Sunday, 22 June 2025
ค้นหา พบ 48945 ที่เกี่ยวข้อง

ซีรีส์แนววัยรุ่น สุดปัง!! ทางช่อง ‘Thai PBS’ ทุกวัน ‘ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์’ เวลา 20.30 น. ฉากบู๊สุดมันส์!! สาวหวาน ‘มิวสิค BNK 48’ โดนฟันเป็นครั้งแรก เจ็บจริง แต่สู้ไม่ถอย

(8 ก.พ. 68) ‘ฝันของฉัน คือฟันดาบ’ ซีรีส์แนววัยรุ่น เรื่องใหม่ล่าสุดที่ฉายออกอากาศทางช่อง ‘Thai PBS’ โดยซีรีส์เรื่องนี้ บอกเล่าเรื่องราวความฝันในกีฬาฟันดาบ ของวัยรุ่นที่สนุกน่าติดตาม

ซีรีส์เรื่อง ‘ฝันของฉัน คือฟันดาบ’ บอกเล่าเรื่องราวของ ‘ซัน’ นักกีฬาฟันดาบสากลที่มีความสามารถ มีสไตล์โดดเด่น แต่เขานั้นต้องเจอกับปัญหามากมายรอบตัว ทำให้เขามักจะพะวงอยู่เสมอ และต่อมาโชคชะตาก็ทำให้เขาได้เจอกับ ‘เวฬา’ สาวในชมรมฟันดาบสากลของมหาวิทยาลัย โดยเวฬาเองเธอก็มีรุ่นพี่ที่สนิมคือ ‘ทาม’ นักกีฬาฟันดาบที่กำลังลุ้นติดทีมชาติ ซึ่งการเจอหน้ากันของครั้งแรกของทั้งสองก็ไม่สวย แถมยังมีเรื่องกัน ทั้งยังโดนดูถูก เรื่องราวจะสนุกและชวนลุ้นแค่ไหนก็ต้องไปติดตามกัน

ในเรื่องนี้ ก็ได้รวบรวม ดารานักแสดงวัยรุ่นไว้มากมาย อาทิ

พีค ภีมพล แสดงเป็น 'ชัน' เขานั้นเป็นนักเก่งกีฬาฟันดาบที่ถนัดทั้งไทยและสากล เป็นคนที่ใจร้อน ชอบกังวล ค่อสข้าวมองโลกลบ แต่หากตั้งใจแล้วจะทำได้เสมอ

มิวสิค แพรวา แสดงเป็น 'เวฬา' เธอเป็นลูกสาวร้านขายนาฬิกา เป็นสาวแก่นมีเสน่ห์ มองโลกในแง่ดี เห่ฝและชอบกีฬาฟันดาบไทย เธอเป็นคนที่ซันตกหลุมรัก

มอส ภาณุวัฒน์ แสดงเป็น 'ทาม' เขาเป็นนักกีฬาดาบเซเบอร์มือ 1 ของมหาวิทยาลัย เก่ง ขยัน มุ่งมั่น และเขาเองอยากเป็นนักกีฬาฟันดาบทีมชาติ

ครีมมี่ พลอยปภัส แสดงเป็น 'ทราย' สาวสวยที่เธอเป็นนักกีฬาดาบเซเบอร์ ดูเข้าถึงยาก แต่จิตใจดี และชอบช่วยเหลือคนอื่น

แน่นอนว่า ฉากเด็ดในเรื่องนี้ ก็ต้องอยู่ที่ การโชว์ลีลาฟันดาบ ซึ่งขอบอกเลยว่า นักแสดงวัยรุ่นในเรื่องนี้ ‘เล่นถึงมาก’ มีความสมจริงทั้งแอ๊คติ้ง ทั้งมุมกล้อง อย่างในฉากที่ต้องลงสนามแข่งขัน บอกเลยว่าลุ้นตามสุดๆ 

ไม่เพียงเท่านั้นในซีรีส์ยังมี รายละเอียดอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ มู้ดโทนของเรื่องราว การพรีเซ้นท์เล่าเรื่องที่มีความเป็นมา ผูกปมไวดูเพลิน แถมคอสตูมของนักแสดงแต่ละคนยังเข้ากับลุคและคาแรคเตอร์อีกด้วย

เรียกได้ว่าซีรีส์เรื่องนี้ ‘ฝันของฉัน คือฟันดาบ’ สนุกน่าติดตามสุดๆ

ไม่ดู ไม่ได้แล้ว!!

