Friday, 4 July 2025
ค้นหา พบ 49179 ที่เกี่ยวข้อง

'หมออรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ' บิดา 'อภิสิทธิ์' ถึงแก่อนิจกรรม ด้วยโรคมะเร็งในวัย 87 ปี

(18 ม.ค. 66) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร. นพ.อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข บิดาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว เมื่อเวลา 11.00 น.เศษ(18 ม.ค.) หลังรักษาตัวในโรงพยาบาลรามาธิบดีเป็นเวลา 2 ปี โดยจะมีพิธีสวดพระอภิธรรมศพ พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พรุ่งนี้(19 ม.ค.) เวลา 17.00 น. ที่วัดเทพศิรินทรทราวาสราชวรวิหาร

สำหรับศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร. นพ.อรรถสิทธิ์ เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายกราชบัณฑิตยสถาน และอดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล เป็นนายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบบประสาทและระบบสมองของไทย เกิดวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2478 เป็นบุตรคนที่ 7 ในจำนวน 10 คนของนายโฆสิต (น้องชายของพระบำราศนราดูร (หลง เวชชาชีวะ) อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข) และนางสุเพี้ยน เวชชาชีวะ มีพี่ชายคือนายนิสสัย เวชชาชีวะ อดีตเอกอัครราชทูตหลายประเทศ บิดานายสุรนันท์ เวชชาชีวะ เป็นพี่ชายของนายวิทยา เวชชาชีวะ อดีตปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำสหรัฐอเมริกา

‘บิ๊กป้อม’ ห่วงชาวบ้านที่ยังเดือดร้อนทุกพื้นที่ ระดมกลไกรัฐเร่งแก้ปัญหาลดความเหลื่อมล้ำ

'พล.อ.ประวิตร' ห่วงชาวบ้านที่ยังเดือดร้อน ตามติดแก้ปัญหา P-move ตามข้อเรียกร้อง สั่งระดมกลไกรัฐร่วมภาค ปชช. เร่ง "ขจัดทุกปัญหา พัฒนาทุกพื้นที่" ย้ำต้องได้ข้อยุติโดยเร็ว ปชช.พอใจ/อยู่ดีกินดี  

วันนี้ (18 ม.ค. 66) เวลา 10.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ครั้งที่ 1/2566 ณ มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5จังหวัด ผ่านระบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์

ที่ประชุมได้รับทราบ ผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการและคณะทำงาน การแก้ไขปัญหาด้านต่างๆ ตามข้อเรียกร้อง รวมทั้งความคืบหน้าการดำเนินงานที่ผ่านมา ได้แก่ การแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินให้ชุมชน ปัญหาที่สาธารณะประโยชน์และที่ดินเอกชนที่ปล่อยทิ้งร้าง ปัญหาที่อยู่อาศัยและสินเชื่อ ปัญหาด้านคดีความที่ดินทำกินและการบังคับคดี ปัญหาการเข้าถึงกองทุนยุติธรรมและความช่วยเหลือทางกฎหมาย ปัญหาพื้นที่สาธารณะประโยชน์ทับซ้อน รวมทั้งการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายรัฐบาล เป็นต้น โดย พล.อ.ประวิตร ได้กำชับผู้เกี่ยวข้อง ทุกกระทรวงให้เร่งรัด ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหา อย่างต่อเนื่องและให้ได้ข้อยุติ เพื่อลดผลกระทบของพี่น้องประชาชน โดยเร็วที่สุด

เลือกตั้ง 6 ก.พ. 48 ‘ไทยรักไทย’ ชนะขาด สร้างปรากฏการณ์รัฐบาลพรรคเดียว

งวดเข้ามาทุกขณะ สำหรับการเลือกตั้งใหญ่ ที่เริ่มส่งสัญญาณออกมาเป็นระยะ เพราะไม่ว่ารัฐบาลลุงตู่ จะอยู่ครบเทอม หรือ จะเลือกยุบสภาก่อน สุดท้ายแล้วการเลือกตั้งจะมีขึ้นภายในปีนี้อย่างแน่นอน

