Tuesday, 20 May 2025
ค้นหา พบ 48212 ที่เกี่ยวข้อง

เปิดไทม์ไลน์สารวัตรคลั่ง ยาวนานกว่า 21 ชม. จนท. ใช้ 'แก๊สน้ำตา-เจรจา' ก็ยังไม่เป็นผล

เหตุการณ์ระทึก ‘ตำรวจคลั่ง’ พ.ต.ท.กิตติกานต์ ตำรวจสันติบาล เกิดอาการคลุ้มคลั่ง ใช้อาวุธปืน กราดยิง บริเวณที่พัก ย่านสายไหม สร้างความแตกตื่นให้กับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง กินเวลายาวนานข้ามวันข้ามคืน

คมชัดลึก สรุปไทม์ไลน์ นาทีต่อนาที นับตั้งแต่เกิดเหตุ "ตำรวจคลั่ง" กราดยิง ที่แม้กระทั่งแก๊สน้ำตา หรือ การเจรจาใดๆ ก็ไม่เป็นผล

เวลา 11.00 น. ตำรวจรับแจ้งเกิดเหตุ ชายคลุ้มคลั่ง ก่อเหตุ "กราดยิง" จุดเกิดเหตุบริเวณ บ้านมั่นคง แยกซอยสายไหม 46 แขวงและเขตสายไหม กทม. ตำรวจ สน.สายไหม เร่งเข้าระงับเหตุ

เวลา 12.00 น. จากการเข้าตรวจสอบ พบว่า ชายคลุ้มคลั่ง คือ "สารวัตรกานต์" พ.ต.ท.กิตติกานต์ แสงบุญ อายุ 51 ปี สังกัดศูนย์พัฒนาด้านการข่าว สันติบาล ยิงปืนอยู่ภายในบ้านพัก เพื่อนผู้ก่อเหตุให้ข้อมูลว่า สารวัตรกานต์ มีอาการป่วยทางจิต แล้วโทรศัพท์ให้มารับ แต่เมื่อมาถึงหน้าบ้าน เขาก็มีอาการคลุ้มคลั่ง และยิงปืนออกมาจากภายในบ้านเป็นระยะ

เวลา 12.30 น. ตำรวจอรินทราช 30 นาย พร้อมตำรวจ สน.สายไหม ระดมกำลังปิดล้อม เพื่อระงับเหตุ หลัง สารวัตรกานต์ "ตำรวจคลั่ง" มีการถือปืนเดินออกมาจากภายในบ้าน พร้อมตะโกนด่าทอเป็นระยะ

เวลา 13.19 น. เจ้าหน้าที่พยายามเกลี้ยกล่อม "สารวัตรกานต์" แต่ปรากฎว่า ยิ่งสร้างความกดดันอย่างหนัก มีการยิงปืนสวนออกมาเป็นระยะกว่า 20 นัด สร้างความแตกตื่นให้กับชาวบ้านในละแวกติดกัน

เวลา 14.00 น. ชาวบ้านละแวกใกล้เคียง เล่าว่า สารวัตรกานต์ มีภาวะทางจิต ขาดราชการหลายวัน โดยมักจะเห็นเขาถือโทรศัพท์ ใส่หูฟังพูดคนเดียว และตะโกนด่าทอไปเรื่อย บางวัน จะใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้า สร้างความหวาดผวาให้เพื่อนบ้านไปทั่ว

เวลา 16.10 น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการ สืบสวนสอบสวน บช.น.ในฐานะอดีตเคยเป็นผู้บังคับบัญชาในสังกัด เข้าเจรจากับ สารวัตรกานต์ โดยขยายแนวกั้นพื้นที่ เพื่อกันสื่อมวลชนให้ออกห่างจากรัศมีจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร

เวลา 16.30 น. ตำรวจเร่งพาตัวผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งอยู่บ้านติดกัน ออกจากจุดเกิดเหตุ

