Saturday, 21 June 2025
ค้นหา พบ 48929 ที่เกี่ยวข้อง

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ‘สมศักดิ์ เทพสุทิน’ เสนอคณะรัฐมนตรี ตั้งนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์ ใช้นักโทษพ้นคุก ในอุตสาหกรรมอาหารทะเล แทนแรงงานเถื่อน พร้อมสั่ง 27 เรือนจำ งดเยี่ยมนักโทษชั่วคราว

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ว่า ในเรือนจำทั่วประเทศ ยังไม่พบว่ามีนักโทษติดเชื้อ แต่ได้มีการปรับรูปแบบการเยี่ยมนักโทษในเรือนจำ โดยใช้แอปพลิเคชันไลน์ และขอให้งดเยี่ยมชั่วคราวจำนวน 27 เรือนจำ ซึ่งรวมถึงเรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร และใกล้เคียงด้วย

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า "นอกจากนี้ ตนยังได้เสนอข้อมูลต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า กรณีแรงงาน จ.สมุทรสาคร อยากจะเสนอนิคมอุตสาหกรรมแรงงานราชทัณฑ์ที่จะนำผู้ต้องขังใกล้พ้นโทษไปอยู่ เพื่อทำงานในอุตสาหกรรมอาหารทะเล เพื่อเติมเต็มในช่วงระยะเวลา 2 - 3 ปีข้างหน้า เพราะแรงงานต่างชาติที่เข้าออกโดยผิดกฎหมาย ก็เป็นอันตรายอย่างที่เห็นในทุกวันนี้"

นายสมศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า "สำหรับการทำงานในอุตสาหกรรมอาหารทะเล ไม่จำเป็นต้องใช้แรงงานที่มีความชำนาญ หรือใช้ทักษะอะไรพิเศษ เพราะเป็นแรงงานที่นำไปแกะกุ้ง หอย ปู ปลา ใช้เวลาเพียง 3-4 วัน ก็สามารถฝึกหัดให้เกิดความชำนาญแล้ว"

"ทั้งนี้ จากการเก็บสถิติผู้ต้องขัง พบว่า มีผู้ต้องขังจำนวน 35% ที่พ้นโทษออกไปแล้ว ต้องการมีงานทำ ขณะที่อีกประมาณ 50%มีพ่อแม่เลี้ยงดู และส่วนน้อย 15% ที่ไม่อยากทำงาน"

"สำหรับจำนวนผู้ต้องขังที่ต้องการทำงานประมาณ 35% นั้น เมื่อคิดเป็นจำนวนแรงงานจะอยู่ที่ประมาณ 5 - 7 หมื่นคน ที่จะไปทำงานในลักษณะนี้ เพื่อเป็นการฝึกอาชีพให้คนมีงานทำ ทั้งนี้ ยังไม่สามารถดำเนินการได้ทันที เพียงแต่คิดว่าจะสามารถตอบโจทย์แรงงานต่างด้าวที่เข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย และไม่ได้มีการตรวจเช็คเชื้อโควิด-19 และผ่านการคัดกรอง ถ้าทำแบบนี้เราก็จะสามารถตรวจสอบได้"

KPL สำนักข่าวสารประเทศลาว รายงานว่า แผนกทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นครหลวงเวียงจันทน์ ในนามของรองคณะกรรมการปรับปรุงที่ดินของเขตสงวนสองทางถนนเวียงจันทน์ 450 ปี ได้ประกาศขายสิทธิครอบครองที่ดินในเขตสงวน

