Monday, 9 June 2025
ค้นหา พบ 48681 ที่เกี่ยวข้อง

พลิกโฉมสุพรรณ!! ‘เพื่อไทย’ หวังชิงเก้าอี้ ส.ส. ‘สุพรรณฯ’ ชูนโยบายพัฒนาเกษตร มั่นใจ!! ปชช.ได้ประโยชน์

(7 มี.ค. 66) ดร.กุลธิดา เหมาเพชร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จ.สุพรรณบุรี พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้ แม้จะเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ แต่มีความมั่นใจ เนื่องจากกระแสและนโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่ว่านโยบายทำได้ทำเป็น ที่จะนำสู่พี่น้องประชาชนชาวสุพรรณบุรี ตนจึงถือว่าเป็นตัวแทนของพรรคเพื่อไทย ที่จะนำนโยบายมาถึงพ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวสุพรรณบุรี

 

ดร.กุลธิดา กล่าวว่า ในส่วนของผู้สมัครพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ทั้ง 5 เขต เราทราบบริบททางการเมืองของความเป็นชาติไทยพัฒนาในสุพรรณบุรีอยู่แล้ว แต่ข้อมูลที่ได้จากการลงพื้นที่มานั้น ทำให้ทราบข้อมูลจากพี่น้องประชาชน และเชื่อว่าพรรคชาติไทยพัฒนาก็คงจะปฏิเสธข้อมูลจากพี่น้องประชาชนไม่ได้ว่า ท่านบรรหาร ศิลปอาชา ไม่ได้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นบริบททางการเมืองสุพรรณบุรี ย่อมมีความเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน กับวันเวลาที่ผ่านไปด้วย

 

“ข้อมูลตรงนี้ทำให้เราทราบว่าความเป็นเพื่อไทย และนโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่ลงสู่พี่น้องประชาชนชาวสุพรรณบุรี จะนำพามาได้อย่างไร ในระหว่างที่กระแสความรุนแรงในสุพรรณบุรีมีเกิดขึ้น กระแสเปลี่ยนมีเกิดขึ้นแน่นอนแต่ว่าจะเปลี่ยนไปได้มากน้อยแค่ไหน ก็คงต้องใช้ระยะเวลาจนกระทั่งเลือกตั้งเสร็จ ตอนนี้เรามีความเชื่อมั่นว่ามีกระแสเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ซึ่งภาพรวมของความเป็นพรรคเพื่อไทยพรรคใหญ่ จะส่งผลต่อจังหวัดสุพรรณบุรีแน่นอน โดยเฉพาะนโยบายทางด้านการเกษตรที่เป็นนโยบายเบอร์ต้นๆของพรรคเพื่อไทย ที่ชาวสุพรรณบุรี จะได้รับประโยชน์จากนโยบายด้านนี้แน่นอน” ดร.กุลธิดา กล่าว

 

'ชัยวุฒิ' ถกประเด็นบุหรี่ไฟฟ้า ยัน!! ผลักดันรับรองให้ถูกต้อง  ซัด!! กฎหมายต้องไม่ล้าหลัง ควรสอดคล้องวิถีชีวิต-หลักสากล

สมาคมสื่อ MEDIA ASSOCIATION FOR SOCIETY OFFICE ร่วมกับคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา เปิดสัมมนาเชิงปฏิบัติการโครงการบุหรี่ไฟฟ้ากับอนาคตของประเทศ พร้อมจัดอบรมในวันนี้ (7 มี.ค.66) ณ ห้องประชุมกานเฉ่า ชั้น ๒ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา โดยมี อาจารย์อับดุลฮาลีม อาแด อาจารย์ประจำสาขาการสอนอิสลามศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา เป็นผู้นำบรรยาย และ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม  ร่วมวิดีโอคอล งานสัมมนาเชิงปฏิบัติการโครงการบุหรี่ไฟฟ้ากับอนาคตของประเทศไทย ทั้งนี้มีเยาวชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กว่า 60 คนเข้าร่วมกิจกรรม 

