Monday, 19 May 2025
ค้นหา พบ 48202 ที่เกี่ยวข้อง

เตือนใจไทยทั้งผอง ‘บิ๊กตู่’ ยกพระราชนิพนธ์ ร.6 ‘ไร้รักไร้ผล’ เตือนใจ อย่าให้ความขัดแย้ง-ความไม่สงบ ทำชาติเสียหาย

(5 เม.ย.66) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงวาระ วันคล้ายวันสถาปนา ครบรอบ 136 ปี กระทรวงกลาโหมซึ่งอยู่คู่บ้านคู่เมืองมาอย่างยาวนาน ด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ทรงก่อตั้งมา เราในฐานะเป็นลูกเป็นหลาน ก็ต้องช่วยกันรักษาธำรงไว้ ความเข้มแข็งเกียรติยศเกียรติศักดิ์ ของกองทัพเหล่าทัพ และของกระทรวงกลาโหม  

“พวกเราต้องรักบ้านรักเมือง ให้มากยิ่งขึ้น เพื่อบ่อเกิดของความสงบเรียบร้อย ของบ้านเมือง ตนเคยพูดไปแล้วว่าหากบ้านเมืองไม่สงบเรียบร้อย มีปัญหามากๆ จะทำให้โอกาสหลายๆ อย่างหายไปทันที ในมุมมองของต่างประเทศ” นายกฯ กล่าว  

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ฝากบทพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ‘ไร้รักไร้ผล’ จำได้ไหม จำไม่ได้กันหมดแล้ว ให้ลองไปเปิดฟังดูก็แล้วกัน ‘อันชาติใดไร้รักสมัครสมาน จะทำการสิ่งใดก็ไร้ผล หากชาติย่อยยับและอับจน ประชาชนจะสุขอยู่ได้อย่างไร’ ไปคิดดู ฝากทุกคนด้วย ฝากประชาชนทุกคนช่วยกันคิดด้วย ก็แล้วกัน ทำให้บ้านเมืองเราสงบเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น เพื่อเราจะก้าวเข้าสู่เวทีโลกได้อย่างสมศักดิ์ศรีและสง่างาม เพราะวันนี้มุมมองต่างๆ ของหลายประเทศ และขอให้ติดตามพัฒนาการด้าน ความมั่นคงของทุกประเทศด้วยโดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน หากบ้านเมืองเราสงบเรียบร้อย เราก็จะสามารถใช้ศักยภาพที่มีอยู่
ได้อย่างเต็มที่ ในทุกมิติทั้งความมั่นคง สิ่งแวดล้อม สังคม สุขภาพ ช่วยกันก็แล้วกัน ขอให้ช่วยกันนำพาบ้านเมือง ไปสู่ความปลอดภัยสันติสุข อย่าให้เกิดวิกฤตการณ์อะไรต่างๆ ที่ทำให้ประเทศชาติเสียหายก็แล้วกัน ในช่วงนี้เราช่วงต่อๆ ไป 

ตำรวจ ปส.(NSB) รุกหนัก ทลาย 6 เครือข่าย ยึดยาบ้ากว่า 19 ล้านเม็ด ไอซ์ 9 กก. เฮโรอีน 12 กก.  คีตามีน 2 กก. และ ยาเสพติด Happy water 86 ซอง

เมื่อวันที่ 5 เม.ย.66 เวลาประมาณ 10.00 น. พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ บุญยืนอนนต์ ผบก.ปส.1, พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.สกส.บช.ปส., พล.ต.ต.สมกิต พุ่มวารี ผบก.ขส.บช.ปส., พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผบก.ปส.3 เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และ กอ.รมน. ร่วมแถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติด ภายใต้นโยบายเร่งด่วนของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้เดินหน้าทำลายเครือข่ายยาเสพติดให้หมดสิ้น ล่าสุดตำรวจ ปส.(NSB) ได้กวาดล้างขบวนการค้ายาเสพติด 6 เครือข่าย ผู้ต้องหา 15 คน พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 19 ล้านเม็ด ไอซ์ 9 กก. เฮโรอีน 12 กก. คีตามีน 2 กก.และ ยาเสพติด Happy water 86 ซอง 

