Monday, 19 May 2025
ค้นหา พบ 48193 ที่เกี่ยวข้อง

'คุณากร' เผย ก.เกษตรฯ ดัน ไก่ย่างไม้มะดัน-โคขุนวากิว ขึ้นชั้นสินค้า GI สู่ สุริทร์โมเดล ด้วยนโยบาย ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร

เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 ณ โรงแรมทองธารินทร์ อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ นายคุณากร ปรีชาชนะชัย ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับมอบหมายจาก นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้เป็นประธานกล่าวเปิดการฝึกอบรม หลักสูตร "การขอขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) และการพัฒนาศักยภาพด้านการตลาดสินค้าอัตลักษณ์พื้นถิ่น" โดยมีผู้บริหาร เจ้าหน้าที่สังกัดกระทรวงเกษตรฯ และหน่วยงานส่วนจังหวัด เข้าร่วม สำหรับการฝึกอบรมดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการขอขึ้นทะเบียนสินค้าเป็นสิ่งบ่งขี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) และการตลาดสินค้าอัตลักษณ์พื้นถิ่นให้กับเกษตรกร และเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ รวมถึงนำความรู้ไปใช้ในการยื่นคำขอขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) สินค้าโคขุนสุรินทร์วากิว และไก่ย่างไม้มะดันห้วยทับทัน ที่ส่งผลต่อการเพิ่มมูลค่า และสามารถต่อยอดด้านการตลาดได้

“กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมปศุสัตว์มุ่งมั่นดำเนินภารกิจพัฒนาด้านปศุสัตว์ให้มีการบริหารจัดการที่ดีไปจนถึง แปรรูปปศุสัตว์ให้สามารถจำหน่ายสู่ผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ ทำให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคงตามนโยบายรัฐบาลตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ซึ่งการฝึกอบรมหลักสูตรดังกล่าว จะสามารถพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่และเกษตรกรให้มีความรู้ความเข้าใจเพื่อเตรียมความพร้อมในการขอขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ในพื้นที่ของตนเองได้ รวมถึงยกระดับสินค้าให้ได้รับการคุ้มครองสิทธิ์ จนสร้างความเชื่อมั่น ในคุณภาพ และคุณลักษณะพิเศษของสินค้าที่แตกต่างจากแหล่งอื่นให้เกิดการต่อยอดสู่ตลาดสากลต่อไป” ผู้ช่วยเลขานุการฯ รมว.กษ. กล่าวเพิ่มเติม

นอกจากนี้ นายคุณากร ผู้ช่วยเลขานุการเกษตรฯ ได้ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานการควบคุมเคลื่อนย้ายสัตว์เพื่อการส่งออก ณ ด่านกักกันสัตว์สุรินทร์ และสำรวจพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งจะมีการจัดศูนย์ฝึกและพัฒนาราษฎรไทยบริเวณชายแดนสุรินทร์ ตลาดอาเซียนช่องจอม และจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม รวมถึงตรวจเยี่ยมจุดตรวจร่วมบูรณาการสินค้าเกษตรสำหรับจัดโครงการสุรินทร์โมเดล (Surin Model) ครั้งที่ 3 อีกด้วย

ชาวสวนยางเฮ ! ยุครัฐบาลเศรษฐา ยางพาราพุ่ง 74บาท/กก.

นางสาวอัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ฝ่ายการเมือง) กล่าวถึง สถานการณ์ราคายางพาราในปัจจุบัน มีทิศทางที่ดีขึ้น ถ้าเปรียบเทียบราคาเฉลี่ยระหว่างเดือนกันยายน ปี 2566 กับ เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2567  ชนิดยางแผ่นรมควันชั้น 3 ขยับขึ้นไปแตะกิโลกรัมละ 74 บาท จากเดิมปี 2566 อยู่ที่กิโลกรัมละ 51 บาท ยางแผ่นดิบคุณภาพดี ราคากิโลกรัมละ 70 บาท จากเดิมกิโลกรัมละ 49 บาท ขณะที่น้ำยางสด (DRC 100%) และ ยางก้อนถ้วย (DRC 100%) ได้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเช่นเดียวกัน 

