Thursday, 22 May 2025
ค้นหา พบ 48285 ที่เกี่ยวข้อง

สืบสวนนครบาลขยายผลทลายขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดภาคเหนือเข้าสู่ใจกลางมหานคร

ตามนโยบายรัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ตระหนักถึงปัญหายาเสพติดซึ่งเป็นภัยคุกคามและเป็นหนึ่งในปัญหาชาติที่สำคัญ ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนและจริงจัง จึงมอบนโยบายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.สําเริง สวนทอง รอง ผบช.น. ,พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./หน.ชป.5 ศอ.ปส.ตร , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น. จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ธัญญพัทธ์ บุญสุข ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ สีเสมอ, พ.ต.ท.นิติกรณ์ ระวัง รอง ผกก.กก.สส.2 บก.สส.บช.น.พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการสืบสวน 2 ทำการสืบสวนผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ รายสำคัญ ให้ได้ผลอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อป้องกันไม่ให้ยาเสพติดแพร่กระจายลงสู่ชุมชน ได้ร่วมทำการตรวจยึด ของกลาง 

1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) น้ำหนักรวมประมาณ 499 กิโลกรัม 
2. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 1,000,000 เม็ด  
3. รถยนต์บรรทุก หกล้อยี่ห้อฮีโน่สีขาวหมายเลขทะเบียน 70-8583 ลำปาง จำนวน 1 คัน

โดยกล่าวหาว่า “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1(เมทแอมเฟตามีน) อันเป็นการมีไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป ”
สถานที่ตรวจยึด บริเวณริมถนนสิงหวัฒน์ ตำบลบ้านใหม่สุขเกษม อำเภอกงไกรลาศ  จังหวัดสุโขทัย เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2566 เวลาประมาณ  20.00 น.

“คิงก่อนบ่าย ตลกที่ไม่ใช่ตัวตลก สู่เส้นทางนักการเมือง” | TIME TO LISTENING EP.17


วันนี้ TIME TO LISTENING EP.17 ตอน “คิงก่อนบ่าย ตลกที่ไม่ใช่ตัวตลก สู่เส้นทางนักการเมือง” หลายคนสงสัยว่า นายณภัทร ชุ่มจิตตรี หรือ “คิงก่อนบ่าย” ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พรรคพลังประชารัฐ มีประวัติความเป็นมาอย่างไร แล้วเหตุผลใดจึงตัดสินใจสู่เส้นทางการเมือง  ติดตามได้ใน EP นี้ครับ

ดำเนินรายการโดย ไอยรา อัลราวีย์

Content Manager THE STATES TIMES

 

แขกรับเชิญ นภัทร ชุ่มจิตตรี (คิงก่อนบ่าย)

ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พรรคพลังประชารัฐ

 

ติดตามได้ใน THE STATES TIMES PODCAST

และสามารถรับชมคลิปอื่น ๆ ได้ที่ :  https://youtube.com/playlist?list=PL60bae1syuyLBnnkZJ5-QgtyID5DqrnG4

เปิดความจริงจากปาก 'เสธ.หิ' เหตุผลที่รัฐประหารต้องบังเกิด และนักวิชาเกินยังลอยชายในวันที่อ้างไทยเป็นรัฐเผด็จการ

ไม่นานมานี้ ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ อดีตนายทหารชื่อดัง และ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ได้กล่าวกับ THE STATES TIMES ถึงเหตุผลในการเกิดรัฐประหาร ยึดอำนาจ เพราะ ‘ลุงตู่’ เผด็จการจริงไหม? ว่า...

คำพูดนี้ ผมเห็นว่าได้มีการกล่าวหาท่านมาตลอดเวลา เราต้องกลับไปดู ว่าทำไมวันนั้นต้องทำการรัฐประหารยึดอำนาจ หากใครที่อยู่ในสมัยนั้นจำได้ ณ เวลานั้น สภาวะของประเทศเรานั้น อยู่ในสภาวะของ ‘รัฐล้มเหลว’ คือ การบริหารงานของรัฐบาลนั้น ไม่สามารถทำได้ นโยบายของรัฐบาลไม่ได้รับการตอบสนองในปฏิบัติการราชการ ขาดภาวะของนิติรัฐ การปกครองประเทศ ณ เวลานั้น ไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้เลย 

