Tuesday, 20 May 2025
ค้นหา พบ 48202 ที่เกี่ยวข้อง

ทำสัญญาอนุพันธ์ป้องกันความเสี่ยงเชื่อมโยงคาร์บอนเครดิต  นวัตกรรมใหม่ตลาดทุนไทย ตอบโจทย์องค์กรปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์

เมื่อวานนี้ (4 เม.ย.66) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทย) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) และ บริษัท PTT International Trading Pte Ltd ประเทศสิงคโปร์ (PTTT ถือหุ้น 100% โดย ปตท.) ในการเข้าทำสัญญาอนุพันธ์ป้องกันความเสี่ยงเชื่อมโยงคาร์บอนเครดิต หรือ Carbon Credit Linked Derivatives ซึ่งนับเป็นนวัตกรรมใหม่ของตลาดทุนไทย ที่ธนาคารได้ออกแบบและพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านการบริหารความเสี่ยงทางการเงินของ ปตท. รวมถึงเป็นการส่งเสริมเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของทั้งสองบริษัท 

นอกจากนี้ยังช่วยพัฒนาตลาดการซื้อขายคาร์บอนเครดิตระหว่างองค์กรในประเทศ โดย PTTT ประเทศสิงคโปร์ จะทำหน้าที่เป็นผู้จัดหาคาร์บอนเครดิตที่มีมาตรฐานให้เพื่อใช้สำหรับลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกิจกรรมต่างๆ ในอนาคต นอกจากนี้ ข้อตกลงยังครอบคลุมถึงการบรรลุเป้าหมายด้าน ESG ของ ปตท. 

นายรวินทร์ บุญญานุสาสน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงไทย ในฐานะธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของประเทศ มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มในทุกมิติ โดยให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) และเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ของ United Nations Development Programme (UNDP) โดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นทิศทางที่ผู้บริโภค และธุรกิจทั่วโลกให้ความสำคัญ โดยล่าสุดธนาคารลงนามบันทึกข้อตกลงกับ ปตท. และ บริษัท PTTT ประเทศสิงคโปร์ ในการเข้าทำสัญญาอนุพันธ์เพื่อป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน (Derivatives) ที่เชื่อมโยงกับคาร์บอนเครดิต (Carbon Credit Linked Derivatives) เป็นครั้งแรกในประเทศไทย นอกจากนี้ข้อตกลงยังครอบคลุมถึงการบรรลุเป้าหมายด้าน ESG ถือเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นพัฒนาและการเป็นผู้นำตลาด ESG Financial Solution ของธนาคาร ตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ในด้านการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ส่งเสริมการบริโภคและการผลิตอย่างมีความรับผิดชอบ และสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมถึงมุ่งเน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ก้าวสู่การเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions)

เทศบาลตำบลคลองท่อมใต้ ร่วม ภาคเอกชน และประชาชน จัดโครงการ "เทศบาลห่วงใยขับขี่ปลอดภัย" มีผู้เข้าร่วมกว่า 130 คน รณรงค์ขับขี่ปลอดภัย สวมหมวกนิรภัย 100% 

วันที่ 5 เมษายน 2566 สำนักงานเทศบาลตำบลคลองท่อมใต้จัดพิธีเปิดโครงการ "เทศบาลห่วงใยขับขี่ปลอดภัย" อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่  นายไพศาล ศรีเทพ นายอำเภอคลองท่อม เป็นประธานพิธีเปิดโครงการ และมีนายพิริยะ ศรีสุขสมวงศ์ นายกเทศมนตรีตำบลคลองท่อมใต้  คณะผู้บริหารเจ้าหน้าที่ และผู้สนับสนุนโครงการ "เทศบาลห่วงใยขับขี่ปลอดภัย" และร่วมมอบหมวกกันน็อคให้กับประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ 130 ใบ โดยเทศบาลจัดโครงการนี้ขึ้นเพื่อ ความห่วงใย ขับขี่ปลอดภัย เพื่อประชาสัมพันธ์ รณรงค์ให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้พื้นที่ ขับขี่รถปลอดภัยสวมหมวกนิรภัยในช่องเทศกาลสงกรานต์  เพื่อสร้างความตระหนักให้ประชาชนในพื้นที่ ลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน และมีการมอบหมวกนิรภัยให้แก่ประชาชน ที่ใช้มอเตอร์ไซค์ในการสัญจรเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่  ซึ่งกลุ่มเป้าหมายในครั้งนี้จำนวน 130 คน 

‘ซีอาร์อาร์ซีฯ’ มุ่งพัฒนา ‘รถไฟแมกเลฟ’ ที่มีความเร็ว 600 กม./ชม.  ล่าสุดมีการ ‘ทดสอบระบบลอยตัวฯ’ เป็นครั้งแรกแล้ว

(5 เม.ย.66) เมื่อวันที่ 4 เม.ย.66 สำนักงานข่าวซินหัวรายงานว่า บริษัท ซีอาร์อาร์ซี ฉางชุน เรลเวย์ เวฮิเคิล จำกัด ในมณฑลจี๋หลินทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน รายงานการทดสอบระบบลอยตัวด้วยพลังงานไฟฟ้าสภาพนำยวดยิ่งอุณหภูมิสูงครั้งแรกของรถไฟแมกเลฟที่จีนพัฒนาเอง ซึ่งสามารถทำความเร็วสูงถึง 600 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ระบบข้างต้นประกอบด้วยระบบย่อยของรถไฟ ราง แหล่งจ่ายไฟฟ้าขับเคลื่อน และการสื่อสารปฏิบัติการ สามารถประยุกต์ใช้กับท่อสุญญากาศระดับต่ำ ความเร็วสูง และความเร็วสูงพิเศษ โดยระบบนี้อาจเป็นตัวเลือกสำคัญของการขนส่งอันรวดเร็วระหว่างเมืองใหญ่และเขตเศรษฐกิจพัฒนาแล้วในอนาคต

