States TOON EP.93
ตามความถนัด!!
ติดตามการ์ตูนอัปเดตได้ทุกสัปดาห์ใน…
👍 ติดตามการ์ตูนสนุกๆ เพิ่มเติมได้ที่ : https://thestatestimes.com/tag/statestoon

ตามความถนัด!!
ติดตามการ์ตูนอัปเดตได้ทุกสัปดาห์ใน…
👍 ติดตามการ์ตูนสนุกๆ เพิ่มเติมได้ที่ : https://thestatestimes.com/tag/statestoon
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษกกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ขอเรียนชี้แจงผลการปฏิบัติระดมกวาดล้างจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมาย เกี่ยวกับอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน ยาเสพติด บุคคลตามหมายจับ และการรับจ้างเปิดบัญชีม้า ในห้วงวันที่ 10 - 25 ต.ค.65 ดังต่อไปนี้
ตามโยบายของรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติด อาวุธปืน และอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยกำชับให้หน่วยที่เกี่ยวข้องเร่งออกมาตรการควบคุม และปราบปรามอย่างต่อเนื่องให้มีผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรม รวมถึงแก้ไขปัญหาการรับจ้างเปิดบัญชีธนาคารให้มิจฉาชีพนำไปกระทำความผิด
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดเร่งดำเนินการปรามปรามจับกุมผู้กระทำผิดในทุกมิติ รวมถึงขยายผลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง
กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์ในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลักลอบจำหน่ายยาเสพติด อาวุธปืน บัญชีม้า และสิ่งของผิดกฎหมายผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ
โดยในระหว่างวันที่ 10 - 25 ต.ค.2565 กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) มีผลการปฏิบัติระดมกวาดล้างอาชญากรรมประเภทดังกล่าว ดังนี้...
1.ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน จับกุมผู้ต้องหา 43 ราย ตรวจยึดของกลางอาวุธปืน 31 กระบอก และเครื่องกระสุนอีกจำนวนมาก
2.ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด จับกุมผู้ต้องหา 100 ราย ตรวจยึดของกลางยาบ้า 94,006 เม็ด ยาไอซ์ 209.5 กรัม ยาอี 2,059 เม็ด
3.บุคคลตามหมายจับ จับกุมผู้ต้องหา 219 ราย
4.ความผิดเกี่ยวกับบุคคลซึ่งเปิดบัญชีให้มิจฉาชีพไปใช้ในการกระทำความผิด (บัญชีม้า) จับกุมผู้ต้องหา 45 ราย
5.ความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงออนไลน์อื่นๆ จับกุมผู้ต้องหา 94 ราย
รวมจับกุมผู้ต้องหาทั้งสิ้น 501 ราย
ทั้งนี้การดำเนินการของกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ยังคงมุ่งเน้นสนองนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิด มีผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง ลดปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นสำคัญ
โฆษก บช.สอท. กล่าวต่ออีกว่า แม้ว่าที่ผ่านมาทุกภาคส่วนจะร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่องและจริงจัง เเต่ในปัจจุบันยังคงพบเห็นการซื้อขายสิ่งของผิดกฎหมายผ่านสื่อสังคมออนไลน์อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการซื้อขายบัญชีธนาคาร หรือบัญชีม้า ไม่ว่าท่านจะถูกหลอกลวง หรือเต็มใจเปิดบัญชีเพื่อเเลกเงินค่าตอบเเทนเล็กน้อย ก็ถือว่าเป็นความผิดในฐานะตัวการร่วมหรือเป็นผู้สนับสนับสนุนการกระทำความผิด และจะถูกดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย
(27 ต.ค.65) เวลา 18.30 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เปิดเผยผลการระดมฯ ในห้วงแรก (10–19 ต.ค.65) ภาพรวมการปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีผลการดำเนินการ ดังนี้...