ตลอดแนว 2 ฝั่งถนนสาย 450 ปี ลึกฝั่งละ 50 เมตร จำนวน 93 แปลง พื้นที่ 283,500 ตารางเมตร ให้แก่บุคคลหรือนิติบุคคลที่สนใจ เพื่อนำเงินมาชำระหนี้ให้แก่ธนาคารแห่งสปป.ลาวและค่าก่อสร้างถนน ผู้ที่สนใจซื้อสิทธิการใช้ที่ดินกรุณาติดต่อสำนักเลขาธิการและสำนักวิชาการที่สำนักงาน 450 ปี ตั้งอยู่ บ้านโพนทอง เมืองไชเสดถา นครหลวงเวียงจันทน์ ติดต่อ 020 22239972 020 55539992 และ 020 22205384

อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนตุลาคม องค์กรปกครองนครหลวงเวียงจันทน์และธนาคารแห่ง สปป.ลาว ได้เซ็นสัญญาโอนบสิทธิครอบครองที่ดินให้แก่กลุ่มบริษัทดวงจะเลิน พัดทะนาก่อส้าง จำกัด เพื่อให้บริษัทดวงจะเลิน จ่ายทั้งค่าใช้จ่ายและดอกเบี้ย ชำระหนี้ให้แก่ธนาคารแห่ง สปป.ลาว ที่องค์การปกครองนครหลวงเวียงจันทน์ได้กู้มาเพื่อใช้เป็นค่าก่อสร้างถนนสายนี้ตั้งแต่ พ.ศ.2551

.

ตามสัญญา บริษัทดวงจะเลินฯ หลังได้รับมอบที่ดินแล้ว  บริษัทมีหน้าที่ลงทุนพัฒนาต่อ เช่น ถมที่ดิน น้ำประปา ไฟฟ้า ถนนเข้าถึงในแต่ละพื้นที่โดยใช้เงินลงทุนเพิ่มเติมมากกว่า 30 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับนักลงทุนและสามารถขายที่ดินได้ในระยะเวลา 5 ปีต่อมา เพื่อเป็นทุนในการจ่ายเงินให้กับธนาคารแห่ง สปป.ลาว ให้เสร็จสมบูรณ์โดยไม่ต้องใช้งบประมาณของรัฐ

.

นายคำไพ ศิลาสา ประธานกรรมการบริษัทดวงจะเลินฯ กล่าวว่า แม้ถนนได้สร้างเสร็จและเปิดใช้งานแล้ว แต่ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา

ที่ดิน 2 ฝั่งถนนสายนี้สามารถขายออกไปได้เพียง 20% โดยขายได้เฉพาะที่ดินแปลงที่สวย กับแปลงที่อยู่ติดกับตัวเมือง

ที่ดินส่วนที่เหลือ ซึ่งขายไม่ออกเป็นแปลงที่ไกลจากตัวเมือง รูปที่ดินไม่สวย เป็นท้องทุ่ง หรือหนองน้ำ ไฟฟ้าและประปายังเข้าไปไม่ถึง

.

ที่สำคัญคือ ราคาที่กำหนดไว้เพื่อขายสูงกว่าราคาตลาด ด้วยเหตุนี้ จึงได้หารือร่วมกันกับองค์กรปกครองนครหลวงเวียงจันทน์และธนาคารแห่ง สปป.ลาว เพื่อแก้ไขหนี้และตกลงที่จะชำระหนี้ที่ค้างกับแบงค์ชาติลาว  ตกลงเห็นว่า จะโอนสิทธิการครอบครองใช้ที่ดินส่วนที่ยังขายไม่ได้ให้กลุ่มบริษัทดวงจะเลินฯ นำไปพัฒนา เพื่อนำเงินมาชำระหนี้แก่แบงก์ชาติลาวให้สำเร็จเร็วที่สุด

.