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ประสานข้อมูลทางการจีนยืนยันเจ้าของบัญชีเกี่ยวพันยาเสพติด หลัง 4 ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีใช้เอกสารปลอมเบิกเงินธนาคารเข้ามอบตัวที่ สน.ทองหล่อ

จากกรณีเมื่อวันที่ 24 มี.ค.66 ที่ผ่านมา สน.ทองหล่อ ได้รับแจ้งกรณีพบกลุ่มบุคคลใช้เอกสารปลอมเข้าติดต่อธนาคาร แอบอ้างเป็นเจ้าของบัญชี พยายามขอทำสมุดบัญชีเล่มใหม่เพื่อถอนเงินยอดกว่า 176 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบพบว่ามีการใช้หนังสือเดินทางปลอมและตราประทับตรวจคนเข้าเมืองปลอม ก่อนจับกุมดำเนินคดีชายชาวกัมพูชาที่อ้างตัวเป็นเจ้าของบัญชี ในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต รายละเอียดตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียได้นำเสนอแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ได้รวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติหมายจับต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาจำนวน 5 ราย ในความผิดฐาน ร่วมกันพยายามลักทรัพย์ และร่วมกันปลอมและใช้รอยตราอันใช้ในการตรวจลงตราสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ โดย 1 ใน 5 รายนั้นคือ ชายชาวกัมพูชาที่อ้างตัวเป็นเจ้าของบัญชีซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ที่ห้องกักแล้ว นอกจากนี้ยังมีหม่อมราชวงศ์และบุตรชายอดีตอธิบดีกรมการปกครองรวมอยู่ด้วย ต่อมาเมื่อวันที่ 4 เม.ย.66 เวลา 15.00 น. ผู้ต้องหาตามหมายจับที่เหลืออีกจำนวน 4 ราย พร้อมด้วยทนายความ ได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ โดยยังให้การปฏิเสธและไม่ขอให้การใดๆ ก่อนจะยื่นขอประกันในชั้นสอบสวนตามสิทธิ 

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ขออนุมัติหมายค้นต่อศาล เพื่อเข้าค้นสถานที่ 2 จุด ซึ่งเป็นที่พักของบุตรชายอธิบดีกรมการปกครองและ คลินิกย่านพระราม 9 ของหม่อมราชวงศ์ ซึ่งอาจมีพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในคดี รวมทั้งตรวจสอบข้อมูลกรณีการให้คำปรึกษากับลูกค้าซึ่งอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับอุ้มบุญ อยู่ในระหว่างตรวจสอบขยายผลของเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป

‘บิ๊กป้อม’ ควบ 2 ประชุม กำหนดมาตรการอนุรักษ์ช้างป่า พร้อมหนุนอุตฯ สีเขียว ดันเร่งเปลี่ยนรถบัสไฟฟ้าใน กทม.

(5 เม.ย.66) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอนุรักษ์และจัดการช้าง ครั้งที่ 2/2566 ผ่านระบบ VTC ณ มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ โดยมี ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ร่วมประชุมขับเคลื่อนการอนุรักษ์และจัดการช้างป่า ทั้งในพื้นที่อนุรักษ์และในพื้นที่ชุมชน เพื่อกำหนดมาตรการและการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากช้างป่า 

โดยที่ประชุมเห็นชอบ กรอบมาตรการแก้ไขปัญหาช้างป่า 6 ด้าน ได้แก่ 
(1) การจัดการพื้นที่ป่าอนุรักษ์เพื่อเป็นแหล่งอาศัยของช้างป่า 
(2) แนวป้องกันช้างป่า 
(3) ชุดเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า และเครือข่ายชุมชน 
(4) การช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากช้างป่า 
(5) การจัดการพื้นที่รองรับช้างป่าอย่างยั่งยืน 
และ (6) การควบคุมประชากรช้างป่า เพื่อเป็นแนวทางการจัดการช้างป่าและการบริหารจัดการพื้นที่ นำไปสู่การอนุรักษ์และการจัดการประชากรช้างป่าให้มีปริมาณที่สมดุล ลดปัญหาระหว่างคนกับช้างป่า ทำให้เกิดการอนุรักษ์และจัดการช้างป่าอย่างมีส่วนร่วมและยั่งยืนต่อไป

หลังจากนั้น พล.อ.ประวิตร ไปเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ ครั้งที่ 1/66 โดยมี ปล.ทส.ร่วมประชุม 

ที่ประชุมเห็นชอบ การเข้าร่วมดำเนินงานและขอรับการสนับสนุนทางการเงินจากกลุ่มดำเนินงานด้านกรดไนตริกเพื่อสภาพภูมิอากาศ เพื่อลดการปล่อยก๊าซไนตรัสออกไซด์ ซึ่งเป็นหนึ่งในก๊าซเรือนกระจกที่มีค่าศักยภาพในการทำให้โลกร้อนสูงถึง 265 เท่าของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ คาดว่าการดำเนินงานดังกล่าว จะสามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้ ประมาณ 130,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี ช่วยให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ภาคเอกชนและอุตสาหกรรมไทย เพื่อบรรลุเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top