เวลา 16.40 น. เจ้าหน้าที่พาลูกชายของ สารวัตรกานต์ เข้าเจรจา เกลี้ยกล่อม เพื่อให้วางอาวุธปืน และมอบตัว แต่การเจรจาไม่เป็นผล

เวลา 17.20 น. "บิ๊กต่อ" พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาเพื่อควบคุมสถานการณ์ด้วยตนเอง พร้อมสั่งห้ามใช้ความรุนแรง เพราะ สารวัตรกานต์ ป่วยทางจิต ต้องบำบัด

เริ่มวันนี้!! รับสิทธิ์ส่วนลด ‘ค่าน้ำ-ค่าไฟ’  ผ่านบัตรสวัสดิฯ ย้ำ!! ต้องขอรับสิทธิใหม่ทุกคน

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคมเป็นต้นไป ผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จภายใต้โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565  หรือบัตรคนจนรอบใหม่ ที่ประสงค์จะรับสิทธิมาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา  จะต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิใหม่ทุกคน และกำหนดการให้สวัสดิการแบบ  1 ครัวเรือนต่อ 1 สิทธิต่อ 1 รหัสประจำบ้าน ซึ่งสามารถลงทะเบียนรับสิทธิค่าไฟฟ้าได้เพียงผู้ให้บริการ 1 หน่วยงาน

เช่นเดียวกันกับค่าน้ำประปาที่สามารถลงทะเบียนรับสิทธิค่าบริการได้เพียงผู้ให้บริการ 1 หน่วยงาน ซึ่งจะเปิดให้ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปากับหน่วยงานผู้ให้บริการที่ผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยืนยันตัวสำเร็จรับบริการอยู่

รายละเอียดดังนี้
1. การลงทะเบียนรับสิทธิค่าไฟฟ้า สามารถลงทะเบียนได้ที่
(1) สำนักงานการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) หรือผ่านเว็บไซต์ https://meagate1.mea.or.th/welfareregis เบอร์ติดต่อ 1130

(2) สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หรือผ่านเว็บไซต์ https://welfareregis.pea.co.th เบอร์ติดต่อ 1129

(3) กิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ (กทร.) หรือผ่านเว็บไซต์ https://walfareregis.sea.co.th เบอร์ติดต่อ 086 848 1284

2. การลงทะเบียนรับสิทธิค่าน้ำประปา สามารถลงทะเบียนได้ที่
(1) สำนักงานการประปานครหลวง (กปน.) หรือผ่านเว็บไซต์ https://eservicesapp.mwa.co.th/ES/MWAWelfareServlet เบอร์ติดต่อ 1125

(2) สำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) หรือผ่านเว็บไซต์ https://register.pwa.co.th/welfare-register.html เบอร์ติดต่อ 1662

หนุ่มใหญ่ แต่งกายชุด ตร. เต็มยศ สร้างความน่าเชื่อถือ  หลอกขายวัวให้ชาวบ้าน เพื่อนำเงินไปเล่นพนัน

(14 มี.ค. 66) พ.ต.ท.วินัย โรจน์ณรงค์ สว.สส.สภ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งจาก นายไพรัช อุณหะ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ต.ช่างเหล็ก อ.บางไทร ว่ามีนายตำรวจ ยศร้อยตำรวจโท มาขายวัวให้ โดยแต่งกายชุดตำรวจมาเต็มยศ ท่าทางมีพิรุธ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ พร้อมกับรายงาน พ.ต.อ.ธีรวุฒิ แสงมณี รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ทราบ และไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุ พบชายแต่งกายชุดตำรวจ ติดป้ายชื่อและเครื่องหมาย ยศ ร.ต.ท.วุฒิศักดิ์ พิทักษ์จันทร์อิ่ม กำลังนั่งพูดคุยกับเจ้าของบ้าน จึงขอตรวจสอบบัตรประจำตัวข้าราชการตำรวจ แต่กลับพยายามหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัวไว้ได้ สอบถามไปมาทราบว่า เป็นตำรวจปลอม จึงทำการจับกุม ก่อนนำไปตรวจค้นรถกระบะ พบอุปกรณ์ตำรวจ เสื้อ หมวก และป้ายชื่ออีกหลายคน และทะเบียนรถปลอมอีกหลายแผ่น จึงคุมตัวไปสอบสวน ทราบชื่อจริงคือ นายวุฒิศักดิ์ พิทักษ์จันทร์อิ่ม อายุ 58 ปี