ซึ่งการเพิ่มขึ้นของราคายางในช่วงที่ผ่านมา สะท้อนปัจจัยสนับสนุนจากภาครัฐภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายก รัฐมนตรี และ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่กำกับดูแล ได้วางมาตรการปราบปรามสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย โดยจัดตั้งทีมสายลับยางรักษาผลประโยชน์ของพี่น้องเกษตรกร ส่งผลให้ราคาสินค้าเกษตรดีขึ้น และ ความต้องการใช้ยางมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ ล้อรถยนต์ และรถไฟฟ้า ถุงมือยางและผลิตภัณฑ์ยางทางการแพทย์ ทั้งนี้ องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) คาดการณ์ว่า ปี 2567 GDP โลกขยายตัวร้อยละ 2.7 ขณะที่ผลผลิตยางพาราหลายพื้นที่มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากต้นยางพาราเริ่มผลัดใบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้อุปทานยางในตลาดลดลงส่งผลบวกต่อราคายางมีราคาสูงขึ้น 

'ศูนย์ทนายฯ' เผยอาการล่าสุด!! 'ตะวัน' พบมีภาวะเลือดเป็นกรด 'แฟรงค์' ชัก!! ต้องใช้เครื่องช่วยให้ออกซิเจน ส่วน 'บุ้ง' อ้วกเกือบทั้งคืน

เมื่อวานนี้ (21 ก.พ.67) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยความคืบหน้าการอดอาหารและน้ำประท้วง (Dry Fasting) ของ บุ้ง เนติพร กลุ่มทะลุวัง, น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน และ นายณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร หรือ แฟรงค์ ประจำวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ซึ่งขณะนี้ทั้งหมดอยู่ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์

โดย บุ้ง เนติพร ยังคงเดินหน้าประท้วงเพื่อ 2 ข้อเรียกร้อง

1.เพื่อเรียกร้องให้มีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม
2.จะต้องไม่มีใครติดคุกเพราะเห็นต่างทางการเมืองอีก

ศูนย์ทนายฯ เผยว่า เมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา บุ้งต้องเจาะเลือดไป 4 หลอด แต่การเจาะเป็นไปอย่างลำบาก เพราะเลือดไหลออกน้อย ลักษณะหยดต่อหยดอย่างช้าๆ

- เมื่อคืนที่ผ่านมา บุ้งกับตะวันอ้วกเกือบตลอดทั้งคืน
- ตัวร้อน ต้องเอาแผ่นประคบเย็นวางที่ศีรษะตลอด
- มีอาการตาลอย หน้ามืด เหนื่อยหอบตลอดเวลา
- แร่ธาตุโซเดียมและโพแทสเซียมในเลือดเริ่มต่ำ
- ปัสสาวะมีสีเข้ม
- มีภาวะเลือดเป็นกรด
- ปวดท้องลามไปจนถึงกระดูกสันหลังตลอดเวลา แต่ต้องอดทนจนรู้สึกว่าเหมือนชินชา

ขณะที่ ‘แฟรงค์’ และ ‘ตะวัน’ อดอาหารและน้ำประท้วงวันที่ 7 โดยมี 3 ข้อเรียกร้อง 2 ข้อแรกเหมือนกับของบุ้ง ส่วนอีก 1 ข้อเรียกร้องที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือ “ประเทศไทยไม่ควรเป็นคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งยูเอ็น”

>> อาการของ ‘แฟรงค์ ณัฐนนท์’

ศูนย์ทนายฯ ระบุว่า เมื่อคืนแฟรงค์มีอาการชัก มีอาการมือเกร็ง มือชา ต้องใช้เครื่องช่วยให้ออกซิเจนผ่านทางจมูก เพราะหายใจไม่ทัน แพทย์คาดว่าเกิดมาจากความเครียด

– น้ำหนักตัวลดลงเหลือประมาณ 39 กก.
– รู้สึกร้อนจากข้างในร่างกาย
– อ่อนแรงมาก จนไม่สามารถเดินเองได้ ต้องนั่งรถเข็น

>> อาการของ ตะวัน ทานตะวัน

วันนี้ตะวันนั่งรถเข็นออกมา มีอาการอ่อนเพลีย พูดช้า เสียงเบา ปากแห้งแตกจนลอก เมื่อคืนที่ผ่านมาอาเจียนออกมาเป็นน้ำสีใสรสเปรี้ยว 1 ครั้ง

