Saturday, 7 June 2025
ค้นหา พบ 48628 ที่เกี่ยวข้อง

‘แพทองธาร’ เผย!! ต่างชาติชื่นชมบูธ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ITB Berlin 2025 ชี้!! เป็นการขยายโอกาส ให้กับผู้ประกอบการด้าน ‘การท่องเที่ยวเมืองรอง’ 

(9 มี.ค. 68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางกลับถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ แล้ว ภายหลังเดินทางเข้าร่วมเข้าร่วมงาน ITB Berlin 2025 ที่กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ระหว่างวันที่ 3-8 มีนาคมที่ผ่านมา

นายกรัฐมนตรี ได้สรุปผลการเดินทางเข้าร่วมงาน ITB Berlin 2025 ว่า งานนี้ถือเป็นงานท่องเที่ยว ที่มีหลายประเทศเข้าร่วมงาน โดยตนเองได้เดินไปดูงาน พร้อมกับได้มีโอกาสในช่วงทำงานโรงแรมเคยได้ไปร่ววมงานนี้ ส่วนตัวรู้สึกว่างานนี้เป็นงานที่สร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการโรงแรม บริษัททัวร์ท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีการเจรจาจับคู่ธุรกิจ ต่างประเทศได้มาเจอกัน ซึ่งปีนี้บูธของประเทศไทยทำได้ดีมากๆ สวยงามและได้รับคำชมจากประเทศอื่นๆ ว่าของประเทศไทยจัดได้สวยงามมาก ดังนั้นจึงขอชื่นชมกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่ได้จัดงานนี้อย่างเต็มความสามารถ และในงานนี้ยังได้มีการเชิญชวนให้ผู้ประกอบการโรงแรม กิจการเจ้าของกิจการจังหวัดเล็กๆ ในทุกภาคได้ไปร่วมงานนี้ เช่น จังหวัดน่าน ตรัง และอีกหลายจังหวัดที่มีตัวแทนได้เข้าร่วม โดยได้นำแพ็คเกจไปขาย และได้พบเจอกับผู้ค้าด้วยกัน จากประเทศอื่นๆด้วย ซึ่งทุกคนบอกว่าเป็นโอกาสที่ดีมากที่ได้ไปร่วมงานนี้และได้มีโอกาสขายโรงแรมตัวเอง และขายความน่าสนใจจังหวัดของตัวเอง

นายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยว่าได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมบูธอื่นๆ และได้เห็นว่าบูธท่องเที่ยวไทยจะต้องมีการปรับปรุงในด้านใดบ้าง หรือการนำเสนอประเทศไทยให้น่ามาท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้นจะต้องทำอย่างไรโดยไปดูเรื่องข้อดีข้อเสียต่างๆและดูจุดแข็งจุดอ่อน ซึ่งส่วนตัวคิดว่างานนี้ดีมากๆ ที่ประเทศไทย ได้มีตัวแทนจากหลายจังหวัด ไปช่วยกันขายและไปแนะนำ ว่าอาจจะไม่ใช่มีแค่เมืองหลักที่ชาวต่างชาติจะรู้จัก แต่ยังมีเมืองหลวงที่น่าสนใจ ที่น่าเที่ยวอีกจำนวนมากดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่ดีที่ประเทศไทยได้เข้าร่วมงานนี้

