Tuesday, 8 July 2025
ค้นหา พบ 49272 ที่เกี่ยวข้อง

นรพ.วิทยาลัยพยาบาลกองทัพเรือ ได้รับการคัดเลือกเป็นเยาวชนดีเด่น ประจำปี 2566

นพร.พนุชนาถ บุญอ้น นักเรียนพยาบาลศาสตร์ (นรพ.) ชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยพยาบาลกองทัพเรือ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ อายุ 18 ปี ภูมิลำเนา จังหวัดพิจิตร เกิดวันที่ 2 เมษายน 2547 ได้รับการคัดเลือกเป็นเยาวชนดีเด่น ประจำปี 2566 ด้วยผลงาน/คุณความดี ดังนี้

1. มีผลการเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย เกรดเฉลี่ยสะสม 3.87 จาก โรงเรียนพิจิตรพิทยาคม ได้รับรางวัลเรียนดี และเกียรติบัตรเหรียญทอง ทุกปีการศึกษา และมีการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง จนได้รับรางวัลระดับจังหวัด และระดับประเทศ อาทิ
1.1) รางวัลเชิดชูเกียรติ นร.โครงงานวิทยาศาสตร์ สาขาชีวภาพ จากเวทีนักวิทยาศาสตร์ รุ่นเยาว์ ระดับประเทศ ครั้งที่ 16

1.2) รางวัลเหรียญทองแดงจากการประกวดผลงานสิ่งประดิษฐ์แนวคิดใหม่ ระดับประเทศ ประจำปี 2564
1.3) รางวัลเหรียญทองจากการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ระดับภูมิภาค เนื่องในสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติส่วนภูมิภาค

‘ก้าวไกล’ จี้รัฐบาลเช็กบิลคดี ‘เสี่ยเบนท์ลีย์’ เชื่อ!! ปล่อยเป่าเช็กเมา มีระดับ ผบ.หนุน

‘สารวัตรเพียว’ ก้าวไกล ไล่บี้รัฐบาลจี้ตำรวจหาคนผิดช่วยคดี ‘เสี่ยเบนท์ลีย์’ เชื่ออาจมีระดับ ผบ. เอี่ยวด้วย ย้ำ!! ผลตรวจเลือดไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ยื้อเวลาสามชั่วโมง ทำแอลกอฮอล์ในร่างกายหายไปแล้วถึง 60 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

(12 ม.ค. 66) ที่รัฐสภา พ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ (สารวัตรเพียว) ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แสดงความคิดเห็นต่อกรณี สุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์ หรือที่ปรากฏตามหน้าสื่อในฐานะ ‘เสี่ยเบนท์ลีย์’ ที่ก่อเหตุเมาแล้วขับจนชนผู้อื่นได้รับบาดเจ็บเมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (11 มกราคม) พนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อหาเมาแล้วขับ จากการที่สุทัศน์ปฏิเสธไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการทดสอบระดับแอลกอฮอล์ในเลือด ณ จุดเกิดเหตุแล้วนั้น

พ.ต.ต.ชวลิต ระบุว่า สิ่งที่เป็นข้อกังวล คือการสื่อสารของฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่พยายามทำให้สังคมเน้นจับตาไปที่ผลการตรวจระดับแอลกอฮอล์ในเลือด ซึ่งตนขอยืนยันว่าผลตรวจนี้เชื่อถือไม่ได้ ไม่สามารถนำไปสู่ข้อสรุปได้ว่าผู้ต้องหาเมาแล้วขับ ณ เวลาที่เกิดเหตุหรือไม่ สิ่งที่เป็นประเด็นสำคัญจริงๆ ของคดีนี้อยู่ที่ความพยายามของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการให้ความช่วยเหลือผู้ต้องหาเปลี่ยนจากความผิดเมาสุราแล้วขับขี่ชนผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ ที่มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-5 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000 – 100,000 บาท หรือทั้งจำและทั้งปรับ มาเป็นการขับรถโดยประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ที่มีโทษจำคุกเบากว่า คือไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้ต้องหาจะพยายามเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงแต่เป็นความโชคดีที่ในกรณีนี้มีหลักฐานเป็นภาพเคลื่อนไหวอย่างชัดเจน จึงไม่เป็นที่ถกเถียงว่าผู้ต้องหามีความผิดแน่ ๆ แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่มีความพยายามถ้าไม่ใช่จากฝ่ายเจ้าหน้าที่ก็ฝ่ายผู้ต้องหา ในการเปลี่ยนข้อเท็จจริงด้วยการยื้อเวลาให้มีปริมาณแอลกอฮอลล์ในเลือดลดลง