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า "ผมในนามกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรู้สึกเป็นเกียรติ และยินดีได้เข้าร่วมพูดคุย โครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ โครงการบุหรี่ไฟฟ้ากับอนาคตของประเทศไทย ซึ่งผมก็ได้ติดตามมามาพอสมควรช่วงที่ตนเองเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีดิจิทัลฯ ในช่วงแรกได้มีการดำเนินคดีกับสิ่งผิดกฎหมายบนออนไลน์ ซึ่งหนึ่งในนั้นมี “บุหรี่ไฟฟ้า” ที่ผิดกฎหมาย พบว่าการจำหน่ายในช่องทางออนไลน์ ตามสื่อ Social เป็นจำนวนมาก

ต่อมาเมื่อตนเองได้ศึกษาประเด็นดังกล่าวและได้มีประชาชนกลุ่มต่าง ๆ เข้าพบเพื่อถกประเด็นดังกล่าวกับตนเองจึงพบว่ามี “ผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า” ในประเทศไทยน่าจะทำให้ถูกกฎหมาย เนื่องจากมีผู้ใช้อยู่เป็นจำนวนมาก โดยมีคนกลุ่มหนึ่งเชื่อว่าปลอดภัยกว่าบุหรี่จริง และจากการพิสูจน์จากต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น ยุโรป, ญี่ปุ่น, สหรัฐอเมริกา เป็นต้น มีการอนุญาตให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกฎหมายได้ แต่ในประเทศไทยยังผิดกฎหมาย เป็นเรื่องที่ขัดกับวิถีชีวิตและหลักสากล ทำให้ควบคุมได้ยากมาก คนหันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้ากันมากขึ้น โดยเฉพาะคนที่เชื่อว่าบุหรี่มวนอันตรายและไม่อยากสูบบุหรี่จริง และที่สำคัญมีการลักลอบขายกันจนมาก จนคิดว่าเป็นเรื่องที่ ดัดจริต ที่ว่าสูบไม่ได้ แต่ก็เห็นสูบกันกันทั่วไป 

ดังนั้นตนเองจึงอยากเห็นงานเสวนาในครั้งนี้หารือแนวทางผลักดันบุหรี่ไฟฟ้าให้เข้ามาอยู่ในระบบให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยดูว่ามีประเด็นติดขัดเรื่องอะไรบ้าง เพื่อรวบรวมความเห็นจากหลากหลายกลุ่ม ในการพัฒนาเป็นกฎหมายที่คุ้มครองวิถีชีวิตคนไทยต่อไป สุดท้ายนายชัยวุฒิได้เน้นย้ำว่า บุหรี่ไฟฟ้า เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคนที่คิดว่าปลอดภัยกว่าบุหรี่จริงก็ให้พวกเขาได้ใช้ ซึ่งมีจำกัดทางกฎหมาย ทำให้เราไม่สามารถแก้ปัญหาเปลี่ยนส่วยเป็นภาษีได้ ในขณะที่บุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย แต่เราสูบอย่างอื่นได้มีหลายอย่างที่อันตรายกว่า ทั้งที่บุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่า กลับไม่ให้บริโภค ทางรัฐบาลและผมเองก็เห็นว่าหลายสิ่งหลายอย่างในประเทศไทยมีข้อจำกัด เรื่องกฎหมายที่ล้าสมัย นำมาปฏิบัติจริงไม่ได้ ขัดกับวิถีชีวิตของประชาชน  การสัมมนานี้จะช่วยให้เกิดประเด็นในสังคมที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น 
 

‘รมว.กต.จีน’ ชี้!! สหรัฐฯ สกัดกั้นจีนไม่ได้ช่วยอะไร เตือน หากไม่เหยียบเบรก ระวังพลิกคว่ำ ตกราง

(7 มี.ค. 66) นายฉิน กัง รัฐมนตรีต่างประเทศจีน ซึ่งเป็นอดีตเอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐอเมริกา ก่อนได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งล่าสุดนี้ กล่าวว่า ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ เบี่ยงเบนไปอย่างร้ายแรง พร้อมเตือนถึงความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นตามมา

“การสกัดกั้นและปราบปรามจีน ไม่ได้ทำให้สหรัฐฯ ยิ่งใหญ่ และไม่อาจหยุดยั้งการฟื้นคืนพลังกลับขึ้นมาใหม่ของจีนได้” นายฉินกล่าว ระหว่างการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการครั้งแรก ในฐานะรัฐมนตรีต่างประเทศจีนคนใหม่