เครือข่ายแรก เมื่อวันที่ 30 มี.ค.66 ตำรวจ กก.3 บก.ปส.1 และ บก.ขส. พร้อมด้วยหน่วยข่าวกรองทางทหาร ศูนย์ปฏิบัติการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ร่วมกันจับกุม 3 ผู้ต้องหา คือ นายณัฐดนัย สงวนนามสกุล, นายศุภกฤต สงวนนามสกุล และนายสำคัญ สงวนนามสกุล จากการสืบสวนและเฝ้าติดตามเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ พบความเคลื่อนไหวของนายณัฐดนัย พร้อมพวก จะลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่กรุงเทพมหานคร กระทั่งกลางดึกของวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา พบรถกระบะหมายเลขทะเบียน ฎศ-73xx กรุงเทพมหานคร มีลักษณะบรรทุกของจำนวนมากและหนักผิดปกติ จึงติดตามไปจนพบรถคันดังกล่าว ขับไปจอดที่ห้องเช่า ต.กุดน้ำใส อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น และช่วงสายของวันที่ 30 มี.ค. มีรถยนต์ตู้ทึบ หมายเลขทะเบียน บห-15xx อุดรธานี ขับมายังห้องเช่าดังกล่าวและผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ช่วยกันเคลื่อนย้ายกระสอบต้องสงสัย ไปยังรถยนต์ตู้ทึบ ตำรวจ ปส.1 และ บก.ขส. จึงแสดงตัวขอตรวจค้นพบยาบ้าบรรจุในกระสอบ 20 กระสอบ รวม 9 ล้านเม็ด พร้อมตรวจยึดรถ 2 คัน และของกลางอื่น รวม 6 รายการ โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย อันเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และการกระทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยผิดกฎหมาย เหตุเกิดที่ ห้องเช่า ต.กุดน้ำใส อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น

เครือข่ายที่ 2 เมื่อวันที่ 28 มี.ค.66 ตำรวจ บก.สกส. และ บก.ขส. บช.ปส. พร้อมด้วยตำรวจทางหลวง ร่วมกันจับกุมนายสุรชัย สงวนนามสกุล และนายประจวบ สงวนนามสกุล หลังได้รับแจ้งว่า นายสุรชัย และนายประจวบ ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ทางภาคเหนือ ส่งมอบให้กับลูกค้าทางพื้นที่ภาคกลางและพื้นที่ใกล้เคียงเป็นประจำ ตำรวจ บก.สกส. และ บก.ขส. จึงสืบสวนติดตามกลุ่มเป้าหมาย จนกระทั่งทราบว่า ผู้ต้องหาขนยาเสพติดมาจากภาคเหนือ โดยใช้รถยนต์หมายเลขทะเบียน 3ฒผ 95xx กรุงเทพมหานคร และ รถยนต์หมายเลขทะเบียน 1ฒฆ 96xx กรุงเทพมหานคร    จึงติดตามจับกุม และสามารถจับกุมได้ภายในบริเวณปั้มน้ำมัน ปตท. สาขาหันตรา ต่อเนื่องริมถนนเลียบแม่น้ำลพบุรี (บางปะหัน-มหาราช) อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา พบยาบ้า 2 ล้านเม็ด ซุกซ่อนในรถยนต์หมายเลขทะเบียน        3ฒผ 95xx กรุงเทพมหานคร พร้อมตรวจยึดรถ 2 คัน และโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย อันเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และการกระทำให้เกิด ผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยผิดกฎหมาย

เครือข่ายที่ 3 วันที่ 3 เม.ย.66 ตำรวจ บก.สกส. จับกุมนายสุภชัย สงวนนามสกุล หลังได้รับแจ้งว่า นายสุภชัย พร้อมพวกจะลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากจากพื้นที่ทางภาคเหนือ มาส่งมอบให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง โดยใช้รถกระบะ 2 คัน หมายเลขทะเบียน ยท 83xx เชียงใหม่ และหมายเลขทะเบียน บย 11xx แพร่ โดยใช้เส้นทางจากพื้นที่จังหวัดเชียงราย ผ่าน จ.แพร่  ตำรวจ บก.สกส. จึงวางแผนจับกุม และสามารถสกัดจับกุมได้ที่ริมถนนในหมู่บ้านทุ่งแล้ง  ต.ทุ่งแล้ง อ.ลอง จ.แพร่ พบยาบ้า 20 กระสอบ รวม 4 ล้านเม็ด ซุกซ่อนในรถกระบะหมายเลขทะเบียน บย 11xx แพร่ และตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย อันเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และการกระทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยผิดกฎหมาย

เครือข่ายที่ 4  เมื่อวันที่ 2 เม.ย.66 ตำรวจ บก.สกส ได้ร่วมจับกุม นายนรินทร์ สงวนนามสกุล และ นายพัลลภ สงวนนามสกุล โดยตำรวจชุดจับกุมได้เฝ้าติดตามพฤติการณ์ของผู้ต้องหาทั้งสอง จนทราบว่า จะมีการลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือไปส่งให้ลูกค้าในภาคกลาง จึงได้ติดตามจับกุม กระทั่งช่วงเย็นของวันที่ 2 เม.ย.66 สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ภายในลานจอดรถห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส สาขาโคกสำโรง ต.โคกสำโรง อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ตรวจสอบพบยาบ้า 50 มัด ซุกซ่อนในรถยนต์ หมายเลขทะเบียน ยก 79xx เชียงใหม่ รวม 1 แสนเม็ด พร้อมยึดรถที่ก่อเหตุ 2 คัน และโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย อันเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และการกระทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยผิดกฎหมาย

เคลียร์ชัด!! 'หนี้สาธารณะ' มุมมองที่หลายคนอาจเขิน หากนำไปแถแบบไม่เข้าใจ

หลายคนอาจจะยังคงสงสัยกับคำว่า ‘หนี้สาธารณะ’ และอาจเคยได้ยินว่า ‘คนไทย’ มีหนี้ต่อหัวสูงมาก แต่เคยรู้หรือไม่ว่า ในความเป็นจริงแล้วการกู้หนี้สาธารณะ นับเป็นการลงทุนในระยะยาวอย่างหนึ่ง ซึ่งได้ผลตอบแทนสูง 

สำหรับเรื่องนี้ นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เคยให้สัมภาษณ์ในรายการ ‘เศรษฐกิจติดบ้าน’ ทางช่อง Thai PBS เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2565 ดดยบางช่วงบางตอนได้ระบุว่า…

“หนี้สาธารณะ คือ หนี้ของประเทศจริงๆ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ ตามคำนิยาย พ.ร.บ.หนี้ของไทยค่อนข้างกว้าง รวมตั้งแต่ หนี้ของกระทรวงคลัง ซึ่งเป็นหน่วยงานเดียวที่จะกู้เงินให้ประเทศได้ หนี้รัฐบาลกลาง หนี้รัฐวิสาหกิจ ถึงแม้บางแห่งจะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แต่การก่อหนี้ก็จะนับเป็นหนี้สาธารณะด้วยเช่นกัน รวมถึงหน่วยงานของรัฐอื่นๆ ด้วย” 

“คำนิยามหนี้สาธารณะของไทยกว้างมาก กว้างกว่าประเทศอื่นๆ เยอะ ไม่ใช่ว่าประเทศไม่มีเงินจึงต้องก่อหนี้ แต่เพราะจริงๆ แล้ว การก่อหนี้สาธารณะส่วนใหญ่ คือการก่อหนี้เพื่อการลงทุน และเพื่อโครงการที่เป็นสังคม สาธารณะประโยชน์”

'พปชร.' เด้งรับ นโยบาย 5 ด้านจาก ‘P-Move’ ยัน!! พร้อมสานต่อให้เป็นนโยบายพรรค 

(5 เม.ย.66) ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (P- MOVE) เดินทางมายื่นหนังสือเสนอนโยบายต่อพรรคการเมือง 5 ด้าน ได้แก่ 1.ที่ดินและที่อยู่อาศัย 2.เสรีภาพ กระบวนการยุติธรรม 3.สิทธิ สถานะ และชาติพันธุ์ 4.รัฐสวัสดิการ และการกระจายอำนาจ และ 5.โครงการพัฒนาของรัฐ และสาธารณูปโภค เพื่อให้ พปชร. นำไปพิจารณากำหนดเป็นนโยบายพรรค

ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศก่อนการยื่นหนังสือ บริเวณด้านหน้าพรรค พปชร. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.พหลโยธินมาคอยดูแลความปลอดภัย เนื่องจากจำนวนผู้ยื่นหนังสือมากถึง 50 คน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมีความกังวลว่าจะเกิดความชุลมุน ทําให้ต้องมีการรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด ขณะที่ประชาชนกลุ่ม P - Move ได้โบกธงสัญลักษณ์ของกลุ่มเครือข่าย พร้อมชูป้ายข้อความ อาทิ ลบล้างและปฏิรูประบบบริหารจัดการนโยบาย กฎหมาย เกี่ยวกับฐานทรัพยากร, คนไทย ไม่ไร้ สิทธิ สถานะ, ที่ดิน เสรีภาพ ประชาธิปไตย ความเป็นธรรม เป็นต้น และยังมีป้ายข้อความที่ระบุข้อเรียกร้อง และนโยบายที่ต้องการเสนอต่อพรรคการเมือง

