Saturday, 24 May 2025
ค้นหา พบ 48326 ที่เกี่ยวข้อง

เปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนและทางทะเลช่วงเทศกาลสงกรานต์  2566 ตั้งเป้าผู้เสียชีวิตไม่เกิน 3 คน

วันที่ 10 เมษายน 2566 นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธาน เปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนและทางทะเลช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2566 โดยมีนายณัฐชนน จันทร์คง ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงกระบี่ นายกิตติพนธ์ วุฒิวงศ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่  นางบัญชาลักษณ์ ลือสวัสดิ์  ประธานสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวะศึกษาจังหวัดกระบี่ ผู้แทนหน่วยงานกระทรวงคมนาคมในพื้นที่จังหวัดกระบี่ หัวหน้าส่วนราชการ และสื่อมวลชน เข้าร่วมและมีหน่วยงานภาคเอกชน องค์กรต่าง ๆ ร่วมสนับสนุนน้ำดื่ม เครื่องดื่มและอุปกรณ์เพื่อให้บริการแก่ประชาชนที่สัญจร ณ จุดบริการประชาชนป้อมตำรวจทางหลวง วัดถ้ำเสือตําบลกระบี่ใหญ่ อําเภอเมือง จังหวัดกระบี่ 

ทั้งนี้จังหวัดกระบี่ได้มีการจัดทำแผนบูรณา การป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนและทางทะเลช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2566 และให้ทุกอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ
ประกอบด้วยบูรณาการจุดตรวจหลัก ๘ อำเภอ จำนวน 17 จุด จุดบริการประชาชน 8 อำเภอ จำนวน
27 จุด และด่านชุมชน 8 อำเภอ จำนวน 29 ด่านชุมชน มีกำลังเจ้าหน้าประมาณ 1,000 คนเพื่อลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวจากปัญหาอุบัติเหตุ และในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2566 นี้ 

โดยทางศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนและทางทะเลจังหวัดกระบี่ ได้กำหนดแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนและทางทะเลในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2566 มีช่วงการดำเนินงานควบคุมเข้มข้น 7 วัน ระหว่างวันที่ 11 - 17 เมษายน 2566 มีเป้าหมายการดำเนินงาน การเกิดอุบัติเหตุไม่เกิน 35 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ admit ไม่เกิน 36 คน และผู้เสียชีวิตไม่เกิน 3 คน ภายใต้ 5 มาตรการได้แก่ 1) มาตรการด้านการบริหารจัดการ 2) มาตรการด้านลดปัจจัยเสี่ยงด้านถนนและสภาพแวดล้อม 3) มาตรการด้านลดปัจจัยเสี่ยงด้านยานพาหนะ 4) มาตรการด้านผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย และ 5) มาตรการด้านการช่วยเหลือหลังเกิดอุบัติเหตุ หัวข้อการรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ ”

ทกจ.กระบี่ร่วมกับ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ ตำรวจท่องเที่ยวกระบี่ลงพื้นที่สร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวก่อนเข้าช่วงเทศกาลสงกรานต์

วันที่ 10 เมษายน 2566 เวลา 10.00 น. นายสุรัตน์ จรณโยธิน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกระบี่ พร้อมนางสาวศศิธร กิตติธรกุล นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ ร่วมกับตำรวจท่องเที่ยว ออกตรวจสถานประกอบการธุรกิจนำเที่ยว ให้คำแนะนำ ให้คำปรึกษา กับสถานประกอบการธุรกิจนำเที่ยว ในพื้นที่ จ.กระบี่ ตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ.2551 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2559

‘ชาวเน็ตเขมร' เปลี่ยนประวัติศาสตร์ เล่าเป็นฉากๆ เคลม!! ‘นายขนมต้ม' เป็นคนเขมร ชื่อ ‘ฉันใหญ่นะ’

เคลมอีกแล้ว ! ชาวเน็ต 'เขมร' เล่าเป็นฉากๆ 'นายขนมต้ม' เป็นคนเขมร 

(10 เม.ย. 66) The Wild Chronicles - ประวัติศาสตร์ ข่าวต่างประเทศ ท่องเที่ยวที่แปลก ออกมาเปิดเผยว่าในเว็บไซต์ khmer440 มีชาวเขรมใช้นามปากกาว่า SEAhistory มาเล่าว่า นายขนมต้มนั้นแท้จริงเป็นชาวเขมร และวิชาที่นายขนมต้มใช้นั้นไม่ใช่มวยไทย แต่เป็นมวยเขมรตามหลักฐานที่ปรากฏบนกำแพงนครวัด

นาย SEAhistory บอกว่า ‘ตำนานนายขนมต้ม’ ซึ่งพูดถึงเรื่องนักมวยไทยที่ถูกพม่าจับตัวไป และสามารถใช้วิชามวยไทยต่อยชนะพม่าถึงสิบคนนั้น เป็นเรื่องที่ชาวไทยแต่งขึ้น โดยลอกไปจากตำนานของเขมร

