Thursday, 15 May 2025
ค้นหา พบ 48091 ที่เกี่ยวข้อง

นายกแจ๊สเดินหน้าระดมช่วยเหลือบรรเทาภัยเกษตรกรเตรียมรับมือแล้งหนัก

เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2566 เวลา 08.00 น. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วย ทีมงานผู้บริหาร อบจ. ผู้นำชุมชนร่วมลงพื้นที่เตรียมความพร้อมและหาแนวทางการแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ตามแนวคลอง 9 ต.บึงกาสาม และ ต.บึงบอน อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี


โดยมี นายเด่นวันชัย สำราญราษฎร์ ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี , นายเฉลิมพงษ์ รังสิวัฒนศักดิ์ รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี , นายสุริยา ธรรมธารา สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เขตอำเภอหนองเสือ , นางพิชชานันท์ เกษมวราภรณ์ ผู้อำนวยการกองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย , นายสำเนียง บุญนะ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบึงบอน ร่วมลงพื้นที่ที่ประสบภัยแล้ง และเตรียมประสานชลประทานร่วมประชุมรับมือภัยแล้งอำเภอหนองเสือ


นายเด่นวันชัย สำราญราษฎร์ ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า เนื่องจากเราได้เข้าสู่หน้าแล้งอย่างเป็นทางการ ส่งผลให้ปริมาณน้ำในเขื่อนมีปริมาณที่น้อยลง ซึ่งเกษตรกรยังมีความต้องการน้ำ อากาศที่ร้อนส่งผลให้น้ำสูญเสียไปกับความร้อน แดด ลมบางส่วน จะเห็นว่าระดับน้ำในคลองชลประทานลดน้อยลงอย่างต่อเนื่องทำให้เราต้องเตรียมการรับมือภัยแล้ง เนื่องจากเราอยากทำงานก่อนที่จะแล้ง หากแล้งแล้วเราจะทำงานกันไม่ทันชาวบ้านจะเดือดร้อนจึงได้ประสานพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี เข้ามาแก้ไขปัญหา ลดความเดือดร้อนของประชาชน


นายสำเนียง บุญนะ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบึงบอน กล่าวว่า เนื่องจากระดับน้ำในคลองลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้คลองที่เกษตรใช้ไม่สามารถส่งน้ำเข้าตามระบบปกติได้ มีความจำเป็นต้องใช้เครื่องขนาดใหญ่ตั้งสูบเข้าไป เพราะประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบไม่มีเครื่องมือที่จะผลักดันน้ำจากคลองส่งน้ำเข้าสู่คลองซอย จึงต้องอาศัยท่านพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี แก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนชาวเกษตรกรหนองเสือ เพราะว่าช่วงนี้อากาศร้อนและแล้งมาก ฝนไม่ตก การระเหยของน้ำสูง พี่น้องชาวหนองเสือทำนาทำสวนปลูกผักมีความจำเป็นต้องใช้น้ำรวมถึงเพื่อการอุปโภคบริโภคด้วย

โซเชียลแห่ชม ‘ครูต้นแบบ’ มีศิษย์เพียงหนึ่งคน แต่พร่ำสอนจนจบ ป.6 เป็น ‘ที่หนึ่งของรุ่นตัวจริง’

โรงเรียนเล็กๆแต่อบอุ่นหัวใจ! คุณครูขอเก็บไว้เป็นความทรงจำ ถ่ายรูปกับลูกศิษย์จบชั้น ป.6 เพียง 1 คน

(30 มี.ค.66) ภาพความประจำใจเกิดขึ้นที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง โดยผู้ใช้ TikTik ชื่อว่า w.landaaaaaaaaaaa โพสต์ภาพความประทับใจถึงลูกศิษย์ที่จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เพียง 1 คน โดยคุณครูท่านนี้ระบุว่า

"โรงเรียนไหนถ่ายรูปแบบนี้บ้าง ถึงจะไม่ค่อยสวยแต่ก็ขอถ่ายไว้เป็นความทรงจำ ตอนถ่ายรูปก็ใจหายนะ แอบน้ำตาไหลอยู่ ขอกำลังใจน้องที่จบหน่อยนะทุกคน"

