Sunday, 11 May 2025
ค้นหา พบ 47997 ที่เกี่ยวข้อง

สวนนงนุชพัทยา จัดโปรโมชั่นเดือนเมษายน ซื้อ 5 ฟรี 1ตอนรับเทศกาลสงกรานต์ เที่ยวแบบครอบครัว ตลอดเดือนเมษายน

สวนนงนุชพัทยา โดยคุณกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา เปิดโปรโมชั่นต้อนรับเทศกาลสงกรานต์หรือปีใหม่ไทย กระตุ้นการท่องเที่ยว แบบไทยเที่ยวไทย จัดโปรโมชั่นพิเศษ เดือนเมษายน 2566 เที่ยวสุขใจเที่ยวแบบครอบครัว ซื้อบัตรผ่านประตู 5 ท่าน ฟรี 1 ท่าน ส่วนท่านที่สนใจชมการแสดงนงนุชโชว์ สามารถซื้อบัตรเพิ่มได้ในราคาพิเศษ 200 บาท การแสดงนงนุชโชว์ มีวันละ 3 รอบ รอบเช้า 10.30 น. รอบบ่าย 13.30 น. และ 15.00 น. 

สวนนงนุชพัทยา สวนสวยบนเนื้อที่ 1,700 ไร่ มีสวนสวยมากกว่า 50 สวน สวนที่เหมาะสำหรับทุกเพศ ทุกวัย อาทิเช่น สวนลอยฟ้า สวนตะบองเพรช สวนกล้วยไม้ สวนรถ เนิร์สเชอรี่ตะบองเพรช เนิร์สเชอรี่สับปรดสี หุบเขาไดโนเสาร์ ที่มีถึง 520 สายพันธุ์ มากกว่า 1,000 ตัว สำหรับโปรโมชั่นเด็กสูงไม่เกิน 140 ซ.ม. เข้าฟรีทุกวัน ผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้นไปชมสวนนงนุชฟรี ทุกวันศุกร์

ตำรวจ ปส.(NSB) รวบเครือข่ายยาเสพติดภาคเหนือ ยึดยาบ้ากว่า 6.7 ล้านเม็ด คีตามีน 400 กก. ก่อนกระจายช่วงเทศกาลสงกรานต์

(28 มี.ค. 66) เวลาประมาณ 10.00 น. พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผบก.ปส.2, พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผบก.ปส.3 เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และ กอ.รมน. ร่วมแถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติด ภายใต้การสั่งการอย่างเข้มข้นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ (NSB) เดินหน้าทำลายเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ และรายย่อย ตามนโยบายเร่งด่วนของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร ซึ่งจะพบว่าสถานการณ์ยาเสพติดขณะนี้เครือข่ายมีความพยายามอย่างหนักในการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจำนวนมาก ล่าสุดตำรวจ ปส.(NSB) สามารถจับกุมได้ 3 เครือข่าย พร้อมของกลาง ยาบ้า 6.7 ล้านเม็ด และคีตามีน 400 กก.

โดยเครือข่ายแรก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปส.2 และเจ้าหน้าที่ศูนย์วิเคราะห์ข่าว ปส.2 สืบสวนทราบว่า นายสนธยา(สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติด จะลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือ ด้าน จ.เชียงราย มาส่งให้กับลูกค้าในภาคกลางและพื้นที่ใกล้เคียง ด้วยการส่งทางพัสดุผ่านทางบริษัทขนส่ง ในวันที่ 25 มี.ค.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเดินทางไปตรวจสอบที่บริษัทขนส่งดังกล่าว พบว่ามีพัสดุถูกสำแดงว่าเป็นน้ำผลไม้ 15 กล่อง ระบุชื่อผู้รับคือ 'เปี๊ยก' ถูกส่งมาจาก จ.เชียงราย จากการสแกนตรวจสอบกล่องพัสดุดังกล่าว พบวัตถุรูปทรงสี่เหลี่ยมวางเรียงกันภายในกล่อง ซึ่งเชื่อว่าเป็นยาเสพติด หลังจากนั้นจึงได้นำส่งพัสดุดังกล่าวไปตามที่อยู่ปลายทาง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามไปตลอดเส้นทาง เมื่อส่งพัสดุถึงปลายทาง พบนายสุริยา แจ้งว่าตนพักอาศัยและมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านหลังดังกล่าว ให้ข้อมูลว่า นายเปี๊ยก ที่มีชื่อระบุบนกล่องพัสดุ เป็นญาติของตนที่เสียชีวิตเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงนำภาพถ่ายของนายสนธยา ให้ตรวจสอบ นายสุริยา ยืนยันว่าบุคคลในภาพถ่ายคือ นายสนธยา ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับตน เจ้าหน้าที่ตำรวจและบริษัทขนส่ง จึงร่วมกันเปิดกล่องพัสดุทั้งหมด 15 กล่อง เพื่อตรวจสอบ พบว่าเป็นคีตามีน บรรจุในลังไม้สีน้ำตาล น้ำหนักรวม 300 กก.      