ที่สำคัญที่สุดในเวลานั้น ที่เป็นอันตรายอย่างมาก คือ มีการใช้อาวุธ จนถึงขั้นใช้อาวุธสงครามในการทำลายฝ่ายตรงข้าม ซึ่งเป็นประชาชนด้วยกันเอง และมีการบาดเจ็บล้มตายรายวัน 

ในกระบวนการหาทางออก ณ เวลานั้น ท่านพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พยายามเป็นกาวใจผสานพรรคการเมืองทุกพรรค ผสานบุคคลที่เห็นต่าง ไม่ว่าจะเป็นขั้วอะไรก็ตาม ให้มาพูดคุยกันหลายครั้งหลายหน แต่ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ต่างคนต่างยืนยันให้ความคิดของตัวเอง และไม่ยอมกัน การยึดอำนาจ ปฏิวัติรัฐประหารในเวลานั้น จึงเป็นทางออกสุดท้ายที่ท่านจำเป็นต้องกระทำ

>> หลังจากรัฐประหาร เกิดอะไรขึ้น? 
หลังจากที่ท่านสามารถนำบ้านเมืองเข้าสู่สภาวะความสงบสุขได้ รัฐฯ สามารถบริหารงานได้ สามารถนำการใช้หลักนิติรัฐมาปกครองบ้านเมืองได้ ประเทศเข้าสู่ความสงบ ท่านก็ดำเนินการเข้าสู่ระบบประชาธิปไตยโดยเร็วที่สุด ในเวลานั้น คือ ได้มีการร่างรัฐธรรมนูญ และรัฐธรรมนูญฉบับนั้นก็ได้ผ่านประชามติเสียงข้างมาก กลายเป็นรัฐธรรมนูญ ปี 60 หลังจากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง ท่านเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญฉบับ ปี 60 ซึ่งทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลได้เข้าสู่กติกาตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้เช่นเดียวกัน

เหตุผลในการเกิดรัฐประหาร ยึดอำนาจ เพราะ ‘ลุงตู่’ เผด็จการจริงหรือไม่?

ไม่นานมานี้ ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ อดีตนายทหารชื่อดัง และ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ได้กล่าวกับ THE STATES TIMES ถึงเหตุผลในการเกิดรัฐประหาร ยึดอำนาจ เพราะ ‘ลุงตู่’ เผด็จการจริงไหม? ว่า...

คำพูดนี้ ผมเห็นว่าได้มีการกล่าวหาท่านมาตลอดเวลา เราต้องกลับไปดู ว่าทำไมวันนั้นต้องทำการรัฐประหารยึดอำนาจ หากใครที่อยู่ในสมัยนั้นจำได้ ณ เวลานั้น สภาวะของประเทศเรานั้น อยู่ในสภาวะของ ‘รัฐล้มเหลว’ คือ การบริหารงานของรัฐบาลนั้น ไม่สามารถทำได้ นโยบายของรัฐบาลไม่ได้รับการตอบสนองในปฏิบัติการราชการ ขาดภาวะของนิติรัฐ การปกครองประเทศ ณ เวลานั้น ไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้เลย 

ที่สำคัญที่สุดในเวลานั้น ที่เป็นอันตรายอย่างมาก คือ มีการใช้อาวุธ จนถึงขั้นใช้อาวุธสงครามในการทำลายฝ่ายตรงข้าม ซึ่งเป็นประชาชนด้วยกันเอง และมีการบาดเจ็บล้มตายรายวัน 

ในกระบวนการหาทางออก ณ เวลานั้น ท่านพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พยายามเป็นกาวใจผสานพรรคการเมืองทุกพรรค ผสานบุคคลที่เห็นต่าง ไม่ว่าจะเป็นขั้วอะไรก็ตาม ให้มาพูดคุยกันหลายครั้งหลายหน แต่ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ต่างคนต่างยืนยันให้ความคิดของตัวเอง และไม่ยอมกัน การยึดอำนาจ ปฏิวัติรัฐประหารในเวลานั้น จึงเป็นทางออกสุดท้ายที่ท่านจำเป็นต้องกระทำ

