Saturday, 21 June 2025
ค้นหา พบ 48929 ที่เกี่ยวข้อง

ผบ.ฉก.นราธิวาส ตรวจเยี่ยมพร้อมให้กำลังใจกำลังพลผู้เข้ารับการฝึกทบทวนทางยุทธวิธี หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมป่าภูเขา ของ ฉก.ยะลา ห้วงที่ 1 (รุ่นที่1) 

เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2565 หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมป่าภูเขา ค่ายกัลยาณิวัฒนา ตำบลกะลุวอ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารที่ 15 / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส เดินทางตรวจเยี่ยม ติดตามความคืบหน้าการปฎิบัติงาน ของปฏิบัติการพิเศษร่วมป่าภูเขา โดยได้รับฟังการบรรยายสรุปเหตุการณ์ปะทะเขาบือเล็ง บ้านสาวอฮีเล ตำบลสาวอ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส  ตลอดจนได้่รับฟังการบรรยายสรุปการฝึกทบทวน หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมป่าภูเขา ของหน่วยเฉพาะกิจยะลา ห้วงที่ 1 (รุ่นที่1) ซึ่งจัดจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41, หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 47, หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 30 หน่วยละ 2 ชุดปฎิบัติการ (ชุดปฎิบัติการละ 12 นาย) รวมมีผู้เข้าการฝึกทั้งสิ้น 72 นาย โดยมีกำหนดการฝึกตั้งแต่ วันที่ 1-14 กรกฎาคม 2565 ซึ่งใช้สถานที่ฝึกภาคที่ตั้ง อาคารสโมสรกรมทหารราบที่ 151 สนามฝึก กรมทหารราบที่ 151 และภาคสนาม ใช้พื้นที่ปฏิบัติการของหน่วย เฉพาะกิจกรมทหารพรานในพื้นที่ 

จากนั้น พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส และคณะได้เดินทางต่อไปยัง สนามยิงปืน หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารที่ 46 ตำบลกะลุวอเหนือ อำเภอเมืองจังหวัดนราธิวาส เพื่อตรวจเยี่ยมพบปะ มอบนโยบาย และให้โอวาทแก่ผู้เข้ารับการฝึกทบทวนหน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมป่าภูเขา ของหน่วยเฉพาะกิจยะลา โดย พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส กล่าวว่า สำหรับการฝึกทบทวนทางยุทธวิธี และการปฏิบัติการพิเศษในป่าภูเขา ของหน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมป่าภูเขาในพื้นที่ สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นไปตามนโยบายสั่งการของ พลโท เกรียงไกร  ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการเตรียมการให้กับกำลังพลของหน่วยขึ้นตรง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่

‘บิ๊กตู่’ จัดให้!! มติครม. 12 ก.ค. 65

📌 ครม. ไฟเขียวลดภาษีสรรพสามิตดีเซลอีก 2 เดือน สูญ 2 หมื่นล้าน
คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงการคลัง ปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาท เป็นระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2565 ถึง 20 กันยายน 2565 เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนและภาคธุรกิจในช่วงที่ระดับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงทรงตัวในระดับสูง โดยการใช้มาตรการภาษีดังกล่าวเป็นเพียงมาตรการในระยะสั้น และถ้าหากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเริ่มคลี่คลาย รัฐบาลก็จะยังคงใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นกลไกหลักในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล เพื่อไม่ให้กระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนและเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศต่อไป

ทั้งนี้ ทางกระทรวงการคลังได้จัดทำประมาณการสูญเสียรายได้ และประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ กรมสรรพสามิตจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันลดลงประมาณ 10,000 ล้านบาทต่อเดือน คาดว่าจะสูญเสียรายได้ประมาณ 20,000 ล้านบาท

📌 ครม. ลดค่าธรรมเนียมโอนของธนาคารที่ดิน เหลือ 0.01% ถึงปี 68 ช่วยปชช.ประหยัดเงิน
ครม. มีมติอนุมัติร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเป็นพิเศษ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน สำหรับกรณีการโอนและการจำนองอสังหาริมทรัพย์ ในภารกิจของสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) โดยสาระสำคัญ เป็นการลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม ตามภารกิจของสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน ) เกี่ยวกับค่าจดทะเบียนการโอนและค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์ จากอัตราร้อยละ 2 และร้อยละ 1 เหลืออัตราร้อยละ 0.01 ตามราคาประเมินทุนทรัพย์ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ถึงวันที่ 7 มิ.ย. 2568

ทั้งนี้คาดว่ารัฐจะสูญเสียรายได้ จากการลดค่าธรรมเนียมหลายหมื่นล้านบาท แต่จะเป็นโยชน์ช่วยลดค่าใช้จ่ายการจดทะเบียนและการทำนิติกรรมของประชาชน และกระจายการถือครองที่ดินที่เป็นธรรม และยั่งยืนแก่ประชาชนตามนโยบายรัฐบาล