เมื่อถูกถามว่า ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างจีน-สหรัฐฯ ยังคงเป็นไปได้หรือไม่ ท่ามกลางความแตกต่างที่เพิ่มมากขึ้นระหว่างสองประเทศ นายฉินกล่าวว่า สหรัฐฯ ถือว่าจีนเป็นคู่แข่งหลักและเป็นความท้าทายทางภูมิรัฐศาสตร์ที่มากที่สุด แต่นี่ไม่ต่างจากการติดกระดุมเม็ดแรกผิด

“สหรัฐฯ เรียกร้องให้มีการสร้างแนวป้องกัน แต่สิ่งที่สหรัฐฯ ต้องการจริง ๆ คือ ไม่ต้องการให้จีนตอบโต้ด้วยคำพูดหรือด้วยการกระทำเมื่อถูกยั่วยุ” นายฉินกล่าว โดยอ้างถึงการแสดงความเห็นของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ เมื่อเดือนก่อนที่ว่า สหรัฐฯ จะแข่งขันอย่างเต็มที่กับจีน แต่ไม่ได้จะมองหาความขัดแย้ง

รัฐมนตรีต่างประเทศจีนกล่าวว่า หากสหรัฐฯ ไม่เหยียบเบรก และยังคงร้องคำรามไปตามเส้นทางที่ผิด ราวกั้นเท่าใดก็ไม่สามารถหยุดยั้งไม่ให้ตกรางและเกิดพลิกคว่ำได้ มันจะต้องเกิดความขัดแย้งและการเผชิญหน้า ใครจะเป็นผู้แบกรับหายนะที่จะเกิดขึ้นตามมา

พี่ชาย แต่งหน้าหีบศพน้องสาวด้วยต้นไม้ เสร็จงานแล้วไม่เหลือทิ้ง แจกจ่ายไปปลูกต่อ

พี่ชายวัย 56 ปีตกแต่งหน้าหีบศพน้องสาวด้วยไม้ดอกไม้ประดับ โดยเฉพาะต้นกุหลาบสีแดงที่น้องสาวชอบ เสร็จงานแล้วแจกผู้ที่มาร่วมงานนำไปปลูกต่อเพื่อจะได้ระลึกถึงผู้วายชนม์และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม มีผู้ที่สนใจจองต้นไม้ไปปลูกต่อจนหมดเกลี้ยงแล้ว

วันนี้ (7 มี.ค.66) ที่วัดท่าพญา หมู่ที่ 4 ต.ท่าพญา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของ น.ส.สนธยา เรืองดุก อายุ 48 ปี ซึ่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2566 โดยก่อนตายน้องสาวได้สั่งเสียเอาไว้ว่า ห้ามไม่ให้มีการตกแต่งหน้าหีบศพอย่างสิ้นเปลืองเนื่องจากผู้ตายเป็นคนสมถะและไม่ต้องการให้เป็นภาระของครอบครัวในเรื่องค่าใช้จ่ายที่สิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็น แต่เนื่องจากผู้ตายเป็นคนชอบปลูกต้นไม้ โดยเฉพาะต้นกุหลาบ ทำให้นายไสว เรืองดุก อายุ 56 ปีซึ่งเป็นพี่ชายและเป็นคนทำผ้าบาติกขายจึงผุดไอเดียตกแต่งหน้าโลงศพด้วยผ้าบาติกผืนใหญ่ลายดอกแคทลียา ฝีมือของตนจำนวน 1 ผืน ส่วนต้นไม้ได้นำมาจากบ้านส่วนหนึ่ง และหาซื้อตามร้านขายต้นไม้อีกส่วนหนึ่ง ในราคาหลักสิบจำนวน 100 ต้น

โดยเฉพาะดอกกุหลาบสีแดง ซึ่งผู้ตายชอบเป็นชีวิตจิตใจ นายไสว พี่ชายจึงซื้อมาตกแต่งหน้าหีบศพ เพื่อสื่อให้วิญญาณของน้องสาวรับรู้ว่ามีสิ่งสวยงามและต้นไม้ที่รักวางอยู่ข้างหน้า ซึ่งงบประมาณที่ใช้ตกแต่งหน้าหีบศพมีราคาแค่ 2,160 บาทเท่านั้นถูกกว่าการจัดแต่งด้วยดอกไม้สดหรือดอกไม้แห้งที่มีราคาหลักหมื่นเป็นอย่างมาก นอกจากจะช่วยประหยัดงบประมาณแล้วยังเป็นไม้ฟอกอากาศ สร้างสีสันและความสวยงาม ทำให้ผู้พบเห็นมีความสดชื่น เกิดความสบายตา สบายใจขึ้นและยังสามารถลดความเศร้าหมองลงได้มาก
 

