Thursday, 26 June 2025
ค้นหา พบ 49027 ที่เกี่ยวข้อง

‘นิด้าโพล’ เผยผลสำรวจ ‘พปชร.’ VS ‘รทสช.’ ปชช. มอง ‘ป้อม-ตู่’ ไม่แตกกัน พร้อมจับมือตั้งรัฐบาล

‘นิด้าโพล’ เผยผลสำรวจ การแข่งขันระหว่าง ‘พี่ป้อม’ พลังประชารัฐ ปะทะ ‘น้องตู่’ รวมไทยสร้างชาติ พบส่วนใหญ่เชื่อ ‘บิ๊กตู่ - บิ๊กป้อม’ ไม่ได้แตกกัน มอง ทั้ง 2 พรรคได้ ส.ส. เท่า ๆ กัน และพร้อมจับมือตั้งรัฐบาล

(29 ม.ค.66) ศูนย์สำรวจความคิดเห็น ‘นิด้าโพล’ เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง ‘พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ปะทะ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)’ ทำการสำรวจระหว่าง วันที่ 23-25 มกราคม 2566 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการแข่งขัน ทางการเมืองระหว่าง รองนายกรัฐมนตรี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ จากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กับ นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จากพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)

จากการสำรวจเมื่อถามถึงความรู้สึกของประชาชนต่อการแข่งขันทางการเมืองระหว่าง รองนายกรัฐมนตรี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ จากพรรคพลังประชารัฐ กับนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จากพรรครวมไทยสร้างชาติ พบว่า 

- กลุ่มตัวอย่าง ร้อยละ 46.56 ระบุว่า พลเอกประวิตร กับ พลเอกประยุทธ์ ไม่ได้แตกกัน เป็นเพียงแค่การแข่งขันทางการเมือง 
- รองลงมา ร้อยละ 28.93 ระบุว่า การเมืองไม่มีมิตรแท้และศรัตรูที่ถาวร 
- ร้อยละ 20.53 ระบุว่า เป็นสีสันทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย 
- ร้อยละ 12.52 ระบุว่า พลเอกประยุทธ์ เป็นอิสระมากขึ้นในการตัดสินใจทางการเมืองและการบริหารประเทศ 
- ร้อยละ 10.76 ระบุว่า การแข่งขันกันจะทำให้ทั้งสองพรรคได้ ส.ส. รวมกันแล้วน้อยกว่าจำนวน ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ ในการเลือกตั้งปี 2562 
- ร้อยละ 9.01 ระบุว่า พลเอกประวิตร กับ พลเอกประยุทธ์ แตกกันอย่างแน่นอน 
- ร้อยละ 8.78 ระบุว่า พลเอกประวิตร และ พรรคพลังประชารัฐ เป็นอิสระมากขึ้น สามารถร่วมรัฐบาลกับฝั่งไหนก็ได้หลังการเลือกตั้ง
- ร้อยละ 6.56 ระบุว่า การแข่งขันกันจะทำให้ทั้งสองพรรคได้ ส.ส. รวมกันแล้วมากกว่าจำนวน ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ ในการเลือกตั้งปี 2562 
- ร้อยละ 6.34 ระบุว่า ผู้ที่เคยสนับสนุน พลเอกประยุทธ์ แต่ไม่ชอบ พรรคพลังประชารัฐ จะกลับมาสนับสนุน พลเอกประยุทธ์มากขึ้น 
- และร้อยละ 3.05 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

‘อุ๊งอิ๊ง’ ลั่น!! เพื่อไทยไม่แก้ปัญหาไปวันๆ พร้อมสานต่อสิ่งที่เสนอจนสำเร็จ

(28 มกราคม 2566) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และ ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย กล่าวกลางงานปราศรัย ‘แลนสไลด์เพื่อไทยเท่านั้น’ เวทีตลาดคลองถม อําเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย ท่ามกลางพี่น้องประชาชนกว่า 2 หมื่นชีวิตแน่นเต็มพื้นที่ 

แพทองธาร กล่าวว่าพรรคเพื่อไทยเข้าใจปัญหาของพี่น้องชาวหนองคายตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ว่ามีหนี้เพิ่มขึ้น ทางแก้คือเลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรคให้เข้ามาแก้ปัญหาที่คาราคาซัง เพราะพรรคเพื่อไทยรู้จักหนองคายดี ในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ มีการวางแผนให้หนองคายเป็นฮับโลจิสติกส์สำคัญ มีรถไฟความเร็วสูง แต่ถูกรัฐประหารไปเสียก่อน 

