Tuesday, 20 May 2025
ค้นหา พบ 48205 ที่เกี่ยวข้อง

‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’ ลวงนักศึกษาจีน เดินทางข้ามประเทศ จากสิงคโปร์มาเขมร เพื่อจับตัวไปเรียกค่าไถ่ 3 ล้านหยวน!!

แก๊งคอลเซ็นเตอร์ นับวันยิ่งมีกลยุทธเหนือเมฆขึ้นทุกวัน ล่าสุดสามารถหลอกเหยื่อให้เดินทางข้ามประเทศมาให้จับตัวเรียกค่าไถ่กันเลยทีเดียว

เมื่อไม่นานนี้ หน่วยงานด้านการบังคับใช้กฎหมายในหลายประเทศ และสถานทูตจีนในสิงคโปร์ ได้รับแจ้งเหตุการลักพาตัวเรียกค่าไถ่ของนักศึกษาจีนคนหนึ่ง ที่กำลังเรียนในสิงคโปร์ ว่าเขาถูกจับตัวเรียกค่าไถ่เป็นเงินสูงถึง 3 ล้านหยวน (ประมาณ 14.4 ล้านบาท) โดยกลุ่มมิจฉาชีพในกัมพูชา

เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา นักศึกษาจีนรายนี้ได้รับโทรศัพท์ปริศนา อ้างว่าเขากำลังถูกตามจับโดยรัฐบาลจีน และควรหลบหนีออกจากสิงคโปร์เพื่อซ่อนตัว

ด้วยความกลัว นักศึกษาจีนขอความช่วยเหลือจากปลายสาย และได้รับคำแนะนำให้เดินทางมายังสีหนุวิลล์ เมืองชายฝั่งชื่อดังของกัมพูชา โดยจะมีคนช่วยหาที่หลบซ่อนตัวให้

นักศึกษาจีนหลงเชื่อ รีบจับเครื่องบินจากสิงคโปร์ ไปลงที่สีหนุวิลล์ทันที และถูกแก๊งมิจฉาชีพจับตัวไปขัง พร้อมถ่ายคลิปวิดีโอเรียกค่าไถ่จำนวน 3 ล้านหยวน ส่งไปให้พ่อแม่ของเขาที่ประเทศจีน

แต่เมื่อครอบครัวของนักศึกษาจีนผู้เคราะห์ร้ายได้รับคลิปวิดีโอข้อความเรียกค่าไถ่ พวกเขารีบแจ้งตำรวจทันที ซึ่งทางการจีนก็ประสานงานไปยังสถานทูตจีนในกรุงพนมเปญ ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในการตามล่าจับตัวคนร้าย และสามารถช่วยเหลือนักศึกษาจีนที่ถูกลักพาตัวได้อย่างปลอดภัยโดยไม่มีการจ่ายเงินค่าไถ่

ปฏิบัติการครั้งนี้ ต้องใช้เจ้าหน้าที่หลายภาคส่วนทั้ง จีน กัมพูชา และสิงคโปร์ กว่าจะจับกุมแก๊งมิจฉาชีพคอลเซ็นเตอร์ และช่วยเหลือเหยื่อออกมาได้ ต่อมา สถานทูตจีนในสิงคโปร์ได้ออกประกาศเตือนนักศึกษา และ ชาวจีนในสิงคโปร์ ให้ระวังอย่าหลงเชื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามประเทศ

ทางการสิงคโปร์ย้ำว่า เจ้าหน้าสิงคโปร์ไม่เคยขอข้อมูลส่วนตัวทางโทรศัพท์ และไม่ควรเปิดเผยชื่อ ที่อยู่ สถานะครอบครัว หรือเลขบัญชีธนาคารกับคนที่เราไม่รู้จักทางโทรศัพท์โดยเด็ดขาด

ในปัจจุบันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ระบาดหนักในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจากข้อมูลของหน่วยงานด้านคดีค้ามนุษย์และลักลอบเข้าเมืองของตำรวจสากล พบว่ากลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้เริ่มมองหาเหยื่อที่เป็นกลุ่มที่มีการศึกษาดี จบระดับมหาวิทยาลัยมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่เชี่ยวชาญด้าน IT หรือสนใจเรื่องเทคโนโลยี ที่มักถูกหลอกไปลงทุนในธุรกิจคริปโตเคอร์เรนซี แชร์ลูกโซ่ หรือเล่นพนันออนไลน์

ในปี 2022 ที่ผ่านมา มีคดีที่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในสิงคโปร์มากถึง 771 เคส ที่รวมมูลค่าความเสียหายมากกว่า 97.6  ล้านเหรียญสิงคโปร์ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และมักพบว่าแก๊งมิจฉาชีพเหล่านี้ฝังตัวอยู่ในกัมพูชา ลาว และ พม่า