ต่อมา เมื่อวันที่ 27 มี.ค.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.2 ได้ขยายผลจากการจับกุมคีตามีน 300 กก. จนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมยาบ้า จำนวน 4 ล้านเม็ด โดยมีการนำยาบ้าดังกล่าว บรรจุในกล่องใส่น้ำผลไม้ เพี่อตบตาบริษัทขนส่งไปรษณีย์ว่าส่งน้ำผลไม้ไม่ใช่ยาเสพติด นำส่งพัสดุไปรษณีย์ ปลายทาง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ตำรวจ ปส.2 พร้อมด้วยตัวแทนบริษัทขนส่ง ได้ติดตามไปยังปลายทางพัสดุ และจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาบ้า 4 ล้านเม็ด ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลเพิ่มเติม เพื่อติดตามจับกุมผู้สั่งการรายใหญ่ต่อไป

เครือข่ายที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปส.2 ตรวจสอบพบว่านายวัฒนา(สงวนนามสกุล) มีพฤติการณ์นำยาเสพติดจากพื้นที่ จ.เลย ไปส่งให้กับผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคกลาง ต่อมาวันที่ 23 มี.ค.66 ตำรวจ ปส.2 ได้ติดตามรถกระบะยี่ห้อนิสสัน สีขาว ซึ่งสืบสวนทราบว่าเป็นรถที่ใช้ขนยาเสพติด ไปถึง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ก่อนพบเข้าไปจอดอยู่บริเวณหน้าธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาหนองหาน ตำรวจ ปส.2 จึงได้แสดงตัวตรวจค้นรถยนต์พบยาเสพติด คีตามีน วางอยู่บริเวณตอนท้ายกระบะบรรจุอยู่ในถุงชาจีนสีเขียวซุกซ่อนอยู่ในกระสอบพลาสติกสีรุ้ง 4 กระสอบ รวม 100 กก. และตำรวจ ปส.2 อีกชุดได้ติดตามรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้ารีโว่ สีขาว และรถยนตยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้สีเทา ซึ่งเป็นรถสำรวจเส้นทาง และจับกุม นายวัฒนา (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี, นายสุภชีพ (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี,นายวีรธรรม(สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี และนายทิวทอง(สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ได้ที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. หรือบริษัท หนองทานออยส์ จึงแจ้งข้อหา “จำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (คีตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน”

ปตท.กางแผนลงทุน 5 ปี 4 แสนล้านบาท ลุ้น!! เจรจา 5 ดีลธุรกิจใหม่ เน้นร่วมทุนในปีนี้

กลุ่ม ปตท.ได้ปรับเปลี่ยนบทบาททางธุรกิจสำคัญจากบริษัทน้ำมันและก๊าซไปสู่ธุรกิจใหม่ เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ โดยที่ผ่านมามีทั้งการลงทุนเอง การเข้าซื้อกิจการและการร่วมลงทุน และในปี 2566 กลุ่ม ปตท.ยังคงเดินหน้าการลงทุนในธุรกิจใหม่ต่อเนื่อง

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ปตท.อยู่ระหว่างเจรจาธุรกิจกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ เพื่อขยายโอกาสความร่วมมือด้านการลงทุนจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มธุรกิจใหม่พลังงานแห่งอนาคตที่เป็นเป้าหมายดำเนินงานของ ปตท. โดยคาดว่าในปีนี้จะทำสัญญาร่วมลงทุนแล้วเสร็จไม่ต่ำกว่า 5 โครงการ ขณะเดียวกันในปี 2566 ปตท.ยังมีแผนลงทุนต่อเนื่องในวงเงินประมาณ 33,344 ล้านบาท

“ดีลที่เรากำลังเจรจาอยู่ก็มีทั้งในและต่างประเทศ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นต่างประเทศที่กำลังคุยอยู่ โดยมีหลายรูปแบบทั้งเข้าไปซื้อหุ้น การควบรวมและการซื้อกิจการ (M&A) และ Joint Venture หรืออาจจะเป็นความร่วมมือในรูปแบบที่ไม่ต้องใช้งบประมาณ ซึ่งจะปิดดีลปีนี้ไม่ต่ำกว่า 5 ดีล ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจใหม่ที่เรากำลังสนใจทำ” นายอรรถพล กล่าว