ส่วนเวลาที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปต่างประเทศได้มีโอกาสสำรวจสินค้าไทย จะมาต่อยอดอย่างไรได้บ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเวลาเดินห้างได้เห็นสินค้าของแต่ละประเทศ ก็รู้สึกว่าไม่ได้เห็นสินค้าแค่ท้องถิ่นแต่ยังเห็นสินค้าประเทศอื่นๆที่นำไปขายเช่นของไทยที่ได้นำไปขายก็รู้สึกว่าได้ราคาดีมาก ดังนั้นช่วงว่าง ระหว่างเกษตรกร ไปถึงหน้าร้านในต่างประเทศมีช่องว่างเยอะมาก จึงเป็นแนวทางที่จะเพิ่มรายได้กับเกษตรกรซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อไปถึงมีการผ่านรอยต่อดังนั้นจึงคิดว่าถ้าสามารถมีการเพิ่ม การถนอมสินค้า และเพิ่มจำนวนสินค้าได้ ตรงจุดนี้จึงต้องเป็นนวัตกรรม ที่ควรจะต่อยอดและลงทุน อีกอย่างคือ คือ งานวิจัยต่างๆ ที่จะทำให้สินค้าเกษตรที่ดีขึ้น เช่น ผลไม้หรือของสด ซึ่งก็เห็นแล้วว่าประเทศอื่นๆ ก็ขายเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้าวก็เช่นกันก็มาจากทุกประเทศ ทั้งญี่ปุ่นและอีกหลายประเทศก็ขาย ดังนั้นไทยจะต้องมีวิธี หรือมาตรฐานของไทย ซึ่งเคยพูดไปก่อนหน้านี้แล้วว่าจะต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะ ไทยมีความพิเศษอย่างไรที่จะนำไปขายท่ามกลางการแข่งขันจำนวนมาก ทำไมต้องซื้อของไทย ดังนั้นต้องเพิ่มเรื่องดังกล่าวอีกจำนวนมาก

‘ทรัมป์’ เล็ง!! ถอนทหาร 35,000 นาย ย้ายจาก ‘เยอรมนี’ ไป!! ‘ฮังการี’

(9 มี.ค. 68) โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพิจารณาสร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ในยุโรปด้วยการ ถอนทหารอเมริกัน 35,000 นายออกจากเยอรมนี ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง จะเป็นการเปลี่ยนเกมด้านความมั่นคงของ NATO และอาจทำให้สัมพันธ์สหรัฐฯ–ยุโรปเดือดพล่านยิ่งขึ้น

แหล่งข่าวจากทำเนียบขาวเผยว่า “ทรัมป์หงุดหงิดกับยุโรป เพราะพวกเขาดูเหมือนจะเร่งสถานการณ์ไปสู่สงคราม” ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะทรัมป์เคยส่งสัญญาณหลายครั้งว่า สหรัฐฯ จะไม่คุ้มกันประเทศที่ไม่ลงทุนด้านความมั่นคงของตัวเองอย่างจริงจัง

ฮังการี - เป้าหมายใหม่ของกองกำลังสหรัฐฯ?

The Telegraph รายงานว่า เป้าหมายที่เป็นไปได้ของการโยกย้ายครั้งนี้คือ "ฮังการี" ประเทศที่รักษาความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัสเซียมาโดยตลอด และเพิ่งสร้างแรงกระเพื่อมใน EU ด้วยการวีโต้มาตรการสนับสนุนยูเครนเมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา

วิกเตอร์ ออร์บาน นายกรัฐมนตรีฮังการี เป็นหนึ่งในผู้นำยุโรปที่มักค้านการคว่ำบาตรรัสเซีย ซึ่งทำให้หลายฝ่ายสงสัยว่า การที่ทรัมป์อาจย้ายทหารไปที่นั่นเป็นการเดินเกมในลักษณะใดกันแน่ เพราะหากเกิดขึ้นจริง ก็หมายความว่าสหรัฐฯ กำลังส่งสัญญาณถึง NATO ว่า “จ่ายเยอะ—ได้เยอะ, จ่ายน้อย—จัดการตัวเอง”

โฆษกด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ไบรอัน ฮิวจ์ส ให้ความเห็นว่า "แม้ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ แต่การโยกย้ายกำลังทหารเป็นเรื่องที่กองทัพสหรัฐฯ พิจารณาอยู่เสมอ เพื่อตอบสนองต่อภัยคุกคามในปัจจุบัน" ซึ่งฟังดูเหมือนแถลงการณ์กลาง ๆ แต่แปลเป็นภาษาชัด ๆ ได้ว่า "เรากำลังหาทางออกที่ดีที่สุดให้ตัวเอง"

NATO สะเทือน!! ทรัมป์ไม่สนใจ สมาชิกที่จ่ายไม่ถึงเป้า

ทรัมป์ย้ำหลายครั้งว่า ประเทศสมาชิก NATO ต้องเพิ่มงบประมาณกลาโหมให้เป็นไปตามเกณฑ์ ซึ่งในปี 2024 มีเพียง 23 จาก 32 ประเทศ เท่านั้นที่ทำได้ โดย โปแลนด์ เป็นประเทศที่ลงทุนหนักสุดที่ 4.1% ของ GDP ขณะที่สหรัฐฯ ใช้ 3.4% ซึ่งทรัมป์มองว่า "เป็นภาระที่อเมริกันชนไม่ควรต้องแบก"

