Wednesday, 18 June 2025
ค้นหา พบ 48864 ที่เกี่ยวข้อง

เมืองไทยเปลี่ยนไป 'ลืมตา-มองไทย' แบบรอบทิศ

(16 ก.พ.66) เปลวสีเงิน ได้นำเสนอบทความ ในหัวข้อ 'สโลแกนใหม่' เพื่อไทย โดยมีเนื้อหาดังนี้…

เช้าวาน...
ลุ้นซะปวดกระเพาะปัสสาวะ กลัวสภานัด ‘ด่าฟรี’ ส่งท้ายจะล่ม
แต่ก็ ‘ครบองค์ประชุม’ ไปแบบต้องลุ้นอย่างว่านั่นแหละ!
พิธีกรรม ‘ด่านายกฯ ฟรี’ ก็ดำเนินการไปได้
ท่ามกลางจำนวน ส.ส.ที่เหลือกะร่อย-กะหริบ จนผีกลัวผีสภาหลอก

เหตุที่ ‘ไม่ล่ม’
เพราะงาน ‘ด่านายกฯ ฟรี’ (๑๕-๑๖ ก.พ.๖๖) นี้ ฝ่ายค้าน-เพื่อไทย เป็นเจ้าภาพ จึงมาเสียบบัตรกันครบ

ส่วนเหตุที่ล่มเป็นประจำ
เพราะฝ่ายรัฐบาลเป็นเจ้าภาพประชุมผ่านร่างกฎหมาย ฝ่ายค้านไม่ช่วยงาน คือมา...แต่ไม่เสียบบัตรเป็นองค์ประชุมบวกกับ ส.ส.ฝ่ายเจ้าภาพ ‘สันหลังยาว’

สภาก็เลย ‘ล่มสร้างสถิติ’!

ผมก็ฟังบ้าง-ไม่ได้ฟังบ้าง เพราะรู้อยู่ ญัตติอภิปรายทั่วไป เป็นญัตติ ‘ตีหัวเข้าบ้าน’ ของฝ่ายค้าน เสริมการหาเสียง แบบมีโทรทัศน์ถ่ายทอดให้ฟรี

เท่าที่ฟัง ฝ่ายค้านก็แผ่นเสียงตกร่องอยู่ ๓-๔ ประเด็นเดิมๆ โดยไม่ลืมตาดูโลกว่า ประเด็นที่พูดกับจริงที่เป็นวันนี้

มันตรงกันมั้ย?

เอาแต่ ‘อคติ-คิดแค้น’ เป็นตัวตั้ง

แล้วก็ด้อยค่านายกฯ ไปเรื่อย หลายเรื่อง รัฐบาลทำจนเห็นทนโท่ตำตา แต่ฝ่ายค้านก็ยังหลับหู-หลับตาพูด ‘สวนทาง’ กับข้อเท็จจริงที่รัฐบาล ‘แก้ไข-พัฒนา’ แม้แต่คนพิการตายังรู้
แต่พวก ‘พิการใจ’ ทั้งไม่รู้ และไม่เห็น น่าสมเพชจัง!

มันก็เลยกลายเป็นว่า ที่ด่าหวังประจานรัฐบาล มันย้อนกลับประจานฝ่ายค้านซะเอง
ทั้งเรื่องที่ว่า ๘ ปี รัฐบาลทำเศรษฐกิจพัง, ประชาชนจะอดตาย, ประเทศล้าหลัง ไม่มีการพัฒนา, การท่องเที่ยว-เทคโนโลยีสื่อสารเฮงซวย และ ฯลฯ

ผมฟังจน ‘หูจำ’ ได้เองว่า ประเด็นที่ยกมาด้อยค่ารัฐบาล ๘ ปี จาก ๒๕๕๗-๒๕๖๖ ฝ่ายค้านก็ด่าเรื่องเหล่านี้ ก๊อปปี้เดิมๆ
เปิดกะโหลก ลืมตา แล้วรูดซิป ให้เรียบร้อย จากนั้น มองประเทศไทยไปรอบๆ ซิครับ

