Saturday, 24 May 2025
ค้นหา พบ 48323 ที่เกี่ยวข้อง

‘ไพบูลย์’ ยืนกราน พปชร. ไม่ขอร่วม เพื่อไทย-ก้าวไกล แจง รับไม่ได้กับหลายนโยบาย ขอย้ำ!! ไม่เคยมีดีลลับ

(10 เม.ย.66) ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าว ถึงจุดยืนทางการเมืองของ พปชร. ว่า พปชร.มีนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้ง มุ่งที่จะเดินหน้ากำจัดปัญหาความขัดแย้งที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน เพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ขจัดความยากจนให้สิ้นไป โดยจะมีนโยบายนำเสนอมาอีกในเร็วๆ นี้ ส่วนจุดยืนของ พปชร. เรามีความเชื่อมั่นในหลักการที่จะดำเนินการกิจการต่างๆ ของพรรคให้เป็นไปอย่างถูกต้อง ดังนั้น กรณีที่ปรากฎเป็นข่าวว่าเราจะไปร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยหรือพรรคก้าวไกล ตนขอถือโอกาสนี้แถลงอย่างเป็นทางการว่าเราไม่ร่วมด้วยกับพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล เราต้องการสร้าง พปชร.ให้เป็นพรรคที่ทำประโยชน์ให้กับประชาชน เป็นตัวแทนในการทำหน้าที่ในจุดยืนที่ประชาชนยึดมั่น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ทำให้พรรคเป็นที่พึ่งของประชาชนในการขจัดความยากจน

“การที่บางพรรคไปกล่าวอ้างต่างๆ นานา หรือมีกระแสข่าวแพร่ออกมาไปจนกระทั่งเป็นความเข้าใจผิดว่าพรรคเราไปมีดีลร่วมกับพรรคเพื่อไทยหรือพรรคก้าวไกล ขอแถลงในวันนี้ว่าไม่จริง และเราไม่ประสงค์ด้วย ไม่ประสงค์ที่จะร่วมมือใดๆ เราต้องการเป็นพรรคการเมืองที่มีอิสระ มีเอกภาพในการที่จะแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนให้ได้อย่างสมบูรณ์” นายไพบูลย์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ประกาศว่าจะไม่จับมือ ได้มีการคุยกับหัวหน้าพรรคและแกนนำพรรคแล้วใช่หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ได้คุยกับทางผู้ใหญ่ของพรรคแล้ว เราไม่ร่วม ขอให้เกิดความชัดเจน

เมื่อถามย้ำว่า การประกาศไม่ร่วมเฉพาะช่วงนี้ หรือหลังการเลือกตั้งค่อยว่ากันอีกที นายไพบูลย์ กล่าวว่า หลักการไม่ร่วมก็เป็นหลักการไม่ร่วม และเหตุผลที่เราไม่ร่วมเพราะมีนโยบายที่เรารับไม่ได้หลายเรื่อง เราไม่เห็นด้วยกับนโยบายเหล่านั้น

เมื่อถามว่า จะสวนทางกับแนวทางพรรคที่ก้าวข้ามความขัดแย้งหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า การที่เราไม่ร่วมเกิดจากการไม่เห็นด้วยกับนโยบายของพรรคเหล่านั้น เป็นการใช้สิทธิตามระบอบประชาธิปไตย แต่เราไม่ได้ไปสร้างความรุนแรงหรือไปทำอะไรต่างๆ เพียงแค่แถลงจุดยืนว่าเราไม่สบายใจกับนโยบายต่างๆ ของพรรคที่เอ่ยไป

ทีมเศรษฐกิจ ปชป. โชว์แนวทางขับเคลื่อน ศก.ไทย ชูใช้เงิน กบข.-กองทุนสำรองฯ 3 แสนล้าน ให้เกิดสภาพคล่อง