มาคราวนี้ หลอกลักพาตัวข้ามชาติกันไปเลย แต่ยังโชคดีที่สามารถติดตามตัวช่วยเหลือได้ทันท่วงที เพราะหลายครั้ง เหยื่อที่ถูกลักพาตัวมักถูก กักขัง ทำร้ายร่างกาย หรือล่วงละเมิดทางเพศ 

ดังนั้น เราจึงไม่ควรหลงเชื่อปลายสายที่เราไม่รู้จัก หรือติดต่อเข้ามาด้วยหมายเลขแปลกๆ หากสงสัย หรือรู้ตัวว่าอาจถูกหลอก ควรรีบแจ้งตำรวจก่อนจะทรัพย์จะหายจนสายเกินแก้
 

ก.แรงงาน ติวเข้มเจ้าหน้าที่คัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ร่วมกับทีมสหวิชาชีพ มุ่งไทยสู่เทียร์ 1

วันที่ 14 มิถุนายน 2566 นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายวรรณรัตน์ ศรีสุขใส รองปลัดกระทรวงแรงงานและโฆษกกระทรวงแรงงาน เป็นประธานพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทักษะการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ร่วมกับทีม สหวิชาชีพ รุ่นที่ 3 และบรรยายหัวข้อ “นโยบายการป้องกันและแก้ไขการบังคับใช้แรงงานหรือการบริการและการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน”

เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับนโยบายการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์และการบังคับใช้แรงงานหรือบริการ รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์และการบังคับใช้แรงงานหรือบริการตามหลักกฎหมายและหลักสากล มาตรฐานการปฏิบัติงาน (SOP) แผนปฏิบัติการว่าด้วยการส่งต่อระดับชาติฯ (NRM) และมีทักษะการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ร่วมกับทีมสหวิชาชีพ

โดยมีผู้เข้าร่วมการอบรม ได้แก่ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่สำนักงานแรงงานจังหวัด สำนักงานจัดหางานจังหวัด และสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด 19 จังหวัด และหน่วยงานสหวิชาชีพ โอกาสนี้มีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงแรงงาน ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดด้วย ณ โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ ถนนรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร
          
นายวรรณรัตน์ฯ กล่าวว่า กระทรวงแรงงานเป็นหน่วยงานสำคัญและเป็นหน่วยงานหลักในการต่อต้านการค้ามนุษย์ภายใต้ยุทธศาสตร์ 20 ปี ด้านความมั่นคง โดยรับผิดชอบเป็นเจ้าภาพหลักในการป้องกันการค้ามนุษย์ของประเทศไทย ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่ได้กำหนดเป็นวาระแห่งชาติ ในการยกระดับมาตรฐานการคุ้มครองดูแลและป้องกันไม่ให้แรงงานไทยและแรงงานต่างด้าวตกเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มอบหมายให้หน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคนำมาตรฐานการปฏิบัติงาน (SOP) ในการคัดกรองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ด้านแรงงานและการบังคับใช้แรงงาน และการนำแผนปฏิบัติการว่าด้วยกลไกการส่งต่อระดับชาติฯ (NRM)

นำไปใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการบังคับใช้แรงงานหรือบริการและการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการคัดแยกผู้เสียหายจากการบังคับใช้แรงงานและการค้ามนุษย์ด้านแรงงานร่วมกับทีมสหวิชาชีพ ซึ่งเป็นการยกระดับการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ของประเทศไทยให้เทียบเท่ากับมาตรฐานขั้นต่ำในกฎหมายคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ค.ศ. 2000 (TVPA) ของประเทศสหรัฐอเมริกา
            
นายวรรณรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงแรงงาน และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน พร้อมที่จะร่วมผนึกกำลังกับทุกภาคส่วน ในการขับเคลื่อนการต่อต้านการค้ามนุษย์ ขจัดการบังคับใช้แรงงานและการค้ามนุษย์ในประเทศไทย และเพื่อให้ประเทศไทยสามารถปฏิบัติตามมาตรฐานขั้นต่ำของสหรัฐฯ และได้รับการจัดอันดับในรายงานการค้ามนุษย์ให้อยู่ในระดับ Tier 1 ต่อไป

แม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธานในพิธีรับเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิพระราชทาน ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดพิจิตร

วันพุธที่ 14 มิถุนายน 2566 พลโท สุริยะ เอี่ยมสุโร แม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธานในพิธีรับเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิพระราชทาน โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ และเกษตรกรในพื้นที่ร่วมพิธี ณ คลังน้ำมันพิจิตร ต.บ้านนา อ.วชิรบารมี จ.พิจิตร

ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 3 ร่วมกับ บริษัทขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด ขอพระราชทานเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิ จาก ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่คลังน้ำมันพิจิตร จำนวน 10 ครัวเรือน พื้นที่ประมาณ 193 ไร่ จัดทำแปลงนาข้าวเมล็ดพันธุ์พระราชทาน รอบปี 2566 (ระยะเวลาดำเนินโครงการห้วงเดือน ส.ค. – พ.ย. 66)

และถ่ายทอดองค์ความรู้ในการปลูกข้าวแบบเกษตรอินทรีย์ โดยใช้พื้นที่แปลงนาข้าว  ส่วนหนึ่งจะนำไปแปรรูปเป็นข้าวสารปลอดสารเคมีและบางส่วนจะนำไปเป็นเมล็ดพันธุ์ข้าวปลูกเพื่อขยายโครงการต่อไป อันจะเป็นการเพิ่มรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่เกษตรกร ให้มีสุขอนามัยที่ดี ปลอดภัยจากการไม่ใช้สารเคมี และลดการเผาทำลายวัชพืช
ปรีชา นุตจรัส รายงานข่าว

ตำรวจไซเบอร์ รวบแล้ว!! ขบวนการสินเชื่อทิพย์ กู้เงิน 2 ล้าน แต่เสียเงิน 3 ล้าน

สืบเนื่องจากกรณีขบวนการหลอกให้กู้เงินออนไลน์สินเชื่ออนุมัติไว หลอกลวงผู้เสียหายซึ่งแอบอ้างว่าเป็นกลุ่มนายทุนที่เปิดเพลทฟอร์มบริการให้กู้เงินผ่านระบบกู้เงินออนไลน์ ผู้เสียหายซึ่งกำลังต้องการเงินกู้ 2 ล้านบาท จึงตกเป็นเหยื่อของกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าว

โดยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จผ่านในระบบคอมพิวเตอร์ ผู้เสียหายยินยอมให้ข้อมูลและปฏิบัติตาม เพราะเชื่อว่าจะได้รับเงินกู้ตามจำนวนที่ต้องการ เป็นเหตุให้หลงเชื่อโอนเงินออกจากบัญชีธนาคาร ไปยังบัญชีธนาคารของกลุ่มร้าย รวม 4 บัญชี รวมการโอนทั้งหมด 23 ครั้ง ได้รับความเสียหายกว่า 3,500,0000 บาท

ต่อมาวันที่ 13 มิ.ย. 66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สอท.5 สืบสวนติดตามจนทราบว่า ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีดังกล่าวกำลังเดินทางมาด้วยรถไฟขบวน 171 ปลายทางลงสถานีรถไฟยะลา จึงได้ร่วมกันวางแผนและเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุได้พบ นางดวงดาว อายุ 45 ปี บุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดกระบี่ จึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งข้อกล่าวหา ให้ทราบว่ากระทำความผิดฐาน

“ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” โดยจับกุมได้ที่ สถานีรถไฟยะลา ต.สะเตง อ.เมืองยะลา จ.ยะลา จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ตำรวจไซเบอร์เตือนภัย การเงินมีปัญหา ปรึกษาสถาบันการเงินแหล่งสินเชื่อที่มีตัวตน น่าเชื่อถือและตรวจสอบได้

ผลการปฏิบัติภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ,พล.ต.ต.อำนาจ  ไตรพจน์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา ผบก.สอท.5, พ.ต.อ.ศุภกร ธัญญกรรม ผกก.1 บก.สอท.5, ได้สั่งการ ว่าที่ พ.ต.ต.ญาณศักดิ์ บุญสนอง สว.กก.1 บก.สอท.5, พ.ต.ท.ปริพล นาคลำภา สว.กก.1 บก.สอท.5, พ.ต.ท.หญิง ธรา เมืองแก้ว สว.กก. 1 บก.สอท.5 พร้อมชุดสืบสวนดำเนินการจับกุม

‘ดร.หิมาลัย’ เผย ‘ภราดรภาพ’ คือการผสานความคิดเก่า-ใหม่ เพื่ออยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข ชี้!! ‘ประชาธิปไตย’ ไม่ควรทิ้งใครไว้ข้างหลัง

เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 66 ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้เล่าถึงประเด็น ความเป็นประชาธิปไตย กับ ภราดรภาพ ที่จะอยู่ร่วมกัน ระหว่างความคิดแบบเก่า และ ความคิดแบบใหม่ได้ โดยไม่ขัดแย้ง ผ่านรายการ ‘คุยกับ ดร. หิมาลัย’ EP.3 โดยระบุว่า…

