ในวันเลือกตั้งแต่ละครั้ง หนึ่งในเหตุการณ์ที่มักจะพบเจอได้อยู่เป็นประจำ นั่นคือ 'การฉีกบัตรเลือกตั้ง' ซึ่งตามกฎหมายแล้ว มีโทษปรับ จำคุก และเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง ส่วนใหญ่จะเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือทำโดยจงใจเพื่อต้องการแสดงออกทางการเมือง
ภาพจำการฉีกบัตรเลือกตั้งที่ถูกพูดถึงอย่างมาก ต้องย้อนความไปถึงบรรยากาศการเมืองในช่วงต้นปี 2549 ที่เริ่มขมึงเกลียว เมื่อ 'ทักษิณ ชินวัตร' นายกรัฐมนตรีขณะนั้นประกาศยุบสภา ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ หลังถูกกล่าวหากรณีครอบครัวทำการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปโดยเลี่ยงภาษี
และเมื่อทั้งวุฒิสภาและศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องเพื่อพิจารณา ฝ่ายค้านจึงขอยื่นอภิปรายทั่วไป เพื่อขอให้ตอบซักถามต่อสาธารณะ แต่ 'ทักษิณ' ปฏิเสธด้วยการเลือกยุบสภา ก่อนประกาศเลือกตั้ง วันที่ 2 เมษายน 2549
บรรยากาศการเมืองตึงเครียดมากขึ้น เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย และพรรคมหาชน ประกาศ 'บอยคอต' ไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตัั้ง และมีการรณรงค์ให้ 'โนโหวต' แสดงออกต่อการเลือกตั้งที่ไม่ชอบธรรม
แต่สำหรับ 'รศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร' หัวหน้าภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯในขณะนั้น กลับเลือกวิธีการ 'อารยะขัดขืน' ในรูปแบบที่ต่างไป โดยช่วงสายของวันที่ 2 เมษายน 2549 รศ.ไชยันต์ ไชยพร เดินทางไปที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ เพื่อใช้สิทธิ ที่หน่วยลือกตั้งที่ 62 เขตสวนหลวง
หลังจากเดินเข้าคูหาและกาช่องไม่เลือกใคร เจ้าตัวได้ถือบัตรเลือกตั้งทั้งแบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อ ออกมา ประกาศว่าขอทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ก่อนจะ 'ฉีกบัตรเลือกตั้ง' ต่อหน้าสื่อมวลชน และผู้ที่เดินทางมาให้กำลังใจ
จากนั้น อาจารย์ไชยันต์ ได้อ่านแถลงการณ์ชี้แจงเหตุผลที่กระทำการดังกล่าว ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประเวศจะเชิญตัวไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนฐานกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง มาตรา 108 ซึ่งมีโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 20,000 บาทและถูกเพิกถอนสิทธิ์การเลือกตั้ง 5 ปี