Tuesday, 20 May 2025
ค้นหา พบ 48202 ที่เกี่ยวข้อง

‘พายัพ’ ซัด ‘ชัยธวัช’ อย่าคิดฝันหวาน จะล้มรัฐบาล เย้ย ‘ก้าวไกล’ เหมาะสมแล้วที่เป็นฝ่ายค้าน ขอให้ทำต่อไปนานๆ 

(3 มี.ค.67) นายพายัพ ปั้นเกตุ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล และ สส.ของพรรคหลายคนที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยอ้างว่าจะมีนายกฯ 2 คน ว่า เป็นเจตนาหวังผลทางการเมือง ต้องการทำให้เกิดความสับสนหวาดระแวงขึ้นในรัฐบาลและพี่น้องประชาชน จึงขอให้หัวหน้าพรรคและ สส.พรรคก้าวไกลหยุดการกระทำ เลิกยุแยงตะแคงรั่ว ลงทุนตอกลิ่มหวังผลให้รัฐบาลสั่นคลอน

“ขอให้ตื่นกันได้แล้ว อย่าฝันหวานเรื่องการสั่นคลอนรัฐบาลเลย เพราะนายเศรษฐาเป็นคนตั้งใจทำงาน การคิดเช่นนั้นเหมือนฝันกลางแดด พรรคก้าวไกลเหมาะสมที่จะทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ก็ขอให้ทำต่อไปนานๆ จนครบวาระ 4 ปี”

นายพายัพ ยังกล่าวต่ออีกว่า หากมีเวลาว่างก็ควรเอาเวลาเตรียมข้อมูลข้อกฎหมายไว้ต่อสู้คดีล้มล้างการปกครอง อย่าไปห่วงรัฐบาลหรือนายกฯ เลย เพราะพรรคเพื่อไทยต่อสู้ทางการเมืองเพื่อประเทศชาติและประชาชนมายาวนาน จึงมุ่งมั่นที่จะเป็นรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชน พัฒนาประเทศไทย นำพาพี่น้องประชาชนให้หลุดพ้นจากความยากจน และก้าวไปข้างหน้าเทียบเท่านานาอารยประเทศ

‘หมอวรงค์’ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุ 4 มี.ค.นี้ จะบุกจี้ ผบ.ตร. เพื่อเร่งดำเนินคดีอาญา ‘พิธา-พรรคก้าวไกล’

(3 มี.ค.67) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ “ดำเนินคดีอาญาพิธาและพรรคก้าวไกล” โดยได้ระบุว่า หมอวรงค์และพรรคไทยภักดี จะไปยื่นหนังสือต่อผบ.ตร. เพื่อเร่งรัดดำเนินคดีอาญานายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และเครือข่าย ที่ใช้สิทธิและเสรีภาพล้มล้างการปกครองฯ ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ในวันจันทร์ที่ 4 มีนาคม 2567 เวลา 10.30น. ณ.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

‘มาเลเซีย’ หนุนเรียนสายอาชีพ ด้านเกษตรกรรม เพื่อลดการพึ่งพา สินค้านำเข้าจากต่างประเทศ

(3 มี.ค.67) สำนักข่าวซินหัว เจ้าหน้าที่มาเลเซียระบุ ว่ารัฐบาลมาเลเซียตั้งเป้ากระชับและเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารของประเทศ ด้วยการเพิ่มจำนวนผู้สำเร็จการศึกษาด้านเทคนิคและการอาชีวศึกษา รวมถึงผู้สำเร็จการฝึกอบรม

โมฮัมหมัด ซาบู รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและความมั่นคงอาหารของมาเลเซีย กล่าวกับผู้สื่อข่าว หลังการเปิดตัวงานแสดงสินค้าเกษตร ว่านอกเหนือจากการดึงดูดนักศึกษาให้มาเรียนด้านเกษตรกรรมกันมากขึ้นแล้ว รัฐบาลมาเลเซียยังมีเป้าหมายส่งเสริมผู้สำเร็จการศึกษาจากสาขาวิชาอื่นๆ หลากหลายแขนงให้เข้ามามีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในภาคส่วนนี้

โมฮัมหมัด ให้ข้อมูลว่า เป้าหมายสำคัญของกระทรวงฯ ในปีนี้คือการพัฒนาอุตสาหกรรม 4 ประเภทที่มีความสำคัญ ได้แก่ ข้าวและข้าวเปลือก ไก่ เป็ดและไข่เป็ด หอมแดง และสับปะรด

สำหรับโครงการริเริ่มเกี่ยวกับข้าวที่เปิดตัวในปีนี้ ตั้งเป้าเพิ่มระดับการพึ่งพาข้าวในประเทศให้แตะอย่างน้อยร้อยละ 80 เพื่อลดการพึ่งพาสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ ในอีก 10 ปีข้างหน้า

อนึ่ง งานแสดงสินค้าเกษตรข้างต้นจัดขึ้นเป็นเวลา 3 วัน โดยเป็นเวทีว่าด้วยความยั่งยืนของระบบนิเวศด้านการจัดหาอาหาร และเวทีเพื่อการนำเสนอนวัตกรรม แนวปฏิบัติ และเทคโนโลยีต่างๆ ในภาคการเกษตร

ครู โพสต์เฟซบุ๊ก ระบายความอัดอั้น หลังนร.ไม่ใส่ใจ ใฝ่ศึกษา เพราะคิดว่า ยังไงก็สอบผ่านอยู่แล้ว ไม่มีการเรียนซ้ำชั้น

(3 มี.ค.67) ครูสุชญา ได้ ระบายความอัดอั้น เกี่ยวกับเรื่องที่มีนักเรียนบางคน ไม่ใฝ่รู้ใฝ่เรียน ไม่คิด ไม่อ่าน ไม่มีความเพียร แม้แต่เรื่องระเบียบวินัย ความรับผิดชอบ หรือมารยาทก็ยังไม่มี โดยได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ...

