Monday, 23 June 2025
ค้นหา พบ 48972 ที่เกี่ยวข้อง

EQS 500 4MATIC AMG Premium เบนซ์ไฟฟ้า ประกอบในไทย เปิดราคาไว้ 7,900,000 บาท

เมอร์เซเดส-เบนซ์ EQS 500 4MATIC AMG Premium ยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกที่ประกอบในโรงงานเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ที่ผสานทั้งเทคโนโลยี ดีไซน์ ฟังก์ชันการใช้งาน และการเชื่อมต่อเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืนซึ่งเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้เปิดไลน์การผลิตภายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการไปแล้ว

โดยรถยนต์คันนี้รังสรรค์ขึ้นด้วยแพลตฟอร์มของยานยนต์ไฟฟ้าใหม่ในทุกรายละเอียด ทั้งการออกแบบโครงสร้างทางวิศวกรรม เรื่อยไปจนถึงดีไซน์ภายนอกและภายในที่สะท้อนเอกลักษณ์ของความเป็นยานยนต์สำหรับโลกอนาคตจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ มาพร้อมขุมพลังไฟฟ้า 100% จากมอเตอร์ไฟฟ้าคู่พร้อมความจุของแบตเตอรี่ขนาด 108.4 kWh ให้กำลังสูงสุด 449 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 828 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งที่ยอดเยี่ยมจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงในเวลา 4.8 วินาที พร้อมทำความเร็วสูงสุดได้ 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง 

‘ก้าวไกล-ก้าวหน้า’ ชูนโยบาย ‘ทุกจังหวัดไทยก้าวหน้า’ เน้นกระจายอำนาจ - งบประมาณสู่ท้องถิ่น

ก้าวไกล จัดหนักต่อเนื่อง เปิดนโยบายทุกจังหวัดไทยก้าวหน้า กางโรดแมปกระจายอำนาจเต็มสูบ เพิ่มงบท้องถิ่นสองแสนล้านบาทต่อปีภายใน 4 ปี จัดประชามติยกเลิกส่วนภูมิภาค-เลือกนายกจังหวัดทั่วประเทศ พร้อมยืนยันข้าราชการไม่ตกงาน-ไม่เสียสิทธิประโยชน์

วันที่ 26 พฤศจิกายน ที่อาคารอนาคตใหม่ ชั้น 7 พรรคก้าวไกลแถลงนโยบาย ‘ทุกจังหวัดไทยก้าวหน้า’ ซึ่งเป็นชุดนโยบายที่ 3 ต่อจาก ‘การเมืองไทยก้าวหน้า’ และ ‘สวัสดิการไทยก้าวหน้า’ โดยเป็นการแถลงร่วมกับคณะก้าวหน้า ที่นำเสนอผลงานการทำงานในระดับท้องถิ่นในรอบปีที่ผ่านมา

‘ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวว่า การกระจายอำนาจเป็นนโยบายหลักตั้งแต่ครั้งพรรคอนาคตใหม่ โดยคณะก้าวหน้าก็สานต่อภารกิจด้วยการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งท้องถิ่น เหตุผลที่เราผลักดันเรื่องนี้ เพราะต้องการให้ประเทศเกิดการขับเคลื่อน 2 ทางควบคู่กัน คือการขับเคลื่อนจาก “ล่างขึ้นบน” ผ่านการสร้างผู้บริหารท้องถิ่นที่มีศักยภาพ พิสูจน์ว่าท้องถิ่นพร้อมบริหาร พร้อมพัฒนาเมืองของตัวเอง โดยจากการทำงานของ อปท. คณะก้าวหน้าภายใต้ข้อจำกัดต่างๆ เราสามารถแก้ปัญหาปากท้องและคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่ได้หลายเรื่อง เช่น น้ำประปาดื่มได้ กล่อง baby box ให้เด็กแรกเกิด ระบบจัดการขยะที่มีมาตรฐานเทียบเท่าประเทศญี่ปุ่น การสร้างงานและรายได้ผ่านการท่องเที่ยวชุมชน