- มีอาการคล้ายจะอ้วก แต่อ้วกไม่ออกอีกหลายครั้งทั้งคืน
- รู้สึกว่าการประมวลผลช้าลง
- มีอาการหลงลืม ไม่มีสติอยู่กับปัจจุบัน
- น้ำหนักตัวลดลงเหลือประมาณ 41 กก.
- ตัวร้อนมากจนต้องเอาน้ำมาลูบตลอดเวลา 

'บิ๊กเต่า' ยัน!! แจ้งข้อหามาตรา '157-149' แก่ 'บิ๊กโจ๊ก' แล้ว หลังพบหลักฐานเส้นเงินจากเว็บพนันไปใช้จ่ายค่าน้ำ-ไฟ-บ้าน

เมื่อวานนี้ (21 ก.พ. 67) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. ในฐานะรองหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคลี่คลายคดีเว็บไซต์พนันออนไลน์เครือข่ายมินนี่ ที่ได้รับการแต่งตั้งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวแบ่งออกเป็นสองสำนวน คือสำนวนแรกที่มีผู้ต้องหาจำนวน 61 ราย สำนวนที่ 2 มีผู้ต้องหาจำนวน 5 ราย โดยหนึ่งในนั้นคือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. อีกทั้งสำนวนนี้ยังมีผู้ต้องหาเป็นตำรวจทั้งในและนอกราชการด้วย โดยมีการร้องทุกข์กล่าวโทษในความผิดตามมาตรา 157 กับ 149 และได้ส่งให้ ป.ป.ช.พิจารณาแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจและ ป.ป.ช.อยู่ระหว่างการหารือว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ทำสำนวนคดีดังกล่าว เนื่องจากนายตำรวจที่เป็นผู้ต้องหาในคดีนี้เป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ และต้องการให้สำนวนมีความรวดเร็ว โปร่งใส เป็นธรรมกับทุกฝ่าย

การที่ตำรวจต้องการนำสำนวนคดีนี้กลับมาดำเนินการเองนั้นเนื่องจากคดีดังกล่าวได้มีการสืบสวนสอบสวนมาเป็นเวลานานแล้ว ตั้งแต่สมัย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนก่อน อีกทั้งคดีหลักที่มีผู้ต้องหา 61 รายนั้น ยังมีตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายกว่า 300 ล้านบาท

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เผยต่อว่า ทั้งนี้ตำรวจมีพยานหลักฐานเป็นเงินจากบัญชีม้าของเว็บไซต์พนันออนไลน์มีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงไปถึงนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ อีกทั้งเงินจากบัญชีม้าดังกล่าวยังเชื่อมโยงไปถึงญาติพี่น้องของผู้ต้องหาที่เป็นตำรวจที่นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ค่ารักษาพยาบาล ซื้อบ้าน ซื้อรถ ค่าเทอม ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการขยายผล และเชื่อว่ายังมีเว็บไซต์พนันออนไลน์อื่นที่เกี่ยวข้องกับตำรวจคนนี้ด้วย และหากพบพยานหลักฐานก็จะถือว่าเป็นคดีใหม่ ซึ่งหากทาง ป.ป.ช.ได้มีมติว่าจะส่งสำนวนในคดีกลับมาให้ตำรวจเป็นผู้ดำเนินการก็จะแจ้งข้อกล่าวหาฐานฟอกเงินเพิ่มเติมทันที ส่วนเรื่องระยะเวลาที่ ป.ป.ช.ใช้พิจารณานั้น ปกติแล้วใช้เวลาไม่นานก็จะมีผลการพิจารณาออกมาทันที

ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าตำรวจและ ป.ป.ช.ต้องการทำสำนวนนี้เพื่อประโยชน์ของฝ่ายตัวเองหรือไม่นั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า เป็นการดำเนินการตามพยานหลักฐาน อีกทั้งตำรวจและ ป.ป.ช.ได้ทำงานโดยเป็นอิสระต่อกัน ไม่ได้มีการกลั่นแกล้งหรือเล่นนอกเกม แต่ต้องการให้เรื่องนี้จบโดยเร็ว เพราะมีหลายฝ่ายนำเรื่องนี้มาโจมตีสำนักงานตำรวจแห่งชาติทำให้เกิดความเสียหาย