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา ปตท.ได้ลงทุนในธุรกิจใหม่และมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยแบ่งเป็น 4 ธุรกิจ ประกอบด้วย

1.Mobility& Lifestyle ซึ่งเป็นการสร้างการขนส่งแบบไร้รอยต่อและเป็นการปรับแนวทางการดำเนินธุรกิจของ ปตท.จากธุรกิจน้ำมันและแก๊สไปสู่ธุรกิจ Energy Solution ประกอบด้วย

- การตั้งบริษัทร่วมทุน บริษัท Phnom Penh Aviation Fuel Service จำกัด โดยบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เพื่อบริการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน ณ สนามบินนานาชาติแห่งใหม่ในกรุงพนมเปญ

- Otteri โดยบริษัทลูกของ OR เข้าไปซื้อหุ้นเพิ่มทุน ของบริษัท เค-เน็กซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจจำหน่ายเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าแบบอุตสาหกรรม รวมถึงประกอบกิจการร้านสะดวกซักภายใต้แบรนด์ Otteri เงินลงทุนขั้นต้น 1,105 ล้านบาท

- ดุสิตฟู้ด โดยบริษัทย่อยของ OR ลงทุนถือหุ้นสัดส่วน 25% ในดุสิตฟู้ดส์ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจอาหาร ด้วยการผสานจุดแข็งของกลุ่มดุสิตธานีที่เชี่ยวชาญด้านธุรกิจอาหาร ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำถึงปลายน้ำ

- การตั้งบริษัทร่วมทุนกับกลุ่มบุญรอด โดยบริษัทย่อยของ OR เข้าไปถือหุ้นร่วมกับบริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ในสัดส่วนฝ่ายละ 50% เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มสำเร็จรูปพร้อมบริโภค (RTD)

- Traveloka โดย OR เข้าลงทุนใน Traveloka แพลตฟอร์มออนไลน์ด้านการจองบริการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

- Café Amazon โดย OR เข้าไปเปิดสาขาแรกในซาอุดีอาระเบีย สาขา InterHealth Hospital หรือ IHH ที่กรุงริยาด โดยได้ประเมินศักยภาพตลาดค้าปลีกในซาอุดีอาระเบีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดร้านกาแฟพรีเมียม

รวมทั้งมีการร่วมลงทุนในสตาร์ทอัป ประกอบด้วย Pomelo แพลตฟอร์มและแบรนด์ Fast Fasion , GoWabi แพลตฟอร์มบริการความงามและสุขภาพ , Freshket แพลตฟอร์มจำหน่ายวัตถุดิบอาหารครบวงจร , Carsome แพลตฟอร์มซื้อขายรถยนต์มือ 2 ออนไลน์

Protomate ผู้นำฮาร์ดแวร์และ AI สัญชาติไทย , Hangry สตาร์ทอัปด้านอาหาร พัฒนา Clound Kitchen

>>ต่อยอดไฮแวลู-โลจิสติกส์

2.High Value Business โดยบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำ กัด (มหาชน) หรือ GC ได้เพิ่มสัดส่วนถือหุ้น Vencorex เป็น 100% ซึ่งจะเป็นการต่อยอดการสร้าง Synergy ร่วมกับ Allnex หลังจากที่บริษัทย่อยของ GC เข้าไปซื้อหุ้นของ Allnex รวมมูลค่า 148,000 ล้านบาท ซึ่งผลิต Coating Resins และสาร Additives ที่ใช้ในงานสถาปัตยกรรมอุตสาหกรรม

3.Logistic & Infrastructure ได้มีการตั้งบริษัท Global Multimodal Logistics (GML) เชื่อมเครือข่ายขนส่งในประเทศและระหว่างประเทศ โดย GML ร่วมมือกับกลุ่มมิตรผล ขนส่งน้ำตาลทรายทางระบบราง 10,000 ตู้ จากขอนแก่นไปชลบุรี 

รวมทั้งมีการศึกษากับองค์การคลังสินค้า (อคส.) พัฒนาธุรกิจห้องเย็นสำหรับสินค้าเกษตร เพื่อเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าไปตลาดต่างประเทศ ร่วมกับผู้ประกอบการคลังห้องเย็นให้บริการแช่แข็งและจัดส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ นำร่องโดยทุเรียนแช่แข็งเพื่อรองรับนโยบายระเบียงผลไม้ภาคตะวันออก (EFC)