ถ้าจะให้ดี ไปหาภาพเก่าๆ ของประเทศไทย ทั้งเหนือ-ใต้-ออก-ตก-อีสาน-กลาง และกรุงเทพฯ ในด้านการพัฒนา
โดยเฉพาะด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและด้านโทรคมนาคม มาเปรียบเทียบกันดู
จะเห็น ‘ประเทศไทย’ ถอดรูป จากก่อนปี ๕๗ ที่เพื่อไทยเป็นรัฐบาล ‘โกงจำนำข้าว’ จนแทบไม่ได้
เผลอๆ บางคนอาจถาม....’นี่ ที่ไหนเนี่ย?’ ด้วยซ้ำ

ค่าที่ว่า กายภาพประเทศไทย ได้รับการพัฒนาแทบทุกด้านจน ‘เช้งวับ’ ยิ่งกว่าไปทำศัลยกรรมหน้ามาจากเกาหลีซะอีก!
จะเอาด้านไหนก่อนล่ะ เอาเฉพาะที่ ‘โลก’ เขาเห็นและเขายอมรับก็แล้วกัน เผื่อ "คนใจบอด" จะเปิดใจรู้บ้าง

ด้านการเงินนะ
ไทยมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศเป็นอันดับ ๒ ของอาเซียน อันดับ ๑๖ ของโลก ดูเฉพาะด้านอาเซียนก็แล้วกัน

๑.สิงคโปร์ ๓๘๘,๒๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐ
๒.ไทย ๒๑๖,๖๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐ
๓.อินโดนีเซีย ๑๓๗,๒๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐ
๔.มาเลเซีย ๑๑๔,๖๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐ
๕..ฟิลิปปินส์ ๙๖,๐๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐ

๕ อันดับ พอเป็นสังเขป .......
เพื่อไทยเอียงหูมาใกล้ๆ ปากผมหน่อยซิ จะกระซิบอะไรให้ฟัง แล้วอย่าไปบอกใครนะ

‘รัฐบาลประยุทธ์’ กู้ชาติ-กู้เศรษฐกิจ จนไทยเรารวย ถึงขั้น IMF เตรียมขอกู้ ตั้งเพดานไว้ตั้ง ๑๔,๑๔๗ ล้านบาทแน่ะ

เอ้า...ไปดูด้านเศรษฐกิจบ้าง จากผลสำรวจของต่างชาติ
‘เอียน แพสโค’ ประธานบริหาร ‘แกรนท์ ธอนตัน ประเทศไทย’ มีผลสำรวจความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจในประเทศไทย ครึ่งหลังของปี ๖๕

โดยสำรวจธุรกิจขนาดกลางทั่วโลก พบว่า…
‘ธุรกิจไทย’ เป็นผู้นำของโลกด้านสถานภาพทางธุรกิจและเป็นครั้งแรกในรอบ ๕ ปี ที่สภาพธุรกิจของประเทศไทย

มี ‘ปัจจัยบวก’ แซงหน้าประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นคู่แข่งในกลุ่มที่เป็นฐานการลงทุน เช่น เวียดนาม สิงคโปร์

ส่งผลให้กลุ่มธุรกิจที่เคยไปลงทุนในประเทศเหล่านั้น ย้ายกลับเข้ามาลงทุนในประเทศไทย
เพราะมีจุดแข็งในเรื่อง ‘โครงสร้างพื้นฐาน’ ที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว รวมถึงการส่งเสริมให้เกิดการลงทุน และการอยู่อาศัย โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์

พูดถึงรถยนต์.....
ไทยเป็นแชมป์อาเซียน ‘ส่งออกรถยนต์’ ทั้งเก๋ง ทั้งกระบะ อันดับ ๑ สูงถึง ๑,๘๘๓,๕๑๕ คัน, อินโดฯ อันดับสอง ๑.๔ ล้านคัน และมาเลย์ อันดับสาม ๗ แสนกว่าคัน และ...อ้อ ส่งออกของไทย ปี ๖๕ นำเงินเข้าประเทศ ๙.๙ ล้านล้านบาท สูงเป็นประวัติการณ์

รู้แล้ว อย่าเฉิ่ม หลับตาอภิปราย ‘รัฐบาลประยุทธ์บริหารไม่เป็น โง่ ทำเศรษฐกิจประเทศพังฉิบหาย’ อีกล่ะ อายเค้า!
แล้วดันคุย นายกฯ ประยุทธ์ ‘ลอกนโยบาย’ เพื่อไทยไปทำ สะเหล่อดกจริงๆ

