Saturday, 21 June 2025
ค้นหา พบ 48929 ที่เกี่ยวข้อง

‘เพื่อไทย’ เปิดตัว ‘เศรษฐา’ พรุ่งนี้ นั่งที่ปรึกษาครอบครัวเพื่อไทย

‘เพื่อไทย’ เปิดตัว ‘เศรษฐา’ พรุ่งนี้ นั่งที่ปรึกษาครอบครัวเพื่อไทย คาดลงพื้นที่หาเสียงแทน ‘อิ๊งค์’ หลังอายุครรภ์ 7 เดือนกว่าแล้ว

(28 ก.พ. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (1 มี.ค.) เวลา 09.30 น. พรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และแกนนำพรรคเพื่อไทย จะร่วมแถลงข่าวเปิดตัว นายเศรษฐา ทวีสิน สมาชิกพรรค พท.และประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เข้ามาเป็นประธานที่ปรึกษาครอบครัวเพื่อไทย ซึ่งถือว่าเป็นการเปิดตัวทางการเมืองอย่างเป็นทางการครั้งแรกในนามพรรค พท.ก่อนหน้าที่นายเศรษฐา เคยร่วมลงพื้นที่เยาวราชหาเสียงร่วมกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เมื่อวันที่ 21 ม.ค.66

‘ชลน่าน-แพทองธาร-เศรษฐา-เพื่อไทย’ เล่นใหญ่!! โพสต์ภาพ-คลิป ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน’

(28 ก.พ. 66) พรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์คลิปความยาว 1 นาที รวบรวมนโยบายสำคัญของพรรคเพื่อไทย ที่ได้ทยอยประกาศในวาระต่าง ๆ ไปแล้ว ได้แก่…

1.) คิดใหญ่ : สร้างงาน 20 ล้านตำแหน่ง รายได้ 200,000 บาทต่อปี เป็นศูนย์กลางการขนส่งคมนาคมในภูมิภาค เป็นศูนย์กลางงานเทศกาลในภูมิภาคเอเชีย ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ภายในปี 2570 เงินเดือนปริญญาตรี/ข้าราชการ 25,000 บาท ภายในปี 2570 ปฏิรูปกองทัพเป็นทหารมืออาชีพ ปฏิรูประบบราชการทั้งระบบ รายได้เกษตรกรเพิ่มเป็น 3 เท่าภายในปี 2570 ต่อต้านการรัฐประหาร

2.) ทำเป็น : ยกระดับ 30 บาท บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทั่วไทย จองคิวได้เร็ว ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ไทยไปทั่วโลก 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ ปราบปรามผู้ผลิต และผู้ขายยาเสพติด GDP เติบโตเฉลี่ยอย่างต่ำปีละ 5% ปราบอาชญากรรมไซเบอร์ รัฐบาลดิจิทัลเพื่อประชาชน เพิ่มความโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน

ตำรวจไซเบอร์ เตือนภัยแก๊งคอลเซ็นเตอร์เจ้าหน้าที่ตำรวจตัวปลอมระบาดหนัก

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ขอฝากเตือนภัยมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหลอกลวงให้ประชาชนโอนมาตรวจสอบ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ดังนี้

ในปัจจุบันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้สร้างความเสียหาย และความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งภัยจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ (Call Center) ซึ่งเป็นกลุ่มมิจฉาชีพที่มีรูปแบบการทำงานเป็นทีม หรือเป็นขบวนการ มีการแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน หลอกลวงเหยื่อโดยการใช้ความกลัว ความโลภ และความไม่รู้ของประชาชนเป็นเครื่องมือ 

โดยที่ผ่านมาพบว่ามีหลากหลายรูปแบบ เช่น การแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่บริษัทขนส่งสินค้า แจ้งไปยังผู้เสียหายว่าบัญชีธนาคาร หรือพัสดุที่ส่งไปต่างประเทศมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด หรือบัญชีธนาคารของคุณถูกอายัด เป็นหนี้บัตรเครดิต เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด การฟอกเงิน มีคดีความ หรือหลอกลวงว่าได้เช็คเงินคืนภาษี หรือหลอกถามข้อมูลส่วนตัวเพื่อนำไปปลอมแปลงในการทำธุรกรรมต่างๆ รวมถึงหลอกให้ติดตั้งแอปพลิเคชันปลอม เป็นต้น

ที่ผ่านมาพนักงานสอบสวน บช.สอท. ได้รับแจ้งความร้องทุกข์จากผู้เสียหายหลายรายว่าถูกมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สังกัดสถานีตำรวจภูธรแห่งหนึ่ง สร้างความน่าเชื่อถือโดยการแจ้งข้อมูลผู้เสียหาย ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ ได้อย่างถูกต้อง จากนั้นจะให้ผู้เสียหายทำการแอดไลน์เพิ่มเพื่อนกับสถานีตำรวจปลอมดังกล่าว แล้วทำให้ผู้เสียหายเกิดความกลัวโดยแจ้งว่า ผู้เสียหายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินในคดีต่างๆ พร้อมส่งภาพการจับกุมผู้ต้องหา ภาพบัญชีธนาคารคารของกลาง และเอกสารคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรม ของสำนักงาน ปปง. เรื่องการส่งทรัพย์สินเข้าตรวจสอบฯ หรือเอกสารราชการอื่นๆ เช่น หมายเรียก หมายจับ ที่มีชื่อของผู้เสียหาย เป็นต้น รวมไปถึงการเพิ่มความน่าเชื่อถือโดยการใช้ไลน์วิดีโอคอลมายังผู้เสียหาย สวมเครื่องแบบเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แสดงบัตรประจำตัวข้าราชการ และสร้างสภาพแวดล้อมให้เหมือนอยู่ที่สถานีตำรวจจริง ต่อมามิจฉาชีพจะให้ผู้เสียหายโอนเงินที่มีอยู่ในบัญชีมาเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ เพื่อตรวจสอบว่ามีความเกี่ยวข้องหรือไม่ กระทั่งผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปยังบัญชีที่มิจฉาชีพเตรียมไว้ ทำให้ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญ และมีความห่วงใยต่อภัยการหลอกลวงผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภัยจากมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ได้โทรศัพท์ไปหลอกลวงเอาทรัพย์สินของประชาชน สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งรับผิดชอบงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ได้กำชับสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดเร่งดำเนินการปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง รวมถึงวางมาตรการป้องกันสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