ธนาธรกล่าวต่อว่า อีกทางหนึ่งคือการขับเคลื่อนจาก ‘บนลงล่าง’ ผ่านการแก้ไขรัฐธรรมนูญและแก้ไขกฎหมายเพื่อปลดล็อกข้อจำกัดในการทำงานของท้องถิ่น ซึ่งเป็นที่มาของการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ‘ปลดล็อกท้องถิ่น’ ที่มีประชาชนทั่วประเทศร่วมลงชื่อกว่า 76,591 คน และจะเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาในวันที่ 29-30 พฤศจิกายนนี้ โดยเราหวังว่าวันหนึ่งการขับเคลื่อนทั้ง 2 ทางจะมาบรรจบกันที่เส้นชัย คือการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประเทศที่ก้าวหน้า หลุดพ้นจากประเทศกำลังพัฒนา

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ที่ผ่านมาความเจริญและอำนาจในการตัดสินใจส่วนใหญ่ของประเทศไทยรวมศูนย์อยู่ที่กรุงเทพฯ และรัฐส่วนกลาง ขนาดเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ ใหญ่กว่าจังหวัดอันดับ 2 อย่างชลบุรีถึง 5 เท่า ในขณะที่ส่วนกลางมีอำนาจในการตัดสินใจเรื่องการใช้งบสูงถึง 80% ของงบประมาณทั้งหมด พรรคก้าวไกลจึงมีเป้าหมายที่จะปลดล็อกความกระจุกตัวของอำนาจและความเจริญ ด้วยการทำให้ประชาชนทุกจังหวัดมีอำนาจและทรัพยากรเพียงพอในการกำหนดอนาคตของตัวเอง

“หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมพรรคก้าวไกลพูดแต่เรื่องกระจายอำนาจ ทำไมไม่พูดเรื่องปากท้องเฉพาะหน้าของประชาชน แต่ผมต้องบอกว่านโยบายกระจายอำนาจคือนโยบายเศรษฐกิจ คือเรื่องปากท้อง เพราะการกระจายอำนาจจะนำไปสู่การระเบิดพลังทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ทำให้งบประมาณถูกใช้อย่างถูกจุดโดยคนที่ใกล้ชิดกับปัญหาและรู้ปัญหาจริง เพื่อยกระดับบริการสาธารณะ และสร้างงานใหม่ๆ ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ” พิธาระบุ

หัวหน้าพรรคก้าวไกลได้หยิบยกการศึกษาขององค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) เพื่อยืนยันถึงประโยชน์ของการกระจายอำนาจที่ถูกพิสูจน์ให้เห็นในหลายประเทศทั่วโลก การกระจายอำนาจจะทำให้เศรษฐกิจเติบโตและลดความเหลื่อมล้ำของรายได้ต่อหัวในแต่ละภูมิภาค ส่วนที่บางคนเชื่อว่ายิ่งกระจายอำนาจก็ยิ่งกระจายคอร์รัปชัน ผลการศึกษาในต่างประเทศกลับพบว่าหากทำควบคู่กับการเพิ่มเสรีภาพในการแสดงออกและการมีส่วนร่วมของประชาชนในการตรวจสอบรัฐบาล การกระจายอำนาจกลับทำให้คอร์รัปชันลดลง

พิธากล่าวว่า นโยบาย ‘ทุกจังหวัดไทยก้าวหน้า’ จะพลิกประเทศทั้งในระยะสั้น-กลาง-ยาว โดยหากเป็นรัฐบาล สิ่งที่จะทำใน 100 วันแรกคือการยกเลิกกฎระเบียบและคำสั่ง คสช. ทั้งหมดที่ล็อกคอ-ล้วงลูกท้องถิ่น ถัดมาภายใน 1 ปี คือการทำประชามติว่าประชาชนเห็นด้วยหรือไม่กับการเลือกตั้ง ‘นายกจังหวัด’ ทุกจังหวัด และยกเลิกราชการส่วนภูมิภาค โดยที่รับประกันว่าไม่มีใครตกงานหรือเสียประโยชน์ และในทุกๆปี รัฐบาลก้าวไกลจะค่อยๆ กระจายงบประมาณให้ท้องถิ่นในการจัดทำบริการสาธารณะและพัฒนาพื้นที่ โดยภายใน 4 ปี ท้องถิ่นทั่วประเทศจะได้งบเพิ่มขึ้น 200,000 ล้านบาทต่อปี คิดเป็นการเพิ่มงบ อบจ. ละ 250 ล้าน เมืองละ 100 ล้าน ตำบลละ 50 ล้านบาท ต่อปี โดยเฉลี่ย

วรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า นโยบายทุกจังหวัดไทยก้าวหน้าประกอบด้วย 4 ข้อสำคัญ ได้แก่ 

(1) การวางโรดแมปไปสู่การเลือกตั้ง ‘นายกจังหวัด’ ที่จะทำหน้าที่เป็นผู้บริหารสูงสุดในจังหวัดแทนผู้ว่าราชการที่มาจากการแต่งตั้ง 
(2) การเพิ่มงบจังหวัดจัดการตนเอง 
(3) การปลดล็อกกฎระเบียบให้ท้องถิ่นจัดทำบริการสาธารณะและแก้ปัญหาให้ประชาชนในพื้นที่ได้ทั้งหมด 
และ (4) การเพิ่มอำนาจประชาชนในการตรวจสอบการทำงานของท้องถิ่น เพื่อแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน

นอกจากประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ วรภพกล่าวว่าพรรคก้าวไกลขอยืนยันกับข้าราชการทุกคนที่สังกัดส่วนภูมิภาคและสังกัดส่วนท้องที่ เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ว่า ‘ทุกตำแหน่งแห่งหนจะยังคงอยู่ ทุกสิทธิประโยชน์จะยังคงเดิม และทุกความก้าวหน้าจะยังคงมี’ โดยการปฏิรูประบบราชการครั้งนี้ เป็นเพียงการเปลี่ยนการทำงานของข้าราชการบางส่วนในแต่ละพื้นที่ จากเดิมที่ทำงานแยกกันภายใต้อธิบดีกรมหรือปลัดกระทรวงที่อยู่ที่กรุงเทพฯ เปลี่ยนเป็นทำงานร่วมกันภายใต้ผู้บริหารท้องถิ่นที่ประชาชนเลือกในพื้นที่โดยตรง โดยจะเป็นการออกแบบระบบราชการที่ทำให้ศักดิ์และสิทธิของข้าราชการทุกสังกัดเท่าเทียมกัน มีกลไกรองรับการถ่ายโอนโยกย้ายระหว่างส่วนกลางกับส่วนท้องถิ่น

“ผมเชื่ออย่างสุดใจ ว่าภารกิจนี้เป็นโอกาสสำคัญที่จะทำให้ทุกจังหวัดในประเทศไทยก้าวหน้า ถ้าประชาชนเป็นคนเลือกนายกจังหวัดแล้ว จะไม่มีรัฐบาลไหนเปลี่ยนกลับมาให้มีผู้บริหารจังหวัดที่มาจากการแต่งตั้งได้อีก นี่จึงเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง ที่ไม่มีวันย้อนกลับได้” วรภพกล่าว

ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล กล่าวว่า การกระจายอำนาจจะทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น ตั้งแต่ตื่นเช้าจนเข้านอน เช่น ในช่วงเช้า คนภาคเหนือจะไม่ต้องตื่นมาสูดอากาศที่เป็นมลพิษ เพราะปัญหาไฟป่าจะได้รับการจัดการที่ดีขึ้น อาสาสมัครป้องกันไฟป่าจะได้รับการฝึกอบรม มีอุปกรณ์และเครื่องมือที่เพียงพอ ลดความเสี่ยงในการสูญเสียชีวิต 

