Tuesday, 24 June 2025
ค้นหา พบ 48981 ที่เกี่ยวข้อง

‘ลัดดา แทมมี่ ดักเวิร์ธ’ หญิงแกร่งแห่งคองเกรส สตรีเชื้อสายไทยผู้พิชิตทุกขีดจำกัดหัวใจแกร่ง

ลัดดา แทมมี่ ดักเวิร์ธ วุฒิสมาชิกตัวตึง หญิงแกร่งสายเลือดไทยหนึ่งเดียวแห่งสภาคองเกรสสหรัฐ หากติดตามการเมืองอเมริกาในช่วง 10 ปีหลัง นับตั้งแต่สมัยปลายยุคโอบามา เข้าสู่ทรัมป์ 1.0 เปลี่ยนมาเป็น โจ ไบเดน ต่อเนื่องมาจนถึงสมัยเปลี่ยนถ่ายอำนาจเข้าสู่ทรัมป์ 2.0 หนึ่งในนักการเมืองดาวรุ่งที่มีผลงานโดดเด่นต่อเนื่องมาโดยตลอดคงหนีไม่พ้น วุฒิสมาชิกจากรัฐอิลลินอยส์ สังกัดพรรคเดโมแครต ลัดดา แทมมี่ ดักเวิร์ธ หรือ พี่แทมมี่ของน้อง ๆ คนไทยในอเมริกาท่านนี้นั่นเอง

ใดๆ digest ขอพาผู้อ่านย้อนดูประวัติของคุณแทมมี่สักเล็กน้อย โดยเธอเกิดที่กรุงเทพนี่เองครับ ในวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2511 เป็นลูกครึ่งไทย-อเมริกันในครอบครัวที่คุณพ่อเป็นทหารผ่านศึกชาวอเมริกันสงครามโลกครั้งที่สองและสงครามเวียตนามชื่อ ร้อยเอกแฟรงก์ แอล. ดักเวิร์ธ กับ คุณแม่ชาวไทยเชื้อสายจีนจากเชียงใหม่ชื่อ คุณละไม สมพรไพลิน ในวัยเด็กคุณแทมมี่ต้องย้ายที่อยู่บ่อยครั้งในหลายประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เนื่องจากต้องติดตามคุณพ่อซึ่งทำงานเป็นเจ้าหน้าที่องค์การสหประชาชาติ 

ซึ่งจากการที่คุณแทมมี่เคยอาศัยอยู่ในหลายประเทศนี่เอง ทำให้นอกจากใช้อังกฤษเป็นภาษาหลักแล้ว เธอยังใช้ภาษาไทยได้ในระดับดีมาก และภาษาบาฮาซาในระดับสื่อสารได้เข้าใจอีกด้วย ทางด้านการศึกษา คุณแทมมี่ได้รับการศึกษาจากโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทยและอินโดนีเซียและจบชั้นมัธยมปลายจากโรงเรียนในสหรัฐอเมริกา, สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีด้านรัฐศาสตร์จาก มหาวิทยาลัยฮาวายวิทยาเขตมานัว, ปริญญาโทสาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจากมหาวิทยาลัยจอร์จวอชิงตัน และปริญญาเอกสาขาบริการประชาชนจากมหาวิทยาลัยคาเปลลา คุณแทมมี่เดินตามรอยเท้าคุณพ่อด้วยการเข้ารับราชการทหารในกองทัพสหรัฐ 

ในปี พ.ศ. 2535 และเลือกที่จะเป็นนักบินเฮลิคอปเตอร์ และได้เข้าร่วมรบในสงครามอิรักโดยมีหน้าที่ขับเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงยุทโธปกรณ์และนำทหารที่บาดเจ็บจากแนวหน้ามารับการรักษาในแนวหลัง แต่โชคร้ายที่เครื่องเฮลิคอปเตอร์ ที่เธอเป็นนักบินผู้ช่วย ถูกยิงลูกระเบิดเข้ามาในเครื่อง และเกิดระเบิดตรงที่เธอนั่ง ทำให้คุณแทมมี่สูญเสียขาทั้งสองข้างและแขนข้างขวาบาดเจ็บสาหัสทันที อย่างไรก็ตามแพทย์ก็ได้ทำการต่อแขนข้างขวาให้แก่เธอ แต่ก็ทำให้คุณแทมมี่ต้องต้องใช้ขาเทียมทั้งสองข้าง รวมทั้งมีแขนซ้ายที่ใช้การได้ดีเพียงข้างเดียว 