แค่อยากบอกความรู้สึกในมุมของครูผู้สอนบ้าง เมื่อเจอครูใจดี ควรเกรงใจ ไม่ใช่มักง่ายจะทำอะไรก็ได้ แล้วคิดว่ายังไงครูก็ให้ผ่านอยู่แล้ว ใครเคยเรียนกับครูจะรู้ว่าครูสุชญาไม่ใช่คนเรื่องมาก แต่แบบนี้มันเกินจะรับไหว 

รู้มั้ยว่าสิ่งที่นักเรียนบางคนทำ (ย้ำว่าบางคน) มันบั่นทอนความเป็นครูมากแค่ไหน นอกจากไม่ใฝ่รู้ใฝ่เรียน ไม่คิด ไม่อ่าน ไม่มีความเพียรแล้ว ระเบียบวินัยก็ไม่ผ่าน ความรับผิดชอบก็ไม่มี มารยาทก็ติดลบ แบบนี้จะเรียกตัวเองว่า นักเรียน ได้ยังไง

ในฐานะครูคนหนึ่ง ครูได้ทำหน้าที่ของครูอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่มันคงไม่มากพอที่จะขัดเกลาบางคนให้ฉลาดหลักแหลมได้ แม้แต่ตัวเธอเองเธอยังไม่รัก ไม่พยายามทำเพื่อตัวเอง อย่างอื่นก็คงไม่ต้องพูดถึง

ขอเป็นอีกหนึ่งเสียงสนับสนุนให้โรงเรียนประกาศนโยบาย #เรียนซ้ำชั้น สักทีเถอะ อย่าปล่อยให้เด็กพูดต่อหน้าครูว่า “ไม่ทำ ไม่ส่ง เพราะยังไงก็ผ่านอยู่แล้ว” คนเป็นครูน้ำตาตกใน ดิ่งขั้นสุด ไฟมอดดับลงทุกวัน

เกาให้ถูกที่คัน ไม่ใช่สรรหาแต่คำมาบั่นทอนครูผู้สอน #ผู้ปกครองร้องเรียน บ้างหละ #ครูไม่ใส่ใจ บ้างหละ #ครูไม่ติดตามเด็ก บ้างหละ ยกเด็กขึ้นหิ้ง แล้วเหยียบครูให้จมดิน #การศึกษาไทย     

ศาลไม่ให้ประกันตัว ‘ไบรท์ ชินวัตร’ จากคดี ‘มาตรา112-มั่วสุม’ กรณีปราศรัยในการชุมนุม 25 พ.ย. 63 ที่หน้าธ.ไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่

(3 มี.ค.67) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งไม่ให้ประกันตัว ไบรท์ ชินวัตร จันทร์กระจ่าง ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จากข้อหาความผิดตามมาตรา 112 และข้อหามั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ตามมาตรา 215 และมาตรา 216 กรณีปราศรัยในการชุมนุม ที่บริเวณหน้าสำนักงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2563

โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 29 ก.พ. ที่ผ่านมา ศาลอาญามีคำพิพากษาให้จำคุกรวม 6 ปี ลดเหลือ 3 ปี ไม่รอลงอาญา ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ลงโทษจำคุก 4 ปี, ข้อหา “มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป” และ “เจ้าพนักงานสั่งให้เลิกมั่วสุมแต่ไม่เลิก” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 และมาตรา 216 ลงโทษจำคุก 2 ปี

ข้อหาฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ลงโทษปรับ 10,000 บาท, ข้อหา “กีดขวางทางสาธารณะ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 385 และข้อหาตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ ลงโทษปรับ 2,000 บาท และข้อหา “ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงฯ ลงโทษปรับ 200 บาท

รวมจำคุก 6 ปี ปรับ 12,200 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษลงกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 ปี ปรับ 6,100 บาท ไม่รอลงอาญา

ต่อมาทนายความแจ้งว่าได้ยื่นขอประกันตัวนายชินวัตรระหว่างอุทธรณ์แล้ว โดยนายประกันของนายชินวัตรวางหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 150,000 บาท ตามที่เจ้าหน้าที่ศาลประเมินมูลค่าให้ ศาลอาญามีคำสั่งส่งคำร้องขอประกันตัวให้ศาลอุทธรณ์พิจารณา กระทั่งวันที่ 3 มี.ค. มีคำสั่งไม่ให้ประกันตัว ขณะนี้ ไบรท์ ชินวัตร ถูกคุมขังมาแล้ว 4 วัน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top