‘เพื่อไทย’ จวก ‘ประยุทธ์’ ไร้มารยาทร้ายแรง หลังแต่งตั้งคนจาก รทสช. นั่งที่ปรึกษานายกฯ

(12 ม.ค. 66) น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ลงนามแต่งตั้งนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี, นายชัชวาลล์ คงอุดม, นายชุมพล กาญจนะ และนายเสกสกล อัตถาวงศ์ เป็นที่ปรึกษาของนายกฯ หลังจากที่ก่อนหน้านี้แต่งตั้งนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ในตำแหน่งเลขาธิการนายกฯ ทั้งหมดเป็นนักการเมืองในสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติที่พล.อ.ประยุทธ์ ไปร่วมงานการเมืองด้วยว่า การกระทำของพล.อ.ประยุทธ์แสดงเจตนาอย่างชัดเจน ว่าต้องการให้พรรครวมไทยสร้างชาติเป็นนั่งร้านค้ำยันอำนาจให้กับตัวเองในการเลือกตั้งครั้งหน้า ตั้งคนเหล่านี้ให้มีอำนาจทางการเมือง เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อการเลือกตั้ง เป็นการกระทำที่ไร้มารยาททางการเมืองอย่างรุนแรง พล.อ.ประยุทธ์หวังสร้างอำนาจในหมู่ข้าราชการ และคนที่แต่งตั้งเข้ามาสามารถแทรกแซงอำนาจทางการเมืองได้ ประชาชนทั้งประเทศกังขาว่าพล.อ.ประยุทธ์กลัวแพ้เลือกตั้งถึงต้องตั้งคนของตัวเองคุมกลไกภาครัฐอย่างที่เห็นอยู่ 

เปิดม่านเมืองกาญจน์ สังเวียนวัดพลัง ‘พท-ภท.’ ชิงชัย 5 เขต 'อุ๊งอิ๊ง' เตรียมพาเหรดเรียกเรตติ้ง

แม้สัญญาณลั่นระฆังเลือกตั้งจะยังคงแผ่วเบา แต่คาดว่าอีกไม่นานก็คงดังกังวาล หลังวาระ 4 ปีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะเวียนบรรจบมาในวันที่ 23 มีนาคม 2566 ซึ่งเราจะได้เห็นท่าทีของ ‘บิ๊กตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศยุบสภาก่อนครบวาระ 4 ปีหรือไม่ ก็คงต้องตามดูกัน

ทว่าในกรณีที่มีการประกาศยุบสภาก่อนวาระจริง ก็คงจะต้องมีการจัดให้มีการเลือกตั้งขึ้นภายใน 45 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน หลังจากวันที่พระราชกฤษฎีกายุบสภามีผลบังคับใช้นั้น และนั่นก็ทำให้บรรดาพรรคการเมืองเปิดยุทธศาสตร์ชิงพื้นที่กันอย่างไวว่อง

อย่างไรก็ตาม แม้สัญญาณจะยังไม่ชัด แต่หลายพรรคการเมืองก็เริ่มออกมาอัดนโยบายและเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ในหลาย ๆ พื้นที่จังหวัดกันบ้างแล้ว 