10 อันดับ ประเทศในอาเซียนที่เป็นผู้นำด้านระบบจ่ายเงินดิจิทัล

เข้าใกล้สังคมไร้เงินสด!!

ส่อง 10 อันดับ ประเทศในอาเซียนที่เป็นผู้นำด้านระบบจ่ายเงินดิจิทัล มีประเทศไหนบ้าง และประเทศไทยอยู่อันดับที่เท่าไหร่ ไปติดตามได้เลย

‘EBC Financial Group’ วิเคราะห์!! แนวโน้มของเศรษฐกิจประเทศไทย อัตราเงินเฟ้อในประเทศ เริ่มผ่อนคลาย แต่ยังมีความเสี่ยง ที่ยังคงต้องติดตาม

(8 ก.พ. 68) เมื่อก้าวเข้าสู่ปี 2568 เศรษฐกิจในไทยยังคงเผชิญกับความท้าทายในด้านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ นโยบายการเงิน และความผันผวนของตลาดทั่วโลก แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ แต่การเติบโตทางเศรษฐกิจกลับได้รับผลกระทบจากการส่งออกที่อ่อนแอ ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ และปัญหาทางโครงสร้าง ซึ่งปัจจัยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังคงเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐและภาคการท่องเที่ยว EBC Financial Group (EBC) ให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจในประเทศ โดยให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับภูมิทัศน์ทางการเงินที่กำลังเปลี่ยนแปลง พร้อมทั้งเสนอแนวโน้มและโอกาสการลงทุนในปี 2568

อัตราเงินเฟ้อและนโยบายการเงินที่มีผลต่อเศรษฐกิจในช่วงปลายปี

ในปี 2567 อัตราเงินเฟ้อในประเทศไทยต่ำกว่าเป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ตั้งไว้ระหว่าง 1% ถึง 3% โดยในเดือนธันวาคม ปี 2567 ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ขยับขึ้น 1.23% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก เดือนพฤศจิกายน 0.95% ซึ่งถือเป็นการกลับเข้าสู่ช่วงเป้าหมายครั้งแรกในรอบ 7 เดือน แม้จะมีการปรับตัวขึ้นในช่วงปลายปี แต่ค่าเฉลี่ยอัตราเงินเฟ้อทั้งปี 2567 ยังคงอยู่ที่ 0.4% ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 4 ปี
.
เพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อระดับต่ำและความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เหลือ 2.25% ในเดือนตุลาคม 2567 ซึ่งถือเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกตั้งแต่เดือนกันยายน 2566 หลังจากนั้น ได้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวในเดือนธันวาคม โดยอ้างถึงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นและความจำเป็นในการรักษาความยืดหยุ่นทางนโยบายเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ธปท. คาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจไทยในปี 2568 ที่ 2.9% และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในช่วงเป้าหมายที่ 1%-3% โดยคาดว่าจะอยู่ที่ 1.1%

นักวิเคราะห์จาก EBC เตือนว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจมีข้อจำกัดจากความท้าทายเชิงโครงสร้างที่ยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะภาคการส่งออกของประเทศไทยยังคงเผชิญปัญหาจากการชะลอตัวของการค้าระหว่างประเทศ ขณะเดียวกันการลงทุนจากภาคเอกชนยังไม่ฟื้นตัว ซึ่งทำให้การกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วงที่เศรษฐกิจโลกยังคงไม่แน่นอน และเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมาก

นายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความเป็นไปได้ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม พร้อมเน้นย้ำความสำคัญของการร่วมมือระหว่างมาตรการการเงินและการคลังในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์ในเอเชีย แต่ตลาดการเงินของไทยยังคงเผชิญความท้าทายจากปัจจัยภายนอก อาทิ การเปลี่ยนแปลงนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศ EBC มองว่า ปัจจัยภายในประเทศไทยและแรงกดดันจากภายนอก สร้างทั้งความเสี่ยงและโอกาสสำหรับนักลงทุน เราเน้นย้ำถึงความสำคัญของการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในตลาด

มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐฟื้นฟูและภาคการท่องเที่ยว

การฟื้นตัวเศรษฐกิจของประเทศไทยได้รับแรงขับเคลื่อนจากภาคการท่องเที่ยว ในปี 2567 ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 35.5 ล้านคน ซึ่งมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)

