Sunday, 22 June 2025
ค้นหา พบ 48945 ที่เกี่ยวข้อง

ตำรวจภูธรภาค 7 แถลงผลระดมจับกุมความผิดอาวุธปืน วัตถุระเบิด เครื่องกระสุนปืนที่ผิดกฎหมาย และผลการจับกุมคดียาเสพรายสำคัญในพื้นที่ภาค 7 พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 แสนเม็ด ไอซ์ 40 กก.และของกลางจำนวนมาก

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 ที่บริเวณด้านหน้าอาคารที่ทำการตำรวจภูธรภาค 7  อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค7 นายยงยุทธ สวนทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วยรองบัญชาการตำรวจภูธรภาค7 และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลถลงผลระดมจับกุมความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน วัตถุระเบิด เครื่องกระสุนปืน การจำหน่ายอาวุธปืน วัตถุระเบิด เครื่องกระสุนปืนโดยผิดกฎหมาย (On Ground) และจำหน่ายอาวุธปืน วัตถุระเบิด เครื่องกระสุนปืน ผ่านระบบออนไลน์และโซเซียลมีเดียโดยผิดกฎหมาย (Online) ระหว่างวันที่ 1 - 5 ก.พ.66 ที่ผ่านมา โดยแยกความผิด 

1.) ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน วัตถุระเบิด เครื่องกระสุนปืน จำนวน 582 คดี ผู้ต้องหา จำนวน 578 คน 
2.) ความผิดเกี่ยวกับจำหน่ายอาวุธปืน วัตถุระเบิด เครื่องกระสุนปืน ( On Ground ) จำนวน 2 คดี ผู้ต้องหา จำนวน 2 คน อาวุธปืนมีทะเบียน จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืน จำนวน 1 นัด 
3.) ความผิดเกี่ยวกับจำหน่ายอาวุธปืน วัตถุระเบิด เครื่องกระสุนปืน ( Online) จำนวน 4 คดี ผู้ต้องหา จำนวน 4 คน และผลการจับกุมคดียาเสพรายสำคัญในพื้นที่ภาค 7 ผู้ต้องหาจำนวน 7 คน ช.4 ญ.3 พร้อมของกลาง ยาบ้าจำนวน 264 มัด รวมประมาณ 528,000 เม็ด ไอซ์ จำนวน 40 ถุง น้ำหนักรวมประมาณ 40 กิโลกรัม รถยนต์จำนวน 7 คัน อาวุธปืนจำนวน 2 กระบอก และอื่นๆ อีกหลายรายการ)

สำหรับผลการจับกุมคดียาเสพติด ชุดจับกุมสืบสวนทราบว่า พื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดนครปฐม มีกลุ่มเครือข่ายลักลอบลำเลียงยาเสพติด(ยาบ้า) จากประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่พื้นที่ตอนใน ทางด้าน อ.สังขละบุรี และสืบสวนทราบว่า หนึ่งในขบวนการกลุ่มเครือข่ายนายโก๊ะ มีนายวิเชียรหรือตั้มฯ และ น.ส.หฤทัยชลหรืออ้อย ฯ เป็นผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนใน ส่วนวันเวลาก่อนการจับกุมประมาณ 1 เดือน ทราบว่า นายโก๊ะ สั่งการให้ น.ส.หฤทัยชลฯ กับพวก ขับขี่รถยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า ซิตี้ สีดำ ทะเบียน 6กท-4926 กรุงเทพมหานคร มุ่งหน้าเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้านเพื่อนำยาเสพติดซุกซ่อนภายในรถยนต์ โดยมีการทำช่องลับซุกซ่อนยาเสพติด ซึ่งทำการจับกุมเมื่อวันที่ 3 ก.พ.2566 ที่ผ่านมา ณ ถนนแสงชูโต ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ต่อเนื่อง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ต่อเนื่อง อู่ทำสีรถยนต์ ซอยตลาดเทศบาลเมืองสามพราน อ.สามพราน และต่อเนื่อง บ้านเลขที่ 44/128 หมู่ที่ 8 ต.ท่าตลาด อ.สามพราน จ.นครปฐม

