Sunday, 18 May 2025
ค้นหา พบ 48168 ที่เกี่ยวข้อง

‘เครื่องบินลำเล็กเซสน่า 208’ พุ่งชนโรงเก็บเครื่องบินในโปแลนด์ สลด!! ดับ 5 บาดเจ็บอีก 8 คาด เกิดจากอากาศที่ไม่ดี-ทัศนวิสัยแย่ 

(18 ก.ค. 66) สำนักข่าวเอพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เกิดเหตุเครื่องบินเล็กเซสน่า 208 (Cessna 208) ลำหนึ่งบินโหม่งโลก พุ่งชนโรงเก็บเครื่องบินของศูนย์กระโดดร่มในหมู่บ้านคริซินโน (Chrcynno) ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงวอร์ซอ เมืองหลวงของโปแลนด์ ไปทางเหนือ 45 กิโลเมตร ท่ามกลางสภาพอากาศที่ไม่ดี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย และผู้บาดเจ็บอีก 8 คน

‘โมนิกา โนวคาวสกา-บรินดา’ โฆษกของหน่วยงานดับเพลิงกล่าวว่า นักบินของเครื่องบินลำดังกล่าวและผู้คน 4 คนที่หลบอยู่ในโรงเก็บเครื่องบินเนื่องจากเกิดพายุขึ้น ได้เสียชีวิตในอุบัติเหตุเครื่องบินตกในช่วงบ่ายนี้

ขณะที่ตำรวจกล่าวว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บเพิ่มอีก 8 ราย โดย 2 รายอาการสาหัส สอดคล้องกับที่ ซิลเวสเตอร์ ดาบราวสกี ผู้ว่าการจังหวัด กล่าวว่ามีเด็กที่บาดเจ็บจากเหตุดังกล่าวด้วย

ด้านเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและรถพยาบาลนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลในเมืองโนวี ดวอร์ มาโซเวียซกี (Nowy Dwor Mazowiecki)

‘คาตาร์ซีนา เออร์บาโนวสกี’ โฆษกอีกคนหนึ่งของหน่วยงานดับเพลิงท้องถิ่นกล่าวว่า หน่วยกู้ภัยยังคงตรวจสอบโรงเก็บเครื่องบินเพื่อหาผู้ประสบเหตุเพิ่มเติม

ขณะที่อัยการและตำรวจกำลังสอบสวนสาเหตุของเหตุการณ์น่าสลดนี้ ที่นับเป็นอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับเครื่องบินสำหรับกระโดดร่มที่เลวร้ายที่สุดในโปแลนด์นับตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 11 รายจากเหตุเครื่องบินเล็กตกที่เมืองโทโปโลว์ (Topolow) ใกล้เมืองเชสโตโชวา (Czestochowa) ทางตอนใต้

‘กระติ๊บ ชวัลกร’ ฮาลั่น!! เจอหนุ่มคลั่งรัก บอกเปย์มาให้แล้ว 300 ล้าน  หยอกกลับ “ไม่ทราบว่าโอนมาทางไหนคะ แต่ก็ขอบคุณที่ทำให้ยิ้มได้” 

(18 ก.ค. 66) เจอแบบนี้ใครก็งง เมื่อดาราสาว ‘กระติ๊บ ชวัลกร’ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อมีบุคคลที่อ้างว่าชื่อ ‘พี่เบส’ ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นในอินสตาแกรมของเธอ โดยระบุว่า…

“ดีครับ พี่เบสนะ รักน้องกระติ๊บนะ ห่วงมากรู้มั้ย รู้ตัวมั้ยว่ามีใครชัพพอร์ต แคร์มาก ๆ อยู่ตรงนี้ พี่รักน้องกระติ๊บมากรู้มั้ย รักษาสุขภาพมาก ๆ ช่วยรักตัวเองแทนพี่ทีนะครับ น้องกระติ๊บน่ารัก ครบนะครับ ของที่พี่เบสให้ไปครบนะครับ 300 ล้านแล้วมั้ง ดีครับ คิดถึงนะ พี่เบส”

ซึ่งเมื่อดาราสาวได้เห็นข้อความดังกล่าวก็ถึงกับต้องแคปมาสอบถามด้วยความงงปนขำไว้ว่า…

“5555555 เอิ่มคือพี่เบสคะ เรียนถามนิสนึงค่ะ 300 ล้านไม่ทราบพี่เบสส่งมาทางไหนคะ ทางน้ำ ทางอากาศ หรือว่าทางพลังจิต บาทเดียวยังมาไม่ถึงเลยพี่เบสสสสส ขอบคุณที่ส่งข้อความมานะคะ ไม่ว่าพี่จะเป็นใคร คอมเมนต์มาแบบทำให้หนูท้องแข็งเลยค่ะ ขอบคุณที่ทำให้ยิ้มได้ค่ะ”