กลุ่มบริษัทดวงจะเลินฯ เป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่เติบโตขึ้นจากการได้รับสัมปทานจากรัฐ โดยเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ.2562 ที่ผ่านมา บริษัทดวงจะเลิน พัดทะนา กะสิกำ ในเครือกลุ่มดวงจะเลินฯ ได้รับสัมปทานทำสวนกล้วยจากแขวงบ่อลิคำไซ บนเนื้อที่ 150 เฮกตาร์ (937 ไร่) ในเมืองบ่อลิคัน รวมทั้งเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ.2561 กระทรวงโยธาธิการและขนส่ง สปป.ลาว ได้เซ็น MOU ให้บริษัทดวงจะเลิน พัดทะนาก่อสร้าง เป็นผู้ศึกษาความเป็นไปได้ โครงการสร้างทางด่วนสายใต้ (เวียงจัน-จำปาสัก) ช่วงจากเมืองท่าแขก (แขวงคำม่วน) ไปยังแขวงสะหวันนะเขต ระยะทาง 117 กิโลเมตร.


เรื่องโดย : หนุ่มโคราชคลุกคลี กับเมืองลาวทั้งด้านธุรกิจเอกชนและภาครัฐมานานหลายปี ยินดีแนะนําภาคเอกชนไทย บุกตลาดอินโดจีน สรรหาเรื่องเล่า วีถีชีวิต วัฒนธรรม เศรษฐกิจ

ศรีสุวรรณ จรรยา เผยคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรียกไปให้ถ้อยคำเพิ่มเติม กรณี ‘ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’ และคณะก้าวหน้า เข้าข่ายสมคบกันดำเนินกิจการเฉกเช่นพรรคการเมืองหรือไม่

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมฯ ได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เพื่อขอให้ดำเนินการไต่สวน สอบสวนคณะผู้ก่อตั้งคณะก้าวหน้าทั้งหมด รวมทั้งผู้สมัคร นายก อบจ. และ ส.อบจ. ทั่วประเทศในนามคณะก้าวหน้า ว่าเข้าข่ายสมคบกันในการดำเนินกิจการเช่นเดียวกันกับพรรคการเมืองตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 (พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560) ม.111 หรือไม่ หากพบว่าเป็นการฝ่าฝืนหรือมีความผิด ให้ดำเนินการเอาโทษทางกฎหมายและเพิกถอนสิทธิในการสมัคร อบจ.ด้วย

ล่าสุด ประธานกรรมการสืบสวนและไต่สวน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้มีหนังสือด่วนที่สุดมายังผู้ร้อง เพื่อไปให้ถ้อยคำพร้อมพยานหลักฐานเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง อันเกี่ยวกับพฤติการณ์หรือการกระทำของคณะผู้ก่อตั้งหรือกรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ว่ามีลักษณะการดำเนินกิจการเช่นเดียวกับพรรคการเมืองอย่างไรบ้างด้วย โดยให้ผู้ร้องไปให้ถ้อยคำในวันพฤหัสที่ 24 ธันวาคม พ.ศ.2563 นี้ เวลา 13.30 น.

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า "สืบเนื่องมาจากกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล และน.ส.พรรณิการ์ วานิช ได้ร่วมกันตั้งคณะก้าวหน้าขึ้นมาโดยมีการกำหนดตำแหน่งประธาน กรรมการ และเลขาธิการ โดยมีภาพเครื่องหมายของคณะเช่นเดียวกันกับพรรคการเมือง และดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ เฉกเช่นเดียวกับพรรคการเมือง .

เช่น การจัดประชุมเปิดตัวผู้สมัคร และส่งคนสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(นายก อบจ.) และสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(ส.อบจ.) กว่า 42 จังหวัด ทั่วประเทศในนามกลุ่มก้าวหน้า โดยใช้สัญลักษณ์หรือโลโก้กลุ่มในสื่อหาเสียงต่าง ๆ และนายธนาธร นายปิยบุตร และน.ส.พรรณิการ์ ก็ไปร่วมปราศรัย เดินรณรงค์หาเสียงเฉกเช่นเดียวกันกับพรรคการเมืองด้วยเช่นกัน"

