Thursday, 26 June 2025
ค้นหา พบ 49037 ที่เกี่ยวข้อง

รวบดาว TikTok เวียดนาม โกงภาษีกว่า 100 ล้าน สรรพากรแฉ! ใช้บัญชีคู่–ตั้งบริษัทซ้อน–โอนเงินผ่านบัญชีม้า

(26 มิ.ย. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ดำเนินคดีอาญากับ Vũ Nam Phương หรือที่รู้จักกันในโลกออนไลน์ในชื่อ 'Cún Bông' TikToker ชื่อดัง พร้อมสามีและผู้ร่วมขบวนการ ฐานกระทำความผิดเกี่ยวกับบัญชีและการเลี่ยงภาษีอย่างมีระบบ โดยมีการจัดทำบัญชีคู่และตั้งบริษัทที่อยู่ตรงกับที่อยู่ของกิจการเพื่อสับเปลี่ยนเอกสารและปกปิดรายได้จริง

จากการสอบสวนพบว่า สามีภรรยาคู่นี้ดำเนินธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคและผลิตภัณฑ์ความงามภายใต้ชื่อบริษัท Dược Hoa Kỳ ผ่านช่องทาง Facebook, TikTok และแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ มียอดผู้ติดตามรวมหลายแสนราย แต่ในเบื้องหลัง กลับจงใจจัดทำบัญชีสองชุดเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษี โดยมีรายได้จริงกว่า 120 พันล้านดอง (ราว 190 ล้านบาท) แต่แจ้งรายได้เพียง 5 พันล้านดอง (7.14 ล้านบาท) ซึ่งจากการกระทำของเธอทำให้รัฐขาดรายได้กว่า 10 พันล้านดอง หรือประมาณ 12 ล้านบาท

นาย Vũ Mạnh Cường ผู้อำนวยการสำนักงานภาษีเขต 1 เปิดเผยว่า นี่เป็นกรณีเลี่ยงภาษีที่มีความซับซ้อนสูง โดยผู้ต้องหาใช้วิธีออกใบเสร็จในนามบริษัทหากลูกค้าขอใบกำกับภาษี แต่หากไม่ขอก็จะขายผ่านชื่อบุคคลธรรมดาเพื่อเลี่ยงการบันทึกรายได้ ซึ่งถือเป็นการวางแผนและดำเนินการอย่างเป็นระบบ

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินผ่านบัญชีส่วนตัวของ Phương ที่มียอดเคลื่อนไหวกว่า 500 พันล้านดอง (622.5 ล้านบาท) พร้อมเตือนว่าปัจจุบันมีผู้ค้าหลายรายใช้วิธีรับเงินสดหรือโอนผ่านบัญชีบุคคลใกล้ชิดเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ อย่างไรก็ตามด้วยการบูรณาการข้อมูลจากหน่วยงานภาษี ตำรวจ และธนาคาร พฤติกรรมเลี่ยงภาษีไม่ว่าจะแยบยลเพียงใด ก็สามารถตรวจจับได้ในท้ายที่สุด

ขอปกป้องเต็มที่! ‘ทรัมป์’ พร้อมหนุน ‘เนทันยาฮู’ เรียกร้องยกเลิกคดีทุจริต ชี้เป็นการ ‘ล่าแม่มด’

(26 มิ.ย. 68) โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกโรงปกป้องนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล เรียกร้องให้รัฐบาลอิสราเอลยุติการดำเนินคดีทุจริต หรือออกอภัยโทษให้โดยทันที โดยชี้ว่าเป็น ‘การล่าแม่มด’ ต่อผู้นำที่เขายกย่องว่าเป็น ‘วีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของรัฐอิสราเอล’

เนทันยาฮูถูกฟ้องในปี 2019 ในข้อหาติดสินบน ฉ้อโกง และละเมิดความไว้วางใจ โดยการไต่สวนเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2020 และยังคงดำเนินอยู่ในศาลกรุงเทลอาวีฟ โดยล่าสุดเริ่มการซักค้านเมื่อวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลานานถึง 1 ปี จึงจะเสร็จสิ้น

ทรัมป์โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม Truth Social ว่า “คดีของ Bibi (เนทันยาฮู) ควรถูกยกเลิกทันที หรือไม่ก็ให้อภัยโทษกับวีรบุรุษที่ทำคุณมากมายเพื่อชาติอิสราเอล” พร้อมกล่าวว่า “สหรัฐอเมริกาเคยช่วยอิสราเอล และตอนนี้จะเป็นฝ่ายช่วย Bibi เนทันยาฮู”