ส่งผลให้สถานการณ์การเมืองในช่วงนี้ ต้องใช้คำว่า ‘ระอุ’ จะเริ่มเห็นส.ส. ย้ายค่าย พรรคการเมืองเปิดตัว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กันอย่างคึกคัก

โดยเป้าหมายหลักของพรรคการเมือง ย่อมอยู่ที่การได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคใหญ่อย่าง ‘เพื่อไทย’ ที่หมายมั่นปั้นมือว่า เลือกตั้งครานี้ จะต้องเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ บนโจทย์ที่สุดท้าทายนั่นคือ จะต้องชนะการเลือกตั้ง กวาดที่นั่ง ส.ส. ในสภาได้อย่างถล่มทลาย หรือ ที่ตั้งสโลแกนคุ้นหู ‘แลนด์สไลด์เพื่อไทย’ โหมโรงออกมาเป็นระยะ

นั่นเพราะการชนะเลือกตั้งมีจำนวน ส.ส. มาเป็นอันดับหนึ่ง ไม่ได้การันตีว่าจะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพราะยังมีเงื่อนไข ส.ว. 250 เสียงโหวตนายกรัฐมนตรีได้ เป็นเงื่อนปมที่ ‘เพื่อไทย’ อกหักมาแล้วในการเลือกตั้งปี 2562 ที่ครั้งนั้นได้จำนวนส.ส.มาเป็นอับดับหนึ่ง แต่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เพราะรวมเสียงแล้วสู้ อีกขั้วอำนาจไม่ได้

เลือกตั้งครั้งที่จะถึงนี้ จึงเปรียบเป็นเวทีแก้มือ ของเพื่อไทย ที่ระดมทุกสรรพกำลังที่มี ทุ่มอย่างเต็มที่ เพื่อไปถึงจุดหมาย ‘แลนด์สไลด์’ ให้ได้ดังฝัน ถึงขั้นไปเอา ‘อุ๊งอิ๊งค์ - แพทองธาร ชินวัตร’ ลูกสาวสุดรักของ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ มาโหมโรงเรียกเรตติ้งจากสาวก

จะว่าไปแล้ว ในอดีต เมื่อครั้งยังเป็น ‘พรรคไทยรักไทย’ ภายใต้การนำ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ในขณะนั้น ไทยรักไทย เคยสร้างปรากฏการณ์แลนด์สไลด์ ชนะเลือกตั้งถล่มทลาย กลายเป็นรัฐบาลพรรคเดียวมาแล้ว ในการเลือกตั้งปี 2548

โดยการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อปี 2548 มีขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 หลังจากรัฐบาลทักษิณ อยู่ครบวาระ 4 ปี ซึ่งขณะนั้นคะแนนนิยมในตัวทักษิณ มีสูงมาก จากนโยบายประชานิยมที่โดนใจชาวบ้าน รวมถึงการรวมสมาชิกจากพรรคต่าง ๆ ได้แก่ พรรคความหวังใหม่, พรรคชาติพัฒนา, พรรคกิจสังคม, พรรคเสรีธรรม และพรรคเอกภาพ เข้ากับพรรคไทยรักไทย มาลงเลือกตั้ง ภายใต้สโลแกนหาเสียงว่า '4 ปีซ่อม 4 ปีสร้าง' และผลการเลือกตั้งปรากฎว่าพรรคไทยรักไทย กวาดไปได้ถึง 377 ที่นั่ง จากจำนวนทั้งหมด 500 ที่นั่ง

พิษณุโลก กองทัพภาคที่ 3 จัดพิธีบวงสรวงและพิธีวางพานพุ่มถวายราชสักการะสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื่องในวันกองทัพไทย

วันที่ 18 มกราคม 2566 เวลา 08.09 นาฬิกา ที่ พระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ และพระรูปพระสุพรรณกัลยา ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก  พลโท สุริยะ เอี่ยมสุโร แม่ทัพภาคที่ 3  พร้อมด้วย คุณกันต์ฤทัย เอี่ยมสุโร ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบกสาขากองทัพภาคที่ 3 และคณะผู้บังคับบัญชา และกำลังพลกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 3 ร่วมพิธีบวงสรวงและพิธีวางพานพุ่มถวายราชสักการะ และจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย 