ทรัมป์เคยพูดตรง ๆ ว่า "ถ้าคุณไม่จ่าย ผมก็ไม่ช่วย" และถึงขั้นบอกว่า “ถ้าประเทศไหนใน NATO ไม่ยอมจ่าย ผมจะปล่อยให้รัสเซียจัดการเอง” ซึ่งนับว่าเป็นคำเตือนที่ชัดเจน และอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมทรัมป์ถึงสนใจย้ายกำลังไปประเทศที่ "จริงจัง" เรื่องงบกลาโหมมากกว่า

เยอรมนีอาจต้องรับมือเอง หากทรัมป์เดินหน้าถอนกำลัง

หากแผนนี้เดินหน้าจริง เยอรมนีอาจต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายทางความมั่นคงแบบไม่เคยมีมาก่อน เนื่องจากฐานทัพสหรัฐฯ หลายแห่งในเยอรมนี เช่น Ramstein Air Base และ กองบัญชาการสหรัฐฯ ประจำยุโรป ล้วนเป็นหัวใจสำคัญของ NATO ในยุโรป

การถอนกำลังออกจากเยอรมนีจะเป็นการตัดแรงสนับสนุนที่สำคัญสำหรับ NATO และอาจทำให้เยอรมนีต้อง เร่งเพิ่มงบกลาโหม และพิจารณาทางเลือกใหม่ ๆ ในการปกป้องประเทศของตนเอง

ในขณะที่ยุโรปกำลังจับตาว่าสหรัฐฯ จะดำเนินนโยบายนี้อย่างไร สัญญาณจากทรัมป์ดูเหมือนจะชัดเจนว่า “อเมริกาไม่ใช่ผู้คุ้มกันฟรี ๆ อีกต่อไป” และ NATO อาจต้องเตรียมพร้อมรับมือกับอนาคตที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

‘สำนักงานตำรวจแห่งชาติ’ เตือน ปชช. ระวัง!! มิจฉาชีพ แอบอ้างเป็น Facebook หรือ Meta เพื่อขโมยบัญชี 

(9 มี.ค. 68) รูปแบบการหลอกลวง !!

มิจฉาชีพส่งอีเมลปลอม หรือข้อความปลอม อ้างว่า “เฟซของคุณจะถูกลบถาวรเนื่องจากละเมิดสิทธิ์เครื่องหมายการค้า กรุณายื่นอุทธรณ์ที่ลิงก์นี้” หรือ “บัญชีของคุณมีพฤติกรรมผิดปกติ คลิกที่นี่เพื่อยืนยันตัวตน”

จากนั้นจะมีลิงก์ปลอมให้กด
หากคุณใส่ Username และ Password ข้อมูลจะถูกขโมย และบัญชีของคุณอาจถูกยึด

วิธีป้องกันมิจฉาชีพออนไลน์

1. อย่าคลิกลิงก์จากอีเมลหรือข้อความที่ไม่น่าเชื่อถือ
หากได้รับข้อความแปลกๆ ให้เข้าเว็บ Facebook หรือ Meta โดยตรง

2. ตรวจสอบ URL ก่อนกรอกข้อมูล
Facebook จริง URL ต้องเป็น: .com เท่านั้น
URL ปลอมมักมีลักษณะแปลกๆ เช่น: การสะกดผิด และ Domain เป็น .xyz

3. อย่าให้ข้อมูลส่วนตัวหรือรหัสผ่าน
Facebook ไม่มีนโยบาย ขอรหัสผ่านหรือข้อมูลสำคัญผ่านอีเมลหรือข้อความ

4. เปิดใช้การยืนยันตัวตนสองขั้นตอน (2FA)
ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้บัญชี แม้ว่ารหัสผ่านของคุณจะรั่วไหล

5. แพลตฟอร์มจะไม่ขอข้อมูลส่วนตัว
หรือขอให้ผู้ใช้ทำตามขั้นตอนใดๆ ผ่านอินบ็อกซ์ และไม่ควรกดลิงก์ใดๆ หากพบพฤติกรรมที่น่าสงสัย

‘สนามบินฮ่องกง’ นำชิ้นส่วนประวัติศาสตร์ กลับมามีชีวิตอีกครั้ง สร้าง ‘กำแพงเมืองเกาลูน’ ขึ้นมาใหม่ในล็อบบี้ ก่อนที่จะถูกรื้อถอน

(9 มี.ค. 68) เพจเฟซบุ๊ก ‘Jaroensook Limbanchongkit Pone’ โพสต์ข้อความระบุว่า ...