ในเวลาต่อมาจนถึงปัจจุบัน จากเหตุการณ์ที่ต้องสูญเสียขาทั้งสองข้างไปนี่เองทำให้คุณแทมมี่ เกษียณตัวเองจากตำแหน่งนักบิน แต่ยังคงรับราชการเป็นนายทหารในสังกัดกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิแห่งรัฐอิลลินอยส์ โดยเน้นการทำงานเพื่อทหารผ่านศึกและผันตัวสู่เส้นทางการเมือง ด้วยการลงสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรัฐอิลลินอยส์ เป็นครั้งแรกในปี 2549 จากนั้นในปี 2552 ได้รับตำแหน่งเป็นหัวหน้าฝ่ายกิจการทหารผ่านศึกประจำรัฐ และได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงกิจการทหารผ่านศึกของสหรัฐ ต่อมาในปี พ.ศ. 2559 คุณแทมมี่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งสนามใหญ่ และสร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นสมาชิกวุฒิสภาของสหรัฐอย่างเต็มภาคภูมิ 

ผลงานอันโดดเด่นและการสร้างประวัติศาสตร์ในฐานะ 'คนแรก' ของคุณแทมมี่นั้นมีอยู่มากมายอาทิเช่น 
- เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตขึ้นกล่าววิพากษ์วิจารณ์นโยบายด้านการทหารและสงครามต่าง ๆ ของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช และ ประธานาธิบดี โดนัล ทรัมป์หลายครั้ง

- เป็นหนึ่งในสองตัวเลือกสุดท้ายคู่กับกมลา แฮริสในตำแหน่งรองประธานาธิบดีสมัยประธานาธิบดีโจ ไบเดน 
- ได้รับการแต่งตั้งโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดนให้ดำรงตำแหน่งรองประธานคณะกรรมการบริหารพรรคเดโมแครต โดยจะอยู่ในตำแหน่งรองประธานกรรมการบริหารพรรคเดโมแครต
- เป็นตัวแทนวุฒิสมาชิกสหรัฐตั้งคำถามและซักฟอกผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญในคณะบริหารของประธานาธิบดีหลายครั้ง โดยล่าสุดก็ได้ทำการซักถามว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พีท เฮ็กเซ็ทที่ได้รับการเสนอชื่อโดยทรัมป์อย่างถึงพริกถึงขิงเรื่องการขาดความรู้เกี่ยวกับกลุ่มประเทศอาเซียนนั่นเอง 
- นอกจากการได้รับเหรียญตราเชิดชูเกียรติมากมายจากทั้งกองทัพและรัฐบาลสหรัฐในฐานะทหารผ่านศึกที่กล้าหาญและการอุทิศตัวทำงานเพื่อส่วนรวมแล้ว คุณแทมมี่ยังได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ประถมาภรณ์มงกุฎไทย ชั้นที่ 1 จากรัฐบาลไทยอีกด้วย
- เป็นสุภาพสตรีเชื้อสายไทยคนแรกที่ได้รับการเลือกตั้งเข้าสู่สภาคองเกรสทั้งในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสมาชิก รวมทั้งเป็นคนแรกที่เกิดในแผ่นดินไทยที่ได้รับการเลือกตั้งเข้าสู่สภาอันมีเกียรติประวัติยาวนานของสหรัฐอเมริกาแห่งนี้ด้วย
- เป็นบุคคลทุพพลภาพคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้รับเลือกตั้งเข้าสู่สภาคองเกรส และยังนับเป็นผู้พิการอวัยวะมากกว่าหนึ่งอย่างคนแรกอีกด้วย
- เป็นวุฒิสมาชิกคนแรกที่ให้กำเนิดบุตรในขณะที่ดำรงตำแหน่ง

ทางด้านชีวิตครอบครัว คุณแทมมี่ได้สมรสกับอดีตเพื่อนทหารผ่านศึกในสงครามอิรักพันตรีไบรอัน ดับเบิลยู โบล์สบีย์ เจ้าหน้าที่กองพลสื่อสาร และมีลูกสาวที่น่ารักด้วยกัน 2 คน 

เรื่องราวชีวิตและผลงานของคุณแทมมี่ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากมายทั่วโลกโดยเฉพาะผู้พิการและผู้มีสายเลือดไทยทุกคน เธอได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดและผลลัพธ์แห่งความพยายามทุ่มเททำงานหนักตามแนวทางอุดมคติแบบ American Dream ว่าเป็นไปได้จริง และที่สำคัญคือในวันนี้คุณแทมมี่ก็ยังคงเปี่ยมไปด้วยพลังและไฟในการทำงานที่ไม่เคยมอดดับลงไป 