1) บุคคลตามหมายจับคดีอาญาได้ 3,884 หมายจับ
2) ผู้ต้องหาคดียาเสพติด 15,710 คดี (ผู้ต้องหา 15,866 คน) ของกลางยาบ้า 18,314,853 เม็ด ยาไอซ์ 297,690 กรัม เฮโรอีน 30,735 กรัม ยาอี 6,550 กรัม
3) ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน วัตถุระเบิด และเครื่องกระสุน ทั้งสิ้น 3,984 คดี ของกลางอาวุธปืนสงคราม 27 กระบอก ปืนไม่มีทะเบียน 2,438 กระบอก มีทะเบียน 452 กระบอก วัตถุระเบิด 600 รายการ และเครื่องกระสุน 16,168 นัด
แบ่งเป็นจับกุมความผิดเกี่ยวกับการจำหน่ายอาวุธปืนฯ โดยผิดกฎหมาย ทั้งโดยทางตรงและทางออนไลน์ จำนวน 97 คดี ผู้ต้องหา 63 คน) ของกลางอาวุธปืนไม่มีทะเบียน 46 กระบอก มีทะเบียน 12 กระบอก วัตถุระเบิด 156 รายการ เครื่องกระสุน 1,296 นัด และความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนฯ อื่นๆ จำนวน 3,887 คดี (จับกุมผู้ต้องหา 3,864 คน) ของกลาง อาวุธปืนสงคราม 27 กระบอก อาวุธปืน (ไม่มีทะเบียน) 2,392 กระบอก มีทะเบียน 440 กระบอก วัตถุระเบิด 444 รายการ เครื่องกระสุน 14,872 นัด
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้มีมาตรการสำคัญในการแก้ไขปัญหาอาวุธปืนและยาเสพติดที่เป็นรูปธรรม อย่างจริงจัง เน้นย้ำ ให้ทุกบูรณาการร่วมกันแก้ปัญหา นำหน่วยงานในท้องถิ่นและประชาชนในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และแสวงหาความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหา อย่างต่อเนื่อง เข้มข้น เพื่อให้การปฏิบัติเป็นรูปธรรมชัดเจน ได้กำหนดให้มีการระดมกวาดล้างในห้วงวันที่ 10 ต.ค. – 8 พ.ย.65 โดยผลระดมกวาดล้างในห้วง 10 วันแรก (10 ต.ค.-19 ต.ค.) ทุกหน่วยมีผลการปฏิบัติเป็นที่น่าพอใจ สามารถจับกุมผู้ต้องหาคดีหมายจับค้างเก่า 3,884 หมายจับ จับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด 15,710 คดี และจับกุมความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน 3,984 คดี
โดยในห้วงการระดมที่เหลือได้กำชับหน่วย เพิ่มความเข้มในการดำเนินการ และเพิ่มมาตรการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดออนไลน์ การสกัดกั้นยาเสพติดจากแนวชายแดน การตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ตรวจค้นบุคคลยานพาหนะให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ทุกเส้นทาง การสืบสวนขยายผลไปยังเครือข่ายหรือขบวนการที่กระทำความผิด และดำเนินการกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ยุ่งเกี่ยว พัวพันกับการกระทำความผิดกฎหมาย หรือประพฤติไม่เหมาะสม ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อย่างเด็ดขาด ทั้งทางอาญา ทางวินัย และทางปกครองโดยทันที
ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับ สั่งการ และมอบโยบายสำคัญเร่งด่วนให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เร่งระดมกวาดล้าง ปราบปราม ขุดรากถอนโคน ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพ แบบครบวงจร ทั้งขบวนการ อย่างเด็ดขาดและต่อเนื่อง ซึ่งปรากฎตามสื่อที่ผ่านมาหลายครั้งที่ผู้ก่อเหตุมีอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาเสพติด สร้างความสูญเสียแก่ชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชนเป็นอย่างยิ่ง เพื่อเป็นการป้องปรามมิให้มีการกระทำความผิดกฎหมายและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน
เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2565 เวลาประมาณ 16.30 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. จึงสั่งการให้ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. , พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. , พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น , พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. , พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง รอง ผบช.ปส. , พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ บุญยืนอนนต์ ผบก.ปส.1 , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น , พ.ต.อ.วิชัย สนสกุล ผกก.1 บก.ปส.1 บช.ปส. พร้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศอ.ปส.ตร. และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปส.1 บช.ปส. ร่วมกันสืบสวนจับกุม
1.นายออง เชา เซียง (Ong Shao Xiong) อายุ 34 ปี ชาวสิงคโปร์ ทำหน้าที่ส่งยาเสพติด
2. นายโล จิน อัง (LOW GIN ANG) หรือ นายเส้ง อายุ 53 ปี ชาวสิงคโปร์ ทำหน้าที่เป็นลักษณะนักเคมี
พร้อมด้วยของกลาง
1. เครื่องแพ็กซองยาเสพติด (Vacuum sealer) จำนวน 1 เครื่อง
2. ซองยาเสพติด ลักษณะคล้ายคลึงกับแบบที่เจ้าหน้าที่ตรวจค้นพบ ณร้านจินหลิง และร้าน Leela จำนวน กว่า 100,000 ซอง
3. ลำโพงขนาดใหญ่ จำนวน 3 ตัว เพื่อใช้ในการซุกซ่อนยาเสพติดขณะสั่งซื้อ/ขนส่ง
