Sunday, 29 June 2025
ค้นหา พบ 49099 ที่เกี่ยวข้อง

กระทรวงความมั่นคงเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ฯ หารือ 'พล.ต.อ.ธัชชัยฯ' ร่วมมือปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้านของไทยให้หมดไป

(14 ม.ค.68) เวลา 09.00 น. พล.ต.อ. ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการ ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (จตช./ผอ.ศพดส.ตร./ผอ.ศปอส.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ต. วรวัฒน์ อมรวิวัฒน์ รอง ผบช.ส , พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รอง ผบช.ทท. , พล.ต.ต. ปรัชญา ประสานสุข รอง ผบช.สทส.ชรก.สตม. , พล.ต.ต. ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ รอง ผบช.ก., พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว รอง ผบก.สส.สตม. และคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ร่วมประชุมกับ นายไมเคิล ชัวค (Mr. Michael Cheuk) รองปลัดกระทรวงความมั่นคงเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมคณะ ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยหารือในเรื่องการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน และปัญหาการค้ามนุษย์ในพื้นที่ชายแดน 

การประชุมดังกล่าวมีประเด็นสำคัญคือ การแลกเปลี่ยนข้อมูลกับทางการไทยเกี่ยวกับแผนประทุษกรรมรูปแบบใหม่ของทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อาทิ การปลอมเป็นพนักงานบริการลูกค้าของบริษัทโทรคมนาคม การหลอกไปทำงานรายได้ดีในต่างประเทศ และปัญหาการกำจัดบัญชีม้า ซึ่งทางเขตบริหารพิเศษฮ่องกงได้พบเจอกับปัญหาดังกล่าวมากขึ้นเช่นเดียวกับประเทศไทย จึงเห็นถึงความสำคัญในการร่วมมือกับทางการไทย เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสานงานเพื่อกำจัดปัญหาเหล่านี้

นายไมเคิล ชัวค รองปลัดกระทรวงความมั่นคงเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวว่า ที่ผ่านมาพบว่ามีกรณีชาวฮ่องกง ชาวจีน ถูกหลอกลวงไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ยืนยันว่าเป็นการตกลงกันมาจากฮ่องกง มีการจองรถผ่านแอปพลิเคชันล่วงหน้า เหยื่อเข้าใจผิดเดินทางไปด้วยความสมัครใจ ไม่ได้มีการหลอกลวงที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ไทยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือสนับสนุนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และเมื่อตนเดินทางกลับจะทำการแถลงข่าว เพื่อให้ชาวฮ่องกงทราบถึงความปลอดภัยในการท่องเที่ยวในประเทศไทย และความร่วมมือที่ดีจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในไทยต่อไป

พล.ต.อ.ธัชชัยฯ กล่าวย้ำว่า ประเทศไทยจะเดินหน้าขับเคลื่อนแลกเปลี่ยนความร่วมมือกับประเทศต่างๆ เพื่อต่อสู้และปราบปรามกลุ่มคนร้ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ตั้งอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านของไทยให้หมดไปจากสังคม

สมาคมกีฬาปัญจกีฬาฯ เข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการหลักสูตรเรียนรู้  ป้องกันภัยล่วงละเมิดทางเพศในการกีฬา

เมื่อวันที่ (13 ม.ค. 68) พล.ร.อ.อภิชาติ ปัญญากิตติวัฒน์ และพล.ร.ต.หญิง เสาวนีย์ อุทัยสาง กรรมการสมาคมกีฬาปัญจกีฬาแห่งประเทศไทยเข้าร่วมประชุม โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหา การล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศ ณ โรงแรม เดอะพาลาสโซ กรุงเทพฯ    

โดยมี ดร.สุวรรณา ศิลปอาชา กรรมการสภาโอลิมปิกแห่งเอเซีย ด้านความเท่าเทียมทางเพศ เป็นผู้ดำเนินรายการ มีนักกีฬาชื่อดังของไทย ร่วมเสวนา 4 ท่าน ได้แก่คุณเยาวภา บุรพพลชัย  นักกีฬาเหรียญทองแดง โอลิมปิกเกมส์ 2004 นายกสมาคมนักกีฬาโอลิมปิกไทย,  “โปรแหวน “ คุณพรอนงค์ เพชรล้ำ นักกอล์ฟหญิงประเทศไทย, คุณกัญญา ณัฐชาณรงค์ นักกีฬาเคอร์ลิงประเทศไทย, ” ซาร่า “ คุณนุศรา ต้อมคำ นักกีฬาวอลเลย์บอลหญิง ทีมชาติไทย