ในช่วงกลางวัน คนภูเก็ตหรือคนขอนแก่น อาจได้ใช้ระบบขนส่งสาธารณะที่ผลักดันมายาวนาน เช่น รถราง รถไฟฟ้า ซึ่งที่ผ่านมาทำไม่ได้เพราะเงินไม่พอและไม่มีอำนาจตัดสินใจ 

ในช่วงเย็น ประชาชนจะมีสวนสาธารณะใกล้บ้านสำหรับพักผ่อนและเป็นพื้นที่ทำกิจกรรมร่วมกันของคนทุกกลุ่ม แต่ที่ผ่านมาเทศบาลไม่สามารถใช้งบประมาณด้านวัฒนธรรมเพื่อจัดงานคริสต์มาสได้ เพราะส่วนกลางกำหนดให้จัดได้แค่งานวัฒนธรรมไทย 

และช่วงค่ำ ประชาชนจะออกไปสังสรรค์ใกล้บ้านได้สะดวก หากกระจายอำนาจให้นายกจังหวัดจัดการผังเมืองได้ ไม่ถูกจำกัดโดยการจัดโซนนิ่งของรัฐส่วนกลาง ที่บางครั้งทำให้สถานที่สังสรรค์มีที่ตั้งอยู่ห่างไกล ดังนั้น จากตัวอย่างทั้งหมดนี้ เชื่อว่าการกระจายอำนาจจะทำให้ชีวิตของคนไทยดีขึ้น รัฐบาลท้องถิ่นใกล้ชิดประชาชน และนโยบายยึดโยงพื้นที่

สภาอุตสาหกรรมภาคกลางหนุนโครงการเพชรบุรีฟู้ดวัลเลย์ (Petchburi Food Valley)

‘อลงกรณ์’ เดินหน้าผลักดันต่อเล็งดึงการลงทุนจากในประเทศและดูไบ ซาอุดีอาระเบียและจีนขับเคลื่อนโครงการเน้นอุตสาหกรรมสีเขียวใช้เทคโนโลยีเมดอินไทยแลนด์

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กรกอ.) ได้รับเชิญเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยภาคกลาง 17 จังหวัด ครั้งที่ 3/2565 โดยมี นายธรรมนูญ ศรีวรรธนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี นายทวี ปิยะพัฒนา รองประธานอาวุโสสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายสุรชัย โสตถีรวรกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคกลาง ดร.เลิศจันฑา สีเหลืองสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบุรีและเลขาธิการกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 นายสมภพ ธีระสานต์ เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมภาคกลาง นายมานพ โตการค้า ผู้บริหารโครงการเพชรบุรีฟู้ดวัลเลย์ และรองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยคณะกรรมการและที่ปรึกษา สภาอุตสาหกรรมภาคกลาง สภาอุตสาหกรรมกลุ่มจังหวัด สภาอุตสาหกรรมจังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสาคร นครปฐม สุพรรณบุรี นนทบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี  และสระบุรี ฯลฯ.เข้าร่วมประชุม ณ โรงแรมทะเล อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี 

นายอลงกรณ์เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ได้แจ้งมติที่ประชุม ‘กรกอ.’ ครั้งล่าสุดที่เห็นชอบโครงการ เพชรบุรีฟู้ดวัลเลย์ (Petchburi Food Valley ) ในจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพทั้งทางด้านคมนาคม การสื่อสาร ไฟฟ้า และระบบน้ำ โดยพื้นที่ดังกล่าว เคยเป็นโครงการสร้างเมืองอุตสาหกรรมท่องเที่ยวบริการ ปัจจุบันได้ปรับพื้นที่เป็นโครงการพัฒนาเกษตรกรรมและการแปรรูปทั้งพืช ประมงและปศุสัตว์ตามกฎหมายผังเมืองและกฎหมายอื่นๆ ถือเป็นหนึ่งในโครงการ 1 กลุ่มจังหวัด 1 เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตร ซึ่งเป็นโครงการเรือธง (Flagship Project) ของคณะกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในกลุ่มจังหวัดเพชรสมุทรคีรี (เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสงครามและสมุทรสาคร) มีศูนย์ AIC เพชรบุรีคือ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรีให้การสนับสนุน จุดเด่นอีกประการคือการใช้เทคโนโลยีเกษตรเมดอินไทยแลนด์เป็นส่วนใหญ่ เป็นอุตสาหกรรมสีเขียวและหวังว่าจะช่วยสร้างงานสร้างอาชีพและรายได้ให้กับประชาชนและจังหวัดเพชรบุรีเพิ่มขึ้น