#สนามบินฮ่องกง ได้นำชิ้นส่วนประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจกลับมามีชีวิตอีกครั้งด้วยการสร้าง #กำแพงเมืองเกาลูน ขึ้นมาใหม่ในล็อบบี้ ก่อนที่จะถูกรื้อถอนในปี 1994 

กำแพงเมืองเกาลูนเป็นที่เลื่องลือว่าเป็นสถานที่ที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในโลก โดยมีผู้อยู่อาศัย 33,000 คนเบียดเสียดกันอยู่ในตึกเดียว พื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นนี้กลายเป็นตำนานด้วยบรรยากาศที่วุ่นวายแต่มีชีวิตชีวา ซึ่งแทบไม่มีกฎระเบียบอย่างเป็นทางการ และชุมชนก็เติบโตขึ้นจนกลายเป็นภูมิทัศน์เมืองที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

เนื่องจากไม่มีการวางผังเมืองที่เหมาะสม เมืองที่มีกำแพงล้อมรอบจึงกลายเป็นเขาวงกตที่มีตรอกซอกซอยแคบๆ และอาคารหลายชั้น ทำให้กลายเป็นพื้นที่ที่ซับซ้อนและแทบจะเดินไปไหนมาไหนไม่ได้เลย แม้จะมีสภาพความเป็นอยู่ที่เลวร้าย 

แต่เมืองนี้ก็กลายเป็นชุมชนที่เจริญรุ่งเรือง มีครอบครัว ธุรกิจขนาดเล็ก และอุตสาหกรรมต่างๆ อยู่ร่วมกันในสภาพแวดล้อมที่แออัด 
ผู้คนในเมืองที่มีกำแพงล้อมรอบเกาลูนแสดงให้เห็นถึงความอดทนและความเฉลียวฉลาดอย่างน่าทึ่ง โดยพวกเขาค้นหาวิธีที่จะทำให้ชีวิตที่คับแคบและขาดแคลนทรัพยากรของพวกเขาประสบความสำเร็จ

กำแพงเมืองเกาลูนยังคงเป็นสัญลักษณ์ของการอยู่รอดและการปรับตัวในเมือง ดึงดูดจินตนาการของผู้ที่เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเมืองนี้ 
แบบจำลองในสนามบินฮ่องกงทำหน้าที่เป็นเครื่องบรรณาการให้กับการตั้งถิ่นฐานอันพิเศษนี้ โดยให้ผู้เยี่ยมชมได้สัมผัสกับโลกที่ไม่เหมือนใคร มีชีวิตชีวา และไม่ธรรมดาที่เคยดำรงอยู่ภายในขอบเขตของเมืองที่หนาแน่นแห่งนี้

นักวิจัยสหรัฐฯ พบข้อบกพร่องร้ายแรงใน Find My ชี้!! อาจเป็น ‘ภัยคุกคาม’ ต่อความมั่นคงของชาติ