ยังคงเผชิญกับความท้าทายอย่างต่อเนื่อง โดยผลการดำเนินงานยังต่ำกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคอื่นๆ ซึ่งเกิดจากความไม่สงบทางการเมืองและความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจ ความไม่สอดคล้องระหว่างการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและผลประกอบการของตลาดหุ้น สะท้อนถึงความท้าทายทางเศรษฐกิจที่อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ซึ่งมองว่าเป็นโอกาสสำหรับการลงทุน

รัฐบาลไทยรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ โดยดำเนินมาตรการทางการคลังหลายด้าน เช่น โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 490,000 ล้านบาท ที่มุ่งเป้าไปยังประชากรประมาณ 45 ล้านคน การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 2.9% ซึ่งมีผลตั้งแต่เดือนมกราคม 2568 และมาตรการภาษีที่ให้สิทธิประโยชน์สูงสุดถึง 50,000 บาท เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในภาคต่าง ๆ EBC ระบุว่า มาตรการเหล่านี้อาจช่วยสนับสนุนธุรกิจในภาคสินค้าอุปโภคบริโภคและการท่องเที่ยว ขณะเดียวกัน โครงสร้างพื้นฐานที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาประเทศ อาจเป็นโอกาสการเติบโตสำหรับนักลงทุนระยะยาว ผลสำเร็จของมาตรการเหล่านี้จะขึ้นอยู่กับความสามารถของไทยในการดำเนินการปฏิรูปเชิงโครงสร้างเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

ผลกระทบจากภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ต่อจีนและแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศไทย

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่กำหนดแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 2568 คือ ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ภาษีศุลกากรใหม่ของสหรัฐฯ ที่จะมีผลบังคับใช้ในปีนี้ อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของจีนและอาจทำให้จีนต้องเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หากการใช้จ่ายของผู้บริโภคในจีนยังคงอ่อนแอ การท่องเที่ยวออกนอกประเทศอาจชะลอตัวลง

แม้ว่าจะมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยในภาคการท่องเที่ยว แต่ประชาชนจีนยังคงเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยมากที่สุดในปี 2567 ความไม่แน่นอนนี้อาจสนับสนุนให้ทองคำมีบทบาทมากขึ้น เนื่องจากอุตสาหกรรมทองคำยังคงได้รับความนิยมและมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย

นักวิเคราะห์ แนะนำว่า นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์การค้าอย่างใกล้ชิด เนื่องจากสินทรัพย์ทองคำและสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ อาจมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในกลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน เพื่อตอบสนองต่อความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลกที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น

‘Pocky x Butterbear’ ชวนแชร์รักด้วย ‘ป๊อกกาแลต’ บอกรักแบบใหม่ ‘I Pocky U’ กับน้องเนย สุดคิวท์

(8 ก.พ. 68) วาเลนไทน์ปีนี้ มัมหมี-พ่อหมี เตรียมมาอัปเลเวลความหวาน ในงาน Pocky X ButterBear Event กับการคอลแลปสุดปังครั้งแรกในไทย! ระหว่างกูลิโกะ ป๊อกกี้ และไอดอลสาววัย 3 ขวบ ‘น้องหมีเนย’ (Butterbear) ที่จะมาเสิร์ฟความน่ารัก ซุกซน ในวันเสาร์ ที่ 8 ก.พ.นี้ เวลา 14.00 น. ณ ชั้น 1 ร้าน Butterbear ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ – รอติดตามได้เลย ^^

นอกจากนี้ ยัยหนูยังชวนชาวด้อม ร่วมแชร์รักด้วยป๊อกกาแลตกับ Premium Set สุดเอ็กซ์คลูซีฟ จากป๊อกกี้ ที่มาพร้อมกระเป๋าและผ้าห่มสุดคิวท์ ให้เก็บสะสมหรือจะส่งต่อความน่ารัก เซอร์ไพร์สคนรู้ใจรับวันวาเลนไทน์ ก็ใจฟูไม่ไหว พร้อมประโยคบอกรักแบบใหม่สไตล์ GEN Z แค่ตะโกน 'I Pocky U' เหมือนเป็นการบอกความในใจให้คนพิเศษได้รู้ เตรียมเอฟจับจองเป็นเจ้าของพร้อมกันได้ตั้งแต่วันนี้  – 31 มีนาคม จำนวนจำกัด!!