สำหรับในส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาความผิดตามมาตรา 157 และ 149 กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยถือว่าเข้าข่ายกระทำความผิดวินัยร้ายแรง โดยหลังจากนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง และจะมอบหมายให้ 'พล.ต.อ.' ที่มีชั้นยศเท่ากันตามกฎหมายเป็นประธานในการตรวจสอบ

ส่วนกรณีที่มีคลิปเสียงพนักงานสอบสวนพยายามเกลี้ยกล่อมผู้ต้องหาในคดีเว็บพนันออนไลน์ให้ยอมกลับคำให้การนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า เป็นคนละเรื่องกับทั้งสองคดีข้างต้น และเกิดขึ้นในพื้นที่สถานีตำรวจนครบาลเตาปูน แต่ต้องขอชื่นชมพนักงานสอบสวนคนดังกล่าวที่มีสติในการชี้แจงกับคู่สนทนาโดยไม่หลงกลการล่อซื้อ เพราะหากชี้แจงพลาดไปนิดเดียวก็อาจตกเป็นจำเลยสังคม และขอเตือนว่าไม่ควรทำพฤติกรรมเช่นนี้อีก เพราะข้อเท็จจริงนั้นชัดเจนอยู่แล้ว

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวถึงกรณีที่พนักงานสอบสวนในคดีนี้ถูกฟ้องจำนวนมากว่า ตนเองไม่มีความกังวล เพราะที่ผ่านมาการเป็นตำรวจนั้นมีความสุ่มเสี่ยงอยู่แล้ว ไม่ว่าเป็นคดีเล็กหรือใหญ่ ซึ่งจากการประชุมกับพนักงานสอบสวนเมื่อวานนี้ (20 ก.พ.) ทุกฝ่ายยังคงมีขวัญและกำลังใจที่ดี ยังคงมีเสียงหัวเราะ ตำรวจทำตามพยานหลักฐาน และที่ผ่านมาตนเองก็ถูกดำเนินคดีมาหลายคดีแล้ว ซึ่งหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจคือสืบหาพยานหลักฐานอย่างละเอียด เป็นการเสริมเกราะป้องกันไม่ให้ผู้ที่มีอำนาจหรืออิทธิพลฟ้องกลับได้ เป็นการทำให้พื้นที่สีดำในสำนักงานตำรวจแห่งชาติกลายเป็นพื้นที่สีขาว เพื่อให้เหลือตำรวจน้ำดีอยู่ในสังคม ตำรวจคอยดูแลพี่น้องประชาชน ส่วนที่ด่างพร้อยต้องกำจัดออกไปให้หมดแม้จะเป็นร้อยพันคนก็ตาม

'ผู้ว่าแบงก์ชาติ' ยัน!! ศก.ไทย 'ไม่วิกฤติ' ไม่จำเป็นต้องลดดอกเบี้ยตามคำขอ ด้านสื่อญี่ปุ่นมอง 'เศรษฐา' ต้องการอ้างตัวเลขวิกฤติ ดัน 'ดิจิทัลวอลเล็ต'

เมื่อวานนี้ (21 ก.พ. 67) สำนักข่าวนิกเกอิของประเทศญี่ปุ่น เผยแพร่บทสัมภาษณ์นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยสื่อญี่ปุ่นแห่งนี้ ระบุว่า ธปท.ได้คัดค้านข้อเรียกร้องให้มีการจัดประชุมฉุกเฉินเพื่อปรับลดอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่นายเศรษฐพุฒิ บอกว่า ปัญหาเชิงโครงสร้างและวัฏจักรที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย จะไม่ได้รับการแก้ไขด้วยการพลิกกลับของนโยบายทางการเงิน

ทั้งนี้ นายเศรษฐพุฒิ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวนิกเกอิ ว่า ธนาคารกลางจะ 'ไม่ดันทุรัง' ต่อสถานการณ์ดอกเบี้ยในขณะนี้ซึ่งอยู่ในระดับสูงในรอบทศวรรษ แต่ขอให้พิจารณาตัวเลขล่าสุดที่แสดงให้เห็นถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่ติดลบ และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่เติบโตเพียง 1.9% ในปี 2566 ที่ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด ซึ่งเป็นผลจากอุปสรรคทางการเมืองที่ทำให้งบประมาณรัฐบาลปี 2567 ล่าช้า