ซึ่งโครงการเพชรบุรีฟู้ดวัลเลย์ (Petchburi Food Valley) ยังเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจตะวันตก (Western Economic Corridor: WEC) ตามนโยบายรัฐบาล จากการสร้างฐานการแปรรูปสินค้าเกษตรอาหาร กระจายการลงทุนใน 18 กลุ่มจังหวัด เพื่อการพัฒนาอย่างเท่าเทียมและยกระดับเกษตรแบบดั้งเดิมสู่เกษตรมูลค่าสูงตามหมุดหมายใหม่ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 เป็นการเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นครัวโลก พร้อมกับขอบคุณสภาอุตสาหกรรมภาคกลางที่ให้การสนับสนุนโครงการเพชรบุรีฟู้ดวัลเลย์ (Petchburi Food Valley)

'บิ๊กตู่' สั่ง ให้สิทธิค่ายรถเลือกผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก เอื้อลงทุนต่อเนื่อง หลังตลาดในประเทศเติบโตชัด

'บิ๊กตู่' สั่ง ให้สิทธิค่ายรถเลือกผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก หวังดึงดูดลงทุนในไทย

(26 พ.ย.65) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากที่รัฐบาลกำหนดนโยบายให้การผลิตยานยนต์ไฟฟ้าเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ติดตามผลสัมฤทธิ์ของนโยบายอย่างต่อเนื่อง และพอใจกับแนวโน้มการเติบโตของตลาดยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศที่เกิดขึ้นในขณะนี้

โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้รายงานว่าตั้งแต่รัฐบาลได้ประกาศมาตรการส่งเสริมการลงทุนยานยนต์ไฟฟ้าได้มีผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกให้ความสนใจประเทศไทย ประกอบกับไทยเป็นฐานผลิตยานยนต์ทั้งรถยนต์นั่ง กระบะ จักรยานยนต์ ที่สำคัญของโลกอยู่แล้ว ซึ่งผู้ผลิตหลายรายทั้งรถยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนได้ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนเข้ามายังบีโอไอ และขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาพูดคุยกับผู้ผลิตรถยนต์หลายราย จากทั้ง จีน ญี่ป่น และยุโรป ที่ให้ความสนใจมาลงทุนในไทยด้วย

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ข้อมูลของบีโอไอแสดงให้เห็นว่านอกจากนโยบายส่งเสริมการลงทุนที่ชัดเจนแล้ว ความต้องการและตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตอย่างรวดเร็วในไทยเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดผู้ผลิตรถยนต์ แบตเตอรี่ ชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า สนใจเลือกประเทศไทยเป็นฐานผลิตเพื่อขายในไทยและส่งออกไปทั่วโลก

ล่าสุด กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้รายงานว่า 10 เดือนแรกของปี 2565 (ม.ค.-ต.ค.)  ทั่วประเทศมียานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) จดทะเบียนใหม่ 15,258 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 230.62 โดยส่วนใหญ่เป็นรถยนต์นั่ง และจักรยานยนต์ ที่ 7,046 คัน และ 7,534 คัน ตามลำดับ ส่วนที่เหลือเป็นรถอื่นๆ เช่น รถโดยสาร รถกระบะ รถบรรทุก รถแวน รถสามล้อ เป็นต้น

‘กรณ์’ ผลักดันสร้างสะพานเชื่อม ‘เกาะสมุย-แผ่นดินใหญ่’ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว พลิกฟื้นเศรษฐกิจภาคใต้