(10 เม.ย.66) ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกันแถลง ‘อัดฉีดเศรษฐกิจ 1 ล้านล้านบาท ใครได้อะไร’ โดยนายพิสิฐ ลี้อาธรรม ประธานคณะกรรมการนโยบาย พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจ 1 ล้านล้านบาท ไม่ใช่เป็นการแจกเงินทั่วไป ๆ ประชาธิปัตย์มองภาพรวมว่าเศรษฐกิจจะมีทิศทางและต้องเดินต่อไปอย่างไร โดยการดูแลเศรษฐกิจมหาภาค ซึ่งสิ่งที่ประชาธิปัตย์นำเสนอ ต้องการจะให้เศรษฐกิจโตถึง 5 เปอร์เซนต์ ให้ขยายตัวตามศักยภาพที่เรามีอยู่ ดังนั้นเราจะทำอย่างไรให้เศรษฐกิจภาพรวมโตอย่างน้อย 5 เปอร์เซนต์ หากโตไม่ถึงก็จะไม่เป็นแรงจงใจนักลงทุน และไม่มีเงินมาดูแลคนในประเทศ ดังนั้นการให้เศรฐกิจโตอย่างยั่งยืนเป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้น แต่ที่ผ่านมาเรามาผิดทางเพราะเราไปกระตุ้นให้คนใช้จ่ายโดยที่ใช้จ่ายหมดเปลือง ดังนั้นเราจึงต้องกระตุ้นโดยการนำเงินเก่าที่มีอยู่มาใช้ประโยชน์ ให้ได้ถึง 1 ล้านล้านบาท เพื่อให้เศรษฐกิจมีการขับเคลื่อน ไม่ใช่ไปกู้หรือไปก่อหนี้ ดังนั้นสิ่งที่ประชาธิปัตย์นำเสนอจะต่างจากสิ่งที่รัฐบาลทำมา 

นายพิสิฐ กล่าวต่อว่า หลายพรรคการเมืองมีการพูดเศรษฐกิจโต 5 เปอร์เซนต์ แต่ไม่บอกว่าโตอย่างไร ได้แต่บอกว่าเอาเงินใส่เข้าไปเพื่อใช้จ่าย แต่บอกว่าว่าใช้จ่ายแล้วจะเกิดอย่างไร แต่ประชาธิปัตย์ มีกลไกลที่ทำให้เศรษฐกิจโตอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ ไม่สร้างปัญหาในอนาคต และพยายามให้หนี้อยู่ในกรอบ เพราะหลายพรรคเสนอวิธีการแก้ปัญหาหนี้โดยการการพักหนี้ บายพลาสระบบเครดิตบูโร ทั้งหมดทำให้เศรษฐกิจอ่อนแอลง หากทำแบบนี้ใครจะกล้าเอาเงินใหม่เข้ามา ถ้าเราใส่ทุนเข้าไปเศรษฐกิจจะมีความแข็งแรงมากขึ้น โดยการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ด้วยเงิน 1 ล้านล้านบาท จะมีทั้งระดับรากหญ้าโดยผ่านธนาคารหมู่บ้าน ชนชั้นกลางโดยการปลดล็อก กบข. และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เอ็สเอ็มอีและสตาร์ทอัพ โดยเงินก้อนแรกธนาคารหมู่บ้าน ชุมชนละ 2 ล้านบาท ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) มีเงินอยู่แล้ว และเวลานี้รัฐบาลเป็นหนี้ ธกส. อยู่ 8 แสนล้านบาท ซึ่งรัฐบาลต้องคืนหนี้ธกส. แล้ว ธกส. จะเอาเงินนี้มาใช้เรื่องนี้ได้ และถ้าทุกหมู่บ้าน ทุกชุมชน มีเงินเข้าไปในระบบ โดยมีออมสิน และ ธกส. เข้าไปช่วยกำกับเรื่องบัญชี เราก็จะมีระบบสถาบันการเงินที่ให้ประโยชน์อ่างแท้จริงในระดับรากหญ้า 

‘วัน ภาดาท์’ ลงพื้นที่ขอคะแนนชาวพญาไท-ดินแดง ปลื้ม!! นโยบาย ‘ฟรีโซลาร์เซลล์-จยย.ไฟฟ้า’ โดนใจปชช.