ใดๆ digest ขอร่วมส่งกำลังใจให้เธอพร้อมทั้งเฝ้าติดตามความเป็นไปได้มากมายที่คุณแทมมี่จะสร้างให้เกิดขึ้นต่อไปในอนาคตด้วยครับ

ผู้นำเม็กซิโกตอกกลับทรัมป์ ร้อง Google เปลี่ยนชื่อสหรัฐอเมริกาเป็น 'อเมริกาเม็กซิกัน'

(31 ม.ค.68) นางคลอเดีย เชนบาม ประธานาธิบดีเม็กซิโก ร่อนจดหมายถึงบริษัท  Google เปิดเผยความไม่พอใจอย่างรุนแรง หลังบริษัทยอมปฏิบัติตามคำสั่งของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ในการเปลี่ยนชื่อ 'อ่าวเม็กซิโก' เป็น 'อ่าวอเมริกา' พร้อมกับเรียกร้องให้เปลี่ยนชื่อประเทศสหรัฐอเมริกาเป็น 'อเมริกาเม็กซิกัน'

นางเชนบาม ได้แสดงท่าทีคัดค้านอย่างหนักต่อการกระทำของ Google ที่ปฏิบัติตามคำสั่งของทรัมป์ โดยเธอเห็นว่าการเปลี่ยนชื่อดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยและประวัติศาสตร์ของเม็กซิโก เธอยังเรียกร้องให้ Google คืนชื่อเดิมของอ่าวเม็กซิโกและหยุดการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อชื่อทางภูมิศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับประเทศของเธอ

ความไม่พอใจของประธานาธิบดีเม็กซิโกเกิดขึ้นหลังจากที่ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สั่งให้เปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโกเป็นอ่าวอเมริกา โดย Google ได้ปรับปรุงชื่อดังกล่าวใน Google Maps ทันทีตามคำสั่ง

ก่อนหน้านี้ Google ได้ออกแถลงการณ์ผ่านแพลตฟอร์ม X ระบุว่า "การเปลี่ยนแปลงชื่อนี้เป็นไปตามนโยบายของเราในการอัปเดตข้อมูลตามเอกสารราชการของรัฐบาลสหรัฐฯ" โดยบริษัทอ้างว่าการเปลี่ยนแปลงชื่อจะเกิดขึ้นทันทีเมื่อมีการแก้ไขในเอกสารทางการของสหรัฐฯ

นอกจากนี้ Google ยังประกาศว่าจะ 'ดำเนินการทันที' ในการเปลี่ยนชื่อภูเขาเดนาลิในรัฐอะแลสกากลับไปเป็นภูเขาแมคคินลีย์ ตามคำสั่งของทรัมป์ ทันทีที่เอกสารทางการได้รับการอัปเดต แม้ว่าจะมีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและชนพื้นเมืองก็ตาม

ทรัมป์ได้อธิบายว่าการเปลี่ยนแปลงทั้งสองรายการนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการ 'เชิดชูความยิ่งใหญ่ของอเมริกา' อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนชื่อภูเขาเดนาลิ ซึ่งเป็นชื่อที่ชนพื้นเมืองอะแลสกาให้ความสำคัญ ได้ก่อให้เกิดความไม่พอใจในวงกว้าง

การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของทรัมป์และ Google ได้รับการตอบรับอย่างไม่ดีจากทั้งเม็กซิโกและกลุ่มชนพื้นเมืองในสหรัฐฯ ซึ่งมองว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการลบเลือนประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมท้องถิ่น

‘ดร.อักษรศรี’ โพสต์เรื่องราวของทีมงาน ‘DeepSeek’ เผย!! อายุเฉลี่ยแค่ 35 ปี ชี้!! นี่คือ ทีมงานผู้พัฒนา ‘เอไอจีน’ ที่กลายเป็น ‘Talk of the World’ ดังทั่วโลก

(1 ก.พ. 68) รองศาสตราจารย์ ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Aksornsri Phanishsarn ถึงคนรุ่นใหม่ ในประเทศจีน โดยมีใจความว่า ...