สำหรับ Pocky x Butterbear เซตพิเศษเฉพาะวาเลนไทน์นี้ นำความน่ารักของน้องหมีเนยมาสร้างสรรค์ โดยถ่ายทอดคาแรคเตอร์ความสดใสแต่ละลายมาแบบจัดเต็ม ได้แก่

1. Valentine’s Gift Set เซตพิเศษเฉพาะช่วงวาเลนไทน์ ให้ฟินกับทั้งป๊อกกี้และหมีเนย ประกอบด้วย ป๊อกกี้รสช็อกโกแลต 1 แพ็ก ป๊อกกี้รสนม 1 แพ็ก และกระเป๋าปิกนิก Pocky x Butterbear มี 3 แบบให้สะสม Exclusive ตามแต่ละช่องทางการจัดจำหน่าย ถึง 28 ก.พ.นี้ (ขณะนี้มีจำหน่ายเพียง 2 แบบเท่านั้น สำหรับแบบโปรโมชั่นพิเศษ โปรดติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม) 

2. กระเป๋าถือ Pocky x Butterbear เมื่อซื้อสินค้ากูลิโกะที่ร่วมรายการกลุ่มขนมทั้งบิสกิตและช็อกโกแลตรสชาติใดขนาดใดก็ได้ครบ 159 บาท รับกระเป๋าถือ 1 ใบ ถึง 28 กุมภาพันธ์นี้

3. ผ้าห่มขนนุ่ม Pocky x Butterbear ขนาด 40*60 นิ้ว มีให้เลือก 2 ลาย คือ ลายหมีเนยสีชมพูและสีเหลือง เมื่อซื้อสินค้ากูลิโกะที่ร่วมรายการรสชาติใดขนาดใดก็ได้ ครบ 699 บาท ก็เป็นเจ้าของผ้าห่มสุดน่ารักได้แล้ว เริ่มจับจองได้ 24 กุมภาพันธ์ – 31 มีนาคมนี้

ห้ามพลาด!! จับจองเป็นเจ้าของพร้อมกันได้แล้ว ตั้งแต่วันนี้ วางจำหน่ายแล้วที่ร้านค้าชั้นนำและร้านค้าทั่วไปที่ร่วมรายการทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ โดยแต่ละช่องทางมีสินค้าและช่วงเวลาที่แตกต่างกันไปที่แตกต่างกันไป 

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Fanpage ของ https://www.facebook.com/PockyThailand และ https://www.facebook.com/GlicoTH 

‘เคทีซี’ ครองตลาด!! ‘บัตรเครดิตค่ายเจซีบี’ ในไทย เผย!! ‘ยอดใช้จ่าย-ปริมาณสมาชิกใหม่’ สูงสุด!!

(8 ก.พ. 68) เคทีซีเผยยอดรวมการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซี เจซีบี ในปี 2567 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 15% จำนวนสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้น 20% ขึ้นแท่นบัตรเครดิตเจซีบีอันดับหนึ่งที่มีจำนวนทั้งสมาชิกใหม่และยอดรวมการใช้จ่ายมากที่สุดในประเทศไทย โดยสมาชิกนิยมใช้จ่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะที่ประเทศญี่ปุ่นยอดใช้จ่ายก็ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ 18% สอดรับกับเทรนด์นักท่องเที่ยวไทยที่ยังนิยมเดินทางไปญี่ปุ่นเป็นอันดับต้น ๆ เคทีซีจึงได้ร่วมกับเจซีบี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) ออกแคมเปญ ‘JCB ลุ้นเปย์ไป JAPAN’ หวังกระตุ้นยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเคทีซี เจซีบี ตลอดแคมเปญปรับตัวสูงขึ้น 15% นอกจากนี้ ยังขยายฐานสมาชิกใหม่ ด้วยแคมเปญแจกโค้ดส่วนลดค่าอาหาร GrabFood คาดผลตอบรับดี มียอดสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้น 35 %