‘โบว์ เมลดา’ โผล่คอมเมนต์ไอจีหวานใจ ‘อาเล็ก ธีรเดช’ แซว!! “รูปแบบนี้ลงไม่ถามก่อน” เหตุรูปนี้ฮอตเกินต้าน

(18 ก.ค. 66) มีการหลุดคิวซีเกิดขึ้น ล่าสุด ‘โบว์ เมลดา สุศรี’ ต้องตามมาตรวจถึงอินสตาแกรมแฟนหนุ่ม ‘อาเล็ก ธีรเดช เมธาวรายุทธ’ หลังจากหนุ่มอาเล็กโพสต์ภาพโชว์แผ่นหลังกว้าง ๆ พร้อมกล้ามแขนแบบไม่เกรงใจใคร เล่นเอากล่องคอมเมนต์แทบแตก นี่ขนาดมาแค่ด้านข้างกับด้านหลังนะเนี่ย

โดยหนุ่มอาเล็กได้โพสต์ภาพโชว์หุ่นสุดเท่ ผ่านอินสตาแกรม IG @lekteeradetch พร้อมแคปชันว่า ‘Updated’ ซึ่งบอกเลยว่า ไม่ว่าจะมองมุมไหนหุ่นของหนุ่มอาเล็กก็ชนะเลิศ

งานนี้แฟนสาวอย่าง ‘โบว์ เมลดา’ อดใจไม่ไหวต้องตามมาแซวออกสื่อสักหน่อย โดยสาวโบว์ได้คอมเมนต์ว่า “ทีรูปนี้ไม่ถาม” พร้อมอีโมจิขำน้ำตาไหล จนแฟนคลับต้องตามแซวอีกต่อว่า ถ้าหนุ่มอาเล็กถามก่อนสาวโบว์จะให้ลงรึเปล่า

นอกจากนี้หุ่นสุดฮอตของอาเล็กยังเรียกเสียงกรี๊ดจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น “พี่เล็กกกกกกกกกก”, “หันหน้ามาคุยกันก่อนพ่อหนุ่ม”, “เห็นหลังแล้วอยากเห็นหน้า…”, “แข่งแฟนหรา เอาอีก ๆ”, “อย่างโหดดด เบรคซีนก็ไปฟิตเนสสสส”, “เบาได้เบาพ่อคูณ”, “พี่ เบาได้เบาเด้อค่ะ”

ครั้งหน้าหนุ่มอาเล็กจะลงรูปอะไร ลองถามหวานใจอย่างสาวโบว์ก่อนก็ดี ไม่งั้นถ้าลงตู้มมาแบบนี้ คงทำแฟนคลับใจละลายแบบไม่ทันตั้งตัวอีกหลายครั้งแน่นอน

‘บิ๊กแดง’ ปัดตอบ ปมภาพบินไปลังกาวี พบ ‘ทักษิณ’ หลุดว่อน ยัน!! แค่ไปหารือแนวทางแก้ปัญหากลุ่มก่อความไม่สงบฯ ในภาคใต้

(18 ก.ค. 66) แหล่งข่าวจากกองทัพ ระบุถึง การเดินทาง พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ร่วมคณะของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีต ผบ.ทบ.ไป เกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย เมื่อ 5-7 พ.ค. 2566 และถูกโยงว่ามีการพบ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ดีลลับการเมืองก่อนเลือกตั้งว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ ทางการเมือง และไม่ได้ไปพบเจอ อดีตนายกฯ ตามที่มีข่าวปรากฏในโซเชียลมีเดียแต่อย่างใด แต่ไปเพื่อพบปะกับ แกนนำกลุ่มก่อความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามที่มีการนัดหมายไว้ ว่า ต้องการพบเพื่อคลี่คลายปัญหา และสนับสนุนให้การเจรจาเดินหน้าไปได้ด้วยดี

โดยเป็นการประสานในการเปิด ช่องทางการติดต่อสื่อสาร อีกช่องทางหนึ่ง สำหรับการประสานงานในการแก้ปัญหา อีกทั้งในขณะนี้ การดำเนินการของคณะพูดคุยฯ ชะลอ ออกไป เพราะทางกลุ่มเคลื่อนไหว รอมีรัฐบาลใหม่ก่อน