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.สุราษฎร์ธานี ว่า เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2565 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ได้รับเชิญจากสมาคมสมุย เพื่อร่วมเสวนาเรื่องการสร้างสะพานเชื่อม ‘เกาะสมุย-แผ่นดินใหญ่’ โดยมีสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว นักธุรกิจ ผู้ประกอบการโรงแรม ประชาชนชาวเกาะสมุย กว่า 200 คน รวมถึง ว่าที่ผู้สมัครส.ส.สุราษฎร์ธานี เขต 2 พรรคชาติพัฒนากล้า นางพงศ์ศรี นาคเมือง หรือ ทนายอ๋อย ทนายความชื่อดังแห่งเกาะสมุย ที่เกาะติดการเรียกร้องก่อสร้างสะพานมาอย่างต่อเนื่องด้วย

นายกรณ์ กล่าวว่า สถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบัน สิ่งที่ต้องรีบแก้ไขเพื่อสะสางปัญหาด้านอื่นๆ ได้คือ ปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน ประเทศเราจะมีทรัพยากรเพียงพอในการยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนได้ เศรษฐกิจต้องดีก่อน ซึ่งจากการพูดคุยกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ทุกคนเห็นตรงกันว่า การจะแก้ปัญหาปากท้องได้ เราต้องมีจุดยืนในการสร้างสะพานเชื่อมเกาะสมุย-แผ่นดินใหญ่ สะพานแห่งนี้จึงเป็นเพชรเม็ดงามของอ่าวไทย แต่เพชรจะงามได้ต้องอยู่บนแหวน ที่ออกแบบเพื่อให้การท่องเที่ยวเชื่อมโยงกันได้สะดวก 

ดังนั้นตนจึงตั้งใจจะมาทอดสะพานแห่งโอกาสและระดมสมองเพื่อให้การก่อสร้างสะพาน เพื่อเป้าหมายในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวของภาคใต้ให้สามารถรับนักท่องเที่ยวรายได้สูงจากทั่วโลกได้ตลอดทั้งปี มี land-bridge มอเตอร์เวย์พาดผ่าน จากอ่าวไทยถึงอันดามัน จากหาดเฉวงจนถึงปลายแหลมพรหมเทพ ซึ่งจะกระตุ้นการท่องเที่ยวให้ครึกครื้น พลิกฟื้นเศรษฐกิจภาคใต้ และส่งผลต่อจีดีพีประเทศ

นายกรณ์ กล่าวว่า นอกจากส่งเสริมการท่องเที่ยวแล้ว การมีสะพาน ยังเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ประชาชนด้วย เพราะปัจจุบัน ต้นทุนค่าครองชีพที่สูงมากทั้งราคาน้ำมันที่โดยทั่วไปก็สูงอยู่แล้ว แต่ที่เกาะสมุยราคาสูงกว่าแผ่นดินใหญ่ถึง 2 บาท ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าใช้จ่ายต่างๆ แพงกว่าปกติเกือบทุกรายการ ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม รีสอร์ท เข้าถึงแหล่งเงินทุนค่อนข้างยากลำบาก อัตราดอกเบี้ยค่อนข้างสูง สะท้อนให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำอย่างชัดเจน ในขณะที่ รถไฟฟ้าใน กทม. มีรถไฟฟ้านับสิบสายมีการลงทุนเป็นแสนล้าน แต่เกาะสมุยกลับได้รับความช่วยเหลือใด ๆ 

