Saturday, 21 June 2025
ค้นหา พบ 48929 ที่เกี่ยวข้อง

เอกนัฏ’ ชื่นชม!! ‘ชาวไร่อ้อย - โรงงานน้ำตาล’ ชี้!! ฮีโร่ช่วยลดฝุ่น PM2.5 หลังอ้อยเผาเหลือ 9% ดันแปรรูปสู่พลาสติกชีวภาพ ดึงเงินลงทุน 2 หมื่นล้าน

(12 ก.พ. 68) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากที่ตนได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ขอความร่วมมือเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสด งดเผาอ้อยก่อนและหลังการเก็บเกี่ยว และขอความร่วมมือโรงงานน้ำตาลให้รับเฉพาะอ้อยสดเข้าหีบ โดยชะลอ ระงับ ยับยั้ง และยุติการเผาไร่อ้อย พร้อมทั้งยุติการรับอ้อยเผาเข้าหีบ ตามแนวทางมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ฝุ่นละออง PM 2.5) ของรัฐบาลและมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2568 จากสถิติการรับอ้อยเข้าหีบของโรงงานน้ำตาล 58 แห่งทั่วประเทศ พบว่า ชาวไร่อ้อยและโรงงานน้ำตาลให้ความร่วมมือในการตัดและรับอ้อยเผาเข้าหีบต่ำสุดในประวัติศาสตร์ ที่ระดับ 9% ดันอ้อยสดพุ่งกว่า 91% ส่งผลให้ฝุ่นพิษ PM2.5 ลดลง และมีส่วนช่วยให้ประชาชนได้รับอากาศบริสุทธิ์ ใช้ชีวิตประจำวันและทำกิจกรรมกลางแจ้งตามปกติ

นายเอกนัฏ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา ตนได้พบหารือกับนายโรเจอร์ มาร์คิโอนี่ ผู้อำนวยการธุรกิจทวีปเอเชีย และกรรมการผู้จัดการ บริษัท Braskem Siam บริษัท Braskem S.A. ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกในอุตสากรรมการพลาสติกชีวภาพ มีความสนใจที่จะมาลงทุนในประเทศไทย โดยมีแผนจัดตั้งโรงงานผลิตพลาสติกชีวภาพ ซึ่งต้องการเฉพาะวัตถุดิบเอทานอลที่ผลิตจากอ้อยที่ปลูกโดยไม่ก่อมลพิษ และปัญหาสิ่งแวดล้อม คือ จะต้องผลิตจากอ้อยตัดสดไม่เผาแปลงเท่านั้น โดยมีด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 2 หมื่นล้านบาท กำลังการผลิต 2 แสนตันต่อปี โดยจะต้องใช้เอทานอล 500 ล้านลิตรต่อปี ถือเป็นโอกาสทองของประเทศไทยที่จะมีอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูงในประเทศ เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ และถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อยกระดับทักษะการทำงานแรงงานไทยให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังได้แลกเปลี่ยนและหารือแนวทางทางการพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการปลูกและเก็บเกี่ยวอ้อยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดการเผาอ้อย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายภาครัฐในการลดมลพิษทางอากาศและส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างยั่งยืน

“ผมขอชื่นชมและขอขอบคุณเกษตรกรชาวไร่อ้อยและโรงงานน้ำตาล ซึ่งเป็นฮีโร่ของคนไทยช่วยลดฝุ่น PM2.5 จากการร่วมมือร่วมใจผลักดันการตัดอ้อยสด ลดการเผาอ้อย ช่วยให้คนไทยอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี อากาศบริสุทธิ์ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมชีวภาพของไทย ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระยะยาว และเพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมชีวภาพในภูมิภาคอาเซียน การพัฒนาอ้อยสดไม่เผาให้เป็นวัตถุดิบสำคัญสำหรับพลาสติกชีวภาพจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเกษตรกรไทย ลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล และผลักดันให้ภาคอุตสาหกรรมสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลกอย่างยั่งยืน” นายเอกนัฏ กล่าวทิ้งท้าย

‘อียิปต์’ แสดงเจตนารมณ์!! นำเสนอ ฟื้นฟู ‘ฉนวนกาซา’ เพื่อให้!! ‘ชาวปาเลสไตน์’ ยังคงอยู่ในบ้านเกิดของตน

(12 ก.พ. 68) เฟซบุ๊ก ‘Jaroensook Limbanchongkit Pone’ โพสต์ข้อความระบุว่า ....