ส่วนกรณีที่ พล.อ.อภิรัชต์ เดินทางไปด้วยนั้นเนื่องจาก พล.อ.อภิรัชต์ สนใจติดตามแก้ปัญหาความไม่สงบในชายแดนใต้ มาเพราะสมัยเป็นพันเอก ก็ลงไปอยู่ชายแดนใต้ และมีสายข่าวอยู่ในฝั่งมาเลเซีย และเมื่อครั้งเป็น ผบ.ทบ. เคยเดินทางไป อาเจะห์ ศึกษาแนวทางการแก้ปัญหา  และยังคงติดตามสถานการณ์ มาตลอด แต่ไม่ได้เปิดเผย เพราะมีหน่วยงานที่มีหน้าที่ทำงานอยู่  แต่มันเป็น คอนเนคชั่นส่วนตัว ที่ทำให้ประสานพูดคุยกันได้ จะได้รู้ความต้องการของเขา และทางออกในการแก้ปัญหา

สำหรับ พล.อ.เฉลิมพล คอยติดตามการแก้ปัญหาชายแดนใต้มาตลอดเช่นกัน ทำงานร่วมกับพล.อ.อภิรัชต์ มา ที่ผ่านมาก็ทั้งการลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยม และสนับสนุนอุปกรณ์พิเศษ ให้กองกำลังชายแดนในการทำงาน

“คาดว่าคงมีคนพยายามที่จะเชื่อมโยง กับการเมือง เพราะที่ผ่านมา มีการปล่อยข่าวลือ พาดพิง พล.อ.อภิรัชต์ มาตลอด แต่ พล.อ.อภิรัชต์ ก็เลือกที่จะนิ่ง ไม่ชี้แจง ตอบโต้ แต่การที่ไม่ได้ชี้แจง ไม่ได้หมายความว่าเป็นเรื่องจริง เพราะอยู่ในสถานภาพที่ไม่ได้มายุ่งเกี่ยวใดๆ ทางการเมือง ขออย่าโยง” แหล่งข่าวใกล้ชิดในกองทัพ ระบุ

‘ดร.สุวินัย’ มอง ‘กุนซือก้าวไกล’ เดินเกม ‘ยอมหักไม่ยอมงอ’ เชื่อ!! มี ‘พิมพ์เขียว’ ในใจ ถึงยอมสละ ‘พิธา’ ไม่ได้นั่งนายกฯ

(18 ก.ค. 66) สุวินัย ภรณวลัย ประธานยุทธศาสตร์วิชาการ สถาบันทิศทางไทย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก ‘Suvinai Pornavalai’ ในหัวข้อ ยุทธศาสตร์การปฏิวัติ : ที่พรรค ‘ปฏิวัติประชาน’ จะหยิบมาใช้ โดยระบุว่า…

ตอนนี้ ผมมองข้ามช็อตไปหลายก้าวแล้ว คือมองว่า ‘กุนซือก้าวไกล’ กำลังวางแผนอะไร กำลังคิดอะไรกันแน่ในอีก 4 ปี 8 ปีข้างหน้า ถึงขนาดเดินหมาก ‘ยอมหักไม่ยอมงอ’ เรื่องการผลักดันแก้ ม.112 โดยยอมสละ ‘เบี้ยพิธา’ ไม่ให้ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งที่เก้าอี้นี้อยู่ใกล้แค่เอื้อม

การที่ ‘กุนซือก้าวไกล’ วางแผนอย่างลึกซึ้งถึงขั้นเลือดเย็นแบบนี้ ย่อมมีเหตุผลเดียวเท่านั้น คือพวกเขามี ‘พิมพ์เขียว’ ของยุทธศาสตร์การปฏิวัติประชาชน เพื่อล้มล้างการปกครอง ล้มล้างสถาบัน อยู่ในหัวแล้วนั่นเอง

นักยุทธศาสตร์ได้จำแนก ‘ยุทธศาสตร์การปฏิวัติ’ จากมุมมองของนโยบายทางทหาร ออกเป็น 8 วิธี ดังต่อไปนี้

(1) ยุทธศาสตร์การกบฏแบบดั้งเดิม
-ใช้กองกำลังติดอาวุธขนาดเล็กในการกบฏ
-ยุทธวิธีที่ใช้คือเข้าโจมตียึดคลังอาวุธเพื่อแจกจ่ายให้มวลชนที่ต้องการเข้าร่วมการกบฏ
-เข้ายึดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
-ตั้งด่านกีดขวางเพื่อปิดถนนในเมืองใหญ่ ขัดขวางการเคลื่อนตัวของกองกำลังฝ่ายรัฐ

(2) ยุทธศาสตร์การกบฏโดยการประท้วงหยุดงานทั้งประเทศ
- มุ่งทำลายรัฐผ่านการเคลื่อนไหวโดยประชาชนจำนวนมากเพียงครั้งเดียว
- ต้องรอให้เกิดการแตกแยกภายในอำนาจรัฐของชนชั้นปกครองด้วย