ทั้งนี้ สมาคมกีฬาปัญจกีฬาแห่งประเทศไทย  ตระหนักถึงความสำคัญในมาตรฐานความปลอดภัย  และป้องกันภัยจากการล่วงละเมิดทางเพศ กับบุคคลากรทางกีฬา โค้ช เจ้าหน้าที่ และนักกีฬา สู่ "Safe Spot"  ต่อไป

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน 0909535645

สืบ ตม. รวบชายชาวไนจีเรียนลักลอบขายคีตามีนในย่านนานา

(14 ม.ค. 68) กก.1 บก.สส.สตม. จับกุม นายเคนเนดี้ (นามสมมติ) อายุ 38 ปี สัญชาติไนจีเรียน พร้อมของกลาง ยาเสพติด ให้โทษประเภท 2 (คีตามีน) จำนวน 30 ก้อน น้ำหนักชั่งรวมสิ่งห่อหุ้ม 50 กรัม โดยกล่าวหาว่า จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (คีตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวขยายผล บก.ปส.4 บช.ปส ดำเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุม ภายในร้านสินค้าในซอยสุขุมวิท 5 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ

สืบเนื่องจาก กก.1 บก.สส.สตม. ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีชายชาวต่างชาติผิวสีลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในย่านนานา แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ จึงทำการสืบสวนติดตาม ดูพฤติการณ์มากว่า 3 เดือน จนชัดเจน จึงได้วางแผนจับกุม โดยให้สายลับติดต่อขอซื้อยาเสพติด จำนวน 30 กรัม ในราคา 60,000 บาท (กรัมละ 2,000 บาท) โดยนัดหมายส่งมอบภายในร้านสินค้า ในซอยสุขุมวิท 5 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ โดยวางแผนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้เข้าไปแฝงกายปะปนกับผู้มาซื้อสิ้นค้าภายในร้าน  เพื่อเฝ้าสังเกตความเคลื่อนไหวของสายลับและนายเคนเนดี้ จนกระทั่ง นายเคเนดี้ ได้มาพบกับสายลับตามนัดหมาย จากนั้นได้ส่งมอบยาเสพติดตามที่ตกลงซื้อขายกันให้กับสายลับ สายลับจึงได้ส่งสัญญานให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับ เข้าทำการตรวจสอบ ผลการตรวจสอบพบยาเสพติดของกลางซึ่งบรรจุอยู่ในพลาสติกใส ห่อหุ้มด้วยเทปกาวพลาสติกสีดำ จำนวน 30 ก้อน น้ำหนักชั่งรวมสิ่งห่อหุ้ม 50 กรัม ซุกซ่อนอยู่ในกล่องยาสีฟัน และทำการตรวจค้นตัวนายเคนเนดี้ พบเงินสดที่ใช้ล่อซื้ออยู่ในมือซ้าย ต่อมาได้ตรวจค้นห้องพักของนายเคนเนดี้ พบซองพลาสติก และเทปพันสายไฟสีดำเช่นเดี๋ยวกับที่ใช้พันยาเสพติดของกลาง จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง จากการตรวจสอบของกลางด้วยชุดทดสอบสาร เสพติดเบื้องต้น (ONCB 053 Modified Cobalt Thiocyanate Reagent) ซึ่งใช้สำหรับทดสอบคีตามีน สีของน้ำยาหลังทดสอบเป็นสีม่วงและตกตะกอนสีขาว สอบถามนายเคนเนดี้ ยอมรับว่ายาเสพติด (คีตามีน) ของกลางดังกล่าวเป็นของตนเอง ซึ่งได้นำมาจำหน่ายให้กับสายลับในราคา 60,000 บาท ตามที่ตกลงซื้อขายกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและจับกุมดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าว

‘รองนายกฯ ประเสริฐ’ กำชับทุกหน่วยงาน พร้อมบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด แนะนำเทคโนโลยีเข้าช่วย 

