Sunday, 22 June 2025
ค้นหา พบ 48959 ที่เกี่ยวข้อง

Paper Planes ปรับเนื้อร้องใหม่ให้เหมาะกลุ่มแฟนฟันน้ำนม พร้อมลดงานผับ เน้นงานกลางวัน หวั่นเด็กๆ ตามไปดู

ไม่ธรรมดาจริง ๆ ศิลปินวง ‘Paper planes’ ที่ใช้พื้นที่สยามดิสคัฟเวอรี่เป็นพื้นที่เปิดตัวเพลงใหม่ ‘ชัดเจน’ รวมถึงนิทรรศการมุมองความรักที่ทำให้ภาพการฟังเพลงมีความเข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยซิงเกิลนี้ ‘ฮาย-เซน’ เผยว่าอดไม่ได้ที่จะคาดหวัง แต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับสิ่งรอบตัวรวมถึงการประชาสัมพันธ์ด้วย

ยอมรับว่าเพลงดังกล่าว จริง ๆ ทำเสร็จก่อนเพลง ‘ทรงอย่างแบด’ แต่หลังจากเพลงดังกล่าวได้รับกระแสจากแฟนเพลงฟันน้ำนม ทำให้ต้องมีการปรับเนื้อท่อนแรปที่ก่อนหน้านี้มีคำหยาบออกไป เพื่อให้เหมาะสมกับฐานแฟนเพลง รวมถึงการรับงานในช่วงนี้ ยอมรับว่ามีการพูดคุยพยายามที่จะเลือกและลดรับงานในผับแล้วหันมารับงานในช่วงกลางวันแทน เพื่อหลีกเลี่ยงการที่ผู้ปกครองพาเด็ก ๆ มาชมในสถานที่ที่อาจไม่เหมาะสมกับวัย อีกท้้งยังช่วยเรื่องการนอนดึกของเด็ก ๆ ที่ต้องตื่นเช้าไปโรงเรียนในวันถัดไป รวมถึงเรื่องสุขภาพจากควันบุหรี่ต่าง ๆ ด้วย

รัฐบาลเปิด ‘ปฏิบัติการฝนหลวง’ แก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ใน ‘เชียงใหม่-แม่สอด’

(3 มี.ค. 66) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ติดตามความพร้อมของหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ใน 5 ภูมิภาค 7 ศูนย์ เพื่อเข้าแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ที่มีค่าเกินมาตรฐาน รวมถึงเข้าช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรที่ประสบภัยแล้ง สร้างความชุ่มชื้นให้กับป่าไม้ การป้องกันการเกิดไฟป่าและบรรเทาปัญหาหมอกควัน ซึ่งทุกหน่วยมีความพร้อมขั้นสูงสุด และสามารถออกปฏิบัติการในทุกโอกาสเมื่อสภาพอากาศเหมาะสม โดยเมื่อ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้รับเรื่องขอรับบริการจากพื้นที่ภาคเหนือ จังหวัดกําแพงเพชร ตาก ลําปาง อุตรดิตถ์ เชียงใหม่ และภาคตะวันออก จังหวัดฉะเชิงเทรา และระยอง แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถออกปฏิบัติการได้ เนื่องจากสภาพอากาศไม่เหมาะสม เช่น ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยระดับปฏิบัติการมีค่าต่ำกว่า 60% อากาศมีเสถียรภาพส่งผลให้เมฆไม่ก่อตัวในพื้นที่เป้าหมาย หรือกลุ่มเมฆในพื้นที่เป้าหมายไม่เข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการ

‘ชาวป่าแป๋’ สืบสานประเพณี ‘หาบข้าวขึ้นหลอง’ รำลึกธนาคารข้าวแห่งแรก จากทรัพย์ส่วนพระองค์ ร.9

ชาวป่าแป๋ อ.แม่สะเรียง สืบสานประเพณีหาบข้าวขึ้นหลอง น้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณฯ ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ ก่อตั้งธนาคารข้าวแห่งแรกของโลก แก้ปัญหาขาดแคลนข้าว 

องค์การบริหารส่วนตำบลป่าแป๋ พร้อมราษฎรบ้านป่าแป๋ ต.ป่าแป๋ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน น้อมสำนึกพระมหากรุณาธิคุณในหลวงรัชการที่ 9 ทรงแก้ไขปัญหาการขาดแคลนข้าวของราษฎรให้อยู่ดีกินดี โดยได้รับเกียรติจาก นายประเสริฐ จิตพลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เดินทางเป็นประธานในพิธีหาบข้าวขึ้นหลอง ตามโครงการจัดงานวันรำลึกพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์แก้ไขปัญหาการขาดแคลนข้าวของราษฎร

ทั้งนี้ นายทวีวัฒน์ วิสิฏสิริ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลป่าแป๋ ได้นำราษฎร บ้านป่าแป๋ ซึ่งเป็นชนเผ่าละว้า และพี่น้องชนเผ่ากะเหรี่ยงหมู่บ้านใกล้เคียง ร่วมพิธีทำขวัญข้าวและขนเข้าขึ้นยุงฉาง หรือ ธนาคารข้าว เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในหลวงรัชการที่ 9 และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถฯ เป็นการเผยแพร่และขยายผลแนวพระราชดำริการดำเนินงานของธนาคารข้าว แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ต่อยอดการดำเนินงานของธนาคารข้าว ส่งเสริมให้หมู่บ้านป่าแป๋ เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

‘พรรคเพื่อไทย’ รวมพลมือฉมัง ตั้ง ‘ทีมเศรษฐกิจ’ ชู ‘หมอพรหมินทร์’ นั่งประธาน ‘เศรษฐา’ ที่ปรึกษา