ด้าน ผู้ใหญ่ไพรัช กล่าวว่า เมื่อวานช่วงเช้าขณะตนเลี้ยงวัวอยู่ที่บ้าน ชายคนนี้แต่งชุดตำรวจเอารูปวัวควาย เข้ามาเสนอขายในราคา 2.5 แสนบาท มีอยู่ 20 ตัว ถ้าตนเอาหมดจะลดให้ตัวละ 1,000 บาท แต่เอะใจว่ารูปภาพดูคุ้นๆ เหมือนภาพที่มีการส่งต่อกันในสายพ่อค้าวัว เมื่อสังเกตการแต่งกายคิดว่าไม่น่าจะใช่ตำรวจ จึงโทรแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ

ครม.ตื่น!! พ.ร.บ.อาวุธปืน เปิดโอกาสให้ขึ้นทะเบียนถูก กม.  หรือส่งมอบคืนภายใน 180 วัน โดยไม่ต้องรับโทษ

เปิดทาง!! 'รองโฆษกรัฐบาล' เผย ครม.เห็นชอบร่างพ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ให้ผู้ครอบครอง ขึ้นทะเบียนปืนถูกกฎหมาย-ส่งคืนรัฐภายใน 180 วัน ไม่ต้องรับโทษ

(15 มี.ค.66) รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันมีการใช้อาวุธปืนเถื่อนที่ไม่ได้รับอนุญาตอย้างถูกกฎหมาย มาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเพิ่มมากขึ้นทุกปี ขณะที่มาตรการปราบปรามอาวุธปืนเถื่อนในปัจจุบัน ยังไม่บรรลุผล เนื่องจากเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจค้นได้ เฉพาะกรณีที่มีข้อมูลน่าเชื่อถือว่าบุคคลนั้นใช้อาวุธปืน ในการกระทำความผิด มีพฤติการณ์ครอบครองอาวุธปืนผิดกฎหมาย หรือมีความเป็นไปได้ที่จะนำอาวุธปืนไปก่อเหตุร้าย หรือเป็นผู้มีส่วนร่วมกระทำความผิด ทำให้ยากต่อการควบคุม ดังนั้น ครม.จึงเห็นชอบหลักการร่างพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปีน พ.ศ. 2490 กำหนดให้นำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนที่อยู่ภายในราชอาณาจักรมาขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อป้องกันไม่ให้นำเข้าอาวุธปืนจากประเทศเพื่อนบ้านมาขึ้นทะเบียน หรือให้มีการส่งมอบอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนที่ไม่สามารถขึ้นทะเบียนได้ คืนแก่นายทะเบียนภายในระยะเวลาที่กำหนด และกำหนดเพิ่มเติมให้นายทะเบียนท้องที่ จัดทำรายละเอียดและจัดเก็บอัตลักษณ์เกี่ยวกับอาวุธปืนด้วย  

เปิดเบื้องลึก 'ส.ส.เป้า สิงห์โตทอง' จับมือ 'รทสช.' สู้กลุ่ม 'สนธยา' เพราะคำพูดแมนๆ จากผู้ชายแมนๆ ที่ชื่อ 'สุชาติ ชมกลิ่น'