#พลังคนรุ่นใหม่ Youth power leads to national strength #DeepSeek สาวหมวย/หนุ่มตี๋ในภาพนี้ (อายุเฉลี่ย 35 ปี) มีรายงานว่า คือ ทีมงานพัฒนา DeepSeek เอไอจีนที่กลายเป็น Talk of the World  

รายชื่อสมาชิกทีมพัฒนา DeepSeek AI จีน และมหาวิทยาลัยชั้นนำในจีนที่แต่ละคนเรียนจบมา (ไม่ได้จบนอก )

1. **梁文峰** เหลียง เวินเฟิง ผู้ก่อตั้ง
*(Liang Wenfeng)* 
ปัญญาประดิษฐ์ มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง 

2. **代达励** ไต้ ต๋าลี่ 
*(Dai Dali)* 
ปริญญาเอกวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยปักกิ่ง

3. **朱琪豪** จู ฉีหาว
*(Chu Qihao)* 
ปริญญาเอกวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยปักกิ่ง

4. **邵智宏** เส้า จื้อหง 
*(Shao Zhihong)* 
ปริญญาเอกปัญญาประดิษฐ์ มหาวิทยาลัยชิงหัว

5. **赵成钢** เจ้า เฉิงกัง 
*(Chao Chenggang)* 
สมาชิกทีม Supercomputing มหาวิทยาลัยชิงหัว

6. **高华佐** เกา หัวจั่ว 
*(Gao Huazuo)* 
ภาควิชาฟิสิกส์ มหาวิทยาลัยปักกิ่ง

7. **曾旺丁** เจิง วั่งติง 
*(Zeng Wangding)* 
มหาวิทยาลัยไปรษณีย์และโทรคมนาคมปักกิ่ง

8. **辛华剑** ซิน หัวเจี้ยน 
*(Xin Huajian)* 
สาขาวิชาคณิตศาสตร์ มหาวิทยาลัยจงซาน

'นายกฯ อิ๊งค์' เตรียมเยือน!! จีน คุย 'ปธน.สี จิ้นผิง' เจริญสัมพันธไมตรี ครบ 50 ปี ขับเคลื่อน!! ความร่วมมือในทุกมิติ ‘การค้าการลงทุน – เศรษฐกิจ – สังคม’

(1 ก.พ. 68) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงบ่ายของวันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ จะออกเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ณ กรุงปักกิ่ง โดยในเช้าวันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ นายกรัฐมนตรี และคณะ มีกำหนดการเข้าประชุมหารือกับ นายสี จิ้นผิง (H.E. Xi Jinping) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน นายจ้าว เล่อจี้ (H.E. Mr. Zhao Leji) ประธานสภาประชาชนแห่งชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน และนายหลี่ เฉียง (H.E. Mr. Li Qiang) นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อขับเคลื่อนความสัมพันธ์และความร่วมมือในทุกมิติ ทั้งการค้าการลงทุน เศรษฐกิจ และสังคมของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ปี 2568 นี้ เป็นปีทองแห่งมิตรภาพไทย - จีน ครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต

นายจิรายุ กล่าวว่า จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะวางพวงมาลาที่อนุสาวรีย์วีรชน ที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน โดยในช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมพิธีตรวจแถวสวนสนามภายในศาลามหาประชาชน และเข้าพบปะหารือร่วมกับนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีนและคณะ จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะเป็นสักขีพยานในการลงนามข้อตกลงต่าง ๆ ระหว่างไทย - จีน ทั้งในเรื่องเศรษฐกิจการค้าการลงทุน และ ข้อตกลงต่าง ๆ ระหว่างรัฐบาลของทั้งสองประเทศที่ได้บรรลุข้อตกลงระหว่างกัน โดยในช่วงค่ำรัฐบาลจีนโดยนายกรัฐมนตรีจีนและคณะผู้บริหารของรัฐบาลจีนได้จัดงานเลี้ยงรับรองคณะนายกรัฐมนตรีและคณะ

นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า จากนั้นในวันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ ช่วงเช้านายกรัฐมนตรีพร้อมคณะจะออกเดินทางจากกรุงปักกิ่งไปยังเมืองฮาร์บิน ในมณฑลเฮย์หลงเจียง ซึ่งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศจีน ตามคำเชิญของรัฐบาลจีน โดยในช่วงเที่ยงวันดังกล่าวประธานาธิบดี สี จิ้นผิง จะเป็นประธานเลี้ยงต้อนรับผู้นำของแต่ละประเทศ และเชิญ นางสาวแพทองธาร เข้าร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว ครั้งที่ 9 อย่างเป็นทางการ นอกจากในส่วนของการต้องรับของรัฐบาลจีนแล้ว นายกรัฐมนตรีจะพบกับนักกีฬาไทยที่ประสบความสำเร็จในการแข่งขันในงานแสดงศิลปะแกะสลักน้ำแข็ง หรือ Harbin Ice and Snow World โดยในปีนี้จะร่วมทำการแข่งขันอีกด้วย