“ถ้าจัดลำดับผลในทางบวกต่อประชาชน คือ 1.) ลดค่าครองชีพของชาวเกาะสมุยกว่า 6 หมื่นคน และพี่น้องชาวใต้ ชาวอีสาน ที่ทำมาหากินที่นี่อีกหลายแสนคนในแต่ละปี 2.) การเพิ่มคุณภาพชีวิต เข้าถึงการรักษาพยาบาล ลดต้นทุนการเดินทางของนักเรียนนักศึกษา และประชาชน 3.) การสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ให้กับชาวสมุยที่มีธรรมชาติที่งดงามมาก ส่วนกระบวนการก่อสร้างนั้น คิดว่าถึงเวลาแล้ว ต้องสื่อสารให้พี่น้องชาวเกาะสมุยได้รู้ถึงประโยชน์ที่จะได้รับ ส่วนผลกระทบทางลบมีแต่บริหารจัดการได้  กระบวนการทางการเมืองที่เหมาะสมคือต้องมาจากภาคประชาชนส่งสัญญานไปยังพรรคการเมืองว่าเราได้กลั่นกรอง ทบทวน พิจารณาแล้ว ในอนาคตอาจเปิดให้มีการทำประชาพิจารณ์ จากนั้นเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันทั่วโลก เป็นโอกาสในการสร้างประติมากรรมและแลนด์มาร์กที่สำคัญ และจะเป็นประโยชน์แก่ลูกหลานนับชั่วอายุคน และตนก็พร้อมที่จะเคียงข้างประชาชนไปพูดทุกเวที หากมีการดีเบตเรื่องการสร้างสะพานแห่งนี้" นายกรณ์ กล่าว

ด้านนายวิรัช พงษ์ฉบับนภา หรือ โกฉุย กล่าวว่า ตนในฐานะเป็นคนเกาะสมุยโดยกำเนิด ในอนาคตหากเกาะสมุยไม่เตรียมความพร้อมการเดินทางเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวแล้ว อาจทำให้เกาะสมุยไม่ได้เป็นจุดหมายปลายทางการเดินทางของนักท่องเที่ยวได้จากปัญหาการเดินทางโดยเรือเฟอร์รี่ที่ล่าช้า เครื่องบินก็มีขีดจำกัด และค่าโดยสารราคาสูง ซึ่งตนได้ออกแบบสะพานไว้ ตั้งแต่ปี 2560 โดยคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอย มีช่องทางรถยนต์ และเลนสำหรับรถจักรยานยนต์ที่แยกส่วนเพื่อความปลอดภัย ส่วนบริเวณกึ่งกลางสะพานออกแบบเป็นจุดชมวิว มีที่จอดรถเพื่อชมความงามของทะเลอ่าวไทยและถ่ายรูป 

นอกจากนี้ ด้านล่างมีพื้นที่ช็อปปิ้งมอลล์ และลานสำหรับทำกิจกรรม อย่างไรก็ตามแม้จะเป็นการออกแบบด้วยแนวคิดส่วนตัว แต่ก็อยากให้รัฐบาลดำเนินการในแนวทางเดียวกันเพื่อผลประโยชน์ในภาพรวมเชื่อว่าจะพลิกโฉมการท่องเที่ยวของไทย พลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศให้กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง หลังจากซบเซามาจากหลายวิกฤตต่อเนื่อง 

นอกจากนี้ ในมิติของคุณภาพชีวิตประชาชน นายวิรัช กล่าวว่า ปัจจุบัน เกาะสมุยมีโรงพยาบาลที่เครื่องมือทันสมัยเพียงไม่กี่แห่ง หากต้องรับการผ่าตัดกว่าจะนั่งเรือเฟอรี่ก็ต้องใช้เวลานานกว่าจะถึงฝั่ง ส่งต่อไปยังโรงพยาบาล หลายคนต้องเสียชีวิต แต่ถ้ารักษาในโรงพยาบาลที่มีความพร้อมก็ต้องใช้เงิน 3-5 ล้านบาท แต่ขณะเดียวกัน ต้นทุนอย่างบนเกาะสมุยจะสูงกว่าบนฝั่งแผ่นดินใหญ่มาก ทั้งราคาน้ำมัน ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง สินค้าอุปโภคบริโภค ที่สูงกว่าปกติ หากมีสะพาน ต้นทุนที่ทุกคนต้องแบกภาระจะลดลงตามไปด้วย ระยะทาง 18 กิโลเมตรไม่ไกล น้ำทะเลที่ไม่ลึก สึนามิไม่มี องค์ประกอบทั้งหมดพร้อมมาก สะพานนี้คือหัวใจและเป็นหยาดโลหิตของชาวสมุย 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top