(9 มี.ค. 68) ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยจอร์จ เมสันในมลรัฐเวอร์จิเนียค้นพบปัญหาในเครือข่ายแอปพลิเคชัน Find My ของ Apple ที่ดาวน์โหลดและเปิดใช้งานตามค่าเริ่มต้น โดยเตือนว่าอาจเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ แอปพลิเคชัน Find My ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาอุปกรณ์ AirTags และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เป็นผลิตภัณฑ์ของ Apple ที่สูญหายได้ ปัญหาจากการโจมตีนี้ถูกทีมนักวิจัยตั้งชื่อว่า 'nRootTag' ซึ่งจะหลอกเครือข่าย Find My ให้คิดว่าอุปกรณ์ที่รองรับ Bluetooth เป็น AirTag ที่สูญหาย ช่วยให้ผู้ก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์สามารถแอบติดตามอุปกรณ์ดังกล่าวได้โดยเจ้าของผู้ใช้ไม่รู้ตัว
.
Find My เป็นแอปพลิเคชันบริการติดตามอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่สร้างโดย Apple Inc. ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามตำแหน่งของอุปกรณ์ iOS , iPadOS , macOS , watchOS , visionOS , tvOS , AirPods , AirTags และอุปกรณ์เสริมของบุคคลที่สามผ่านบัญชี iCloud ที่เชื่อมต่อ โดยผู้ใช้ยังสามารถแสดงตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของอุปกรณ์หลักให้ผู้อื่นเข้าดูได้ และสามารถดูตำแหน่งของผู้อื่นที่เลือกแชร์ตำแหน่งของตนได้ด้วย Find My เปิดตัวพร้อมกับ iOS 13 เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2019 ด้วยการผสานฟังก์ชันของ Find My iPhone เดิม (รู้จักกันในชื่อ Find My Mac บนคอมพิวเตอร์ Mac) และ Find My Friends เข้าเป็นแอปพลิเคชันเดียวบน watchOS โดย Find My จะแบ่งออกเป็นสามแอปพลิเคชันที่แตกต่างกันคือ (1)ค้นหาอุปกรณ์ (2)ค้นหาบุคคล และ (3)ค้นหารายการ
.
ใน iOS 9 ทั้ง Find My iPhone และ Find My Friends กลายเป็นแอปพลิเคชันในตัว และไม่สามารถลบออกจากอุปกรณ์ได้ ในการเปิดตัว iOS 13 และ macOS 10.15 ฟังก์ชันการทำงานของทั้ง Find My iPhone และ Find My Friends ได้ถูกผสมผสานเข้าเป็นแอปพลิเคชันเดียว โดยมีชื่อว่า Find My ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถแชร์ตำแหน่งอุปกรณ์ของตนกับผู้ติดต่อที่ ใช้อุปกรณ์ iOS, iPadOS หรือ macOS ได้เป็นเวลา 1 ชั่วโมง จนกว่าจะสิ้นสุดวันหรือไม่มีกำหนด เมื่อแชร์แล้ว ผู้อื่นจะสามารถดูตำแหน่งที่แน่นอนของอุปกรณ์ของบุคคลนั้นบนแผนที่ และสามารถรับเส้นทางไปยังตำแหน่งของบุคคลนั้นได้ สามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนเพื่อแจ้งให้ผู้ใช้ทราบเมื่อมีคนออกจากหรือมาถึงตำแหน่งที่กำหนด
.
โดยที่ ผู้ใช้สามารถค้นหาตำแหน่งของอุปกรณ์ Apple ของตนและเปิดเสียงบนอุปกรณ์ด้วยระดับเสียงสูงสุด อุปกรณ์ยังสามารถถูกทำเครื่องหมายว่าสูญหายได้ โดยล็อกอุปกรณ์ด้วยรหัสผ่านและระงับการใช้งานฟีเจอร์สำคัญ เช่น Apple Wallet โหมดสูญหายยังอนุญาตให้ผู้ใช้ฝากข้อความและข้อมูลติดต่อไว้บนหน้าจอล็อกของอุปกรณ์ได้อีกด้วย ทั้งนี้ผู้ใช้สามารถเลือกที่จะลบอุปกรณ์นี้ได้ โดยสามารถทั้งลบเนื้อหาและการตั้งค่าทั้งหมด ซึ่งจะมีประโยชน์หากอุปกรณ์มีข้อมูลที่ละเอียดอ่อน อย่างไรก็ตาม หลังจากดำเนินการลบแล้วจะไม่สามารถค้นหาอุปกรณ์นี้ได้อีกต่อไป หลังจากลบข้อมูลเสร็จสิ้น ข้อความจะยังคงแสดงขึ้นและอุปกรณ์จะถูกล็อกการเปิดใช้งาน ซึ่งจะทำให้ผู้อื่นใช้งานหรือขายอุปกรณ์ได้ยาก ต้องใช้รหัสผ่าน Apple ID เพื่อปิด Find My ออกจากระบบ iCloud ลบข้อมูลอุปกรณ์ หรือเปิดใช้งานอุปกรณ์อีกครั้งหลังจากล็อกการเปิดใช้งาน 