นอกจากนี้ OR ได้ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และ JR Freight ทดสอบส่ง LNG ด้วยถัง ISO Container Tank รวมทั้งมีการขนส่งเม็ดพลาสติกทางรถไฟเส้นทางไทย-ลาว-จีน เที่ยวปฐมฤกษ์ จำนวน 25 ตู้ น้ำหนัก 620 ตัน

>>เร่งแผนธุรกิจ‘เอไอ-หุ่นยนต์’

4.AI,Robotics & Digitization ได้ตั้ง T-ECOSYS พัฒนา Industrial Digital Platform , ตั้ง P-DICTOR ดำเนินธุรกิจ AI หุ่นยนต์ ดิจิทัล 

รวมทั้งปรับโครงสร้างการถือหุ้นและเพิ่มทุน Mekha Tech และเปลี่ยนชื่อเป็น Mekha V เพื่อเป็นเรือธงในธุรกิจ AI&Robotics

นอกจากนี้ ร่วมกับธนาคารกรุงไทย ทดสอบระบบ National Corporate Identification (NCID) อละได้ร่วมกับ Kongsberg Ferrotech พัฒนา Nautilus เทคโนโลยีหุ่นยนต์สำรวจและซ่อมบำรุงท่อปิโตรเลียมใต้ทะเลแบบครบวงจรครั้งแรกของโลก

รวมทั้งได้ลงนามกับ HMC Polymers เพื่อใช้เทคโนโลยี UAV และ Digital Platform เพื่อตรวจสอบ Flare และ Confined Space ในการผลิตเม็ดพลาสติก และร่วมมือกับ ปตท.พัฒนาเทคโนโลยีประเมิน Carbon stock สำหรับภาคป่าไม้ และลงนามกับโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ บริการเครื่องมือคัดกรองสุขภาพและเก็บรวบรวมในรูปแบบดิจิทัล

>> ลุยแผนลงทุน 5 ปี 4 แสนล้านบาท

ส่วนแผนลงทุนระยะ 5 ปี (2566-2570) ปตท.คาดการณ์ใช้งบภายใต้วงเงินรวม 4 แสนล้านบาท แบ่งเป็นวงเงินลงทุนในโครงการที่มีความชัดเจนและได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการ (บอร์ด) ปตท.แล้ว 100,227 ล้านบาท แบ่งเป็น 

1.การลงทุนในธุรกิจก๊าซธรรมชาติ 36,322 ล้านบาท 
2.การลงทุนในบริษัทที่ ปตท.ถือหุ้น 100% มูลค่า 32,773 ล้านบาท 
3.การลงทุนในธุรกิจท่อส่งก๊าซธรรมชาติ 18,988 ล้านบาท 
4.การลงทุนในธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐานและสำนักงานใหญ่ 8,828 ล้านบาท 
5.การลงทุนธุรกิจการค้าระหว่างประเทศและปิโตรเลียมขั้นปลาย 3,316 ล้านบาท

สำหรับการลงทุนที่มีความชัดเจนแล้ว จะมีโครงการหลัก อาทิ โรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 7, โรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 8, โครงการท่อส่งก๊าซฯ บางปะกง-โรงไฟฟ้าพระนครใต้, โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบกเส้นที่ 5, ลงทุนในธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า, ขยายธุรกิจของกลุ่ม บริษัท Innobic (Asia), พัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 และการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3

ขณะที่โครงการลงทุนในอนาคต (Provisional Capital Expenditure) ปตท.ประเมินงบลงทุนอยู่ที่ 302,168 ล้านบาท ซึ่งจะเน้นลงทุนโครงการตามวิสัยทัศน์ Powering Life with Future Energy and Beyond

‘บิ๊กตู่’ เผย ‘เสี่ยหนู’ ยังไม่ยื่นลาราชการยาว บอก ลาเป็นครั้งคราวได้-แต่ละคนภาระกิจต่างกัน

(28 มี.ค. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า “สวัสดีจ๊ะ วันนี้อากาศดีลมเย็นดี” ผู้สื่อข่าวถามว่าวันนี้มีรองนายกรัฐมนตรีท่านไหนหารือเรื่องการลาราชการ เพราะอาจจะต้องลงพื้นที่หาเสียงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า แล้วแต่ท่าน ถ้าองค์ประกอบ ครม.ครบก็ประชุมได้อยู่แล้ว ซึ่งทุกคนก็มีภาระแต่ละคนไม่เหมือนกัน  

เตือนภัย มิจฉาชีพเลียนแบบเพจตำรวจไซเบอร์ หลอกลวงแอดไลน์ อ้างช่วยเหลือคดี แต่กลับเอาข้อมูลส่วนตัวเหยื่อไปก่อเหตุสร้างความเสียหาย

