Thursday, 29 May 2025
ค้นหา พบ 48420 ที่เกี่ยวข้อง

‘กรณ์’ เผย ว่าที่ผู้สมัครเป็นคนรุ่นใหม่ ไฟแรง-มีคุณภาพ มั่นใจ ‘ชพก.’ มีโอกาสคว้าชัย พร้อมพาสงขลาไปไกลกว่าเดิม

(10 มี.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดสงขลา ระบุว่า นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วย พล.ต.ธชา จินตวร รองเลขาธิการพรรค และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 4 เขต ได้แก่ นายกัณฑ์ นวกัณฑ์ เขต 1, นายจูรี นุ่มแก้ว เขต 2 ผศ.ดร.ประสิทธิ์ รัตนพันธ์ เขต 3 และ นายพงศธร สุวรรณรักษา หรือ ทนายอาร์ม เขต 9 ร่วมทำกิจกรรมกับพี่น้องประชาชนชาวสงขลา

โดยในช่วงเช้า เข้าสักการะศาลเจ้าพ่อกวนอู เทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์และมีคุณธรรมสูงส่งที่ ตำบลควนลัง อำเภอหาดใหญ่ ต่อช่วงบ่ายเข้าร่วมกิจกรรมงานวันสงขลาครบรอบ 181 ปี ณ บริเวณ ถนนนางงาม นครใน นครนอก โดยแต่ละจุดกิจกรรม ประชาชนให้การต้อนรับอย่างเนืองแน่น และชื่นชมในทีมผู้บริหาร และนโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้า ตลอดจนตัวว่าที่ผู้สมัครว่าเป็นคนคุณภาพ เป็นคนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลง จังหวัดสงขลา ที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมานานมากแล้ว

นายกรณ์ กล่าวว่า นับแต่เปิดเปิดตัวผู้สมัครทั้ง 4 คนของ จ.สงขลา กระแสตอบรับดีมาก และดีขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกเขต ทำให้มั่นใจว่าเราจะได้ ส.ส.จาก จ.สงขลาอย่างแน่นอน แต่จะครบทั้ง 4 คน หรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชน ส่วนการทำงานของว่าที่ผู้สมัครทั้ง 4 คนก็เป็นต้นแบบของการทำงานเป็นทีม เราเปิดเวทีปราศรัยพบพี่น้องประชาชน ก็จัดแบบธรรมชาติ บนรถกระบะบ้าง ในสวนยางบ้าง แต่เป็นแนวการเมืองบริสุทธิ์ในแนวทางสร้างสรรค์ และจากการพบปะพูดคุยกับประชาชน พี่น้องสงขลาอยากเห็นการเมืองมีการพัฒนา อยากเห็นคนรุ่นใหม่ มีโอกาสเข้ามาทำงานการเมือง

ต่อมาในช่วงเย็น ร่วมทอล์กเศรษฐกิจ ณ ไมอามี สงขลา โดยนายกรณ์ และว่าที่ผู้สมัครทั้ง 4 คน มีผู้สนใจเข้ารับฟังกันอย่างคึกคัก ซึ่งเป็นการจัดแบบธรรมชาติ ไม่มีการจัดตั้งแต่อย่างใด โดยนายกรณ์ กล่าวว่า อยากฝากพี่น้อง จ.สงชลา ชาวใต้ และพี่น้องทั่วประเทศ แม้พรรคเราจะไม่ใหญ่ แต่ความคิดของเรายิ่งใหญ่มาก เราเห็นและเข้าใจประเด็นปัญหาของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะประเด็นเศรษฐกิจ เราไม่ได้เน้นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ที่ต้องใช้เงินภาษีของพี่น้องประชาชน หรือใช้เงินกู้ แต่เราต้องเข้าไปทำความเข้าใจกันตั้งแต่ต้นตอ และมีความกล้า ที่จะเข้าไปรื้อระดับโครงสร้าง ทั้งโครงสร้างพลังงาน เพื่อให้พี่น้องประชาชน เพื่อค่าน้ำมัน ค่าไฟฟ้าถูกลง โครงสร้างทางการเงิน การปล่อยสินเชื่อ เพื่อการเข้าถึงแหล่งสินเชื่อในระบบ ในอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรมกับประชาชน มากยิ่งขึ้น แม้แต่ปัญหาเรื่องของฝุ่นพิษ ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นปัญหาระดับโครงสร้าง รอนักการเมืองที่เข้าใจและกล้าจะเข้าไปแก้ปัญหาระดับโครงสร้างให้กับพี่น้องประชาชน