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า พฤติการณ์หรือการกระทำดังกล่าวของนายธนาธร นายปิยบุตร และน.ส.พรรณิการ์ กับพวก จึงเป็นการสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปดําเนินกิจการเช่นเดียวกับพรรคการเมือง จึงอาจเข้าข่ายมีความผิดตาม พรป.พรรคการเมือง 2560 ม.111 ที่บัญญัติไว้ว่า "ผู้ใดสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปดําเนินกิจการเช่นเดียวกับพรรคการเมือง หรือผู้ใดดําเนินการไม่ว่าด้วยวิธีใดให้เข้าใจว่าเป็นพรรคการเมืองโดยมิได้จดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมือง ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอน สิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนด 5 ปี"

ชาวนาเตรียมเฮ หลังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ "จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์" เคาะเกณฑ์จ่ายประกันรายได้ชาวนา งวดที่ 7 ระบุข้าวหอมมะลิได้ชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 36,043 บาท

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ออกประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 งวดที่ 7 โดยมีเกษตรกรได้รับชดเชยตามข้อมูล ของกรมส่งเสริมการเกษตรงวดนี้ จำนวน 76,551 ครัวเรือน จึงขอแจ้งข่าวสารให้พี่น้องเกษตรกรทราบ

โดยราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 งวดที่ 7 สำหรับเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวระหว่างวันที่ 14 - 20 ธันวาคม 2563 มีดังนี้คือ

1.) ข้าวเปลือกหอมมะลิ เกณฑ์กลางตันละ 12,425.46 บาท ชดเชยตันละ 2,574.54 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 36,043.56 บาท

2.) ข้าวเปลือก หอมมะลินอกพื้นที่ เกณฑ์กลางตันละ 11,982.48 บาท ชดเชยตันละ 2,017.52 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 32,280.32 บาท

3.) ข้าวเปลือกเจ้า เกณฑ์กลางตันละ 9,429.59 บาท ชดเชยตันละ 570.41 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 17,112.30 บาท

4.) ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี เกณฑ์กลางตันละ 10,465.25 บาท ชดเชยตันละ 534.75 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 13,368.75 บาท และ

5.) ข้าวเปลือกเหนียว เกณฑ์กลางตันละ 11,400.10 บาท ชดเชยตันละ 599.90 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 9,598.40 บาท โดยมีเกษตรกรได้รับชดเชยตามข้อมูล ของกรมส่งเสริมการเกษตรงวดนี้ จำนวน 76,551 ครัวเรือน

สำหรับประกาศราคาเกณฑ์กลางนี้ ได้มีการประชุมคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ในเรื่องการกำหนดราคาเกณฑ์กลางไปเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ.2563 จากนั้น ธ.ก.ส.จะทำหน้าที่จ่ายเงินตรงเข้าบัญชีเกษตรกรภายใน 3วันทำการ

โดยเกษตรกรผู้ปลูกข้าวจะได้รับเงินในวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ.2563 ซึ่งโครงการดังกล่าวทางรัฐได้ดำเนินการเป็นปีที่ 2 โดยในงวดแรกได้ออกประกาศและจ่ายส่วนต่างตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ.2563 และไล่มาเรื่องๆ จนปัจจุบันที่อาจเป็นงวดสุดท้ายของปีซึ่งเป็นงวดที่ 7 และงวดต่อเริ่มสัปดาห์แรกของปี 64 โดยจะเหลือชาวนาอีกไม่กี่รายที่ยังรอการเก็บเกี่ยว

พบผู้ติดเชื้อ Covid-19 ที่ขั้วโลกใต้ สถานีวิจัย Bernardo O'Higgins Research Centre

ในที่สุด Covid-19 ก็สามารถเจาะพื้นที่สุดท้ายของโลก ทวีปแอนตาร์กติกา ดินแดนขั้วโลกใต้ที่เป็นทวีปสุดท้ายที่ยังไม่มีเชื้อ Covid -19 เข้าจนได้ เมื่อล่าสุดทางชิลีได้รายงานว่า พบผู้ติดเชื้อแล้วถึง 36 ราย ซึ่งเป็นทีมงานในสถานีวิจัยแห่งหนึ่งของชีลี