ประธานฝ่ายกฎหมาย 'เพื่อไทย' ออกโรงเตือน 'สนธิญา' แจ้งเท็จ 'ยุบพรรค' ส่อคุก 5 ปี เชื่อมีบางพรรคอยู่เบื้องหลัง

(7 มี.ค.66) ชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย ชี้แจงต่อสื่อมวลชนและประชาชนกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวว่านายสนธิญาได้ยื่นคำร้องต่อ กกต. ให้ยุบพรรคเพื่อไทย โดยอ้างสาระของข้อร้องเรียนว่าหัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวปราศรัยว่านายวีระศักดิ์ฯ อดีต รมช.คมนาคม และทีม อบจ.และพรรคเพื่อไทยเป็นปรากฎการณ์ใหม่ เป็นกลุ่มเดียวกันเพื่อนำไปสู่แลนด์สไลด์ถือเป็นการกระทำที่ขัดมาตรา 28 มาตรา 29 มาตรา 72 และมาตรา 92 (3) ของ พรป.พรรคการเมือง และกรณีการแต่งตั้งนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นผู้ช่วยหาเสียง เป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 258 (2) เนื่องจากนายณัฐวุฒิ ฯ ถูกตัดสิทธิทางการเมืองไปแล้ว ขัดต่อคุณธรรมจริยธรรม

การปราศรัยของหัวหน้าพรรคเมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมาที่จังหวัดนครราชสีมา เป็นเพียงพูดว่านายวีรศักดิ์ฯ และทีม อบจ. และพรรคเพื่อไทยเป็นกลุ่มเดียวกัน มีความหมายเพียงว่า บุคคลตามที่กล่าวมาเป็นผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย เพื่อนำไปสู่การแลนด์สไลด์เท่านั้น ไม่ได้มีการกระทำใดที่กลุ่มบุคคลดังกล่าวเข้ามาควบคุม ครอบงำหรือชี้นำการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยในลักษณะที่จะทำให้พรรคเพื่อไทยและสมาชิกพรรคขาดความเป็นอิสระในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองแต่อย่างใดซึ่งการที่บุคคลใดจะสนับสนุนพรรคการเมืองใดนั้น ยอมเป็นสิทธิเสรีภาพของบุคคลนั้นที่จะพึงกระทำได้ อันถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาในทางการเมือง และพรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้มีการกระทำใดที่จะถือเป็นการยินยอมให้บุคคลเหล่านั้นกระทำการในลักษณะเช่นนั้นแต่อย่างใดเช่นกัน

ส่วนกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยในพื้นที่ต่างๆ นั้น พรรคเพื่อไทย ได้แต่งตั้งให้นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นผู้ช่วยหาเสียงของพรรค และยื่นเอกสารดังกล่าวต่อเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งไปก่อนหน้านั้นแล้ว แม้นายณัฐวุฒิฯ จะมีลักษณะต้องห้ามมิให้สมัคร ส.ส. หรือดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือเป็นสมาชิกพรรคก็ตาม แต่นายณัฐวุฒิ ฯ ยังคงเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งตามกฎหมายที่จะเป็นผู้ช่วยหาเสียงให้กับพรรคและผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยได้ ตามระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งกำหนดคุณสมบัติของผู้ช่วยหาเสียงไว้ว่า เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งเท่านั้น กรณีเช่นนี้พรรคได้ดำเนินการทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง ไม่ว่าการเลือกตั้งระดับชาติและการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น และ กกต.ก็ประกาศรับรองการเลือกตั้งที่ผ่านมา การที่นายสนธิญากล่าวอ้างรัฐธรรมนูญ มาตรา 258 (2) ซึ่งเป็นเรื่องการปฏิรูปประเทศ ไม่ใช่บทบัญญัติที่ห้ามบุคคลกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด จึงเป็นการกล่าวอ้างที่ไม่เป็นสาระ
 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top