ผบ.ตร. ชื่นชม ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ สร้างภาพลักษณ์องค์กรตำรวจ ทำความดีทุกวัน ปิดทองหลังพระ ตลอดเวลา

วันนี้ (10 มี.ค.66) เวลา 14.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบรางวัลโครงการ 'ทำดี มีรางวัล' แก่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ จำนวน 6 นาย พร้อมเหรียญหลวงพ่อโสธร รุ่น 80 ปี กรมตำรวจ สร้างปี พ.ศ.2538 และเงินรางวัลอีกนายละ 5,000 บาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ เป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคม

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2566 เวลาประมาณ 14.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุว่า มีรถยนต์ส่วนบุคคลกำลังนำเด็กมีอาการป่วยส่งโรงพยาบาล โดยรถคันดังกล่าว กำลังขึ้นทางด่วนบางนา มุ่งหน้าลงทางด่วนพระราม 4 ที่หมายโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน (สีลม) ได้ร้องขอความช่วยเหลือจาก ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ สนับสนุนอำนวยความสะดวกในเส้นทาง 
 

รวมพลังภาคีเครือข่ายควบคุมยาสูบ 17 จังหวัดภาคเหนือ ร่วมประกาศเจตนารมณ์ 'คนเหนือไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า'

(10 มี.ค. 66) ที่ โรงแรมเมอเวนพิค สุริวงศ์ เชียงใหม่ รองพ่อเมืองเชียงใหม่ เป็นประธานในการ กล่าวนำภาคีเครือข่ายควบคุมยาสูบภาคเหนือ 17 จังหวัด กว่า 200 คน ร่วมประกาศเจตนารมณ์ 'คนเหนือไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า' ในงานสัมมนาเรื่อง 'คนเหนือไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า' ย้ำจุดยืน คนเหนือ จะร่วมมือกันรณรงค์ป้องกันประชาชนภาคเหนือทุกคน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ให้ปลอดพ้นจากการเสพติดบุหรี่และไฟฟ้าทุกรูปแบบ

นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นประธานในการประกาศเจตนารมณ์  'คนเหนือไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า' ครั้งนี้ การระดมทุกภาคส่วนของภาคีเครือข่ายควบคุมยาสูบ 17 จังหวัด ภาคเหนือ ให้มาร่วมกันรณรงค์ป้องกันการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้ากับกลุ่มเด็กและเยาวชนถือเป็นวาระแห่งชาติ ที่จะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน เนื่องจากปัญหาการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าขยายวงกว้างไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มเด็กและเยาวชน  

โดยคำประกาศเจตนารมณ์ 'คนเหนือไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า' มีแนวทางดังนี้

1. พวกเราจะร่วมมือกันรณรงค์ป้องกันประชาชนภาคเหนือทุกคน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ให้ปลอดพ้นจากการเสพติดบุหรี่ไฟฟ้าทุกรูปแบบ
2. พวกเราจะร่วมกันสร้างพื้นที่ที่ปลอดภัย โดยเฉพาะในโรงเรียน และสถานศึกษาทุกระดับ เพื่อป้องกันการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ยาสูบทุกชนิดของเด็กและเยาวชนภาคเหนือ  โดยการบังคับใช้กฎหมายการห้ามจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเคร่งครัด
3. พวกเราจะร่วมกันสื่อสารข้อมูล เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชนภาคเหนือได้รับรู้ถึงอันตรายของการเสพติดบุหรี่ไฟฟ้า และรู้เท่าทันกลยุทธ์ของอุตสาหกรรมยาสูบ

4. พวกเราจะร่วมกันสร้างกลไกขับเคลื่อนงานของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ให้เกิดการเชื่อมประสานการทำงานในเรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรมต่อเนื่อง
5. พวกเราจะดำเนินการป้องกันการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าให้เป็นวาระแห่งชาติ  และประกาศเจตจำนงที่ชัดเจนในการสนับสนุนให้รัฐบาลคงนโยบาย และมาตรการในการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดไว้

ด้าน  ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เปิดเผยว่า จากข้อมูลการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติปี พ.ศ.2564 พบว่า อัตราการสูบบุหรี่ของคนไทยล่าสุดของประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไปเท่ากับ ร้อยละ 17.4 มีจำนวนผู้สูบบุหรี่เท่ากับ 9.9 ล้านคน หากมองภาพรวมของประเทศ ลดลงจากรอบสำรวจที่ผ่านมา แต่ที่ยังน่าเป็นห่วง คือ ยังมีปัญหาการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าขยายวงกว้างไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มเด็กและเยาวชน ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่เด็กและเยาวชนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า จะเกิดการเสพติดนิโคติน สารเสพติดตัวเดียวกันกับที่มีอยู่ในบุหรี่ธรรมดาไปตลอดชีวิต

