'บิ๊กตู่' ลั่น!! รัฐบาลนี้ไม่มีขายบ้านแถมสัญชาติ แถมยังไม่พบ 'รมต.หนีคุก-หนีไปต่างแดน'

(16 ก.พ. 66) ผู้สื่อข่าวรายงาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงกรณีตู้ห่าว ว่าพฤติกรรมเกิดขึ้นมานานพอสมควร ก่อนปี 57 โดยเข้ามาในประเทศปี 54 และมีการอนุญาตเรื่องสัญชาติ พฤติกรรมเหล่านี้ทราบในวันนี้หรือ ตนไม่แน่ใจว่าที่ผ่านมาไม่มีใครทราบเลยหรือไม่ ตนได้ให้ตรวจสอบย้อนหลังว่าเงินเหล่านี้ใช้กันอย่างไร เมื่อไหร่

"ทราบว่าใช้ซื้อกิจการอสังหาริมทรัพย์ ยกหมู่บ้าน ไม่ทราบว่าบริษัทของใคร สำหรับรัฐบาลนี้ไม่มีแน่นอนขายบ้านแล้วแถมสัญชาติ ถ้าตรวจสอบให้ดีจะทราบว่าภรรยาของนายตู้ห่าวมีความเกี่ยวข้องกับอดีตรัฐมนตรีของบางพรรคการเมือง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า การออกหมายเรียกนายอุปกิต ปาจรียางกูร ส.ว. ของพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล และกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด จับกุมผู้เกี่ยวข้องและพัวพัน โดยเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเข้าไปดำเนินตามอำนาจหน้าที่ ส่วนการเพิกถอนหมาย จับเป็นดุลยพินิจของฝ่ายตุลาการ ที่มีความเห็นว่าให้พนักงานสอบสวนไปออกหมายเรียกก่อน ซึ่งตนไม่ได้ช่วยใคร ไม่ก้าวก่าย แต่เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม และเป็นเรื่องความผิดนอกราชอาณาจักรที่พนักงานสอบสวน ต้องร่วมทำการสอบสวนกับอัยการตามที่อัยการสูงสุดมอบหมายตามกฎหมาย

สำหรับกรณีธุรกิจจีนสีเทา ผับจินหลิง ก็ดำเนินคดีตามกฎหมาย ที่บอกว่ามีการย้ายคนขยันคนทำงานนั้น เป็นเรื่องของการแต่งตั้งโยกย้ายซึ่งอยู่ในอำนาจของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้ชี้แจงกรณี นายหยู ฉินซี ตั้งสมาคมปลอมเพื่อช่วยทำวีซ่านำทุนจีนสีเทาเข้าไทย ว่า เกิดขึ้นระหว่างปี 63-64 จำนวน 7 พันคน โดยมีเจ้าหน้าที่ตม.คอยช่วยเหลือ ขณะนี้ตำรวจรวบรวมหลักฐานและสืบสวนสอบสวน ทั้งรายงานให้สังคมทราบเป็นระยะ ตนยืนยันมาโดยตลอดจะไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องเหล่านี้เด็ดขาด เพราะทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน

“ปัญหาเรื่องคอร์รัปชัน ผมไม่อยากย้อนกลับไป หลายท่านยังกล้าพูด อดีตรัฐมนตรีหลายคนมีปัญหานี้ ติดคุกบ้าง หนีไปต่างประเทศก็มี รัฐบาลของผมตั้งแต่ปี 57 ยังไม่มีใครติดคุกสักคน ส่วนประเด็นกอ.รมน. ไม่เห็นมีปัญหาอะไรกับใคร คนดีๆไม่เห็นมีปัญหา มีแต่ท่าน(น.ส.อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล) ที่มีปัญหา ท่านมีปัญหากับกฎหมายทุกฉบับอยู่แล้วเท่าที่สังเกต ผมไม่ว่าอะไรท่าน แต่อย่าลืมว่าคนที่เหลือก็อยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน เขาไม่เดือดร้อน มีคุณคนเดียวที่เดือดร้อน หรือหลายคนเดือดร้อนก็ไม่รู้เหมือนกัน” นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวด้วยว่า การเดินหน้าแก้ไขปัญหาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นไปได้เยอะแล้ว แต่อย่าลืมว่ามีความร่วมมือนอกประเทศด้วย ซึ่งนั่นเป็นประเด็นว่าไม่อยากให้พูดมากนัก ถ้าไม่รู้อย่าพูด และอย่านำคลิปออกมาอีก คนที่อยู่ภาคใต้ทราบอยู่ว่ามีใครเกี่ยวข้องอยู่แล้ว ตนระมัดระวังอย่างถึงที่สุด เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับศาสนา ประวัติศาสตร์ ชาติพันธุ์ อยากถามว่ารู้เรื่องหรือไม่

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ยาเสพติด ถ้าทราบว่าใครเกี่ยวข้องขอให้แจ้งมาจะได้ดำเนินการตามกฎหมาย รัฐบาลพยายามแก้ไข คนชั่วก็ชั่วมากขึ้นมีวิธีการใหม่มาสู้อีก ส่วนที่บอกว่ามีการนำเข้ายาเสพติดจำนวนมากและไทยเป็นแกนกลางส่งออกของอาเซียนและโลก เราก็ต้องแก้ไขปรับปรุง ไม่ใช่ปราบยาเสพติดด้วยวิธีการฆ่า 2,000 ถึง 3,000 คน ถูกหรือไม่ ทำได้หรือไม่

ผมเดินทางไปต่างประเทศไม่เห็นมีรังเกียจ สักคน คุยกับตนทุกประเทศ การประชุมต่างประเทศก็เชิญไป ทั้งยังชื่มชนวิธีการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 ประชาชนอยู่ได้ โรงงานอุตสาหกรรมไม่ต้องปิดงาน แรงงานทำงานได้ นี่คือสิ่งดีๆที่เกิดขึ้น แต่ท่านมองไม่เห็น เห็นแต่สิ่งไม่ดี บางอย่างท่านไม่เข้าใจ บางอย่างท่านไม่ร่วมมือ และบางอย่างท่านก็ไม่เคารพกฎหมาย อยากทราบว่าถ้าท่านมีอำนาจขึ้นมา ท่านจะไม่มีกฎหมายเลยหรือไม่ แยกคนทุกกลุ่มทุกฝ่าย ผมเห็นว่าเป็นประชาธิปไตยที่ไม่ถูกต้อง แต่ที่ถูกต้องคือมีสิทธิ เสรีภาพ และหน้าที่ และที่สำคัญต้องไม่ละเมิดผู้อื่น เด็กของเราหลายคนถูกบิดเบือนไป กรุณารับผิดชอบในวันหน้าด้วย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว


ที่มา: https://www.thaipost.net/hi-light/325373/