หนึ่งในสนามที่ตอนนี้เริ่มมีความชัดเจนในการปูตัวผู้สมัคร ส.ส.ที่น่าจับตาไม่น้อยนั้น ก็คือ จังหวัด กาญจนบุรี โดยการเมืองในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีทั้ง 5 เขตนั้น เริ่มมีการเคลื่อนพลสมาชิกและว่าที่ผู้สมัครฯ ออกมาแล้วหลายพรรค แต่ก็มีอีกหลายพรรคการเมืองยังคงเงียบเหงา เพราะยังไม่มีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครเลยแม้แต่เขตเดียว เช่น พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) พรรคก้าวไกล (กก.) พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.)หรือแม้กระทั่งพรรค ประชาธิปัตย์ (ปชป.) เป็นต้น

สำหรับพรรคการเมืองที่มีการเปิดตัวสมาชิกและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี ที่ชัดเจน แต่ยังไม่ครบทั้ง 5 เขต ที่ฮือฮาที่สุดคือ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เนื่องจากว่าที่ผู้สมัครส่วนใหญ่ล้วน เป็น ส.ส.ที่ย้ายออกจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่สำคัญเป็นนักการเมืองรุ่นเก๋าที่มีประสบการทางด้านการเมืองที่สุดที่ชาวกาญจนบุรีต่างก็รู้จัก เช่น พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ อดีต ส.ส.กาญจนบุรี พรรคพลังประชารัฐ เขต 1 ครั้งนี้ลงในนามพรรคภูมิใจไทย แต่พื้นที่เขต 1 (อ.เมือง อ.ศรีสวัสดิ์) ยังมีว่าที่ผู้สมัครที่พรรคภูมิใจไทยเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ คือ ดร.วรสุดา สุขารมณ์ หรือ ดร.จุ๊บ ลูกสาวสุดที่รักของ นาวาโท นพ.เดชา สุขารมณ์ หรือหมอเดชา อดีต ส.ส.กาญจนบุรี หลายสมัยที่เสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งเขตนี้ขึ้นอยู่กับผลโพลว่าใครจะได้รับความนิยมมากกว่า พรรคภูมิใจไทย ก็จะส่งคนนั้นลงสมัคร

ด้านเขต 2 (อ.ท่าม่วง อ.ด่านมะขามเตี้ย) ขณะนี้ยังไม่ปรากฏชื่อผู้สมัคร แต่คาดว่าพรรคภูมิใจไทยน่าจะอยู่ระหว่างการพิจารณาตัวว่าที่ผู้สมัครที่เหมาะสม 

ส่วนเขต 3 (อ.ท่ามะกา อ.พนมทวน) นายยศวัฒน์ มาไพศาลสิน หรือ ส.ส.กุ๊ก แชมป์เก่า ที่เป็นดาวเด่นในสภา ได้ลงสมัครพื้นที่เดิม 100% 

เขต 4 (อ.ห้วยกระเจา อ.เลาขวัญ อ.หนองปรือ และ อ.บ่อพลอย) นายธรรมวิชญ์ โพธิพิพิธ หรือผู้ใหญ่แหลม อดีต ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ไม่พลาดที่จะได้เป็นว่าที่ผู้สมัครในนามพรรคภูมิใจไทยอย่างแน่นอน 

ขณะที่ เขต 5 (อ.ไทรโยค อ.ทองผาภูมิ อ.สังขละบุรี) นายอัฏฐพล โพธิพิพิธ หรือพี่เมศ อดีต ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ จะได้ลงสมัครในนามพรรคภูมิใจไทย 100% เช่นกัน