ต่อมา นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค พปชร. ได้เดินทางมารับหนังสือจากกลุ่ม P - MOVE ตามเวลานัดหมาย โดยนายไพบูลย์กล่าวว่า ได้อ่านข้อเสนอนโยบายทั้ง 5 ด้านครบถ้วนแล้ว ทาง พปชร.มีความเห็นสอดคล้องกับข้อเสนอของกลุ่ม P- MOVE และจะนำข้อเสนอนโยบายทั้ง 5 ด้านที่เสนอมา เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายของ พปชร.ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่ที่พบขณะนี้ เป็นปัญหาในเรื่องที่ดิน ทำกิน และปัญหาสิทธิ สถานะของชาติพันธุ์

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ แถลงปิดคดีลักปืนหลวง สภ.ปากเกร็ด ดำเนินคดีผู้ต้องหา 24 ราย เจ้าหน้าที่รัฐ 8 ราย

จากกรณีเมื่อวันที่ 20 ต.ค.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการจับกุมดำเนินคดีกับ ด.ต.เชาวลิต พุ่มขจร ผบ.หมู่ (ป) สภ.ปากเกร็ด ซึ่งทำหน้าที่ตรวจเก็บและดูแลรักษาอาวุธปืนหลวงในคลังของ สภ.ปากเกร็ด ภ.จว.นนทบุรี โดยดำเนินคดีในกรณีที่ตรวจพบว่า ด.ต.เชาวลิต ได้มีการลักเอาอาวุธปืนในคลังดังกล่าวจำนวนมากถึง 160 กระบอก นำไปจำหน่ายให้กับบุคคลอื่น โดยดำเนินคดีฐาน ลักทรัพย์ในสถานที่ราชการ, เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตฯ ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียได้นำเสนอแล้วนั้น

คดีดังกล่าว พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. สืบสวนขยายผลจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับการรับซื้ออาวุธปืนหลวงดังกล่าวนำมาดำเนินคดีทั้งหมด รวมทั้งติดตามนำอาวุธปืนกลับคืนมาให้ได้ และได้ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนตามคำสั่ง ตร.ที่ 505 และ 567/2565 โดยมี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นผู้ควบคุม กำกับ ดูแลการสืบสวนสอบสวน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ท.จิรภัทร ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 และพล.ต.ท.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.1 ดำเนินการขยายผลติดตามอาวุธปืนที่ถูกลักไปกลับคืนมาโดยเร็ว 
 จากการสืบสวนขยายผลของเจ้าหน้าที่ สามารถรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับบุคคลซึ่งมีพฤติการณ์ในการรับจำนำจาก ด.ต.เชาวลิต ได้จำนวนทั้งสิ้น 23 ราย โดยแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว 1 ราย ออกหมายจับแล้ว 22 ราย จับกุมได้ 18 ราย อายัดตัว 4 ราย โดยทั้งหมดจะถูกดำเนินคดีในข้อหา รับของโจร ประกอบด้วย

1. นายสมชาย บัวกลิ้ง   (จับกุมตามหมาย)
2. นายสมเจต แก้วดวง (จับกุมตามหมาย)
3. นายสุรัช   พุกหนู (จับกุมตามหมาย)
4. นายประเสริฐ พวงศิลป์ (จับกุมตามหมาย)
5. นายกิตกร  ศรีคำภา  (จับกุมตามหมาย)
6. นายธีระวัฒน์ ชูเชิด  (จับกุมตามหมาย)
7. นายชายแดน ธัญญรักษ์  (จับกุมตามหมาย)
8. นายปรีดา  จันทร์แก้ว  (จับกุมตามหมาย)
9. นายมนตรี   น้อยคำมี    (จับกุมตามหมาย)
10. น.ส.วรารัตน์ รัตนวรรณ์    (จับกุมตามหมาย)
11. นายอโนทัย ฝอยทอง  (จับกุมตามหมาย)
12. น.ส.รุ่งรัตน์  ชิณศรีวงษ์ (จับกุมตามหมาย)
13. น.ส.วรรณพร จันทสีร์ (จับกุมตามหมาย)
14. นายธันวา แท่งทองไทย   (จับกุมตามหมาย)
15. นายเศษฐพงค์ ก้อนทอง   (จับกุมตามหมาย)
16. นายชัยคุปต์ แย้มดี   (จับกุมตามหมาย)
17. นายบริสุทธิ์  ทองปรีชา    (จับกุมตามหมาย)
18. นายธวัชชัย เป๋ากระโทก   (จับกุมตามหมาย)
19. นายทศพล  พรมสอน    (อายัดตัว)
20. นายนเรนทร์ สมพงษ์    (อายัดตัว) 
21. นายสำเริง  สอนกลาง   (อายัดตัว) 
22. นายบุรินทร์ วันแอเลาะ   (อายัดตัว)
23. นางจินดา พุกกิริยา   (แจ้งข้อกล่าวหา)


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top