8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 ‘จ่าคลั่ง’ ก่อเหตุกราดยิงที่โคราช หนึ่งในโศกนาฏกรรม ครั้งเลวร้ายที่สุดของไทย

ครบรอบ 3 ปี เหตุการณ์ จ่าคลั่ง ก่อเหตุกราดยิงผู้บริสุทธิ์ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก

เรียกว่ายังคงจำฝังใจคนไทย สำหรับเหตุการณ์ กราดยิงที่จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. 2563 เป็นเหตุกราดยิงในจังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 กรณีจ่าสิบเอก จักรพันธ์ ถมมา ใช้ปืนยิงผู้บังคับบัญชาและญาติถึงแก่ความตาย แล้วหลบหนีเข้ามาในตัวเมือง กราดยิงผู้คนตามรายทาง ก่อนเข้าไปซ่อนตัวหลบอยู่ในห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 โคราช จับบุคคลในห้างเป็นตัวประกัน 

สำหรับเหตุการณ์ในวันนั้นเริ่มขึ้น เวลาประมาณ 15.30 น. 8 กุมภาพันธ์ 2563 จ่าสิบเอก จักรพันธ์ ใช้ปืนยิงผู้บังคับบัญชา คือ พันเอก อนันต์ฐโรจน์ กระแสร์ อายุ 48 ปี ผู้บังคับกองพันสรรพาวุธกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 และนางอนงค์ มิตรจันทร์ อายุ 65 ปี แม่ยายของพันเอก อนันต์ฐโรจน์ ถึงแก่ความตายที่บ้านพักในตำบลหนองจะบก อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ขณะที่นายหน้าวิ่งหนีไป จึงถูกไล่ยิงเข้าข้างหลังแต่ไม่เสียชีวิต

จากนั้น จ่าสิบเอก จักรพันธ์ ไปชิงอาวุธสงครามออกมาจากคลังอาวุธกองพันสรรพาวุธกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ ตำบลไชยมงคล โดยยิงทหารเวรกองรักษาการณ์ และทหารดูแลคลังอาวุธ มีพลทหารบาดเจ็บ 1 นาย เสียชีวิตอีก 1 นาย ต่อมา จ่าสิบเอก จักรพันธ์ ขับรถฮัมวีหลบหนีออกไปทางด้านหลังค่าย มุ่งไปทางวัดป่าศรัทธารวม ตำบลหัวทะเล เพราะทราบว่าภรรยาของผู้บังคับบัญชาออกไปทำบุญที่วัดป่าศรัทธารวม ได้กราดยิงผู้คนตามรายทางถึงแก่ความตายรวม 9 คน คนร้ายกราดยิงกระสุนนับร้อยนัด โดยยิงคนในรถเสียชีวิตและบาดเจ็บ ยังยิงเด็กนักเรียนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์และยังเดินไปยิงซ้ำอีก จากนั้นมีตำรวจมา 2 นาย ไม่ทันลงจากรถก็ถูกยิงจนพรุนเสียชีวิต แต่ปรากฏว่า ได้ทราบว่า ภรรยาของผู้บังคับบัญชาไปกินข้าวที่เทอร์มินอล 21 โคราช

มณฑลทหารบกที่ 25 เป็นเจ้าภาพจัดโครงการ 'สภากาแฟจังหวัดสุรินทร์'

(7 ก.พ.66) เวลา 07.00 – 08.30 น. พลตรี สาธิต เกิดโภค ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 เป็นผู้แทนหน่วยงานด้านความมั่นคง สังกัดกระทรวงกลาโหม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในจังหวัดสุรินทร์ เป็นเจ้าภาพร่วมจัดงาน “สภากาแฟจังหวัดสุรินทร์ ครั้งที่ 2” ณ ศูนย์พัฒนากีฬากอล์ฟ มณฑลทหารบกที่ 25 ค่ายวีรวัฒน์โยธิน 

โดยมี นายพิจิตร บุญทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธาน ซึ่งมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ หัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ผู้บริหารสถานศึกษา เข้าร่วมในกิจกรรมในครั้งนี้ ซึ่งโครงการสภากาแฟ เป็นกิจกรรมที่จังหวัดสุรินทร์ จัดให้มีพบปะพูดคุยกันแบบไม่เป็นทางการในลักษณะนี้ ในห้วงเช้าๆ เดือนละ 1 ครั้ง โดยจะมีการหมุนเวียนหน่วยงานในจังหวัดสุรินทร์เป็นเจ้าภาพ 