(3 มี.ค. 66) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ โดยมี นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เป็นประธาน นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เป็นรองประธาน พร้อมผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจด้านต่างๆ ได้แก่ นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ อดีตที่ปรึกษาด้านนโยบาย 3 นายกรัฐมนตรี, นายเศรษฐา ทวีสิน นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์, นายศุภวุฒิ สายเชื้อ นักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำของประเทศ, นายปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตผู้แทนการค้า และที่ปรึกษานายกด้านเศรษฐกิจและการต่างประเทศมาร่วมเป็นที่ปรึกษา

ด้าน นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า วิกฤตเศรษฐกิจของประเทศไทยหลังการระบาดของโรคโควิด-19 และภาวะสงครามรัสเซีย-ยูเครน ตลอดจนสงครามเศรษฐกิจจีน-สหรัฐอเมริกา ส่งผลทำให้ประชาชนไทยทุกข์ยากต่อเนื่องมากขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา จึงถือเป็นความท้าทายของพรรคการเมืองที่จะนำพาประเทศและประชาชนฝ่าพ้นวิกฤตครั้งนี้ให้จงได้ พรรคเพื่อไทย จึงได้เชิญบุคคลผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจชั้นนำของประเทศในด้านต่างๆ มาให้คำปรึกษา และร่วมเป็นกรรมการ โดยคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจของพรรคจะเป็นแกนกลางในการระดมความรู้ ความสามารถและความร่วมมือในการกอบกู้เศรษฐกิจของเราต่อไป เราจะบริหารให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น

ตำรวจไซเบอร์ ชี้แจงความคืบหน้าการดำเนินคดีหลอกลงทุน Forex TRB พบผู้เสียหายมากกว่า 300 ราย ความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. ขอเรียนชี้แจงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับ นายเตคุณ กับพวก รวม 5 ราย ที่ได้ร่วมกันหลอกลวงชักชวนผู้เสียหายหลายรายให้ร่วมลงทุนเก็งกำไรในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา (Forex) ผ่านนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ หรือโบรกเกอร์ FXTRB ดังต่อไปนี้

ตามนโยบายของรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ได้ให้ความสำคัญ และมีความห่วงใยต่อประชาชนจากภัยการหลอกลวงผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหลอกลวงชักชวนประชาชนให้ร่วมลงทุน อ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนสูงในเวลาอันรวดเร็ว พร้อมได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการสืบสวนสอบสวนและปราบปรามการกระทำความผิดตามกฎหมายอย่างต่อเนื่อง และจริงจัง    

เพื่อเป็นการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล และแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ซึ่งรับผิดชอบในด้านงานป้องกันปราบปราม ได้กำชับไปยัง พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดทำการสืบสวนสอบสวน ขยายผลหาความเชื่อมโยงในดดี ปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในทุกรูปแบบ มุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

คดีดังกล่าวเมื่อประมาณเดือน มี.ค.64 จนถึงปัจจุบัน ผู้เสียหายหลายรายถูกผู้ต้องหากับพวกชักชวนหลอกลวงให้ลงทุนเก็งกำไรในอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินสกุลต่างๆ บนแพลตฟอร์มออนไลน์ หรือเว็บไซต์ secure.elitefundgroup.com โดยมีนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ หรือโบรกเกอร์ FXTRB เป็นผู้ดำเนินการนำเงินของที่ผู้เสียหายไปลงทุนเก็งกำไรค่าเงินสกุลต่างๆ มีการแอบอ้างผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน ซึ่งหากมีการซื้อขายได้กำไร หรือขาดทุน ผู้เสียหายสามารถตรวจสอบผ่านบัญชีผู้ใช้ของตนได้ ในช่วงแรกผู้เสียหายสามารถถอนเงินได้ตามปกติ ต่อมาเมื่อประมาณเดือน ส.ค.65 ไม่สามารถถอนเงินได้ จึงเชื่อว่าถูกหลอกลวงและได้รับความเสียหาย จึงแจ้งความร้องทุกข์ผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ thaipoliceonline.com ให้ดำเนินดดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมาย

ต่อมาจากการสืบสวนสอบสวนพบว่า บัญชีธนาคารที่รับโอนเงินของผู้เสียหายมีการโอนเงินเข้าออกเป็นจำนวนมากผิดปกติวิสัย โดยผู้ต้องหากับพวกไม่ได้มีการนำเงินไปลงทุนตามที่กล่าวแต่อย่างใด กลับนำไปใช้จ่ายส่วนตัว และมีการนำเงินลงทุนของผู้เสียหายรายใหม่ หมุนเวียนไปให้กับผู้เสียหายรายเก่า ทำให้เชื่อว่าลงทุนแล้วได้ผลตอบแทนจริง พงส.บก.สอท.1 จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ยื่นคำร้องต่อศาลขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 5 ราย ในข้อหา “ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่ง ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ” ต่อมาเมื่อ 17 ม.ค. 66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.สอท. สามารถทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย พร้อมตรวจยึดของกลางหลายรายการ ส่ง พงส.ดำเนินคดีตามกฎหมายในเวลาต่อมา

กระทั่งเมื่อปลายเดือน ก.พ.66 ที่ผ่านมา พงส.บก.สอท.1 ได้สรุปสำนวนการสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาดังกล่าวไปยังพนักงานอัยการ สำนักงานคดีเศรษฐกิจ และทรัพยากร เพื่อพิจารณาดำเนินในส่วนที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายต่อไปแล้ว

โฆษก บช.สอท. กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอฝากเตือนประชาชนถึงแนวทางการลงทุนในรูปแบบต่างๆ ดังนี้

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top