ถึงแม้ว่าขณะนี้ ประเทศไทยได้มีประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ.2557 และ ประกาศของคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค คำสั่งที่ 9/2558 เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า 'บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า'

กฟผ.- เชลล์ หนุนนโยบายโลกลดการปล่อยคาร์บอน ร่วมศึกษาเทคโนโลยีพลังงานสะอาดและการกักเก็บคาร์บอน

กฟผ. และ บ. เชลล์แห่งประเทศไทย ร่วมลงนาม MOU แลกเปลี่ยนและศึกษา Clean Energy Development มุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เดินหน้าประเทศไทยสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ในปี ค.ศ. 2065

นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และนายปนันท์ ประจวบเหมาะ ประธานกรรมการบริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อแลกเปลี่ยนและศึกษาเทคโนโลยีพลังงานสะอาด อาทิ เทคโนโลยีการดักจับ การใช้ประโยชน์และกักเก็บคาร์บอน Carbon Capture Utilization and Storage (CCUS) และเทคโนโลยีเชื้อเพลิงทางเลือกในการผลิตไฟฟ้า เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2566 ณ อาคาร 50 ปี กฟผ. สำนักงานใหญ่ จ. นนทบุรี

นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวว่า ประเทศไทยได้ประกาศเจตนารมณ์ในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 26 (COP26) โดยตั้งเป้าหมายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายในปี ค.ศ. 2065  เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายดังกล่าว กฟผ. ได้ขับเคลื่อนองค์กรภายใต้กลยุทธ์ ‘Triple S’ คือ Sources Transformation เพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน พัฒนาเทคโนโลยีทางเลือก และเทคโนโลยีเพื่อรองรับการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน Sink Co-creation เพิ่มแหล่งดูดซับกักเก็บคาร์บอน ผ่านโครงการปลูกป่าล้านไร่ และการศึกษาเทคโนโลยี CCUS และ Support Measures Mechanism ส่งเสริมการมีส่วนร่วมลดก๊าซเรือนกระจกในภาคประชาชน ผ่านโครงการฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 โครงการห้องเรียนสีเขียว และส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า 

นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ ตรวจเยี่ยม ให้คำแนะนำผลิตภัณฑ์กลุ่มแม่บ้านตำรวจ ภ.6 เพื่อสร้างรายได้เสริม พร้อมมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวตำรวจเด็กพิเศษ

เมื่อวานนี้ (9 มี.ค.66) ณ ตำรวจภูธรภาค 6 จังหวัดพิษณุโลก คุณสุมนา กิตติประภัสร์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ พร้อมด้วย คุณอุชัญญา ปราสาททองโอสถ อุปนายกสมาคมฯ และที่ปรึกษาโครงการ OPOP ภาค 6-9 และตชด. ตรวจเยี่ยมโครงการ OPOP และกิจการชมรมแม่บ้านตำรวจภูธร ภ.6 โดยพล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 คุณภคมน พิมลศรี ประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 6 ให้การต้อนรับ และนำชมผลิตภัณฑ์ opop ของกลุ่มแม่บ้าน จำนวน 11 บูธ ได้แก่

- บูธที่ 1 ชมรมแม่บ้าน ภ.6 กล้วยตากออร์แกนิค สับปะรดอบแห้งแม่กระแต 
- บูธที่ 2 จว.สุโขทัย ขนมกรอบเค็ม หมี่กรอบทรงเครื่อง โรตีกรอบ ขนมเปี๊ยะนมสด
- บูธที่ 3 จว.นครสวรรค์ แคบหมูทรงเครื่อง ข้าวสารอินทรีย์ คุกกี้ธัญพืช
- บูธที่ 4 จว.เพชรบูรณ์ กล้วยไส้มะขาม มะขามอบแห้งไร้เมล็ด สบู่สกัดจากกาแฟ เมล็ดกาแฟ แมคคาเดเมีย ชาดอกกาแฟ น้ำผึ้งแท้จากไร่จ่านรินทร์  
- บูธที่ 5 จว.พิษณุโลก ข้าวตาชิน ผ้าทอชาติตระการ ชาไข่มุก ผักปลอดสารพิษของ 'โครงการตำรวจพันธุ์ดี'


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top