ผมคิดว่าบรรยากาศของประชาธิปไตยมันเบ่งบานมาตั้งนานแล้วตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งแล้ว แต่ละพรรคการเมืองก็จะนำเสนอจุดเด่นของตัวเองเพื่อให้พี่น้องประชาชนนั้นได้พิจารณา หลักการของประชาธิปไตยนั้นก็ง่ายๆก็คือเรื่องของสิทธิและเสรีภาพ และก็ความเสมอภาค สิทธิและเสรีภาพก็มักจะไปควบคู่กัน ทุกคนมีสิทธิในการเลือกตั้งจะเห็นว่าการหาเสียงนั้นก็เป็นไปอย่างคึกคัก อันนี้คือสิทธิและเสรีภาพทางการเมือง แต่จริงๆแล้วมันยังมีอีกหลายด้าน ทางเศรษฐกิจทางสังคมและทางวัฒนธรรม ซึ่งผมคิดว่าประเทศไทยไม่ได้มีปัญหา กับบริบทต่างๆเหล่านี้ แต่บางท่านอาจจะคิดว่ามันอาจจะดีได้มากกว่านี้ มันควรจะเด่นชัดกว่านี้หรือตรงนั้นตรงนี้ควรจะได้รับการแก้ไข ก็นำไป แต่สิ่งที่ผมเป็นห่วงในปัจจุบันนี้ก็คือ นอกจากสิทธิเสรีภาพและความเสมอภาคแล้ว สิทธิและเสรีภาพถ้าเราใช้มากเกินไปมันก็จะไปละเมิดสิทธิของคนอื่น เสรีภาพนั้นมันมีหลายอย่างบางครั้งคนที่คิดเห็นไม่ตรงกันก็อาจจะมีการกระทบกระทั่งกัน ระหว่างความเชื่อ อาจจะมีคนที่มีความเชื่อแบบใหม่เสรีภาพแบบใดซึ่งเขาก็ถูกของเขา แต่ก็อย่าลืมว่าคนที่มีความคิดความเชื่อแบบเก่าๆนั้นเขาก็มีเสรีภาพแบบเก่าๆของเขาอยู่เช่นเดียวกัน อย่าไปตีค่าว่าเขาเป็นคนเลว มันเป็นความคิดเห็นของแต่ละคน อันนี้มันจะต้องเป็นการเปิดใจให้กว้าง แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือการทำลายรากฐานความคิดของสังคมเลย มันก็เคยมีบทเรียนมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการปฏิวัติ เรดการ์ด ของประเทศจีน ตอนนั้นก็จะมีความเชื่อพื้นฐานของการเคารพบรรพบุรุษการกตัญญูซึ่งก็มีการพยายามทำลายความเชื่อพื้นฐานต่างๆเหล่านี้ คือมีความคิดที่ว่าสิ่งต่างๆ จะดีขึ้นได้นั้น จะต้องทำลายของเก่าก่อน แต่หลังจากที่ได้ทำลายของเก่าแล้วมันก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้นมา ภาพความขัดแย้งเช่นนี้ ไม่อยากให้เกิดขึ้นในประเทศไทยของเรา
.
ถ้าเราจะสร้างสังคมขึ้นมาใหม่หรืออะไรก็ตาม นอกจากเรื่องของสิทธิและเสรีภาพแล้ว ในประชาธิปไตยมันมีอยู่ 1 คำก็คือ คำว่าภราดรภาพ ภราดรภาพมันก็คือการอยู่ร่วมกันแบบฉันมิตร อยู่กันแบบพี่น้อง หมายความว่าในความเห็นต่างนั้นเราต้องพยายามแสวงหาจุดร่วมกัน ที่จะอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข

ในการจะก้าวเดินไปข้างหน้านั้น มันมีอยู่คำพูดหนึ่งนั่นก็คือเราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง นี่คือหลักการของภราดรภาพเลย เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ในขณะที่น้องๆก้าวเดินไปกับความทันสมัย วันนี้หลายธุรกิจก็ไปทำอยู่ในโลกของดิจิตอลนั่นคือความก้าวหน้า สมมุติว่าวันนี้ยกเลิกเงินเก่าระบบที่เป็นเงินกระดาษทั้งหมด ยกเลิกเงินเหรียญทั้งหมด เพื่อใช้ดิจิตอล เพื่อให้มันทันสมัยกว่า มันจะมีข้อดีหรือข้อเสียมากกว่ากัน มันก็ไม่สามารถจะทำลายสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้หายไปได้ ในความคิดของน้องๆ อายุ 30 กว่าที่เติบโตขึ้นมาที่จะดูแลประเทศ เราก็จะต้องยอมรับความคิดของเขาแต่ในขณะเดียวกันน้องๆ อายุ 30 กว่าๆที่กำลังเติบโตขึ้นมานั้น ก็อย่าเพิ่งคิดว่าความคิดของรุ่นพี่ ๆ นั้นมันล้าสมัยทั้งหมด หรือมันเสียหายทั้งหมด ที่ผ่านมานั้นมันก็มีสิ่งที่ดีอยู่เหมือนกัน 