นโยบายเพื่อไทย ‘เพิ่งคลอด’ มดลูกยังไม่ทันกลับเข้าอู่ด้วยซ้ำ แล้วพูดได้ไงว่า นายกฯ ลอกนโยบายไปทำ
ถ้าลอกปุ๊บวันนี้-ติดปั๊บพรุ่งนี้ นั่นมันไม่ใช่การทำงานด้านบริหาร-พัฒนาประเทศแล้วละ โม้ไปเรื่อย

เอ้า....ดูอีกสถิติ ที่ว่า ๘ ปี มีแต่ล้มเหลวทุกด้านนั่นน่ะ ข่าวจาก ‘กรุงเทพธุรกิจ’ หลายวันก่อน
ไทยติดอันดับ ๑๐ ประเทศที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในเอเชีย อันดับ ๓ ในอาเซียน รองจากสิงคโปร์และอินโดนีเซีย

ตัวชี้วัดที่แข็งแกร่งของไทยคือ.....
ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ อยู่ในอันดับที่ ๗
เป็นผลมาจากการเข้าร่วมซัพพลายเชนในภูมิภาคและมีความสัมพันธ์ทางการค้าการลงทุนที่แข็งแกร่งกับประเทศที่ติดอันดับในดัชนีอิทธิพลเอเชีย

๑๐ อันดับประเทศที่ ‘ทรงอิทธิพลที่สุด’ ในเอเชีย

๑.สหรัฐ ๒.จีน ๓.ญี่ปุ่น ๔.อินเดีย ๕.รัสเซีย ๖.ออสเตรเลีย
๗.เกาหลีใต้ ๘.สิงคโปร์ ๙.อินโดนีเซีย และ ๑๐.ไทย

'บิ๊กตู่' ลั่น!! รัฐบาลนี้ไม่มีขายบ้านแถมสัญชาติ แถมยังไม่พบ 'รมต.หนีคุก-หนีไปต่างแดน'

(16 ก.พ. 66) ผู้สื่อข่าวรายงาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงกรณีตู้ห่าว ว่าพฤติกรรมเกิดขึ้นมานานพอสมควร ก่อนปี 57 โดยเข้ามาในประเทศปี 54 และมีการอนุญาตเรื่องสัญชาติ พฤติกรรมเหล่านี้ทราบในวันนี้หรือ ตนไม่แน่ใจว่าที่ผ่านมาไม่มีใครทราบเลยหรือไม่ ตนได้ให้ตรวจสอบย้อนหลังว่าเงินเหล่านี้ใช้กันอย่างไร เมื่อไหร่

"ทราบว่าใช้ซื้อกิจการอสังหาริมทรัพย์ ยกหมู่บ้าน ไม่ทราบว่าบริษัทของใคร สำหรับรัฐบาลนี้ไม่มีแน่นอนขายบ้านแล้วแถมสัญชาติ ถ้าตรวจสอบให้ดีจะทราบว่าภรรยาของนายตู้ห่าวมีความเกี่ยวข้องกับอดีตรัฐมนตรีของบางพรรคการเมือง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า การออกหมายเรียกนายอุปกิต ปาจรียางกูร ส.ว. ของพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล และกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด จับกุมผู้เกี่ยวข้องและพัวพัน โดยเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเข้าไปดำเนินตามอำนาจหน้าที่ ส่วนการเพิกถอนหมาย จับเป็นดุลยพินิจของฝ่ายตุลาการ ที่มีความเห็นว่าให้พนักงานสอบสวนไปออกหมายเรียกก่อน ซึ่งตนไม่ได้ช่วยใคร ไม่ก้าวก่าย แต่เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม และเป็นเรื่องความผิดนอกราชอาณาจักรที่พนักงานสอบสวน ต้องร่วมทำการสอบสวนกับอัยการตามที่อัยการสูงสุดมอบหมายตามกฎหมาย

สำหรับกรณีธุรกิจจีนสีเทา ผับจินหลิง ก็ดำเนินคดีตามกฎหมาย ที่บอกว่ามีการย้ายคนขยันคนทำงานนั้น เป็นเรื่องของการแต่งตั้งโยกย้ายซึ่งอยู่ในอำนาจของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

'รทสช.' เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.เพชรบูรณ์ ยัน พร้อมเลือกตั้ง ย้ำ พรรคไม่ใช้ความเกลียดชังในการขับเคลื่อนประเทศ