ที่ผ่านมา กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชาผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบ

การกระทำลักษณะดังกล่าวเข้าข่ายความผิดฐาน “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับและความผิดฐานฉ้อโกง มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง” ซึ่งในฐานความผิดดังกล่าวเป็นความผิดต่อส่วนตัว ผู้เสียหายจะต้องเข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนในท้องที่ เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด รวมถึงเตรียมหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น หลักฐานการโอนเงิน บันทึกการสนทนา รายการเดินบัญชีธนาคาร เป็นต้น เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการดำเนินคดี

โฆษก บช.สอท. กล่าวอีกว่า สิ่งแรกที่มิจฉาชีพมักใช้คือการสร้างความน่าเชื่อถือ ใช้จิตวิทยา เล่นกับอารมณ์ความรู้สึกของคน มีการเขียนบทสนทนาเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ เพื่อทำให้เหยื่อคล้อยตามหลงเชื่อ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย เช่น การใช้ระบบตอบรับอัตโนมัติ IVR (Interactive Voice Response) หรือเทคโนโลยี Deepfake เป็นต้น เพราะฉะนั้นประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชน ให้พึงระมัดระวังการรับสายโทรศัพท์หมายเลขที่ไม่คุ้นเคย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมายเลขที่โทรมาจากต่างประเทศ ปัจจุบันจะมีเครื่องหมาย+697 ให้ท่านตั้งสติ อย่าตื่นตระหนก หลงเชื่อง่ายๆ และอย่าเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลเลขบัตรต่างๆ รหัสใช้ครั้งเดียว หรือ One Time Password (OTP) กับผู้ใดโดยเด็ดขาด

‘สว.ดาวน้อย’ รับรางวัล 'โพธิ์ทองคนต้นแบบ' รางวัลสำหรับฆราวาสผู้ส่งเสริมพุทธศาสนา

ประธานองคมนตรี ร่วมงานครบรอบ 90 ปี แห่งการก่อตั้งพุทธสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมมอบมอบโล่เกียรติคุณรางวัล 'โพธิ์ทองคนต้นแบบ' แก่ผู้ส่งเสริมพระพุทธศาสนา

เมื่อวันที่ (27 ก.พ. 66) ที่ห้องเจ้าพระยา หอประชุมกองทัพเรือ ถนนอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นประธานมอบโล่รางวัลเกียรติคุณ 'โพธิ์ทองคนต้นแบบ' แก่ฆราวาสผู้ส่งเสริมทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา โดยมี ศ.ดร.ศุลีมาศ สุทธิสัมพัทน์ นายกพุทธสมาคมแห่งประเทศไทย พร้อมคณะกรรมการจัดงาน '90 ปี แห่งความยั่งยืน ร่มเย็นเป็นสุข เจริญด้วยธรรมะ' ให้การต้อนรับ

โฆษก ตร. เตือน หยุดแชร์ข่าวเก่าปี 62 'ชายกร่างป่วนจุดตรวจ' คนที่ปรากฏในคลิปถูกดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว ทั้งนี้ขอความร่วมมือประชาชนตรวจสอบข่าวสารที่ได้รับก่อนแชร์

(28 ก.พ. 66) พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า “ตามที่ปรากฏมีการแชร์คลิป “ตำรวจก็ไม่มีศักดิ์ศรีเลยปล่อยให้ชาย อ้างว่าเป็นทหาร ซึ่งไม่รู้ว่าเป็น ทหารจริงหรือไม่ ถือปืนกร่างแบบนี้ แล้วไม่ยอมจับกุมเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่รู้สน.ไหน” จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์นั้น

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.สั่งการให้ตรวจสอบ จนได้รับรายงานว่า  เหตุการณ์เป็นข่าวเก่าที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 ก.ย.2562 เวลาประมาณ 03.00 น. ขณะที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ตั้งจุดตรวจบนถนนพุทธรักษา ได้มีชายที่ปรากฎในคลิป คือ ร.ต.อ.สมยศ รอง สว. (สอบสวน) สภ.สำโรงใต้ภ.จว.สมุทรปราการ  ขับรถกระบะคันดังกล่าวเข้ามาในด่าน เหยียบกรวยยาง ตำรวจอาสาที่อยู่ในเหตุการณ์จึงส่งสัญญาณให้รถหยุดก่อนที่ ร.ต.อ.สมยศ เดินถือปืนลงมาจากรถและก่อกวน ตามที่ปรากฎในคลิป ซึ่งต่อมาพนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดีอาญา แจ้งข้อกล่าวหา แก่ ร.ต.อ.สมยศ ตามขั้นตอนและกระบวนการแล้ว 

ขอยืนยันว่า ข่าวที่มีการแชร์ เป็นข่าวเก่า และทาง ตร.ได้ดำเนินการกับบุคคลที่ปรากฏในคลิปอย่างเด็ดขาดแล้ว จึงขอความร่วมมือพี่น้อง ประชาชนหยุดแชร์ ซึ่งลักษณะของข่าวดังกล่าวข้างต้น กระทบต่อความเชื่อมั่นของพี่น้องประชาชนต่อการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top