“แทนที่จะได้รถไฟ เราก็ได้เรือดำน้ำมาแทน” แพทองธารกล่าว พร้อมย้ำว่า ถ้าได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องอีกครั้ง เราจะทำให้นโยบายดีๆ เกิดขึ้น

‘กรณ์’ ชู ‘ศก.สายมู’ สร้างสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เชื่อ!! ดูด นทท.ทั่วโลก สร้างรายได้ 5 ล้านล้านบาท

‘กรณ์’ เดินหน้า ‘เศรษฐกิจสายมู’ หนึ่งในยุทธศาสตร์ Spectrum Economy หารายได้ 5 ล้านล้านบาท ดันส่งเสริมจังหวัดละพันล้าน สร้างสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ดึงนักท่องเที่ยวทั่วโลก

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า เศรษฐกิจสายมู หรือเศรษฐกิจสีขาว เป็นหนี่งในนโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้าที่เราได้มีการพูดถึงและนำเสนอมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ยังไม่แถลงนโยบาย เนื่องจากเห็นว่า ท่องเที่ยวสายมูไม่ใช่ความงมงาย ‘มูเตลู’ คือความเชื่อและความศรัทธา เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์มาช้านาน โดยเฉพาะคนไทยเรา หลอมรวมกลายเป็นประเพณี วัฒนธรรม และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ทำให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล แม้แต่ในช่วงโควิด ที่ทุกจังหวัดเหลือเที่ยวบินเพียงวันละเที่ยวสองเที่ยว แต่ที่นครศรีธรรมราชกลับมีเที่ยวบิน 50 กว่าเที่ยว เพราะมีวัดเจดีย์ไอ้ไข่ เงินสะพัดสู่ชุมชน ทำให้ชาวบ้านที่ค้าขายอยู่รอบ ๆ รวมทั้งโรงแรมที่พัก ยังคงมีนักท่องเที่ยวไปอุดหนุนกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง 

“เศรษฐกิจสายมูกำลังเป็นเทรนด์ของทั่วโลก สามารถใช้ศรัทธาและแรงบันดาลใจแปรเปลี่ยนเป็นรายได้อย่างมหาศาล พรรคชาติพัฒนากล้า จึงได้นำมาบรรจุในนโยบายเศรษฐกิจ 7 สี หรือ Spectrum Economy ที่จะหารายได้เข้าประเทศ 5 ล้านล้านบาท” หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าว   

นายกรณ์ กล่าวอีกว่า ประเทศไทยเรามีแหล่งท่องเที่ยวเชิงศรัทธามากมาย ถ้าเราฟื้นฟูหรือสร้างสตอรี่เรื่องเล่า คิดดูว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเยี่ยมเยือนแค่ไหน นโยบายของเราคือ 1 จังหวัด 1 พันล้าน โดยการสร้างแหล่งท่องเที่ยวศักดิ์สิทธิ์ จังหวัดไหนไม่มีสถานที่ที่ดึงความน่าสนใจได้เพียงพอ ก็สร้างขึ้นใหม่ได้ ยกตัวอย่าง หลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ที่อยุธยา ที่นายกอุ๊ วัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ ผู้เป็นเรี่ยวแรงสำคัญในการสร้างขึ้นมา มีการวางแผนเป็นอย่างดี มีตลาดที่ชาวบ้านสามารถนำสินค้ามาค้าขายโดยรอบ กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน สร้างรายได้ให้คนอยุธยาอย่างประเมินค่าไม่ได้ หรือแม้แต่พระพิฆเนศองค์ยืนที่องค์ยืนที่ฉะเชิงเทรา ที่เกิดขึ้นมาได้ก็มีนายกอุ๊เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ทำให้เกิดเส้นทางท่องเที่ยวศักดิ์สิทธิ์ขึ้นหลากหลาย

นอกจากนี้นายกอุ๊ ยังเป็นกำลังหลักในการสร้างหลวงปู่โต วัดโบสถ์ อ.สามโคก จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของ จ.ปทุมธานีด้วย 

“นายกอุ๊ ก็คือที่ปรึกษาด้านนโยบายของชาติพัฒนากล้าด้วย พวกเราเห็นความสำคัญของเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เพราะเศรษฐกิจสีขาว หรือสายมู ที่ถ้าเราลงทุนหลักพันล้านต่อ 1 แหล่งท่องเที่ยว เราจะได้เงินกลับคืนมาอย่างมหาศาล ดูแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกอย่างเจ้าแม่กวนอิมที่ฮ่องกง วัดอาซากุสะที่ญี่ปุ่น โบสถ์ที่งดงามในยุโรป หรือแม้แต่พระพรหมเอราวัณที่บ้านเรา ต่างก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนทั่วโลกอยากมาชมด้วยตาตัวเอง” นายกรณ์ กล่าว 

หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวด้วยว่า สิ่งสำคัญของการส่งเสริมการท่องเที่ยวคือต้องมี 3 มิติควบคู่ ได้แก่ 

1. เพิ่มนักท่องเที่ยว ที่เราต้องลงทุนในระบบสาธารณูปโภค ลงทุนในการอนุรักษ์ดูแลธรรมชาติ 

2. เพิ่มเวลาที่นักท่องเที่ยวอยู่กับเรา จาก 10 วันเป็น 12 วัน ต้องเพิ่มแหล่งท่องเที่ยวให้หลากหลายและดึงดูด 

และ 3. เพิ่มเงินที่นักท่องเที่ยวใช้ตอนอยู่กับเรา เพิ่มการใช้จ่ายจับจ่าย ต้องเพิ่มมูลค่าสินค้าเราให้มีราคามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นของฝาก อาหาร ที่พัก ฯลฯ ซึ่งยุทธศาสตร์สายมูตอบโจทย์ทั้ง 3 มิติ

ลุงวัย 72 ปี เดินเก็บกวาดขยะตามริมแนวชายหาดกว่า 2 ปี บอก!! แค่อยากเห็นทะเลสะอาด นักท่องเที่ยวสบายใจ

ชื่นชมคุณลุงหัวใจรักทะเล วัย 72 ปี ถือไม้กวาดด้ามยาวคู่ใจเดินเก็บกวดขยะตามริมแนวชายหาดวังหนาวบีท ใน ต.นาทับ เป็นประจำทุกวันตั้งแต่เช้าจนค่ำทำมา 2 ปี และทำด้วยใจไม่หวังค่าตอบแทนแค่อยากเห็นทะเลสะอาดนักท่องเที่ยวสบายใจ

(29 ม.ค.66) ที่ชายหาดวังหนาวบีท ตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.7 ต.นาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของอ.จะนะ จ.สงขลาและเริ่มเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว

มีคุณลุงคนหนึ่งชื่อว่า นายเถี้ยน แซ่ล้อ หรือลุงเถี้ยน วัย 72 ปี เป็นชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ 7 ต.นาทับ ได้ถือไม้กวาดด้ามยาวคู่ใจเดินเก็บกวาดขยะตามแนวชายหาดวังหนาวบีทเป็นประจำทุกวัน ซึ่งเป็นขยะทะเลที่ถูกลมคลื่นซัดมาขึ้นมาบนฝั่งเป็นจำนวนมาก

เช่น ขวดน้ำพลาสติก ขวดแก้ว เศษไม้และอุปกรณ์ทำการประมง จนทำให้ทั้งชาวบ้านนักท่องเที่ยวที่พบเห็นต่างชื่นชมคุณลุง บางคนก็เอาน้ำ เอาเงินยื่นให้คุณลุงอีกด้วยเพื่อเป็นน้ำใจในการทำความดี

จากการสอบถามชาวบ้านและลุงเอี้ยน เล่าว่า ทุก ๆ วันลุงเอี้ยนจะออกมาเดินเก็บกวาดขยะตามแนวชายหาดเป็นประจำทุกวัน เป็นภาพที่ชินตาของชาวบ้านแถวนั้น

‘ก้าวไกล’ โหมโรงเลือกตั้ง ติดป้ายหาเสียงทั่วกรุงฯ ‘ปิดสวิตช์ 3ป.’ เด่นหน้าสภาฯ ‘หยุดส่วยฯ’ โผล่หลาย สน. 

(29 ม.ค.66) พรรคก้าวไกลโหมโรงศึกเลือกตั้ง ติดป้ายนโยบายทั่วกรุงเทพฯ รับการประกาศใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พร้อมข่าวลือสะพัดว่าจะมีการยุบสภาเร็ว ๆ นี้

ตลอดทั้งวันที่ผ่านมา ประชาชนผู้สัญจรไปมาในเขตกรุงเทพมหานคร ต่างโพสต์และแชร์รูปจอ LED ขนาดยักษ์กลางวงเวียนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งปรากฏภาพสัญลักษณ์พรรคก้าวไกล พร้อมข้อความ ‘กาก้าวไกล ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม’ ซึ่งเป็นสโลแกนหาเสียงที่เพิ่งเปิดตัวในการประชุมใหญ่ของพรรคเมื่อวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top