แถลงการณ์ที่เบาโหวงจาก #รัฐบาลอียิปต์ ในเรื่อง #ฉนวนกาซา 

ล่าสุด: คำชี้แจงจากกระทรวงการต่างประเทศของอียิปต์

อียิปต์แสดงเจตนารมณ์ที่จะนำเสนอวิสัยทัศน์การฟื้นฟูฉนวนกาซาเพื่อให้ชาวปาเลสไตน์ยังคงอยู่ในบ้านเกิดของตน

อียิปต์แสดงความปรารถนาที่จะร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐฯ นำโดยประธานาธิบดีทรัมป์ เพื่อบรรลุสันติภาพที่ครอบคลุมและยุติธรรมในภูมิภาคโดยบรรลุ
ข้อตกลงที่ยุติธรรมสำหรับชาวปาเลสไตน์ที่ยึดมั่นในสิทธิของประชาชนในภูมิภาค

ในบริบทนี้ อียิปต์ยืนยันความตั้งใจที่จะนำเสนอวิสัยทัศน์ที่ครอบคลุมสำหรับการก่อสร้างฉนวนกาซาขึ้นใหม่ในลักษณะที่จะรับรองว่าชาวปาเลสไตน์ยังคงอยู่ในบ้านเกิดของตน และสอดคล้องกับสิทธิอันชอบธรรมและถูกต้องตามกฎหมายของพวกเขา

อียิปต์เน้นย้ำว่าวิสัยทัศน์ใดๆ ที่ต้องการแก้ไขปัญหาปาเลสไตน์ จะต้องคำนึงถึงความจำเป็นในการหลีกเลี่ยงการก่อให้เกิดอันตรายต่อสันติภาพในภูมิภาค ขณะเดียวกันก็ต้องแก้ไขที่สาเหตุหลักของความขัดแย้งด้วยการยุติการยึดครองดินแดนปาเลสไตน์ของอิสราเอลและดำเนินการตามแนวทางสองรัฐซึ่งเป็นหนทางเดียวที่จะนำไปสู่เสถียรภาพและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติระหว่างประชาชนในภูมิภาค

เมื่อหนึ่งในผลิตผลของ ‘พรรคส้ม’ ล้มสถาบัน!! คือการเป็น สส. หื่นกาม กระทั่งข่มขืนหญิงสาวชาวต่างชาติ

(12 ก.พ. 68) ถ้าเป็นประเทศที่เจริญแล้วจริง ๆ หรือคุณภาพของนักการเมืองอยู่ในมาตรฐานที่สูงมากพอ หากถูกจับได้ว่ามีส่วนพัวพันในเรื่องละเมิดจริยธรรม คุณธรรม ทำให้เกิดเรื่องเสื่อมเสียต่อชื่อเสียงของตนเอง รวมถึงพรรคการเมืองที่สังกัด นักการเมืองผู้นั้นจะต้องขอยุติบทบาท ลาออกจากการทำหน้าที่ทันที ไม่ต้องรอให้ใครมากดดัน หรือขับไล่

แต่เรื่องดี ๆ แบบนี้คงยากจะหาได้จาก ‘นักการเมืองขี้หมา’ ของประเทศไทยเรา 

ด้วยมาตรฐานของนักการเมืองไทย เน้นไปที่ ‘สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร’ มีมาตรฐานที่ค่อนข้างต่ำ สมัยยี่สิบปีก่อนก็ไม่ได้มีมาตรฐานสูง แต่สมัยนี้กลับต่ำเตี้ยเรี่ยดิน นับได้ไม่เกิน ‘นิ้วมือรวมนิ้วตีน’ ที่จะเรียกว่าเป็น ‘สส. คุณภาพ’ เข้ามาทำงานเพื่อรับใช้ประชาชนอย่างซื่อสัตย์สุจริต มีอุดมการณ์ มีความรับผิดชอบอันแรงกล้าต่อสังคมส่วนรวม 