.
ในขณะที่ Find My และ Find My Friends ซึ่งเป็นโปรแกรมก่อนหน้ามีปัญหาเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวที่เกิดจากการติดตามตำแหน่งของผู้ใช้โดยไม่มีการแจ้งให้ทราบ คุณลักษณะด้านความปลอดภัยหลายประการหมายความว่า ผู้ใช้จะแบ่งปันตำแหน่งของตนกับบุคคลที่ตนเลือกเท่านั้น และสามารถเพิกถอนสิทธิ์ได้ทุกเมื่อ "เพื่อน" สามารถติดตามได้เฉพาะผู้ใช้ที่ยอมรับคำขอเข้าถึงเท่านั้น ผู้ใช้สามารถลบบุคคลออกจากการเข้าถึงได้ตลอดเวลาหรือทำให้การติดตามใช้งานหรือระงับเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่ iOS 15 เป็นต้นมา Apple ได้เพิ่มคุณสมบัติในการค้นหา iPhone 11 หรือใหม่กว่าได้นานถึง 5 ชั่วโมงหลังจากแบตเตอรี่หมด หรือนานถึง 24 ชั่วโมงหากผู้ใช้ปิดเครื่องด้วยตนเอง (ยกเว้นรุ่น iPhone SE) ผ่านคุณสมบัติสำรองพลังงาน หากต้องการมีสิทธิ์เรียกร้องสิทธิ์สำหรับ iPhone ที่ถูกขโมยหรือสูญหายโดยได้รับความคุ้มครองจาก AppleCare+ พร้อมความคุ้มครองการโจรกรรมและสูญหาย ฟังก์ชัน Find My จะต้องเปิดใช้งานอยู่ในอุปกรณ์ของผู้ใช้
.
Qiang Zeng หนึ่งทีมนักวิจัยบอกว่า "ปัญหาหลักคือ การโจมตีของ 'nRootTag' ได้เปลี่ยนเครือข่าย Find My ของ Apple ซึ่งประกอบด้วย iPhone และอุปกรณ์ Apple อื่น ๆ จำนวน 1,500 ล้านเครื่องให้กลายเป็นระบบจารกรรมระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยที่ผู้โจมตีไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เลย" ตัวอย่างเช่น 'อุปกรณ์ Bluetooth เพียงเครื่องเดียวที่ติดไวรัสในหน่วยขีปนาวุธนิวเคลียร์เคลื่อนที่เชิงยุทธศาสตร์อาจทำให้ผู้โจมตีสามารถติดตามการเคลื่อนไหวได้'
.
นอกจากนี้ Zeng ยังอธิบายด้วยว่าข้อบกพร่องดังกล่าวอาจทำให้ศัตรูสามารถ "ตรวจสอบการเคลื่อนไหวของหน่วยฯ" ได้ แม้ว่า "หน่วยฯ จะหลีกเลี่ยงการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและปิดใช้งานโมดูล GPS ทั้งหมด แต่ iPhone ที่อยู่ใกล้เคียงก็ยังสามารถรายงานตำแหน่ง GPS ของอุปกรณ์ที่ติดไวรัสไปยังคลาวด์ของ Apple ได้" แม้ว่าทีมนักวิจัยจะไม่ได้ให้รายละเอียดการทำงานของ 'nRootTag' แต่พวกเขาบอกว่าการทดสอบแสดงให้เห็นว่า "การโจมตีของ 'nRootTag' ที่น่ากังวลนั้นมีอัตราความสำเร็จสูงถึง 90%"
.
โดยทีมนักวิจัยสามารถระบุตำแหน่งของอุปกรณ์ของ Apple ได้ภายในระยะ 10 ฟุต ติดตามเส้นทางของ จักรยานไฟฟ้าที่กำลังเคลื่อนที่ผ่านเมือง จำลองเส้นทางการบินที่แน่นอน และระบุหมายเลขเที่ยวบินของคอนโซลเกมที่นำขึ้นเครื่องบินได้ อย่างไรก็ตาม Zeng และ Junming Chen นักวิจัยอีกผู้หนึ่งได้แสดงความกังวลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภัยจากการคุกคาม การสะกดรอย ต่อผู้ใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ของ Apple ตลอดจนภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติที่อาจเกิดขึ้นจากการโจมตีของ 'nRootTag' ได้ในอนาคต


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top