื่อนงานร่วมกัน เพื่อให้การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อความสุข และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม

อย่างไรก็ดี การมอบเอกสารสิทธิในครั้งนี้ถือเป็นการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยของประชาชน รวมถึงการบริหารจัดการที่ดินให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด  และถือเป็นอีกความสำเร็จในการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาเดือดร้อนไร้ที่ทำกินใน อ.ด่านช้าง ซึ่งนายพีระพันธุ์ได้กำกับและติดตามการแก้ไขปัญหานี้มาตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2565  ในขณะที่ดำรงตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมการอำนวยความเป็นธรรมและเร่งรัดการปฏิบัติราชการ ตามคำสั่งของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น โดยนายพีระพันธุ์ได้ประสานขอให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องหาแนวทางผ่อนปรน แก้ไขกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคทำให้การดำเนินการจัดสรรที่ดินล่าช้า เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าพื้นที่ทำกินโดยเร็ว โดยเฉพาะการเร่งรัดขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติผู้มีสิทธิ์ และการกำหนดแปลงที่ดินเพื่อจัดสรรตามโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top