ถัดจากพรรคภูมิใจไทย ก็มีอีก 1 พรรคสำคัญที่จะต้องเอ่ยถึง คือ พรรคเพื่อไทย (พท.) โดยครั้งนี้พรรคเพื่อไทย ประกาศส่งชื่อว่าที่ผู้สมัครครบแล้วทั้ง 5 เขต ซึ่งที่น่าสนใจที่สุดคือ ว่าที่ผู้สมัครทั้ง 5 เขต ล้วนเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถทั้งสิ้น ไล่มาตั้งแต่เขต 1 (อ.เมือง อ.ศรีสวัสดิ์) นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ หรือ กอล์ฟ นักธุรกิจอาหารเสริมที่ประสบความสำเร็จ และอยากกลับมาพัฒนาบ้านเกิด โดยได้รับการชักชวนให้เข้าสู่วงการการเมืองจาก มดดำ คชาภา ตันเจริญ พิธีกรชื่อดังของเมืองไทย

เขต 2 (อ.ท่าม่วง อ.ด่านมะขามเตี้ย) นายชูเกียรติ จีนาภักดิ์ อดีต สมาชิกสภา อบจ.กาญจนบุรี คนนี้ถือว่าเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรงเช่นกัน

แต่ว่าที่ผู้สมัครที่พรรคเพื่อไทยเปิดตัวแล้วสร้างความฮือฮาให้กับคอการเมืองในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีมากที่สุดคือ ว่าที่ผู้สมัคร เขต 3 (อ.ท่ามะกา อ.พนมทวน) น.ส.พลอย ธนิกุล หรือน้องพลอย ทายาท แคล้ว ธนิกุล อดีตเจ้าพ่อนครบาล และ เขมพร ต่างใจเย็น หรือเจ๊เขม เจ้าแม่ธุรกิจก่อสร้าง โดยที่ผ่านมา น.ส.พลอย หรือ น้องพลอย ลงพื้นที่พบปะประชาชนในพื้นที่ในนามพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ของบิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มาโดยตลอด แต่ในที่สุดกลับกลายเป็นพรรคเพื่อไทยที่คว้าตัวไปครอง หลังจากเปิดตัว น.ส.พลอย ได้โพสต์ข้อความและรูปภาพลงเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากชาว อ.พนมทวน อ.ท่ามะกา กันอย่างล้นหลาม มีผู้เข้าไปแสดงความยินดีและต้อนรับกันเป็นจำนวนมากเลยทีเดียว

ร้องกันได้ยัง!! 'หน้าที่เด็ก' เวอร์ชัน 2023 เพลงแปลงเพื่อกลุ่มการเมือง ‘เยาวรุ่น’

เพจนักเขียนร้อยกรองชื่อดัง 'ภกฺติ' ได้เผยแพร่เนื้อร้องเพลง 'หน้าที่เด็ก' เวอร์ชัน 2023 มีเนื้อหาเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มคลั่งไคล้ลัทธิการเมือง หรือกลุ่ม ‘เยาวรุ่น’ (เยาวชน + วัยรุ่น) ซึ่งมักแสดงออกถึงพฤติกรรมก้าวร้าว บิดเบือนสิ่งดีในสังคมให้แปดเปื้อน 

โดยเพจ 'ภกฺติ' (ออกเสียงว่า ภักติ ซึ่งเป็นคำเดียวกับ ภักดี) ได้อิงมาจากทำนอง - คำร้องของ 'หน้าที่เด็ก' เพลงเดิม ซึ่งประพันธ์โดย 'ชอุ่ม ปัญจพรรค์' (ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ พ.ศ. 2534) ทำนองโดย 'เอื้อ สุนทรสนาน' (บูรพศิลปิน สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ สาขาศิลปะการแสดง) มีวง 'สุนทราภรณ์' บรรเลงและบันทึกเสียง ซึ่งนับเป็นบทเพลงที่มีอายุยาวนานที่สุดเพลงหนึ่งของไทย ไว้ดังนี้...

* เด็กเอ๋ยเด็กดี
คิดให้ถ้วนถี่อย่าเอาอย่างมัน (ซ้ำ*)

หนึ่ง ชังชาติศาสนา
สอง ปากหมาและหน้ามั่น

สาม เถียงพ่อแม่ครูอาจารย์
สี่ วาจานั้นช่างกำเริบเสิบสาน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top