พร้อมทั้งกล่าวคำสดุดีพระเกียรติคุณฯ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงต่อสู้เพื่อกอบกู้เอกราชให้ชาติไทย และทรงกระทำยุทธหัตถีมีชัยชนะต่อพระมหาอุปราชา ในวันที่ 18 มกราคม 2135 ซึ่งตรงกับวันกองทัพไทย

รวบแก็งกันน็อกแดงเขียวตระเวนลัก จยย.ทั่วกรุงเทพฯ ปริมณฑลส่งเอเยนต์ออกนอก

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เร่งรัดปราบปรามแก็งโจรกรรมรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ซึ่งตระเวนลักรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านซึ่งจอดรถอยู่บริเวณที่พักอาศัยและแหล่งชุมชนในพื้นที่ กรุงเทพฯ และปริมณฑลอย่างหนักเป็นการสร้างความเดือดร้อนและกระทบการดำรงชีวิตของประชาชนทั่วไปอย่างรุนแรงเป็นวงกว้าง โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. IDMB รับแจ้งเรื่องร้องเรียนจากภาคประชาชนในพื้นที่ย่านพหลโยธินและย่านบางเขน กรุงเทพฯว่าในห้วงตั้งแต่เดือน พ.ย.65 จนถึงปัจจุบัน พบแก็งมิจฉาชีพโจรกรรมรถจักรยานยนต์สร้างความหวาดวิตกกังวลแก่เจ้าของและ ผู้ครอบครองรถจนไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข จึงได้สั่งการให้ บก.สส.บช.น. เร่งรัดออกสืบสวนปราบปราม

เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2566 เวลา ประมาณ 12.00 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.บช.น. จึงได้สั่งการให้ชุดลาดตระเวนออนไลน์ประกอบด้วย พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สืบสวน 1 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ต.พิสิทธิ์ เตชะ สว.กก.1 บก.สส.บช.น. และ ด.ต.อุทัย กิ่งแก้ว ผบ.หมู่ กก.สส.1ฯ ลงพื้นที่สืบสวน หาข่าว และติดตามพฤติกรรรม เบาะแสและแผนประทุษกรรมของกลุ่มคนร้ายซึ่งก่อเหตุในคดีนี้ โดยพบว่า คนร้ายเป็นชายวัยรุ่นจำนวน 2 ราย ขับรถจักรยานยนต์ตระเวนออกลักรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งมีตำหนิพิเศษโดยคนร้ายทั้งสองมักจะใส่หมวกกันน็อกสีเขียวและสีแดงออกตระเวนลักทรัพย์ฯ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้สืบสวนและจับกุมตัว

1.) นายเจษฏาพร หรือบอล ไพรเวหา อายุ 20 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 71/2566 ลงวันที่ 12 มกราคม 2566  
2.) นายธรรมนูญ หรือแบงค์ เลิศชัย อายุ 20 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.บาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 72/2566 ลงวันที่ 12 มกราคม 2566 
3.) นายพจน์ รุ่งแสง อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 121 ม.8 ต.ธงชัยเหนือ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา 

โดยกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 ว่า “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปโดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกในการกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป เพื่อให้พ้นการจับกุม” โดยกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 3 ว่า รับของโจร
พร้อมยึดของกลาง
1. รถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุจำนวน 2 คัน
2. รถจักรยานยนต์ที่ลักมาจำนวน 2 คัน
3. รถจักรยานยนต์จำนวน 6 คัน จากการตรวจสอบพบว่าได้แจ้งหายในพื้นที่ กรุงเทพฯ
3. เสื้อผ้า หมวกกันน็อก
4. อุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อเหตุรวมทั้งสิ้นกว่า 25 รายการ

จับกุมได้ที่ห้องพักเลขที่ 306 , 309 บ้านเลขที่ 29/44 แขวงคูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top