ดุเดือดแน่นอนกับสนามเลือกตั้งเมืองชลหนนี้ เมื่อ 'ส.ส.เป้า' นายจิรวุฒิ สิงห์โตทอง อดีตส.ส.ชลบุรี ได้แต่งองค์ทรงเครื่องมาเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ เขตพื้นที่ อ.บ้านบึง อ.บ่อทอง อ.หนองใหญ่ ตามคำชวนของนายสุชาติ ชมกลิ่น

การร่วมกับ รทสช. ของ ส.ส.เป้า นั้นมีความน่าสนใจ โดยเจ้าตัวได้เปิดใจถึงเบื้องลึกในการย้ายออกจากพรรคเพื่อไทย, พรรคก้าวไกล ไปทำงานการเมืองร่วมกับ 'กลุ่มบ้านใหม่' ของ 'รมต.เฮ้ง' นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ลงสู้ศึกเลือกตั้งสนามส.ส.ชลบุรี ว่า...

เจ๊แดง บอกว่าถ้าจะลงเล่นการเมืองในนามพรรคเพื่อไทย จ.ชลบุรี เป้า ต้องไปขอกับท่านสนธยา ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เพราะเรา (กลุ่มก้าวหน้า) เพิ่งแข่งกับเขาในสนาม อบจ.ชลบุรี และสนามเมืองพัทยา และคนอย่างผมต้องไปขอสนธยา เพื่อจะมาลง ส.ส.ชลบุรี เขต 3 ผมคิดว่าแล้วว่ามันเสียศักดิ์ศรี ก็กลับมานั่งคุยกันอยู่ที่สมาคมกลุ่มชาวไร่อ้อยเกษตรชลบุรี บอกกับคนในสมาคมฟังว่าตระกูล 'สิงห์โตทอง' คงจะไม่มีการได้ลงเลือกตั้งแล้ว เราอยู่สายประชาธิปไตยมานาน สายก้าวไกล ก็ปฏิเสธ สายเพื่อไทยก็ปฏิเสธ

ก็เลยมาคุยกันว่าการเลือกตั้งชลบุรีคงไม่มีตระกูล 'สิงห์โตทอง' ลงแข่งขัน แต่พอดีคนในกลุ่มที่คุยกัน เขาเป็นเพื่อนนักเรียนรุ่นเดียวกับ รมต.เฮ้ง นายสุชาติ ชมกลิ่น สมัยเรียนชลชาย เขาก็เลยโทรศัพท์ไปหา รมต.เฮ้ง บอกว่างวดนี้พี่เป้าเขาไม่ลงเลือกตั้ง พรรคก้าวไกล ก็ไม่เอา พรรคเพื่อไทยก็ไม่เอา แต่ที่ไม่เอา เพราะเขาต้องให้ผมไปขอ ผมก็ไม่ขอ เพราะผมถือว่าต้องลดตระกูล ลดตัวเองไปขอ ผมก็ไม่เอา หลังจากนั้น รมต.เฮ้ง เขาก็ส่งญาติผม ซึ่งเป็นอดีตนายพลตำรวจในชลบุรี ก็ได้คุยกันหลังจากนั้นเขาก็ให้ผมคุยกับ รมต.เฮ้ง ก็คุยกัน รมต.เฮ้งบอกว่า “พี่เป้า ลุงซุ้ย (ดร.ดรงค์ สิงห์โตทอง พ่อผม) เป็น ส.ส.ชลบุรี มา 4 สมัย ทำการเมืองให้กับชลบุรี ในเรื่องสายเกษตร ทุกครั้งที่มีการอภิปรายในสภาฯ คำพูดเรื่องแรกก็จะพูดเรื่องอ้อยเรื่องมันอย่างเดียว ลุงซุ้ย ก็ทำเรื่องนี้มาตลอด ไม่อยากจะให้เสียเรื่องตรงนี้ไปเพราะมันกระทบต่ออาชีพเกษตรกรที่ปลูกอ้อย ปลูกมัน ปลูกปาล์ม


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top