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีอิสราเอล ไอแซก เฮอร์ซ็อก ได้ยืนยันผ่านสื่อว่า ยังไม่มีการยื่นขออภัยโทษอย่างเป็นทางการ และ ‘เรื่องนี้ยังไม่อยู่บนโต๊ะ’ ท่ามกลางความไม่ชัดเจนว่า ทรัมป์หรือรัฐบาลสหรัฐฯ จะสามารถเข้าแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมของอิสราเอลได้เพียงใด โดยก่อนหน้านี้ ทรัมป์เพิ่งวิจารณ์อิสราเอลกรณีทิ้งระเบิดอิหร่านหลังการหยุดยิงว่า ‘มากเกินไป’ และทำให้เขาไม่พอใจมาก

‘เวียดนาม’ เร่งปิดดีลโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ หวังบรรลุข้อตกลงกับ ‘รัสเซีย’ ภายใน ส.ค. นี้

(26 มิ.ย. 68) รัฐบาลเวียดนามสั่งการให้กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งสรุปการเจรจากับรัสเซียภายในเดือนกรกฎาคม เพื่อเตรียมลงนามข้อตกลงระหว่างรัฐบาลว่าด้วยความร่วมมือก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์นิญถ่วน 1 ในเดือนสิงหาคม โดยโครงการนี้มีเป้าหมายแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2030 หรืออย่างช้าที่สุดในปี 2031

บุ่ย แทงห์ เซิน รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า การเจรจากับรัสเซียล่าช้ากว่ากำหนด ซึ่งอาจส่งผลต่อกระบวนการอนุมัติและดำเนินโครงการ กระทรวงอุตสาหกรรมในฐานะฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการพัฒนาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ จึงถูกกำชับให้จัดตั้งคณะเจรจาโดยด่วน และต้องระบุความรับผิดชอบของแต่ละฝ่ายในข้อตกลงอย่างชัดเจน

ควบคู่กันนั้น ทางการเวียดนามยังรื้อฟื้นความร่วมมือกับญี่ปุ่นในโครงการนิญถ่วน 2 โดยมอบหมายให้หน่วยงานต่าง ๆ เร่งหารือและรายงานผลภายในเดือนกรกฎาคม ด้านโครงการนิญถ่วน 1 และ 2 ซึ่งอยู่ในจังหวัดนิญถ่วน จะมี การไฟฟ้าแห่งประเทศเวียดนาม (EVN) และ บริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเวียดนาม (PVN) เป็นเจ้าของโครงการตามลำดับ

รัฐบาลเวียดนามเน้นย้ำว่า การฟื้นโครงการพลังงานนิวเคลียร์มีเป้าหมายเพื่อรองรับความต้องการพลังงานที่เติบโตต่อเนื่อง และสนับสนุนเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนให้เป็นศูนย์ภายในปี 2050 พร้อมกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดทำแผนการลงทุนและข้อกำหนดด้านความปลอดภัย รวมถึงการจัดสรรงบประมาณและแผนโยกย้ายชุมชนให้เสร็จสิ้นตามกรอบเวลาที่กำหนด

บอร์ด กฟผ. เสนอชื่อ ‘นรินทร์ เผ่าวณิช’ เข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการ กฟผ. คนที่ 17

บอร์ด กฟผ. มีมติเสนอชื่อ นายนรินทร์ เผ่าวณิช เข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการ กฟผ. คนที่ 17 เตรียมเสนอกระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน และรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแล เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป

เมื่อวานนี้ (25 มิ.ย. 68) คณะกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (บอร์ด กฟผ.) ในการประชุมฯ ครั้งที่ 8/2568 มีมติเห็นชอบให้ นายนรินทร์ เผ่าวณิช ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง รองผู้ว่าการเชื้อเพลิง เข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการ กฟผ. ตามที่คณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการเสนอ สืบแทนนายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 โดยขั้นตอนจากนี้ กฟผ. จะนำเสนอกระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน และ รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป

สำหรับประวัตินายนรินทร์ ปัจจุบัน อายุ 51 ปี ได้รับการแต่งตั้งเป็นรองผู้ว่าการเชื้อเพลิง เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2567 พร้อมกับรองอีก 4 คน คือ น.ส.พนา สุภาวกุล เป็นรองผู้ว่าการบริหาร นายธวัชชัย สำราญวานิช เป็นรองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ นายณัฐวุฒิ ผลประเสริฐ เป็นรองผู้ว่าการระบบส่ง นายเมธาวัจน์ พงศ์รดาภิรมย์ เป็นรองผู้ว่าการธุรกิจเกี่ยวเนื่อง

ประวัติการทำงานใน กฟผ. ที่สำคัญ
1 พ.ค. 2567 : รองผู้ว่าการเชื้อเพลิง
1 ต.ค. 2565 : ผู้ช่วยผู้ว่าการบริหารเชื้อเพลิง
1 ต.ค. 2564 : ผู้ช่วยผู้ว่าการวิศวกรรม และก่อสร้างโรงไฟฟ้า

คุณวุฒิการศึกษา
Ph.D. Georgia Institute of Technology, U.S.A.
M.S.C.E.Georgia Institute of Technology, U.S.A.
ปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตร์ วิศวกรรมโยธา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

‘เท้ง ณัฐพงษ์’ นำคณะเยี่ยมชม บ.ฟูเรียร์ฯ เซี่ยงไฮ้ ร่วมศึกษาแนวทางพัฒนาหุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์

ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรและคณะ ศึกษาดูงานด้านการประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์กับการจัดการภาครัฐ ณ บริษัท ฟูเรียร์ อินเทลิเจนซ์ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน 

(26 มิ.ย. 68) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้แก่ นายปารเมศ วิทยารักษ์สรรค์ นายชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร นายณรงเดช อุฬารกุล นายศุภโชติ ไชยสัจ นายกิตติภณ ปานพรหมมาศ น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ นายวรภพ วิริยะโรจน์ น.ส.กมนทรรศน์ กิตติสุนทรสกุล และ น.ส.พนิดา มงคลสวัสดิ์ ศึกษาดูงานด้านการประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์กับการจัดการภาครัฐ โดยบริษัท ฟูเรียร์ อินเทลิเจนซ์ เป็นบริษัทสำคัญในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีด้านหุ่นยนต์อเนกประสงค์ ที่พัฒนาแบบครบวงจร โดยบริษัทมุ่งเน้นการพัฒนาหุ่นยนต์ใน 2 ประเภทหลัก คือ หุ่นยนต์ที่ช่วยในการฟื้นฟูสมรรถภาพการเคลื่อนไหว และหุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ เพื่อใช้ประโยชน์ในด้านการแพทย์ การวิจัย และการใช้งานภายในบ้าน

ในการนี้ ผู้นำฝ่ายค้านสภาผู้แทนราษฎร และคณะ ได้ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับการวิจัยและพัฒนาหุ่นยนต์ในรูปแบบต่าง ๆ โดนศึกษาแนวคิดและวิธีการออกแบบ โครงสร้าง และกลไกการเคลื่อนไหวของหุ่นยนต์ที่สอดคล้องกับการทำงานของมนุษย์ และการพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ ที่สามารถตอบโต้กับมนุษย์ได้ และศึกษาเรียนรู้การทำงานของอุปกรณ์และหุ่นยนต์แบบต่าง ๆ ที่ช่วยในการฟื้นฟูศักยภาพการเคลื่อนไหว รวมถึงร่วมทดสอบอุปกรณ์และหุ่นยนต์ดังกล่าว

นอกจากนั้น คณะได้หารือในประเด็น ต่าง ๆ ได้แก่ การสนับสนุนจากภาครัฐ การสรรหาและพัฒนาบุคลากร ปัญหาด้านกฎหมายที่ไม่สอดคล้องต่อการพัฒนาหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ การตอบสนองต่อความต้องการในอุตสาหกรรมการแพทย์และอุตสาหกรรมอื่น ความสามารถในการผลิตและการจัดจำหน่าย ความร่วมมือในเรื่องการวิจัยและพัฒนากับต่างชาติ และประโยชน์ของการใช้หุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ในการด้านการแพทย์และการช่วยดูแลผู้ป่วย ทั้งนี้ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และคณะ เห็นว่าการพัฒนาด้านเทคโนโลยีดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อการสร้างอุตสาหกรรมใหม่ ๆ ภายในประเทศ พร้อมทั้งยังสามารถพัฒนาการดูแลกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มผู้ที่ต้องการที่พึ่งพิงในประเทศไทยที่กำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top