"จบแล้ว พี่ ป.6 โรงเรียนขนาดเล็ก มีแค่ 1 คน โรงเรียนไหนเป็นแบบเราบ้างไหม ขอกำลังใจให้เด็กๆที่จบ"

'บิ๊กป้อม' สั่งการไว ขอกองทัพช่วงเร่งดับไฟป่า สั่ง สธ.ช่วยดูสุขภาพชาวบ้าน-อพยพหากจำเป็น

บิ๊กป้อม' รุดลงดูพื้นที่เขาแหลม 31 มี.ค.66 คุมแก้ปัญหาไฟป่า สั่ง มท.ประสาน กองทัพ ระดมอากาศยานช่วยดับไฟ พร้อมให้ สธ.เข้าไปช่วยดูสุขภาพชาวบ้าน หากจำเป็นให้อพยพออกชั่วคราว

(30 มี.ค.66) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี แสดงความห่วงใยจากสถานการณ์ไฟไหม้ป่าเขาแหลม ที่ยังมีกระแสลมแรงไฟลุกลามเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว ประชาชนในพื้นที่ ต.พรหมณี และ ต.เขาพระ จ.นครนายก เริ่มได้รับผลกระทบต่อสุขภาพจากหมอกควันไฟ โดยมีแผนลงดูสถานการณ์ในพื้นที่วันที่ 31 มี.ค.นี้ ทั้งนี้ได้ย้ำสั่งการกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้เสริมและสนับสนุนกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) วางแผนร่วมระดมสรรพกำลัง ทั้งคน เครื่องมือช่างและจัดอากาศยาน เข้าช่วยเหลือดับไฟพื้นที่ป่าเขาแหลม ต.พรหมณี เป็นการเร่งด่วน โดยให้ประสานกองทัพ ขอรับการสนับสนุนอากาศยานและเครื่องมือช่างเพิ่มเติม เข้าปฏิบัติการร่วมกัน เน้นปฏิบัติการเวลากลางวันและให้คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานทุกคน เพื่อช่วยกันลดความรุนแรงและจำกัดการขยายตัวของไฟป่าพื้นที่เขาแหลมให้ได้โดยเร็ว

'ปลอดประสพ' แนะรัฐ หยุดไฟป่า หยุด PM2.5 ควรเร่งตั้ง 'สำนักดับไฟป่า' และลงมือทำทันที

(30 มี.ค.66) ปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานคณะทำงานด้านสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจากสถานการณ์ไฟป่าขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยขณะนี้ คือพื้นที่จังหวัดนครนายก และจังหวัดเชียงราย รวมถึงพื้นที่อื่นๆ ในประเทศไทยที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

พรรคเพื่อไทยมีความเป็นห่วงต่อความปลอดภัยของประชาชนอย่างสูงสุด และได้มีการจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจติดตามสถานการณ์ โดยที่ประชุมเห็นควรให้ข้อมูลประชาชนถึงข้อเท็จจริงของสถานการณ์ และข้อเสนอแนะต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการรับมือสถานการณ์ทั้งระยะเร่งด่วนและระยะยาว ดังนี้...

1. ข้อเท็จจริง ขณะนี้  สถานการณ์ไฟป่าขณะนี้ รุนแรงที่สุดในรอบ 25 ปี (สาเหตุเพราะเชื้อเพลิงถูกสะสมมานาน ไม่มีการจัดการ) ซึ่งไฟป่าขนาดใหญ่ อุณหภูมิจะสูงถึง 1,000 องศาเซลเซียล อากาศจะระเบิด และไฟจะไปไกลถึงเมือง หากปล่อยไป จะดับไฟไม่ได้เลย ต้องรอฝนเท่านั้น และสถานการณ์ไฟป่านี้ เป็นเหตุให้ PM2.5 เพิ่มขึ้นเท่าตัว