นายจิรายุ กล่าวว่า ทั้งนี้ คณะของนายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางประกอบไปด้วย 1.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม 2.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 3.นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 4.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม 5.นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ 6.นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 7.นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 8.นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ 9.นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง

‘ดร.สังศิต’ เผย!! การพนันเสี่ยงโชค มีมานานกว่า 4,000 ปี ในประเทศจีน ชี้!! บ่อนไม่กลัว ‘นักพนันที่เก่ง’ แต่กลัว ‘นักพนันที่เลิกเล่น’ มากกว่า

(1 ก.พ. 68) รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา นักวิชาการที่ศึกษาติดตามเรื่องเศรษฐกิจนอกกฎหมาย เผยแพร่บทความเรื่อง ‘อย่าปลุกปีศาจการพนันให้ตื่น’ มีเนื้อหาดังนี้

มีการขุดพบลูกเต๋าซึ่งเป็นเครื่องเล่นการพนันชนิดหนึ่งที่มีอายุราว 4000 ปีในประเทศจีน นั่นแสดงว่าคนจีนน่าจะมีประสบการณ์ในการเล่นการพนันหรือมีการเสี่ยงทาย หรือเสี่ยงโชคมาเป็นเวลายาวนานแล้ว นอกจากนี้ยังพบว่าในประเทศที่มีอารยธรรมเก่าแก่เช่นอินเดียก็มีการเล่นการพนันกันมาเป็นเวลาช้านานแล้วเช่นเดียวกัน จากหลักฐานที่ปรากฏแสดงว่าการพนันไม่ได้เกิดขึ้นด้วยตัวของมันเอง แต่เกิดจากมนุษย์เป็นคนสร้างมันขึ้นมา แต่เมื่อเวลาผ่านไป การพนันกลับมีอิทธิพลอยู่เหนือมนุษย์จนอาจกล่าวได้ว่า ในปัจจุบันมนุษย์ผู้สร้างเกมส์การพนัน แต่กลับไม่มีความสามารถที่จะมีอิทธิพลเหนือเกมส์การพนันได้ ในทางตรงกันข้าม การพนันต่างหากที่กลับมีอิทธิพลเหนือชีวิตและการตัดสินใจของมนุษย์ และมันเป็นฝ่ายที่ครอบงำสังคมมนุษย์จนยากที่ มนุษย์จะหลุดพ้นออกจากการเสพติดการพนันได้

มีคำถามว่ามนุษย์เข้าไปเกี่ยวข้องกับการพนันได้อย่างไร ? มีทฤษฎีที่อธิบาย เรื่องนี้โดยโยงใยกับเรื่องการผลิตในยุคโบราณของมนุษย์ ว่าเนื่องจากการผลิตของมนุษย์มีความไม่แน่นอน เพราะต้องพึ่งพาธรรมชาติแต่เพียงอย่างเดียว ดังนั้น มนุษย์จึงได้นำเรื่องของการเสี่ยงทายผลผลิตโยงเข้ากับเรื่องของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ความลี้ลับเหนือธรรมชาติที่ มนุษย์มองไม่เห็นและอธิบายไม่ได้ การเสี่ยงทายที่มีความไม่แน่นอนนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของ การพัฒนาจนเป็นเกมส์การพนันของมนุษย์ในเวลาต่อมา

สรุปได้ว่าการพนันไม่ได้ตกจากฟ้า ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่มนุษย์เป็นผู้สร้างการพนันขึ้นมา ด้วยเหตุผลเพื่อความสนุกสนานและการบันเทิงของชุมชนในยามว่างจากฤดูกาลผลิต

แต่ต่อมา มนุษย์ได้สร้างกฎเกณฑ์กติกาต่าง ๆ ของเกมส์การพนันขึ้น เพื่อให้ผู้เล่นทุกคนที่เข้าร่วมการเสี่ยงโชคจากการพนันยอมรับว่ากฎกติกาเหล่านั้นว่าเป็นสิ่งที่ผู้เล่นทุกคนต้องให้การยอมรับตั้งแต่เริ่มต้น