ตำนานเขมรอันเป็นเรื่องราวที่แท้จริงเล่าแบบนี้ ...กาลครั้งหนึ่งเมื่อกษัตริย์พม่ารบชนะอยุธยา และกวาดต้อนชาวไทยไปนั้น ได้มีทาสชาวเขมรคนหนึ่งอยู่ในหมู่เชลยไทย มีหน่วยก้านดี จึงถูกเรียกมาให้ต่อยมวยให้กษัตริย์พม่าดู

ทาสเขมรคนนั้นชื่อนายขนมต้ม แต่แทนที่จะต่อยมวย เขาได้ใช้วิชาร่ายรำอันงดงามและทรงพลัง ทำให้นักมวยพม่าที่เป็นคู่ชกมีอาการมึนเมา และถูกเขาสยบลงในที่สุด

กษัตริย์พม่ารู้สึกประหลาดใจจึงเรียกนักมวยพม่ามาสู้อีก ก็ล้วนถูกนายขนมต้มใช้การร่ายรำทำให้เมามายไปทั้งสิ้น รวมแล้วเป็นสิบคน

วีรกรรมนี้ทำให้กษัตริย์พม่ามีความพึงพอใจ จึงประทานเงินทองและภรรยาให้กับนายขนมต้ม จนนายขนมต้มอยู่สอนวิชามวยเขมรในเมืองพม่า กลายเป็นต้นตำรับมวยพม่า หรือที่เรียกว่า และเหว่ (Lethwei)

ชาวเขรมชื่อนาย SEAhistory ชี้ให้เห็นว่าไม่มีหลักฐานใดๆ ระบุว่านายขนมต้มเป็นชาวไทย แต่หลักฐานชิ้นใหญ่ที่สนับสนุนเรื่องราวของเขา คือชื่อของนายขนมต้มเอง เพราะคำว่า ‘ขนมต้ม’ เป็นคำที่ไม่มีความหมายในภาษาไทย โดยคำว่า ‘ขนม’ นั้นแปลว่าของหวาน ส่วนคำว่า ‘ต้ม’ แปลว่าต้มอาหาร หรือแปลว่าซุป ...ใครกันจะเอาของหวานไปต้มทำซุปเล่า?
ในทางตรงข้ามคำว่าขนมต้มกลับมีความหมายในภาษาเขมร โดยมาจากคำว่า ‘ขยม’ ที่แปลว่า ‘ตัวฉัน’ หรือ ‘ข้ารับใช้’ และคำว่า ‘ธม’ ที่แปลว่า ‘ใหญ่’

ดังนั้นนายขนมต้มจึงมีชื่อที่แท้จริงว่า ‘นายขยมธม’ ที่แปลว่า ‘ฉันใหญ่นะ’

เขาชี้ให้เห็นว่าเมื่อก่อนนั้นทาสเขมรถูกชาวไทยกดขี่ ห้ามไม่ให้เปิดเผยถึงเชื้อชาติที่แท้ของตน แต่ชาวเขมรมีความฉลาดเฉลียวจึงแอบตั้งชื่อตัวเองเป็นภาษาเขมร เพื่อส่งสัญญานให้ลูกหลานในอนาคตเรียนรู้ว่าชนชาติของตนนั้น ‘ฉันใหญ่นะ’ ขนาดไหน

‘ชูวิทย์’ ร้องสภาทนายความ ตรวจสอบมรรยา ‘ทนายตั้ม’ ขอให้ลบชื่อ-ถอนใบอนุญาต ชี้!! เป็นตัวอย่างให้วางตัวเหมาะสม

(10 เม.ย. 66) ที่สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เข้าร้องต่อสภาทนายความ พร้อมยื่นหนังสือให้สอบมรรยาทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้มเนื่องจากมีพฤติกรรมหลายอย่างที่เข้าข่ายผิดต่อมรรยาททนายความ 

โดยมีนายวัชระ สุคนธ์ กรรมการมรรยาททนายความและนายสมพร ดำพริก อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายเป็นผู้รับเรื่อง 

นายชูวิทย์ กล่าวถึง กรณีที่ทนายตั้มตั้งโต๊ะแถลงข่าวโจมตีตน ซึ่งไม่ได้รู้จักกัน ไม่ได้เป็นคู่ความ จึงไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีวัตถุประสงค์ใด ไม่เข้าใจว่ากล่าวหาโจมตี ประจานตนและลูกชาย อีกทั้งใช้สื่อออนไลน์กล่าวโจมตีมาตลอด วันนี้จึงนำหนังสือมาร้องเรียนต่อนายกสภาทนายความ ให้ตรวจสอบว่า นายษิทราฝ่าฝืนข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยเรื่องมรรยาททนายความ พ.ศ. 2529 หมวด 4  หรือไม่ และขอให้ลบชื่อออกเพิกถอน ใบประกอบวิชาชีพ เพื่อเป็นตัวอย่าง บนพื้นฐานจริยธรรมและศีลธรรมอันดี 