ส่วนใหญ่เป็นได้เพียง สส. ผู้หิวกระหายอำนาจ รวมหัวกันโกงบ้านกินเมือง ทำให้ภาพลักษณ์ของนักการเมืองไทยมีแต่ความต่ำทราม เลวร้าย ดูเป็นอาชีพที่ไร้เกียรติ เพราะอุดมไปด้วยกลุ่มคนที่มี DNA ในทางปลิ้นปล้อนเข้ามาอยู่รวมกันในสภาอันทรงเกียรติ 

ที่ชัดสุดคือ สส.จากพรรคการเมืองที่มีเป้าหมายล้มล้างการปกครอง อ้างตนเป็น ‘กลุ่มคนรุ่นใหม่’ ที่หมายจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงประเทศชาติ แต่พฤติกรรมแต่ละดอกที่ประชาชนจับได้ไล่ทันช่างเป็นสิ่งที่น่าอเนจอนาถใจ ตั้งแต่การแอบอ้างผลงานของคนอื่นเป็นผลงานของตัวเอง สร้างเรื่องโกหกรายวันให้ตนเองดูดี หนีการเกณฑ์ทหาร และพัวพันคดี 112 อีกไม่น้อย ยังมีคดีละเมิดทางเพศ ข่มขืนสาวชาวต่างชาติ ทำให้ภาพลักษณ์ของนักการเมืองไทยหมดคุณค่าลงสิ้น 

สส. หื่นกาม มีพฤติกรรมชั่ว ทำผิดในเรื่องซ้ำ ๆ รายหนึ่ง เป็นผลผลิตที่น่าภาคภูมิใจของพรรคการเมืองที่เข้ามาเพื่อล้มล้างสถาบัน จึงยากที่จะเห็นนักการเมืองในพรรคนี้ก่นด่าให้เราได้ยิน ต่างพากันเงียบกริบ หันไปสายลมแสงแดดแทน 

คำกล่าวที่ว่า สส. โง่และชั่วในระดับใด ก็ให้ดูพรรคการเมืองที่สร้างจนมีตัวตน รวมถึงกลุ่มคนที่กาเลือกเข้ามา เพราะจะมีคุณสมบัติที่ไม่ต่างกัน

‘รถยนต์ฝ่าไฟแดง’ ชน!! ม.3 ข้ามทางม้าลาย หน้าโรงเรียนสวนกุหลาบ ขณะ!! ‘ไฟเขียว’ ให้คนข้ามถนน ทั้งที่คนถือธงแดง โบกธงแล้ว

เผยว่า เมื่อช่วงหลังเลิกเรียนวันนี้ ผู้ปกครองแจ้งว่าเกิดเหตุนักเรียนสวนกุหลาบ (ม.310) โดนรถที่ขับฝ่าไฟแดงคนข้าม ชนบริเวณหน้าโรงเรียน เบื้องต้นน้องขึ้นรถพยาบาลไปกับครูประจำชั้นแล้ว หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป

นักเรียนที่อยู่ในจุดเกิดเหตุให้ข้อมูลว่า ไฟเขียวให้คนข้ามถนนและคนถือธงแดงโบกธงแล้ว จังหวะนั้นน้องกำลังจะพุ่งไปขึ้นรถเมล์ แต่รถยนต์คันสีแดงกลับเร่งความเร็วฝ่าไฟแดงเข้ามาชน เพื่อนน้องหลบทัน น้องหลบไม่ทัน จุดที่ถูกชนยังอยู่บนพื้นที่ทางม้าลายคนข้ามถนน และเป็นสัญญาณไฟเขียวให้คนข้าม

และรายงานล่าสุด เมื่อเวลา 16.30 น. ตอนนี้น้องปลอดภัย มีสติ พูดคุยรู้เรื่อง กำลังรอผลเอกซเรย์ และในเวลา 18.00 น. ผลเอกซเรย์ทุกอย่างไม่มีแตกหัก รวมถึงสแกนสมองเรียบร้อย คาดว่าไม่ต้องนอน รพ. วันนี้น้องเรียนวันสุดท้าย มีสอบอีก 2 วัน ก็จบ ม.3

‘เอกนัฏ’ สั่ง!! ‘ทีมตรวจสุดซอย’ ลุยต่อเนื่องตรวจ 2 โรงงาน เชื่อมโยง!! ไฟไหม้โรงงานพลาสติกเถื่อน จ.สมุทรสาคร