กองทัพเรือ ติดตั้งเครื่องบำบัดฝุ่น PM 2.5 เพื่อช่วยลดปัญหามลพิษทางอากาศ

ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ เร่งดำเนินการติดตั้งเครื่องบำบัดฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 3 ก.พ.66 ที่ผ่านมา ได้ติดตั้ง ณ พื้นที่บริเวณนันทอุทยานสโมสร วังนันทอุทยาน จำนวน 2 เครื่อง เบื้องต้นในพื้นที่กรุงเทพฯ จะติดตั้งทั้งหมด 13 เครื่อง

จากสถานการณ์มลพิษฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ซึ่งทวีความรุนแรงและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในพื้นที่เขตเมืองและพื้นที่ชุมชน ที่มีประชากรอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้น เพื่อให้การสนับสนุนการแก้ไขปัญหา และลดต้นเหตุการณ์เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ จึงได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องบำบัดฝุ่น PM 2.5 จำนวน 2 เครื่อง ที่กรมอู่ทหารเรือได้ดำเนินการจัดสร้างขึ้น ณ บริเวณลานจอดรถฝั่งด้านหน้านันทอุทยานสโมสร กองบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยาน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีประชาชนมาใช้บริการและออกกำลังกายเป็นจำนวนมาก โดยในเบื้องต้นจะดำเนินการติดตั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 13 เครื่อง

สำหรับเครื่องบำบัดฝุ่น PM 2.5 และกำจัดเชื้อโรค ดังกล่าว กองทัพเรือ โดยกรมอู่ทหารเรือ ได้ดำเนินการต่อยอดเครื่องบำบัดฝุ่น PM 2.5 เเละกำจัดเชื้อโรคจากเครื่องต้นเเบบของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดย ตั้งเป็นคณะทำงานโครงการสร้างเครื่องบำบัดฝุ่น PM 2.5 ซึ่งผลจากการทดลองในห้องทดลอง อู่ทหารเรือธนบุรี ด้วยควันที่มีความเข้มข้น PM 2.5 สูงกว่า 6,000 PPM ที่อัตราการบำบัด 4 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระบบการกรอง Hight Efficiency Particulate Air ใช้เวลา 30 นาที ในห้องทดลองขนาด 4x6x6 เมตร ปริมาตร 144 ลูกบาศก์เมตร เครื่องทำงานมีประสิทธิภาพมากกว่า 90% คุณภาพอากาศได้มาตรฐาน กรมควบคุมมลพิษ ต่ำกว่า 50 PPM และนอกจากฝุ่น PM 2.5 แล้ว เครื่องบำบัดฝุ่นนี้ ยังสามารถกำจัดเชื้อโรค แบคทีเรีย และไวรัสต่างๆ ในระบบปรับอากาศรวม ซึ่งพบว่าสารประเภทแบคทีเรีย และไวรัสในอากาศ อาทิ ไวรัสโควิด -19 และสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย อาทิ สาร Butadiene Toluene และกลุ่มสาร Aromatic hydrocarbons ถูกทำลาย โดยมีปริมาณลดลงภายใน 30 นาที ภายหลังการเดินเครื่อง 

'บิ๊กต่อ' รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ติดตามโครงการชุมชนยั้งยืน (นาคาพิทักษ์ รักษ์ประชา) ในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด

(7 กุมภาพันธ์ 2566) เวลา 10.00 น. พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะตรวจติดตามโครงการชุมชนยั่งยืน (นาคาพิทักษ์รักษ์ประชา) ในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พลตำรวจตรี กิตติศักดิ์ จำรัสประเสริฐ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด ผู้กำกับการ หัวหน้าสถานี ให้การต้อนรับ และร่วมประชุมติดตาม ณ ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด  

นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดที่มีแนวโน้มรุนแรง มีผู้ใช้ยาเสพติดมาเป็นเวลานาน หรือจำนวนที่มาก ทำให้เกิดประสาทหลอนถึงขั้นกลายเป็นผู้ป่วยจิตเวช ก่อเหตุทำร้ายประชาชนให้ได้รับบาดเจ็บ และบางกรณีถึงแก่ชีวิต จังหวัดร้อยเอ็ด ได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว จึงมีการลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการการดูแล ป้องกัน เฝ้าระวัง และแก้ไขปัญหาผู้เสพสารเสพติดที่มีอาการทางจิต ระหว่าง ตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนตามโครงการบริหารจัดการแบบบูรณาการ กรณีผู้มีอาการทางจิตก่อเหตุ ของตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด บูรณาการร่วมกันในการดูแล ป้องกัน เฝ้าระวัง และแก้ไขปัญหาผู้ป่วยจิตเวช พร้อมทั้งพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ชื่อว่า Smart Tele Mind 101 เพื่อรวบรวมส่งต่อข้อมูลระหว่างหน่วยงาน ให้เกิดการประสานงานในการแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างเป็นระบบ นอกจากนี้ กลไกลการแก้ไขปัญหา ทั้งตำรวจ ฝ่ายปกครอง และสาธารณสุข ซึ่งถือเป็นแกนหลักในการเสริมศักยภาพและพัฒนาทีมระงับเหตุ 64 ทีม และทีมผู้พิทักษ์ 119 ทีม ภายใต้การบูรณาการร่วมกันของภาคีเครือข่ายในระดับพื้นที่ จนเกิดเป็น “หัวโทนโมเดล” ซึ่งเป็นทีมผู้พิทักษ์ ของสถานีตำรวจภูธรหัวโทน อำเภอสุวรรณภูมิ ที่มีความเข้มแข็งในการร่วมกันดูแลและแก้ไขปัญหาผู้ป่วยจิตเวชจนประสบผลสำเร็จ ด้วยการประสานความร่วมมือของทุกภาคส่วน ในช่วยกันการติดตาม ดูแล ผู้ป่วยจิตเวช ตั้งแต่ตื่นจนเข้านอน สร้างความไว้ใจ อบอุ่นใจ และการให้ความร่วมมือในการแจ้งข้อมูลของผู้ป่วยให้กับเจ้าหน้าที่ทราบทุกวัน นำไปสู่การดูแลรักษาที่ต่อเนื่อง ทำให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ เป็นการคืนคนดีสู่สังคม

ทางด้าน พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า โครงการดำเนินงานชุมชนยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ สิ่งเหล่านี้ ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ทำให้จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นสังคมที่สงบสุข ตามทิศทางการพัฒนาของจังหวัด ที่เน้นการพัฒนาโดยใช้ชุมชนเข็มแข็ง สอดรับกับการดำเนินงานโครงการชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นโครงการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในชุมชน โดยเสริมสร้างให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็ง เข้าใจ และตระหนักถึงปัญหาพิษภัยของยาเสพติด โครงการดังกล่าวประกอบด้วยกระบวนการลงพื้นที่เพื่อค้นหาผู้ติดยาเสพติดทุกครัวเรือนในชุมชน การคัดกรอง การฟื้นฟูและลดอันตรายจากยาเสพติด เน้นการบำบัดโดยให้ชุมชนมีส่วนร่วม อีกทั้งสร้างภูมิคุ้มกันทางใจและติดตามผลเพื่อส่งต่อความยั่งยืน ปัจจุบันมีหลายชุมชนที่ดำเนินการบำบัดฟื้นฟูการใช้ยาเสพติดโดยใช้ชุมชนเป็นศูนย์กลางและสามารถดูแลผู้ใช้ยาเสพติดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผู้ผ่านการบำบัดมีพลังในการดำเนินชีวิตและอยู่ร่วมกับสังคมได้อย่างสงบสุข จึงได้นำชุมชนเหล่านี้มาเป็นชุมชนต้นแบบ เพื่อให้ชุมชนทั่วประเทศได้นำรูปแบบไปเป็นแนวทางปฎิบัติในการดูแลผู้ใช้ยาเสพติดในชุมชนของตนอย่างเป็นระบบและยั่งยืน ต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top