(3) ยุทธศาสตร์การก่อการร้ายที่ต้องการให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ
- เน้นการลอบสังหารบุคคลสำคัญโดยองค์กรลับ
- มุ่งสร้างความหวาดกลัวในหมู่ศัตรู และต้องการให้ศัตรูโต้ตอบด้วยกำลังหรือความรุนแรง

(4) ยุทธศาสตร์การกบฏของพวกคอมมิวนิสต์
-ให้ความสำคัญที่สุดกับการจัดตั้ง ‘พรรคแนวหน้า’ (Vanguard Party) เพื่อปลุกระดมมวลชนให้มีจิตสำนึกปฏิวัติที่ต้องการล้มล้างการปกครอง ผ่านการให้การศึกษาทุกช่องทาง
-จัดตั้งองค์กรทางการเมืองและทางการของภาคประชาชน
-ยุยงให้ทหารระดับล่างแปรพักตร์มาอยู่ฝั่งผู้ก่อกบฏ

(5) ยุทธศาสตร์สงครามประชาชนยืดเยื้อ
- ตามแนวทางของเหมาเจ๋อตุง ที่ใช้ชนบทล้อมเมือง
- ต่อสู้ด้วยสงครามจรยุทธ์หรือสงครามกองโจรเป็นหลัก

(6) ยุทธศาสตร์การรัฐประหาร
- การทำรัฐประหารส่วนมากเกิดจากการ ‘ฉกฉวยโอกาส’ มากกว่าเป็นการวางแผนยุทธศาสตร์การปฏิวัติ
- การรัฐประหารเป็นยุทธศาสตร์ที่ต้องอาศัยความสัมพันธ์ที่ดีมากระหว่างคณะปฏิวัติกับกองกำลังอื่น ๆ ในประเทศ มาเป็นตัวกำหนดความสำเร็จ

(7) ยุทธศาสตร์ชนะการเมืองเลือกตั้งแบบติดอาวุธ
- ก่อนอื่นมุ่งยึดอำนาจรัฐส่วนหนึ่ง ผ่านวิธีทางกฎหมายโดยชนะการเลือกตั้งแบบถล่มทลายก่อน
- เมื่อมั่นใจว่าได้มวลชนขนาดใหญ่มากพอแล้ว จึงเอาไปรวมกับทรัพยากรของกองกำลังติดอาวุธของฝ่ายตน เพื่อปฏิวัติประชานชน ยึดอำนาจรัฐแบบเบ็ดเสร็จในที่สุด

(8) ยุทธศาสตร์สงครามปฏิวัติแบบผสม (Hybrid Revolutionary Warfare)
- ยุทธศาสตร์นี้ยึดการสู้รบทุกรูปแบบ มาผสมผสานกัน ผ่านการเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย, การเคลื่อนไหวประท้วงความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ และการเคลื่อนไหวประท้วงเรื่องการศึกษา เป็นต้น
- โดยมีเป้าหมายสุดท้ายอยู่ที่การมี ‘กองกำลังทหาร’ เป็นของตัวเอง โดยพัฒนามาจากการจัดตั้ง ‘กองกำลังกองโจร’ ที่ทำหน้าที่ป่วนเมืองมาก่อน

อ่านแล้ว ท่านผู้อ่านตกผลึกหรือยังว่า ตอนนี้ พรรคปฏิวัติประชาชน อย่างพรรคก้าวไกล กำลังใช้ยุทธศาสตร์การกบฏแบบไหน ในการขับเคลื่อนขบวนการปฏิวัติประชาชนของพวกเขา ?

ผมสรุปให้อีกครั้งก็ได้ว่า…

ยุทธศาสตร์การกบฏของพรรคปฏิวัติประชาชนนั้น จะมีเป้าหมายเพื่อทำให้สถานการณ์บานปลายยิ่งขึ้นจนรัฐบาลคุมไม่อยู่ 

จะได้โค่นล้มเอาชนะรัฐบาล ยึดอำนาจรัฐใน ‘การต่อสู้ครั้งสุดท้าย’ ได้ด้วย ‘กองกำลังกองโจร’ ของฝ่ายตน ที่พัฒนาไปเป็น ‘กองทัพประจำการ’ ของฝ่ายตนได้สำเร็จ

หรือไม่ก็ต้องใช้ ‘กองกำลังต่างชาติ’ ในการต่อสู้ครั้งสุดท้าย

~ สุวินัย ภรณวลัย 
Suvinai Pornavalai


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top