4.ไอซ์ ประมาณ 2 กรัม และไฟว์ไฟว์ จำนวน 20 เม็ด (ตรวจค้นได้จาก นายออง เชา เซียง( Ong Shao Xiong)
5. ยาไอซ์ 482.5 กรัม
6.ไฟว์ไฟว์ 380 เม็ด
7. ยาอี 151 ซอง
8.ยาบ้า ประมาณ 2,050 เม็ด
9.คีตามีน 10 กรัม
10.โคเคน จำนวน 1 กรัม
11. ยาเสพติด ชนิด แฮปปี้วอเตอร์ (Happy Water) จำนวน 8 ซอง
12. อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก และ กระสุนขนาด 9 มม. และ .22 รวม 84 นัด
และของกลางอื่นๆ อีกหลายรายการที่ใช้ในการผสม และแพ็กเกจ
สืบเนื่องจากกรณีตรวจค้นและจับกุมเครือข่ายยาเสะติดและกลุ่มนักเสพ นักท่องเที่ยวชาวจีน ณ สถานบริการภายใน ร้านจินหลิง และร้าน Leela ภายในท้องที่ สน.ยานนาวา เมื่อวันที่ 26 ต.ค.65 ที่ผ่านมานั้น
ต่อมา พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผู้อำนวยการ ศอ.ปส.ตร. ได้ทำการเกาะติดผู้มีพฤติการต้องสงสัย มีส่วนเกี่ยวข้อง รู้เห็น เร่งรัด ติดตาม สืบสวน ขยายผลเพิ่มเติ่ม
พบว่า มีชาวต่างชาติชื่อว่า “นายเส้ง” สัญชาติสิงคโปร์ มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีน ตามสถานบันเทิงต่างๆในพื้นที่ จึงได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการของ ศอ.ปส.ตร. ร่วมบูรณาการปฎิบัติการกับ กก.1 บก.ปส.1 และสืบสวนนครบาลทำการสืบสวนขยายผลจนทราบแหล่งซุกซ่อนยาเสพติดที่ลำเลียงมาจากประเทศเพื่อนบ้าน
จับกุมผู้ต้องหาที่ 1 ได้บริเวณ หน้าห้างบิ๊กซี ลาดพร้าวซอย 9 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ในข้อหา “ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) โดยไม่ได้รับอนุญาต และครอบครองวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (ไฟว์ไฟว์) โดยไม่ได้รับอนุญาต”
และจับกุม ตัวนาย โล จิน อัง (Low Gin Ang) ชาวสิงคโปร์ อายุ 63 ปี ในข้อหา “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์,ยาบ้า,ยาอี) และจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประเภท 2 (ไฟว์ไฟว์,คีตามีน) โดยการขายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและแพร่กระจายในชุมชน , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นบุคคลต่างด้าวและเดินทางเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” ได้บริเวณ หน้าโรงแรมย่านถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ
ในชั้นจับกุม นายออง เชา เซียง (Ong Shao Xiong) ให้การ รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วน นายโล จิน อัง (LOW GIN ANG) หรือ นายเส้ง ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และให้การว่า วิธีของผู้ต้องหาสั่งยามาจากประเทศลาว โดยซุกซ่อนมากับตู้ลำโพง มากับบริษัทขนส่งเอกชนแห่งหนึ่ง โดยผู้ต้องหาจะเดินทางไปรับแถวย่านหัวลำโพง และจะเช่าห้องพักเพื่อเก็บรักษายาเสพติด ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองเข้าพักในช่วงระยะเวลาสั้นๆ แล้วจะเปลี่ยนที่พัก และเก็บรักษายาเสพติด โดยจะทำการย้ายที่พักและเคลื่อนย้ายสถานที่ยาเสพติดไปเรื่อยๆ
โดยผู้ต้องหาทั้งสองจะร่วมนำยาเสพติดชนิดต่างๆ มาผสมและลำเลียง จำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ตามสถานบันเทิงต่างๆ ในพื้นที่ โดยผู้ต้องหาทั้งสองนั้นรับว่าได้หลบหนีเข้าเมืองมาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายเป็นเวลานานกว่า 20 ปี
หลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจะได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน พร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและจะทำการสืบสวน ขยายผล ผู้ร่วมขบวนการและเครือข่ายยาเสพติดรายอื่นๆ
วันพฤหัสบดี ที่ 27 ต.ค. 65 ตั้งแต่เวลา 13.30-17.00 น. ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้การต้อนรับ พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และการตำรวจ วุฒิสภา พร้อมด้วยคณะกรรมาธิการฯ
ซึ่งประกอบด้วยนักวิชาการ เลขานุการคณะกรรมาธิการ อนุกรรมาธิการ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ และเจ้าหน้าที่ในคณะกรรมาธิการฯ จำนวนทั้งสิ้น 50 คน ณ ห้องแจ้งยอดสุขชั้น 2 อาคาร 32 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เนื่องในโอกาสเข้าเยี่ยมชมและศึกษาดูงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหารือข้อราชการด้านกระบวนการยุติธรรม รวมถึงเพี่อรับฟังข้อมูลและความคิดเห็นในประเด็นต่างๆ อาทิ นโยบายการบริหารราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, การแก้ไขปัญหาอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนต่อประชาชนและขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาล, แนวทางการดำเนินงานตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565, แนวทาง
การดำเนินงานตามร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. ... เป็นต้น