ใครที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ก็จะต้องทำสิ่งที่ดีให้กับประเทศ ถ้าเขาคนนั้นเป็นคนกตัญญู ทำไมถึงพูดอย่างนี้ เพราะถ้าเขากตัญญูต่อบรรพบุรุษของเขา เขาก็จะรักษาชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล รักษาชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลคืออะไร นั่นคือไม่ทำสิ่งที่มันเสียหาย จริงๆแล้วความกตัญญูที่คนรุ่นใหม่มองว่ามันล้าสมัยนั้น แท้ที่จริงแล้ว มันก็มีประโยชน์

ก่อนจะมีความเชื่อเรื่องความกตัญญูนั้น ก็ต้องมีความเชื่อเรื่องความดีก่อน ซึ่งมาจากศาสนา ทุกศาสนาก็จะพูดถึงเรื่องของการทำความดี ละเว้นความชั่ว นั่นคือความเชื่อในเรื่องของความดี 2 สิ่งนี้คือพื้นฐานของสิ่งเก่าที่มีประโยชน์ ในอดีตมีความพยายามสร้างสิ่งใหม่โดยการทำลายสิ่งเก่า ซึ่งมันก็ไม่ประสบความสำเร็จ ถ้าเราจะเอาบทเรียนจากในอดีตนั้นมาใช้ ก็อยากจะให้มองว่าในสิ่งเก่าสิ่งไหนที่มันดีอยู่แล้วก็ให้เก็บเอาไว้สิ่งไหนที่มันจะต้องปรับปรุงแก้ไขก็ปรับเปลี่ยนกันไป แก้ไขกันไป มันต้องเกื้อกูลกันทั้งสองอย่าง

การแบ่งแยกดินแดนนั้น ท่านเกิดมาเป็นคนไทย ถือบัตรประชาชนไทย สิทธิประโยชน์ทุกอย่าง ท่านก็ได้รับเหมือนคนไทยทุกคนเท่ากัน รัฐบาลไทยดูแลทุกคนเหมือนกันเท่าเทียมกัน แล้วมันมีความจำเป็นอะไรที่จะต้องไปแบ่งแยก เพื่อให้เกิดความแตกแยกกันขึ้นมา ถ้าเราปรับความคิดที่จะแบ่งแยก มาเป็นช่วยกันพัฒนามันจะดีกว่าไหม พัฒนากันไปให้มันมีความเจริญก้าวหน้า เราช่วยกันพัฒนาประเทศไปด้วยกัน เดินไปด้วยกันมันจะดีกว่าไหม แทนที่จะคิดแบ่งแยกกันออกไป

หลายท่าน ยกฝรั่งเศส เป็นประเทศแม่แบบแห่งประชาธิปไตย ท่านรู้ไหมครับ ว่า ฝรั่งเศสเขาเขียนไว้ 3 คำ เสรีภาพ เสมอภาค และมีภราดรภาพด้วย ไม่รู้ว่านักการเมืองรุ่นใหม่เวลาเข้าพูดถึงประชาธิปไตยเขาได้พูดถึงคำว่าภราดรภาพด้วยหรือไม่ เพราะถ้ามีคำว่าภราดรภาพ มันจะไม่ปลุกเร้า มันจะไม่แรง แต่ถ้านักการเมืองที่เป็นนักประชาธิปไตย และต้องการให้เป็นประชาธิปไตยเพื่อส่วนรวมนั้น เขาจะต้องเน้นคำว่าภราดรภาพ แต่ถ้าเป็นนักประชาธิปไตยที่ต้องการเปลี่ยนแปลงตามความคิดของตัวเองเป็นหลัก เขาจะไม่เน้นคำว่าภราดรภาพ แต่เขาจะไปเน้นเรื่องอื่น แต่ถ้าประเทศเราจะยึดมั่นในประชาธิปไตยให้ถูกต้องแล้ว ก็ควรจะเน้นคำว่าภราดรภาพลงไปด้วย ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ กล่าวทิ้งท้าย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top