นายชูวิทย์ กล่าวว่า จากกรณีที่ปัจจุบันมีทนายความหลายคนที่ให้ข้อมูลทางโซเชียล แต่ไม่ครบถ้วน จึงต้องการปราบแก๊งทนายโซเชียล มองว่าเป็นอันตรายต่อประชาชน มองว่าเป็นการโฆษณา เรียกราคา ซึ่งอาชีพทนายความควรพิสูจน์ฝีมือว่าความไม่ใช่การพูดผ่านโซเชียลให้ประชาชนหลงเชื่อ ถูกหลอก ด้วยข้อมูลไม่ครบถ้วนหรือข้อมูลผิดๆ 

นายสมพร เปิดเผยว่า หลายครั้งหลายคราวที่ทนายตั้มแถลงข่าวออกสื่อ ส่วนตัวก็เห็นว่าไม่สมควร เข้าข่ายผิดมรรยาททนายความ ซึ่งต้องนำเสนอต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณาต่อไป ขณะที่ทนายความคนอื่นก็ต้องวางตัวให้เหมาะสมเช่นกัน

สำหรับการพิจารณาลงโทษทนายความที่ทำผิดมรรยาททนายความ มี  4 ระดับ คือ ว่ากล่าวตักเตือน, ภาคทัณฑ์, พักใบอนุญาต ไม่เกิน 3 ปี และโทษหนักสุดคือลบชื่อออกจากการเป็นทนายความ ส่วนการว่ากล่าวตักเตือน และภาคทัณฑ์ นั้นยังสามารถว่าความได้ แต่ความผิดที่ถูกพักใบอนุญาตและลบชื่อออกจะเป็นทนายความนั้น ห้ามว่าความโดยเด็ดขาด

นายวัชระ กล่าว่า จะนำหลักฐานไปตรวจสอบโดยจะตั้งเป็นรูปแบบคณะกรรมการตรวจสอบ ซึ่งที่ผ่านมาทนายษิทราเคยถูกร้องเรียนการทำหน้าที่ของทนายมากกว่า 12 เรื่อง บางเรื่องอยู่ระหว่างตรวจสอบและบางเรื่องคณะกรรมการยกคำร้องไป

เตือนใจช่วงสงกรานต์ จะดื่มเหล้าเมายา หัดคิดถึงคนอื่นบ้าง อย่าเอาแค่สนุกตน

(10 เม.ย.66) นพ.สมรส พงศ์ละไม ได้โพสต์เฟซบุ๊ก 'Somros MD Phonglamai' เตือนใจและเตือนสติผู้คนก่อนสงกรานต์ ผ่านบทสนทนากับผู้ป่วยท่านหนึ่ง ว่า...

A: ขาที่ขาดไปโดนอะไรมาเหรอครับ? 
B: ผมไปซื้อของที่เซเว่น เดินออกมากับภรรยาและลูกอายุ 1 เดือน แล้วมีรถพุ่งเข้ามาชนครับ

A:  แล้วลูกกับแฟนเป็นไรมั้ย?
B: ภรรยากับลูกไม่เป็นอะไรครับ แต่ผมขาขาด คนข้างหน้าผมเสียชีวิต อีก 3 คนถัดจากผมสมองบวมติดเตียง ครอบครัวเค้าเหมือนตายทั้งเป็น

A: ทำไมชนเยอะขนาดนั้นล่ะครับ !? 
B: เค้าเมาครับ เลยโดนไป 10 กว่าคนตรงถนนเส้นหลักเลย

A: แล้วคนขับเป็นอะไรมากมั้ยครับ ? 
B: คนขับไม่เป็นอะไรเลยครับ

A: ก็ยังโชคดีนะครับที่แฟนกับลูกไม่เป็นอะไรเนอะ
B: ผมไม่เคยเมาแล้วขับเลยนะครับหมอ แต่อยู่ๆก็ซวยขาขาด โชคดีที่ไม่ตายไม่พิการเป็นผักเหมือนคนอื่นๆ ผมได้แต่ภาวนาให้เคสผมเป็นเคสสุดท้ายที่โดนคนเมาแล้วชนจนขาขาด แต่ตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิมครับ

A:  😶​ ... 

…. หมอก็เงียบไปพักใหญ่ๆ เขียนรายละเอียดการรักษาให้คนไข้ไปก็คิดไป 

ได้แต่คิดในใจว่าหมอก็รักษาคนไข้ที่โดนคนเมาแล้วขับชนมาเยอะมากกกกกกกกกกก ทั้งสมองบวม อัมพาต ความจำเสื่อม ผ่ากระโหลก ขาขาด แขนขาด เพราะคนที่คิดว่า "ไม่เมา ยังขับรถไหว"


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top