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. ขอประชาสัมพันธ์เตือนภัย มิจฉาชีพปลอม หรือลอกเลียนแบบเพจเฟซบุ๊กของตำรวจไซเบอร์ แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่หลอกลวงประชาชน อ้างสามารถช่วยเหลือติดตามคดี แต่กลับนำข้อมูลส่วนบุคคลไปก่อเหตุสร้างความเสียหาย แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ ดังนี้

ได้รับรายงานจาก กองบังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ตอท.) ว่าได้ตรวจสอบพบเพจเฟซบุ๊กปลอมชื่อ 'สืบสวน สอบสวน การป้องกัน และปราบปรามการกระทำผิดทางเทคโนโลยี' ได้นำตราสัญลักษณ์ของของหน่วยงานมาใช้เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในการหลอกลวงประชาชน ภายในเพจดังกล่าวพบมีการคัดลอกรูปภาพ ข้อความ การเเจ้งเตือนภัยออนไลน์ต่างๆ และภารกิจของตำรวจไซเบอร์ของเพจจริงมาใช้ ทำให้ประชาชนที่พบเห็นเพจดังกล่าวเชื่อว่าเป็นเพจจริง เมื่อมีประชาชนติดต่อเข้าไปทาง Facebook Messenger มิจฉาชีพจะส่งไอดีไลน์ พร้อมลิงก์เพิ่มเพื่อนซึ่งใช้บัญชีไลน์ชื่อว่า 'ศูนย์ช่วยเหลือ' โทร 1567 (แท้จริงแล้วเป็นเบอร์ของศูนย์ดำรงธรรม) แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ สามารถช่วยเหลือและติดตามคดีที่ประชาชนตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้ 

จากนั้นจะขอข้อมูลส่วนตัวของเหยื่อ เช่น ชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิด หมายเลขบัตรประชาชน หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล และข้อมูลทางการเงินของเหยื่อ เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร เลขบัตรเครดิต รวมไปถึงหลักฐานทางคดี เช่น หลักฐานการพูดคุยกับคนร้าย หลักฐานการโอนเงิน เป็นต้น ต่อมามิจฉาชีพจะนำข้อมูลที่ได้ไปแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ ไม่ว่าจะเป็นการนำข้อมูลไปแฮ็กบัญชีสื่อสังคมออนไลน์แล้วไปหลอกยืมเงินผู้อื่น หรือใช้รหัสบัตรเครดิตรูดซื้อสินค้า หรือโอนเงินจากบัญชีธนาคาร หรือนำข้อมูลไปขายให้กับแก๊งมิจฉาชีพคอลเซ็นเตอร์ หรือนำไปแอบอ้างทำเรื่องที่ผิดกฎหมายต่างๆ

ทั้งนี้จากการตรวจสอบเพจปลอมดังกล่าว ได้สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 8 มี.ค.66 ขณะนี้มีผู้หลงเชื่อกดติดตามกว่า 7,000 ราย นอกจากนี้มิจฉาชีพยังได้ใช้เทคนิคในการเข้าถึงบุคคลเป้าหมายโดยการโฆษณาอีกด้วย อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.สอท. ได้เร่งทำการสืบสวนเพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปโดยเร็วแล้ว

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญ และมีความห่วงใยต่อภัยการหลอกลวงผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการใช้ หรือแอบอ้างหน่วยงานราชการต่างๆ มาหลอกลวงประชาชน สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยได้กำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งวางมาตรการในการป้องกันและปราบปรามอย่างต่อเนื่อง และจริงจัง

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ซึ่งรับผิดชอบในด้านงานป้องกันปราบปราม ได้กำชับสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดเร่งดำเนินการปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดอย่างต่อเนื่อง และจริงจัง รวมถึงวางมาตรการป้องกันสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของเหล่ามิจฉาชีพ

ที่ผ่านมา บช.สอท. โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบ

โฆษก บช.สอท. กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปัจจุบันการใช้งาน หรือเข้าถึงบริการต่างๆ บนสื่อสังคมออนไลน์ ควรตรวจสอบให้ดีเสียก่อน ระมัดระวังการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลทางการเงิน ข้อมูลทางคดี ซึ่งมิจฉาชีพอาจใช้โอกาสหลอกเอาข้อมูลไปเเสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างได้ รวมถึงไม่หลงเชื่อเพียงเพราะมีการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงาน แอบอ้างสัญลักษณ์ของหน่วยงานนั้นๆ หรือมีการยิงโฆษณา หรือมีชื่อเพจ หรือเว็บไซต์ที่คิดว่าน่าจะเป็นของหน่วยงานนั้นจริง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top