อย่างไรก็ดีเราต้องไม่ลืมว่าประการแรก ผู้ที่สร้างกฎกติกา ทั้งหมดขึ้นมาตั้งแต่แรกเริ่มเป็น ‘เอกชน’ ไม่ใช่รัฐหรือรัฐบาลที่อาจทำหน้าที่อย่างเป็นกลางได้ดีกว่าเอกชน

การพนันซึ่งแต่เดิมน่าจะเป็นเพียงการละเล่นเพื่อความสนุกสนาน และการบันเทิงเป็นหลัก ในเวลาต่อมา เมื่อเศรษฐกิจได้พัฒนาจนเกิดการใช้ ‘เงิน’ เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนแทนสิ่งของ การค้าของมนุษย์จึงเกิดการขยายตัวของการแลกเปลี่ยนมากยิ่งขึ้น และการพนันได้พัฒนาไปเป็นธุรกิจการค้าประเภทหนึ่งด้วย เมื่อการพนันได้กลายเป็นการค้าเสียแล้ว จึงไม่มีวันที่ผู้ประกอบธุรกิจการค้าคนใดจะสร้างกฎกติกาที่ให้ความยุติธรรมอย่างเท่าเทียมกันของสองฝ่าย คือระหว่างฝ่ายผู้เล่นกับเจ้ามือ ในเมื่อมันกลายเป็น ธุรกิจการค้า เจ้ามือจึงต้องกำหนดกติกาที่ทำให้ตัวเองมีโอกาสได้เปรียบและได้กำไรจากการทำธุรกิจการค้านั้นๆ จากบรรดานักการพนันทั่วไป เสมอ

ประการที่สอง เพราะเหตุว่า มนุษย์เป็นผู้สร้าง หรือผู้ ประดิษฐ์คิดสร้างเกมส์การพนันขึ้นมา ดังนั้น เพื่อให้ผลลัพธ์ของเกมส์การพนันที่คิดขึ้นเกิดประโยชน์ให้แก่เจ้ามือได้มากที่สุด เกมส์การพนันจึงต้องสร้างความตื่นเต้นให้แก่ผู้เล่นการพนันให้ได้มากที่สุด แต่เกมส์การพนันดังกล่าวต้องใช้เวลา ในการตัดสินแพ้ชนะให้เร็วที่สุด ด้วย เพราะความเร็วในการตัดสินแพ้ชนะของเกมส์คือผล ตอบแทนหรือผลกำไรของเจ้ามือนั่นเอง

ประการที่สาม เจ้ามือหรือผู้สร้างเกมส์การพนันจำเป็นต้องค้นหาวิธีให้ผู้เล่นหลงใหลกับเกมส์การพนัน และสถานที่เล่นการพนันให้มากที่สุด ดังนั้นการจัดสถานที่เพื่อให้ผู้เล่นรู้สึกผ่อนคลาย จนลืมเวล่ำเวลาของการเล่นการพนันไป ดังนั้นโดยทั่วไป หากไม่มีกฎหมายห้าม สถานคาสิโนมักอนุญาตให้ผู้เล่นสามารถสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ได้ คาสิโนบางแห่งมีการบริการอาหารชั้นเลิศจากพ่อครัวฝีมือเยี่ยม และบริการ เครื่องดื่มและแอลกอฮอล์ฟรี สำหรับแขกวีไอพีสามารถสั่งอาหารนานาชาติตามที่ตัวเองต้องการได้ด้วย

สำหรับสถานคาสิโนแล้วมีคำกล่าวว่า “ คาสิโนไม่เคยกลัวนักการพนันที่เก่งและเฮง แต่คาสิโนกลัวนักการพนันที่เฮงแล้วเลิกเล่นมากกว่า” จากสถิติของสถานคาสิโน พบว่านักการพนันที่เก่งและเฮง หากยังเล่นต่อไปเรื่อย ๆ แล้ว ในที่สุดก็จะหมดตัวเหมือนกันทุกคน

ประการที่สี่ สถานคาสิโนต้องการนักการพนันวีไอพีมากกว่านักการพนันทั่วไป เพราะนักการพนันวีไอพีเล่นได้เสียครั้งหนึ่งเป็นจำนวนเงินค่อนข้างสูง สถานคาสิโนที่เป็นสโมสรปิดที่มีผู้เล่นระหว่าง 15 - 30 คนในแต่ละคืนมียอดเงินที่เล่นได้เสียสูงกว่าคาสิโนทั่วไปที่มีคนเล่นหลายร้อยหรือหลายพันคนด้วยซ้ำไป