(12 ก.พ. 68) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ส่งทีมตรวจสุดซอยลุยตรวจต่อเนื่อง นำโดย น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายเอกนิติ รมยานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ขยายผลเหตุเพลิงไหม้โกดังทลายเครือข่ายที่เคยพบเศษพลาสติกกว่า 6,900 ตัน พร้อมตรวจค้น 2 โรงงานที่มีความเชื่อมโยงกับโรงงานพลาสติกเถื่อน จ.สมุทรสาคร ที่ถูกสั่งปิด เมื่อวันที่ 1 ก.พ.68 ที่ผ่านมา

น.ส.ฐิติภัสร์กล่าวว่า ในที่เกิดเหตุเพลิงไหม้พบป้ายชื่อบริษัทที่ติดอยู่ คือ บริษัทเถิงฟา พลาสติก แอนด์ เมทเทิล จำกัด ตั้งอยู่ที่ 288/6 หมู่ที่ 4 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร มีนายฟู่ซิน หลัว เป็นหนึ่งในกรรมการจากการขยายผลพบอีก 2 บริษัทที่มีความเชื่อมโยงกัน คือ 1) บริษัท ยูนิโบร เมทัล (ไทยแลนด์) จำกัด ตั้งอยู่ที่ 288/6 หมู่ที่ 4 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร มีนายฟูควน ลัว และนายฟู่ซิน หลัว เป็นกรรมการ ประกอบกิจการคัดแยกวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่ไม่เป็นอันตราย 2) บริษัทเถิงต๋า พลาสติก แอนด์ เมทเทิล จำกัด ตั้งอยู่ที่ 288/12 หมู่ที่ 4 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร มีนายฟูควน ลัว เป็นกรรมการ ประกอบกิจการคัดแยกวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่ไม่เป็นอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต

จากการตรวจค้นทั้ง 2 บริษัท พบเศษพลาสติกสายไฟนำเข้าจากต่างประเทศ บางส่วนมีลักษณะคล้ายกับเศษพลาสติกสายไฟในโกดังที่เกิดเหตุไฟไหม้ โดยนายฟูควน ลัว กรรมการบริษัท ยูนิโบร เมทัล (ไทยแลนด์) จำกัด รับสารภาพเป็นเจ้าของ นอกจากนี้ ยังตรวจพบขยะอิเล็กทรอนิกส์และแผ่น PCB ถูกบดย่อยกองอยู่และในถุง big bags เป็นจำนวนมากในพื้นที่ ซึ่งมีบริษัท บี เค รีไซเคิล จำกัด เป็นเจ้าของ ส่วนการตรวจค้นบริษัท เถิงต๋า ที่ตั้งอยู่ติดกัน พบมีการลักลอบประกอบการโดยไม่ได้รับอนุญาต ฝ่าฝืนกกฎหมายไม่ปฏิบัติตามประกาศเรื่องสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว

พนักงานเจ้าหน้าที่และเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมและส่งตัวนายฟูควน ลัว กรรมการบริษัท ยูนิโบร เมทัล (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัทเถิงต๋า พลาสติก แอนด์ เมทเทิล จำกัด และบริษัทเถิงฟา พลาสติก แอนด์ เมทเทิล จำกัด ส่งตัวไปดำเนินคดีที่ บก.ปทส. พร้อมทั้งดำเนินคดีกับผู้มีส่วนกระทำความผิดทั้งหมดอย่างถึงที่สุด

“หากประชาชนพบเห็นปัญหาหรือเหตุต้องสงสัยเกี่ยวกับการประกอบการอุตสาหกรรมที่ไม่ถูกต้องหรือสินค้าที่ไม่ผ่านมาตรฐาน มอก. สามารถแจ้งเรื่องร้องเรียนผ่าน ‘แจ้งอุต’ หรือไลน์ไอดี ‘traffyfondue’ เพื่อกระทรวงฯ จะเร่งส่งทีมสุดซอยลงพื้นที่จัดการกับปัญหาให้ประชาชนในทันที” น.ส.ฐิติภัสร์ กล่าวทิ้งท้าย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top