(16 ก.พ. 66) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้การต้อนรับและสวมเสื้อพรรคให้กับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เพชรบูรณ์ ทั้ง 6 เขตเลือกตั้ง ประกอบด้วย เขต 1 น.ส.ฐันญาภา โพธิสาร, เขต 2 นายณัฐพล ขวัญแจ่ม, เขต 3 ดร.ภัทรดร พุทธนุรัตนะ, เขต 4 นายสุทธิพงษ์ จุลกะ, เขต 5 นายทองสุข บำรุงนอก และ เขต 6 นายสมโภชน์ นวลสาลี โดยมี ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานร่วมให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

นายเอกนัฏ ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคขอส่งบุคคลคุณภาพให้เป็นตัวเลือกของพี่น้องชาว จ.เพชรบูรณ์ในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ ขอให้ชาวเพชรบูรณ์ทุกคนให้การต้อนรับผู้สมัครของพรรค ถ้าใครได้เจอก็สามารถเข้ามาทักทาย ถ้ามีข้อเสนอแนะเรายินดีรับฟังปัญหาของทุกท่าน เพื่อจะนำข้อเสนอแนะต่าง ๆ มาเป็นนโยบายของพรรค เพื่อกำหนดวิธีการแนวทางการทำงานภายใต้พรรครวมไทยสร้างชาติ

ทั้งนี้ พรรคเรามีความพร้อมในการเลือกตั้งมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่มีการตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่เมื่อเดือนสิงหาคม 2565 จนกระทั่งในที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเข้ามาเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ เราก็มีความยินดีที่จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในนามของพรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อที่จะมาสานต่อภารกิจ

ทั้งนี้ มีหลายนโยบายที่เราได้ทำไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การดูแลช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร รวมไปถึงเรื่องสวัสดิการต่าง ๆ ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือที่เราเรียกกันว่า 'บัตรลุงตู่'

จากนี้ไป พรรคก็จะได้นำเสนอนโยบาย เป็นการต่อยอดจากผลงานเดิมของรัฐบาล ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการอัปเกรดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การดูแลราคาพืชผลการเกษตร การแก้ปัญหาที่ดินทำกิน รวมไปถึงการพัฒนาต่อยอดโครงสร้างพื้นฐาน ที่ได้ทำมาอย่างต่อเนื่อง จากนี้ไปเราก็จะเน้นให้ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคทุกคน ได้มีส่วนร่วมกับการผลักดันการแก้ไขปัญหาด้วยการแก้ไขกฎระเบียบ กฎกติกาต่าง ๆ โครงการรื้อ-ลด-ปลด-สร้าง โดย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค

'ชัยวุฒิ' ขอบคุณฝ่ายค้าน ชี้ข้อเสนอแก้กลุ่มทุนสีเทา ยันรัฐบาลเร่งแก้อยู่ แนะ!! ต้องมี 'กม.-ระเบียบ' เอื้อ

'รมว. ดีอีเอส' ขอบคุณฝ่ายค้านที่ให้ข้อเสนอแนะหลายด้าน โดยเฉพาะประเด็นกลุ่มทุนจีนสีเทา ซึ่งรัฐบาลได้เร่งแก้ปัญหา ด้วยการออก พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

(16 ก.พ.66) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นวันแรก ว่า ขอบคุณฝ่ายค้านที่ได้พูดประเด็นปัญหาหลายอย่าง ซึ่งหลายเรื่องเป็นเรื่องที่สะสมมานาน รัฐบาลพยายามแก้ไขอยู่ นำไปสู่นโยบายของพรรคการเมืองต่าง ๆ ที่จะแก้ปัญหาให้กับประชาชนในรัฐบาลสมัยหน้า โดยเฉพาะธุรกิจสีเทา ที่ผ่านมารัฐบาลได้ดำเนินการปราบปรามมาอย่างต่อเนื่อง และที่มีข่าวในช่วงนี้ เนื่องจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจไปปราบปรามและดำเนินคดีอย่างจริงจัง แต่ธุรกิจสีเทาเหล่านี้ได้ทำมานานแล้วกว่า 10 ปี ไม่ได้พึ่งมีในสมัยนี้ ซึ่งเป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง เพราะทุนจีนสีเทาเหล่านี้มักชอบวิ่งไปหาผู้มีอำนาจ ดังนั้น ต้องแก้ที่กฎหมาย และกฎระเบียบ เพื่อลดปัญหาดังกล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top