การค้นพบผู้ติดเชื้อครั้งนี้ ได้รับการยืนยันจากกองทัพชิลี เมื่อมีการส่งเรือ Sargento Aldea ซึ่งบรรทุกเสบียง และอุปกรณ์ที่จำเป็นไปส่งให้เจ้าหน้าที่ ที่ประจำอยู่ Bernardo O'Higgins Research Centre หนึ่งในสถานีวิจัยของชิลีที่ตั้งอยู่ในทวีปแอนตาร์กติกา เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

โดยก่อนการเดินทาง ลูกเรือได้ตรวจร่างกายทุกคน และไม่มีใครติดเชื้อ Covid-19 แต่หลังจากที่เรือกลับมาถึงท่าเรือชิลี เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ปรากฏว่าพบลูกเรือติดเชื้อ Covid-19 กลับมาถึง 3 คน

ทางกองทัพชิลีจึงรีบจัดส่งชุดตรวจ Covid-19 ไปที่สถานีวิจัย Bernardo O'Higgins และก็ต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์วิจัยแห่งนี้ ติดเชื้อ Covid-19 แล้วถึง 36 คน จึงต้องรีบพาผู้ติดเชื้อทั้งหมดกลับมารักษาตัวที่ชิลีทันที

และเป็นการยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่าเจ้าเชื้อไวรัส Covid-19 ครองโลกครบ 7 ทวีปเรียบร้อยแล้ว

หลังจากที่ทั่วโลกกำลังปั่นป่วนวุ่นวายอย่างหนักจากการแพร่ระบาด Covid-19 ดินแดนแห่งขั้วโลกใต้เป็นทวีปสุดท้ายของโลกที่ยังสงบ ปราศจาก Covid มาตลอด แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้น

ถึงแม้ว่าทวีปแอนตาร์กติก้า จะไม่มีมนุษย์อาศัยอยู่อย่างถาวร มีเพียงนักวิทยาศาสตร์ และทีมสำรวจที่เข้าพื้นที่ไปศึกษาธรรมชาติ ที่จะมีประชากรชาวโลกอยู่ประมาณ 4,000 คนในช่วงฤดูร้อน และลดลงเหลือ 1,000 คนในช่วงฤดูหนาว บนพื้นแผ่นดินแช่แข็งเวิ้งว้าง กว้างใหญ่ ห่างไกลสังคมเมืองมนุษย์

แต่เมื่อไวรัส Covid-19 ได้บุกมาจนถึงขั้วโลกใต้แล้ว ก็ย่อมมีผลกระทบต่อนักวิจัยที่กำลังทำงานอยู่ ซึ่งอาจต้องระงับภารกิจ เพื่อตรวจหาผู้ติดเชื้อ ตัดวงจรการแพร่ระบาดให้ได้

เพราะสิ่งที่นักวิจัยกลัว ไม่ใช่แค่การแพร่ระบาดในทีมงานที่อาศัยอยู่ที่นั่น แต่กลัวผลกระทบที่อาจเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสู่สัตว์ป่า และสิ่งมีชีวิตอื่นที่อยู่ในพื้นที่ ที่อาจนับได้ว่าเป็นดินแดนที่บริสุทธิ์ที่สุดในโลก

และการนำเชื้อโรคชนิดใหม่เข้าไปในพื้นที่แห่งนี้ อาจนำไปสู่หายนะที่เราคาดไม่ถึงก็เป็นได้


แหล่งข่าว

https://www.bbc.com/news/world-latin-america-55410065

https://www.theguardian.com/world/2020/dec/22/covid-cases-recorded-in-antarctica-for-first-time

https://news.sky.com/story/covid-19-coronavirus-finally-reaches-antarctica-as-36-test-positive-at-chilean-base-12169876


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top