สรุปก็คือ สถานคาสิโนทั่วโลก ต้องการนักเล่นการพนันที่มี คุณภาพ หรือนักการพนันอาชีพที่กระเป๋าหนักมากกว่าจำนวนของนักเล่นการพนันในคาสิโน เพราะ นักการพนันอาชีพช่วยสร้างรายได้ให้แก่คาสิโนได้ดีกว่ามาก

ผมเคยติดตามคณะผู้เล่นวีไอพี ชาวไทยที่ไปสถานคาสิโนที่อังกฤษเมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้ว พวกเราได้รับการต้อนรับอย่างดี ตั้งแต่ได้พักในโรงแรมอย่างดีฟรี มีรถโรลสรอยส์มารับส่งถึงที่หน้าโรงแรม เป็นประจำทุกคืน มีอาหารไทย จีนและอิตาเลียนชั้นเลิศต้อนรับ นักเล่นแต่ละคนเฉลี่ยแล้วใช้เงินในการเล่นแต่ละทริประหว่าง 30 -50 ล้านบาท

ผมยังได้รับการบอกเล่าจากเพื่อนคนไทยในคณะด้วยว่า เวลาพวกเขาไปเล่นที่ลาสเวกัส ทางคาสิโนจะส่งเฮลิคอปเตอร์มารับถึงสนามบินเลยทีเดียว

ประการที่ห้า การเกิดขึ้นของคาสิโนที่ถูกกฎหมายเป็นครั้งแรกที่ลาสเวกัสเป็นปรากฏการณ์ ช็อกความรู้สึกของคนอเมริกันทั่วประเทศ เพราะมันเป็นการ แสดงให้เห็นถึงสถานการณ์ที่อิทธิพลของทุนนิยมพร้อมแตกหักกับคำสอนของศาสนาคริสต์แล้ว มันเป็นการแสดงให้เห็นถึงความโลภ ความตระกะตระกราม และการแสวงหาความมั่งคั่งอย่างไม่มีที่สิ้นสุดของนายทุนกับบรรดาพระคริสต์ที่ยึดมั่นคำสอนมาตั้งแต่โบราณว่าการพนันเป็นสิ่งต้องห้าม เป็นบาป แต่บทสวดและคำสอนของศาสนาไม่สามารถยับยั้งกระแสของอเมริกันชนที่หลั่งไหลไปเล่นการพนันในคาสิโนที่ถูกต้องตามกฎหมายได้เลย

คาสิโนที่ลาสเวกัสแตกต่างจากการเล่นการพนันตามประเพณีนิยมทั่วไปที่เกิดขึ้นตามประเทศต่างๆ ทั่วโลก เพราะการเล่นพนันตามประเพณีนิยมมักมีเกมส์การแข่งขันน้อยประเภท โดยทั่วไปก็มีเพียง 1-2 ประเภท เท่านั้น แต่คาสิโนที่ลาสเวกัสนำเสนอประเภทการพนันที่มากประเภทกว่า มีจำนวนโต๊ะการพนันที่มากกว่า และสามารถรวมศูนย์ผู้เล่นการพนันจำนวนมากมาไว้ในสถานที่เดียวกันได้ มันจึงมีความสนุกสนาน และบันเทิงเริงรมย์มากยิ่งกว่าการละเล่นการพนันตามประเพณีนิยมทั่วไป

ประการที่หก คาสิโนที่ลาสเวกัส เป็นเครื่องมือของกลุ่มนายทุน ที่กระตุ้นผู้ที่ชอบเล่นการพนันที่มีอยู่ทั่วไปในสหรัฐ ผู้ที่หวังร่ำรวยทางลัด โดยไม่ต้องทำงานหนัก ผู้ที่เชื่อว่าตัวเองเป็นคนโชคดีจากการพนันมากกว่าคนอื่น พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือคาสิโนเป็นเครื่องกระตุ้น “ด้านมืดของ มนุษย์ “ ให้แสดงออกมาได้อย่างเต็มที่และอย่างถูกต้อง ตามกฎหมาย โดยไม่ต้องแอบเล่นการพนันแบบหลบๆ ซ่อนๆ ตำรวจเหมือนในอดีตอีกต่อไป คนจำนวนมากในคาสิโนมีความรู้สึกเหมือนตัวเองได้รับการปลดปล่อยออกจากพันธนาการของกฎหมาย หรือหลุดพ้นจากการต้องเก็บกดพฤติกรรมที่ต้องหลบซ่อนมาเป็นเวลาช้านาน เพราะพฤติกรรมการพนันในอดีตถูกประณามว่าเป็นสิ่งผิดศีลธรรม ของสังคม ดังนั้น คาสิโนจึงกลายเป็นที่รวมพลของคนที่เคยถูกประณามว่าเป็นคนชั่ว คาสิโนจึงเป็นสถานที่ให้มนุษย์ได้สามารถปลดปล่อยปีศาจที่สิงอยู่ในตัวมนุษย์ ออกมาแสดงให้เห็นได้อย่างเต็มที่เป็นครั้งแรก โดยไม่ต้องมีการปิดบังซ่อนเร้นอีกต่อไป พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือคาสิโนเป็นสถานที่ฟอกขาวให้ ” คนบาป“ กลายเป็นคนปกติ ฟอกสิ่งที่ผิดศีลธรรมให้กลายเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นการปล่อยผีหรือปีศาจ การพนันที่สิงอยู่ในตัวของมนุษย์ มาช้านาน หรือด้านมืดของมนุษย์ให้ออกมาอยู่ในโลกมนุษย์ได้แล้ว