(14 ม.ค. 68) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี)  เปิดเผยถึงผลการเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด ครั้งที่ 1/2568 โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข , นายศักดา อัลภาชน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้รับมอบหมายจากปลัดกระทรวงสาธารสุข เป็นกรรมการและเลขานุการ พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงาน 24 หน่วยงาน และผู้ทรงคุณวุฒิ เข้าร่วมประชุมในฐานะกรรมการว่า ที่ประชุมได้รับทราบสถานการณ์การป้องกันและการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด ข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการติดตามเร่งรัดการบำบัดรักษาสถานการณ์สภาพปัญหาการป้องกันและการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด จากฟื้นฟูสภาพทางสังคม ป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด (ศปก.ครส.) ช่วงวันที่ 1 ตุลาคม 2567 - 5 มกราคม 2568 รวมระยะเวลา 97 วัน สามารถดำเนินการได้ ร้อยละ 26.58 ของเป้าหมายที่วางไว้ 

โดยแบ่งการดำเนินการ ดังนี้  1. การปราบปราม ดำเนินการจับกุมคดีความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด จำนวน  36,916 คดี ขยายผลจากการจับกุมในคดีความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดไปสู่คดีการสมคบ สนับสนุน ช่วยเหลือ จำนวน 404 คดี และการยึด อายัดทรัพย์สิน คดียาเสพติด จากการดำเนินการจับกุม ความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดฯ จำนวน 2,167 ล้านบาท  และ 2. การแก้ไขปัญหาผู้ติดยาเสพติด บำบัดรักษาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด จำนวน 25,984 ราย บำบัดรักษา ผู้เสพยาเสพติดที่มีอาการทางจิต จำนวน 3,951 ราย และผู้ที่เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาได้รับการดูแลอย่างมีคุณภาพจนถึงการติดตาม (Retention Rate) จำนวน 11,168 ราย 

“ทั้งนี้ผมในฐานะประธานการประชุม ได้มีข้อสั่งการให้มีการเตรียมความพร้อมในการรับมือบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด และในอนาคตจะมีการนำเทคโนโลยีมาช่วยในการดำเนินการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี กล่าว

'โรม' แฉ 'จีนเทา' เคยบุกถึงสภาฯ ขายงาน ห่วง ‘เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’ ในไทยถูกใช้ฟอกเงิน

เมื่อวันที่ (14 ม.ค.68) ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีของฝ่ายค้านหลังจากที่ ครม.มีมติผ่านร่างพระราชบัญญัติ การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) ว่า ในเรื่องนี้ที่ผ่านมามีกลุ่มจีนเทามาถึงรัฐสภา เพื่อมาพรีเซนต์ราวกลับเข้ามาขายงาน ซึ่งกลุ่มจีนเทาไม่ใช่ใครคือบริษัท หย่าไถ้ คือเจ้าของชเวโก๊กโก ที่เป็นประเด็นมาก่อนหน้านี้ ดังนั้นหากรัฐบาลจะเดินหน้าในเรื่องนี้ต้องเผชิญกับความต้องการ ความมุ่งหมายของกลุ่มจีนเทาที่จะเข้ามา ซึ่งตนเป็นห่วงว่าอาจจะเข้ามาในฐานะผู้ประกอบการ และอาจจะนำเงินที่ผิดกฎหมาย มาฟอกเงินผ่านคาสิโนที่จะเปิดขึ้นในประเทศไทย จึงคือสิ่งที่รัฐบาลจะต้องเตรียมการ ตนในฐานะ สส. แทบไม่เห็น รัฐบาลสื่อสารหรือออกมาพูดเรื่องนี้เลย และไม่เห็นความพยายามของรัฐบาล ที่จะทำความเข้าใจต่อประชาชน ดังนั้นส่วนตัวของตนเป็นห่วงว่าหากมีการเปิดคาสิโน สิ่งที่จะตามมาคือจะรับมือกับทุนจีนสีเทาอย่างไร

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ปัญหาที่สองคือเรื่องโครงสร้างกฎหมายระบบราชการ มีความพร้อมเพียงใดในการรับมือกับเรื่องนี้ นอกจากเจอปัญหาเรื่องบัญชีม้า ซิมม้า ปัญหาของทุนจีนสีเทาที่ใช้การฟอกเงิน และเจอปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์ที่ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน ดังนั้นคำถามคือรัฐบาล มีแนวทางการแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างไร และประเด็นที่สาม เรื่องของความโปร่งใส ถ้าร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ เป็นร่างที่เคยมีการรับฟังความเห็น จากประชาชนมาแล้ว ตนมีความเป็นห่วงในเรื่องของการคอร์รัปชันที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเลือกสถานที่ว่าใครจะได้ประโยชน์ในการเลือกให้ใบอนุญาต ตนจึงเป็นห่วงว่า อาจเกิดปัญหาเรื่องการล็อกสเป็ก ดังนั้นเมื่อนำเหตุผลมาประกอบทั้งหมดตนจะมีความกังวลจริงๆ ว่าการที่รัฐบาลจะเร่งรัดเรื่องของ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ อาจจะอันตรายต่อประเทศไทยได้