“ถ้าเราลดอัตราดอกเบี้ยลง มันไม่ได้ทำให้นักท่องเที่ยวจีนใช้จ่ายมากขึ้น หรือทำให้บริษัทจีนนำเข้าปิโตรเคมีจากประเทศไทยมากขึ้นแต่อย่างใด แล้วมันก็ไม่ได้ทำให้รัฐบาลกระจายงบประมาณได้รวดเร็วขึ้นด้วย และนี่คือปัจจัยหลัก 3 ประการที่ทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจไทยค่อนข้างช้า” นายเศรษฐพุฒิ กล่าว

สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า แรงกดดันทางการเมืองที่ส่งถึงธนาคารกลางกำลังมีมากขึ้น ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบต่อเนื่องถึง 4 เดือน ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการอุดหนุนด้านพลังงานของภาครัฐ ประกอบกับรายรับจากการท่องเที่ยวที่อ่อนแอและการหดตัวของการส่งออก แต่ในการประชุมเมื่อวันที่ 7 ก.พ. ธนาคารกลางยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.5% ซึ่งเป็นการปฏิเสธข้อเรียกร้องของนายกฯเศรษฐา ทวีสิน ที่เรียกร้องให้ลดดอกเบี้ยนโยบายลง

นายเศรษฐาได้ย้ำถึงข้อเรียกร้องนี้อีกครั้งเมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา หลังจากมีการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (จีดีพี) ที่อ่อนแอลง และเรียกร้องให้ธนาคารกลางจัดการประชุมหารือเป็นการฉุกเฉินก่อนการประชุมทั่วไปที่จะมีขึ้นในวันที่ 10 เม.ย.นี้

นายเศรษฐพุฒิ กล่าวถึงความสัมพันธ์ของเขากับนายเศรษฐา ซึ่งควบตำแหน่ง รมว.คลัง โดยยืนยันว่า นายเศรษฐา มีความเป็นมืออาชีพและมีความจริงใจ 'แต่ปฏิเสธว่าเศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะวิกฤต' แม้ว่านายเศรษฐาได้พยายามชี้ตัวเลขทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอมาตลอด เพื่ออ้างว่าเศรษฐกิจไทยวิกฤติ ซึ่งนี่จะส่งผลทำให้กระบวนการทางนิติบัญญัติ สามารถอนุมัติการเดินหน้านโยบาย 'ดิจิทัลวอลเล็ต' ได้ง่ายขึ้น

“การฟื้นตัวแม้จะมีความอ่อนแอ แต่มันก็มีความต่อเนื่อง” ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยกล่าว

นิกเกอิรายงานต่อไปว่า ท่าทีของรัฐบาลที่มีต่อธนาคารกลาง ทําให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความเป็นอิสระของธนาคารกลาง ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ขณะที่เศรษฐพุฒิไม่มีสิทธิ์ได้รับการต่ออายุ หลังจากหมดวาระในปี 2568 เนื่องจากเขาจะเกษียณอายุในวัย 60 ปี 

“มีความตึงเครียดแต่ก็อยู่ในลักษณะที่สร้างสรรค์ระหว่างรัฐบาลและธนาคารกลางอยู่เสมอ เพราะเราสวมหมวกที่แตกต่างกัน ไม่มีเหตุผลใดที่ทั้งสองจะทํางานร่วมกันไม่ได้ คุณเพียงแค่ต้องเข้าใจว่า เรามีบทบาทที่แตกต่างกันตามกฎหมาย” นายเศรษฐพุฒิกล่าว

ผู้ว่าการธนาคารฯ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางได้ฝ่าฟันกับเสียงเรียกร้องเพื่อให้เปลี่ยนแปลงนโยบาย หลังมีข้อวิจารณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยของไทยตามหลังแนวโน้มของทั่วโลกที่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่ปี 2565

“เราบอกว่าไม่ นั่นไม่เหมาะสมสำหรับเรา เพราะว่าการฟื้นตัวของเรานั้นช้ากว่าประเทศอื่นๆ” นายเศรษฐพุฒิระบุ