ประการที่เจ็ด เมื่อปีศาจการพนันถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา หรือ ได้รับอนุญาตให้แสดงออกได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายที่ลาสเวกัส คนจากทุกมลรัฐทั่วสหรัฐต่างพากันหลั่งไหลเข้าสู่ลาสเวกัสเหมือนสายน้ำ เศรษฐกิจของลายเวกัสจึงเจริญรุ่งเรืองขึ้นอย่างรวดเร็ว สร้างความอิจฉาตาร้อนให้แก่มลรัฐต่างๆ จนเกิดการเรียกร้องให้มีการตั้งคาสิโนในมลรัฐของตัวเองบ้าง ปัจจุบันทั่วทั้งสหรัฐมีคาสิโนเกิดขึ้นแล้วประมาณ 2000 แห่ง

เมื่อนิวซีแลนด์เปิดคาสิโนขึ้นเป็นครั้งแรก ปรากฏว่าคนจากออสเตรเลียต่างพากันหลั่งไหลไปเล่นการพนันที่นิวซีแลนด์จนแน่นขนัด เพื่อแก้ปัญหาเงินทุนไหลออกนอกประเทศเป็นจำนวนมาก รัฐบาลออสเตรเลียจึงต้องตัดสินใจให้มีการตั้งคาสิโนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งประเทศขึ้นเพียง 1 แห่ง แต่โชคร้ายที่เมื่อปีศาจการพนันถูก ปลดปล่อยหรือถูกปลุกให้ตื่นขึ้นในที่แห่งหนึ่ง ปีศาจการพนันจากที่อื่นๆ ที่มีจำนวนมากกว่า จะพากันเรียกร้องขอรับการปลดปล่อยให้พวกตนตามไปด้วยเสมอ

ดังนั้นเมื่อรัฐต่าง ๆ ในออสเตรเลียต่างพากันเรียกร้องสิทธิขอให้รัฐบาลจัดตั้งคาสิโน ในรัฐของตนเองบ้าง ในท้ายที่สุด รัฐบาลจึงต้องกำหนดให้มี นโยบาย 1 รัฐ 1 คาสิโน ทั่วประเทศออสเตรเลีย มันเป็นประชานิยมสำหรับปีศาจการพนันอย่างทั่วถึงทั้งประเทศ

ดังนั้นเมื่อรัฐต่าง ๆ ในออสเตรเลียต่างพากันเรียกร้องสิทธิขอให้รัฐบาลจัดตั้งคาสิโน ในรัฐของตนเองบ้าง ในท้ายที่สุด รัฐบาลจึงต้องกำหนดให้มี นโยบาย 1 รัฐ 1 คาสิโน ทั่วประเทศออสเตรเลีย มันเป็นประชานิยมสำหรับปีศาจการพนันอย่างทั่วถึงทั้งประเทศ

ประสบการณ์จากต่างประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก สหรัฐอเมริกาและออสเตรเลีย แสดงให้เราเห็นว่าการปลุกปีศาจคาสิโนให้ตื่นขึ้นมา รัฐบาลจะไม่มีวันควบคุมปีศาจตนนี่ให้อยู่ในพื้นที่ ที่ทางรัฐบาลกำหนดไว้แต่แรกได้เลย ไม่ช้าปีศาจการพนันจากทั่วทุกหัวระแหงในประเทศจะลุกขึ้นตามมาสมทบ จนกระทั่งรัฐบาลหมดหนทางแก้ไขปัญหาได้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top