เมื่อถามเหตุผลของรัฐบาลที่จะดึงเม็ดเงิน 1 แสนล้านบาท เข้าสู่ประเทศจึงเกิดการเร่งรัดในเรื่องนี้ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าประเทศไทย กำลังเจอปัญหา 2 อย่าง คือการถูกดึงเม็ดเงินออกด้วยธุรกิจสีเทาด้วยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 1 แสนล้านบาท เรื่องพนันออนไลน์ และ ปัญหายาเสพติด ซึ่งก็เข้าใจว่าทุกรัฐบาลอยากให้มีเม็ดเงินไหลเข้ามา แต่ประเด็นประเด็นที่ต้องพิจารณาต่อ จะได้เม็ดเงินเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่ ซึ่งอย่าลืมว่าเรื่องนี้ต้องมีคู่แข่ง เช่น มาเก๊า สิงคโปร์ หรือที่โอซาก้าประเทศญี่ปุ่น หากมีการสร้างสำเร็จ อาจทำให้ประชาชนรู้สึกว่าไม่มีความจำเป็น ขณะเดียวกันในพื้นที่ กทม. ก็มีโรงแรมและห้องประชุม ครบอยู่แล้ว เพียงเติมคาสิโนเข้าไป ก็กลายเป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หรือเช่นที่พัทยา และ ภูเก็ต ก็มีทุกอย่างพร้อมอยู่แล้ว เติมคาสิโนไปก็เป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ดังนั้นแทบจะไม่มีความจำเป็น จะต้องคิดถึงการลงทุนจำนวนมากมายมหาศาล

อย่างไรก็ตาม เมื่อย้อนกลับไปดูนโยบายหาเสียงของพรรคก้าวไกล (พรรคประชาชนเดิม) จะพบว่า ทางพรรคฯ มีนโยบายเกี่ยวกับคาสิโนเอาไว้เช่นกัน โดยอยู่ข้อที่ 286 และ 287 จากนโยบาย 300 ข้อ 

โดยข้อ 286 ระบุว่า คาสิโนถูกกฎหมาย รัฐกำกับดูแล 
- อนุญาตให้ เสนอให้มีคาสิโนอย่างถูกกฎหมายโดย
- จำกัดอายุผู้เล่น ไม่ต่ำกว่า 20 ปี
- จำกัดฐานะของผู้เล่น โดยกำหนดรายได้ขั้นต่ำของผู้ที่จะมีสิทธิเล่นได้ ยึดตามรายได้ที่แจ้งต่อสรรพากรในปีภาษีก่อนหน้า
- จำกัดจำนวนคาสิโน โดยถ้าจังหวัดไหนจะมีคาสิโนได้ ต้องออกเป็น พ.ร.ฎ. กำหนดพื้นที่และจำนวนคาสิโนที่จะออกใบอนุญาตได้
- มีคณะกรรมการการพนันและขันต่อเป็นผู้ออกใบอนุญาต รวมทั้งกำหนดประเภทของการพนันและขันต่อที่จะมีในคาสิโนได้

ขณะที่ ข้อ 287 ระบุว่า คาสิโนออนไลน์ถูกกฎหมาย รัฐกำกับดูแล

- ออก พ.ร.ฎ. กำหนดจำนวน และให้คณะกรรมการฯ ออกใบอนุญาต-ควบคุม เหมือนเป็นคาสิโนปกติ
- ข้อกำหนดอายุและข้อกำหนดอื่นเป็นเหมือนคาสิโนปกติ บัญชีธนาคารที่ผูกกับบัญชีคาสิโนต้องเป็นชื่อของตัวเองเท่านั้น
- การพนันขันต่อบางอย่างอาจแตกต่างกันกับคาสิโนปกติ เช่น การพนันผลการแข่งขันกีฬา
- ต้องทำเรื่อง National Digital ID ให้ดี เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีการสวมรอยเข้ามาเล่นพนันโดยคนที่ขาดคุณสมบัติ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top