ในการประชุมเมื่อวันที่ 10 ก.พ. คณะกรรมการฯ (คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.) จำนวน 2 คนลงมติให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ซึ่งนายเศรษฐพุฒิ กล่าวกับนิกเกอิว่า เสียงส่วนน้อยมีความกังวลเกี่ยวกับอุปสรรคเชิงโครงสร้างที่มีความรุนแรงมาก ดังนั้น จึงอาจเป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่จะต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้ใกล้เคียงกับสิ่งที่พวกเขาคิดว่าเป็น “ความเป็นกลางในรูปแบบใหม่”

นอกเหนือจากปัญหาเชิงโครงสร้างที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน อาทิ จำนวนประชากรและผลิตผลจากแรงงานที่ลดลงแล้ว คณะกรรมการฯยังเห็นถึงความกังวลที่ประเทศไทยพึ่งพาภาคการส่งออกและภาคการท่องเที่ยว ซึ่งมีแรงงานคิดเป็นสัดส่วนถึง 1 ใน 5 ของแรงงานไทยทั้งหมด และคิดเป็นสัดส่วนที่ใกล้เคียงกันเมื่อเทียบกับในจีดีพี

“สิ่งที่เราเห็น คือ การทดแทนการนําเข้ามากขึ้นในประเทศจีน...ซึ่งนั่นไม่เพียงสะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนแอของวัฏจักรในเศรษฐกิจจีน แต่ยังรวมถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่พวกเขา (จีน) ที่ผลิตด้วยตัวเองมากขึ้น และไม่ได้มีการนำเข้า” นายเศรษฐพุฒิกล่าว

ในขณะที่การเข้าพักที่สั้นลงและการใช้จ่ายที่ลดลงของนักท่องเที่ยว ก็ทำให้เกิดความกังวลเช่นกัน โดยนายเศรษฐพุฒิ ตั้งข้อสงสัยว่า ประเทศไทยอาจจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาถึง 40 ล้านคนต่อปี แต่ตัวเลขนี้เป็นตัวเลขที่บันทึกไว้ในปี 2562 ก่อนโควิดระบาด

“สิ่งต่างๆ เปลี่ยนไปมากอันเป็นผลมาจากโควิด” ผู้ว่าการธนาคารฯกล่าว และระบุว่า “มันเป็นเรื่องเสี่ยงที่จะสรุปว่า ทุกอย่างจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมด้วยความล่าช้า คุณต้องทำอะไรสักอย่าง หากคุณต้องการได้ตัวเลขนั้น”

อนึ่ง นายกรัฐมนตรีเศรษฐา เคยกล่าวว่า เขาจะไม่แทรกแซงธนาคารกลางแต่จะพยายามโน้มน้าวให้ "เห็นใจคนที่กำลังทรมาน”

นายเศรษฐพุฒิ กล่าวย้ำกับนิกเกอิว่า “พวกเขากำลังเผชิญกับความเจ็บปวด เพราะว่ารายได้ไม่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วตามที่เราต้องการ แต่เราก็รู้สึกถึงวิธีการที่ดีกว่าในการแก้ไขปัญหา คือ การออกมาตรการที่ตรงเป้าหมาย และมันไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสม ที่จะต้องมาแจกอุปกรณ์ช่วยชีวิตให้กับทุกๆคน”

ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศ กล่าวว่า เขารับรู้ถึงผลกระทบของอัตราดอกเบี้ยที่สูงที่มีต่อผู้กู้ แต่กล่าวว่า การลดอัตราดอกเบี้ยก่อนเวลาอันควร จะเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางการเงิน เนื่องจากหนี้ครัวเรือนยังคงอยู่ที่มากกว่า 90% ของจีดีพี

“ผมคิดว่าหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นนั้น ไม่ใช่ส่วนเล็กๆเลย เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยต่ำมากมาเป็นเวลา มันกระตุ้นให้คนกู้ยืม ดังนั้น การลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง ผมคิดว่าเป็นการส่งสัญญาณที่ผิด ในแง่ของการพยายามทําให้หนี้ครัวเรือนมีความยั่งยืนมากขึ้น” นายเศรษฐพุฒิกล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top