นายธศพงษ์ รังควร ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต ‘เคทีซี’ หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันมีจำนวนสมาชิกที่ถือบัตรเครดิตเคทีซี เจซีบี แพลทินัม และบัตรเครดิตเคทีซี เจซีบี อัลติเมท รวมกันทั้งสิ้นกว่า 300,000 ใบ สมาชิกนิยมใช้จ่ายทั้งในและต่างประเทศ โดยมียอดใช้จ่ายอยู่ 15,000 ล้านบาท สำหรับในประเทศบัตรเครดิตเคทีซี เจซีบี มีความโดดเด่นเรื่องโปรโมชันในหมวดร้านอาหารสไตล์โอมากาเซะ (Omakase) และห้างสรรพสินค้า ส่วนการใช้จ่ายที่ต่างประเทศ ญี่ปุ่นยังเป็นประเทศที่มีการใช้จ่ายมากที่สุด โดยมียอดใช้จ่ายอยู่ที่กว่า 1,180 ล้านบาท ในปี 2568 นี้ เคทีซีจึงได้ร่วมมือกับเจซีบี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) ออกแคมเปญ 'JCB ลุ้นเปย์ไป JAPAN' ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2568 - วันที่ 30 เมษายน 2568  สมาชิกลงทะเบียนและใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซี เจซีบี ทุกประเภทตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป / เซลส์สลิป รับ 1 สิทธิ์ลุ้นรับรางวัลดังนี้ 1) แพ็กเกจทัวร์ญี่ปุ่น 6 วัน 4 คืน จำนวน 2 รางวัล (รางวัลละ 2 ที่นั่ง) มูลค่ารางวัลละ 265,000 บาท รวมมูลค่า 530,000 บาท หรือ 2) จี้ทองคำรูปดอกซากุระน้ำหนัก 2 สลึง จำนวน 5 รางวัล มูลค่ารางวัลละ 22,800 บาท รวมมูลค่า 114,000 ระหว่าง ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ktc.co.th/promotion/overseas-privilege/asia/jcb-lucky-draw-x-japan

มิสเตอร์โคเฮ ฟุคามิ รองผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายออกบัตรเครดิต “เจซีบี” หรือ บริษัท เจซีบี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เคทีซีเป็นพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่ง ด้วยจำนวนสมาชิกผู้ถือบัตรใหม่และยอดรวมการใช้จ่ายผ่านบัตรเป็นที่น่าพึงพอใจอย่างยิ่ง สำหรับในปี 2568 เจซีบียังคงเดินหน้ามอบสิทธิพิเศษให้กับสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี เจซีบีอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมสิทธิพิเศษด้านการเดินทางที่ประเทศญี่ปุ่น และยังคงเน้นความพิเศษให้กับสมาชิกเมื่อใช้จ่ายในประเทศไทยด้วย โดยเฉพาะหมวดห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารญี่ปุ่น และโรงภาพยนตร์ชั้นนำ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของสมาชิกที่มีความหลากหลาย นอกเหนือจากการร่วมกันออกแคมเปญ ‘JCB ลุ้นเปย์ไป JAPAN’

นายธศพงษ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2568 นี้ เคทีซียังมุ่งขยายฐานสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี เจซีบี โดยมีเป้าหมายสมาชิกเพิ่มขึ้น 35% ด้วยการมอบสิทธิพิเศษสำหรับผู้สนใจสมัครบัตรเครดิตเคทีซี เจซีบี (บัตรหลักใหม่) ซึ่งได้รับอนุมัติภายในระยะเวลาที่กำหนด และมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรตั้งแต่ 3 รายการขึ้นไป ภายใน 30 วัน นับจากวันที่ได้รับอนุมัติบัตร จะได้รับโค้ดส่วนลด GrabFood มูลค่ารวม 500 บาท (โค้ดส่วนลดใบละ 100 บาท จำนวน 5 ใบ) ตั้งแต่วันที่  1 มกราคม 2568 - วันที่ 31 มีนาคม 2568 และระยะเวลาอนุมัติบัตร ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 - วันที่ 30 เมษายน 2568 ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ktc.co.th/promotion/online/dining/grabfood-x-ktcjcb

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KTC PHONE 02 123 5000 หรือติดตามโปรโมชันของเคทีซีได้ที่ https://www.ktc.co.th สำหรับผู้ที่ต้องการสมัครสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี สามารถคลิกดูรายละเอียดได้ที่ลิงก์ https://ktc.cards/apply-pop-jcb หรือติดต่อศูนย์บริการสมาชิก ‘เคทีซี ทัช’ ทุกสาขาทั่วประเทศ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top