(10 เม.ย.66) น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ หรือ วัน ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตพญาไท-ดินแดง เบอร์ 6 พรรคภูมิใจไทย ลงพื้นที่ลานกีฬาสน.ห้วยขวาง และตลาดสดห้วยขวาง เขตดินแดง เพื่อแนะนำตัวในการลงสมัคร ส.ส. รวมทั้งสอบถามชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน และขอให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค.66 ด้วย

น.ส.ภาดาท์ เปิดเผยว่า เท่าที่ได้พูดคุยประชาชนส่วนใหญ่สนใจนโยบายพลังงานสะอาด ลดรายจ่ายประชาชน คือ ติดตั้งหลังคาโซลาร์เซลล์ฟรี เพื่อลดค่าไฟฟ้า หลังคาเรือนละ 450 บาท และสนับสนุนการใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ผ่อนเดือนละ 100 บาท 60 งวด โดยมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้านั้น ประชาชนบางคนสอบถามว่า ราคานี้อาจไม่ได้มาตรฐาน แต่ตนยืนยันว่าเป็นสินค้าที่มีคุณภาพมาตรฐาน เพราะราคาที่แท้จริงสูงกว่านั้น ซึ่งพรรคภูมิใจไทยคิดนโยบายผ่อนชำระ 60 เดือน โดยจะหางบประมาณจากส่วนอื่นๆ มาอุดหนุน เช่น เงินที่ได้จากการขายไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ที่ติดตั้งให้ประชาชน โดยประชาชนได้ใช้ไฟฟ้าเดือนละ 450 สิบบาท

“ไฟฟ้าส่วนเกินจากการผลิตโดยโซลาร์เซลล์ของบ้านประชาชนจะนำขายให้การไฟฟ้าฯ และเป็นรายได้มาอุดหนุนมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้านั่นเอง” น.ส.ภาดาท์ ชี้แจง

‘โรม’ เรียกร้อง กกต. ขยายวันลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า อย่าให้ประชาชนเสียสิทธิ หลังเว็บลงทะเบียนล่มวันสุดท้าย

(10 เม.ย.66) ที่พรรคก้าวไกล รังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล เรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขยายวันลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า นอกเขต นอกราชอาณาจักร ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดให้มีขึ้นระหว่างวันที่ 25 มีนาคม – 9 เมษายน 2566 ที่ผ่านมาว่า เมื่อวานนี้ (9 เมษายน) คือวันสุดท้ายของการลงทะเบียน แต่ปรากฎว่าเว็บไซต์ลงทะเบียนกลับล่ม ประชาชนจำนวนมากไม่สามารถลงทะเบียนได้

รังสิมันต์กล่าวว่า เมื่อปี 2562 มีคนลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า นอกเขต นอกราชอาณาจักร 2.63 ล้านคน แบ่งเป็น นอกราชอาณาจักร 1.2 แสนคน มาครั้งนี้ ทราบข่าวว่ามีประชาชนลงทะเบียนรวม 2.1 ล้านคน ดังนั้น เมื่อเทียบกับปี 2562 มีประชาชนที่อาจจะตกหล่นแน่ๆ ถึง 500,000 คน

‘ไพบูลย์’ รับเรื่องสมาคมคนตาบอด แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ยัน!! พร้อมดัน กม. สร้างความเท่าเทียม-สร้างอาชีพมั่นคง

วันนี้ (10 เม.ย.) ที่พรรคพลังประชารัฐ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้รับข้อเสนอของสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย เพื่อนำไปใช้เป็นข้อมูลในการจัดทำนโยบายในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนพิการทางสายตา โดยได้มีการหารือร่วมกัน ซึ่งสมาคมฯ ได้นำเสนออุปสรรคและปัญหาด้านคุณภาพชีวิตของผู้พิการทางสายตาใน 4 ประเด็น ที่ต้องการให้พรรคนำไปเป็นนโยบายและหาแนวทางแก้ไข ประกอบด้วย 

1. เบี้ยคนพิการ 3,000 บาท ถ้วนหน้า 
2. การเข้าเว็บไซต์แอปพลิเคชันสำหรับผู้พิการทางสายตา 
3. การส่งเสริมอาชีพให้ผู้พิการทางสายตา ได้ใช้ความสามารถในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ลดภาระครอบครัวและสังคม 
4. การเลือกปฏิบัติสำหรับผู้พิการทางสายตา 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top