2. ข้อเสนอแนะ ภาครัฐจะต้องเร่งจัดตั้งสถาปนา สำนักดับไฟป่า ในกรมอุทยานฯ และกรมป่าไม้ จะต้องมีการจัดตั้ง อาสาสมัครไฟป่าประจำหมู่บ้านริมเขา มีงบประมาณหรือกองทุนไฟป่าสนับสนุน มีการทำประกันชีวิตให้เจ้าหน้าที่ไฟป่า มีการจัดตั้งคลังเครื่องมือ (Depo) ในพื้นที่เสี่ยงภัย สร้างถังน้ำสำรองในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยในส่วนของกำลังพลนั้น สามารถใช้กำลังทหารเข้าเผชิญไฟป่าช่วย และควรจัดทำที่จอดเฮลิคอปเตอร์ในพื้นที่สูง เพื่อใช้ในการเข้าถึงพื้นที่ไฟ และในอนาคต ต้องจัดทำ Green Belt (ป่าไม่ผลัดใบ) เป็นแนวกันไฟ 

ในสถานการณ์ดังกล่าวนี้ ควรให้ผู้ตรวจราชการสำนักงานนายกรัฐมนตรี (C11) ไปประจำพื้นที่ไฟ เพื่อการประสานงานบัญชาการแก้ไขปัญหา 

พรรคเพื่อไทยให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้แก้ไขปัญหาได้อย่างลุล่วงปลอดภัยทุกคน


ที่มา: https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid0h42NrvsDnS1X3gVRkpxYYwn3EPwMjou7SoeAMJq8RBiGEUWZsaotWrMGs86uP6uUl&id=100044569743646&mibextid=Nif5oz 

‘บิ๊กตู่’ ซัดฝีมือมนุษย์พวกขาดสติ-ขาดสามัญสำนึกพ่น ‘กำแพงวัดพระแก้ว’

ถามกลับใครพ่นหน้าบ้านตัวเองยอมไหม  ยันตร.ใช้กฎหมายอย่างระมัดระวังที่สุด ใช้มากหาว่ารังแก ปชช.

(30 มี.ค.66) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 3/2566 ถึงเหตุการณ์พ่นสีกำแพงวัดพระแก้ว เพื่อแสดงออกถึงการยกเลิกมาตรา 112 ว่า…

“ผมได้ย้ำและสั่งการไปแล้วกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ซึ่งทุกอย่างเกิดขึ้นโดยฝีมือมนุษย์ทั้งนั้นนั่นแหละ แล้วมนุษย์บางคนก็ขาดสติ เข้าใจกันหรือยัง และบางอย่างก็ไม่ใช่ว่าจะต้องเฝ้าทั้งหมด แต่คนเรามันต้องมีสำนึก ไม่เช่นนั้นตำรวจเขาก็ต้องวางเรียงรายทางทั้งหมด ถ้าประชาชนคนในชาติไม่รัก ไม่สามัคคีกัน มันทำอะไรเขาไม่ได้หรอก มันก็จะแย่ไปเรื่อยๆ ถ้าปล่อยปะละเลย ซึ่งทางตำรวจเองก็พยายามใช้กฎหมาย อย่างระมัดระวังที่สุด ใช้มากไปก็จะหาว่ารังแกประชาชน ใช้น้อยไปก็หาว่าไม่เด็ดขาดแล้วจะให้ทำอย่างไรละ สื่อก็ต้องช่วยกัน มันควรหรือไม่ที่ไปทำอย่างนั้น ถ้าใครไปพ่นหน้าบ้านตัวเองยอมไหม ถ้าเราไม่ยอมก็ต้องไปเตือนพวกเขาเหล่านั้นสิ ไม่ใช่เสนอข่าวว่าไอ้นี่ไปทำโน้น ไอ้โน้นไปทำนี่ ไอ้นี่ขัดแย้งกันอย่างนี้ หรือไอ้นี่ไปขัดแย้งกับทางนั้น มันก็อยู่กันอย่างนี้ ไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก แก้กันให้ตาย กี่นายกฯก็ทำกันไม่ได้”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top