>> หลังจากรัฐประหาร เกิดอะไรขึ้น? 
หลังจากที่ท่านสามารถนำบ้านเมืองเข้าสู่สภาวะความสงบสุขได้ รัฐฯ สามารถบริหารงานได้ สามารถนำการใช้หลักนิติรัฐมาปกครองบ้านเมืองได้ ประเทศเข้าสู่ความสงบ ท่านก็ดำเนินการเข้าสู่ระบบประชาธิปไตยโดยเร็วที่สุด ในเวลานั้น คือ ได้มีการร่างรัฐธรรมนูญ และรัฐธรรมนูญฉบับนั้นก็ได้ผ่านประชามติเสียงข้างมาก กลายเป็นรัฐธรรมนูญ ปี 60 หลังจากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง ท่านเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญฉบับ ปี 60 ซึ่งทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลได้เข้าสู่กติกาตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้เช่นเดียวกัน

เปิดเหตุผล...ทำไม? ‘ลุงตู่’ ต้องอยู่ต่อ!!  จากปากคนใกล้ชิด 'ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ'

ทำไม? ถึงตัดสินใจร่วมงานกับ ‘ลุงตู่’? นี่คือคำถามที่ THE STATES TIMES ได้สอบถามกับ ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ อดีตนายทหารชื่อดัง และ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร โดยท่านได้ตอบว่า...

สำหรับผม การที่เลือกมาช่วยงานท่านพลเอกประยุทธ์ เนื่องจาก ผมมีความศรัทธาในตัวท่านในหลาย ๆ เรื่อง เพราะว่าผมได้เห็นท่านมาตั้งแต่ผมยังเป็นเด็ก ๆ 

อันดับแรกเลย คือ ท่านเป็นคนที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่ทหารทุกท่าน และประชาชนทุกคน มีความรักดีต่อสถาบันฯ ร่วมกันอยู่แล้ว 

อันดับที่สอง คือ ท่านเป็นคนที่ทำพวกเราเห็นว่า ท่านเป็นคนที่ทุ่มเทกับการทำงานมากในตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จนมีผลงานออกมาเป็นรูปธรรมมากมายในสมัยรัฐบาลของท่าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการสาธารณูปโภค ในเรื่องความก้าวหน้า ในเรื่องของไอที หรือเรื่องของความสำคัญระหว่างประเทศ ซึ่งเห็นได้ชัดเจนในรัฐบาลนี้ ที่ชัดเจนที่สุดก็คือ เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งท่านก็สามารถพื้นความสัมพันธ์ได้ และเป็นประโยชน์ต่อประเทศอเราย่างมหาศาล

อันดับต่อมา ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ความซื่อสัตย์สุจริต ผมคิดว่านี่เป็นสิ่งที่ชัดเจนมาก ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ที่ท่านได้ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ท่านโดนตรวจสอบไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ เพื่อหาประเด็นตรวจสอบเรื่องทุจริตเกี่ยวกับตัวท่าน แต่ก็ไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่เป็นรูปประธรรมอย่างชัดเจน ที่จะกล่าวหาท่านได้เลย แม้แต่ที่เราเห็นว่าบุคคลใกล้ชิดท่านหรือใกล้เคียงท่าน ที่มีข้อกล่าวหาเรื่องทุจริตต่าง ๆ นั้น ท่านก็ไม่เคยใช้อำนาจของนายกรัฐมนตรีไปปกป้อง ท่านก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม กระบวนการตรวจสอบ และจะเห็นว่าที่ผ่านมานั้น โครงการอะไรก็ตามที่มีปัญหา หรือมีประเด็นร้องเรียนเรื่องการทุจริต ท่านก็จะรับฟัง ตรวจสอบ และรับโครงการ เพื่อให้มีความโปร่งใส มีความชัดเจน ก่อนที่จะให้โครงการนั้นเดินหน้าต่อไป

อันดับที่สี่ ผมยังเชื่อมั่นในความเป็นผู้นำของ ‘ลุงตู่’ อย่างมาก เห็นชัดเจนได้จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา คือ ท่านกล้าที่จะตั้ง ศปค. และสิ่งที่ท่านทำถือเป็นสิ่งใหม่ของประเทศ นั่นคือการที่ท่านนำเอาอาจารย์หมอทั้งหลาย มาเป็นผู้นำของ ศปค. ข้าราชการ ไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจ นักการเมือง มาเป็นผู้สนับสนุนการทำงานของ ศปค. โดยที่มีอาจารย์หมอเป็นผู้นำ สิ่งที่ท่านทำนั้นเป็นผลประจักษ์ ทำให้ WHO นั้น นำไปยกย่องเป็นต้นแบบของการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ของประเทศชาติ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top