📌 ครม. อนุมัติ งบกลาง 395 ล้านบาท ซ่อมโรงเรียนสังกัด สพฐ. ที่ประสบภัยธรรมชาติ 
ครม. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าปรับปรุงซ่อมแซมอาคารเรียน อาคารประกอบและสิ่งก่อสร้างอื่นให้กับโรงเรียนที่ประสบภัยธรรมชาติ ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กรอบวงเงิน 395 ล้านบาท จำนวน 1,071 รายการ ทั้งในส่วนของกรุงเทพมหานครและอีก 67 จังหวัด

ทั้งนี้ สพฐ.ไม่มีงบประมาณเพียงพอสำหรับใช้ในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนดังกล่าว จึงมีความจำเป็นต้องขอรับการจัดสรรงบประมาณงบกลางมาดำเนินการ เพื่อปรับปรุงซ่อมแซมอาคารเรียน อาคารประกอบและสิ่งก่อสร้างอื่นให้กับโรงเรียนที่ประสบภัยธรรมชาติให้กลับสู่สภาพปกติอย่างเร่งด่วน เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการเตรียมความพร้อมทางด้านอาคารสถานที่ของโรงเรียนและสถานศึกษา รองรับการเปิดภาคเรียน รวมทั้งเพื่อให้โรงเรียนสามารถจัดการเรียนการสอนได้อย่างเต็มรูปแบบ

'ยูเอ็น' ประเมินประชากร 'อินเดีย' อาจแซงหน้า 'จีน' ในปี 2023 ประชากรโลกอาจแตะหมื่นล้านคน ในปี 2100

องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เผย ‘อินเดีย’ มีแนวโน้มแซงหน้าจีนขึ้นเป็นชาติที่มีประชากรมากที่สุดในโลกภายในปี 2023 ขณะที่ประชากรโลกจะแตะหลักหมื่นล้านคนในปี 2100 

รายงานของยูเอ็นซึ่งเผยแพร่เนื่องในวันประชากรโลก (World Population Day) ระบุว่า จำนวนประชากรทั่วโลกจะแตะหลัก 8,000 ล้านคนในวันที่ 15 พ.ย. ปีนี้ และจะเพิ่มเป็น 8,500 ล้านคนภายในปี 2030 และ 10,400 ล้านคนภายในปี 2100

สำหรับอินเดีย เคยมีประชากรทั้งหมด 1,210 ล้านคน เมื่อปี 2011 ตามการสำรวจสำมะโนประชากรที่รัฐบาลทำทุกๆ 10 ปี ทว่าในปี 2021 อินเดียมีประชากรจำนวน 1.412 พันล้านคน ส่วนจีนมีจำนวน 1.426 พันล้านคน ในช่วงปี 2023 จึงมีความเป็นไปได้ที่อินเดียจะมีสัดส่วนประชากรเพิ่มสูงขึ้นกว่าจีน 

ส่วนในปี 2050 คาดว่าอินเดียจะมีประชากรจำนวนถึง 1.668 พันล้านคน มากกว่าจีนที่จะมีจำนวนประชากรลดเหลือ 1.317 พันล้านคน จากอัตราการเจริญพันธุ์ที่ลดลง แม้รัฐบาลจีนจะผ่อนคลายนโยบายควบคุมจำนวนประชากร โดยอนุญาตให้แต่ละครอบครัวมีลูกได้ 3 คน แต่ผลการศึกษาวิจัยหลายฉบับชี้ว่า ปัจจัยทางเศรษฐกิจ เช่น ราคาอสังหาริมทรัพย์ที่สูงขึ้น เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้อัตราการเกิดนั้นลดลง อีกทั้งรัฐยังไม่มีมาตรการอื่นๆ ที่ช่วยจูงใจในการมีลูกมากพอ

2 ส.ส. ‘เศรษฐกิจไทย’ ไขก๊อกพ้นวิปรัฐบาล ส่งสัญญาณถอนตัวจากพรรคร่วมฯ โดยปริยาย

(12 ก.ค. 65) ภายหลังนายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจไทย และนายไผ่ ลิกค์ ส.ส. กำแพงเพชร พรรคเศรษฐกิจไทย ในฐานะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม โดยระบุเรื่องขอลาออกจากกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) อ้างถึงคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 180/2562 ลงวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2562

โดยตามที่อ้างถึงการแต่งตั้งให้ นายบุญสิงห์ และนายไผ่ ดำรงตำแหน่งกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) ตั้งแต่ วันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ.2562 ให้การดำเนินการในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสภาผู้แทนราษฎร และรัฐสภา เป็นไปอย่างมีระเบียบแบบแผนตามระบบรัฐสภา บัดนี้มีความประสงค์ขอลาออกจากตำแหน่งกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) ให้มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

'อลงกรณ์' ชี้ ไทยเผชิญ 4 วิกฤติโลก สร้างโอกาสให้ก้าวขึ้นเป็นมหาอำนาจด้านอาหารภายใต้ 5 ยุทธศาสตร์ปฏิรูปภาคเกษตร

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวบรรยายพิเศษเมื่อวันที่ 12 ก.ค. 65 เรื่อง ก้าวต่อไป เกษตรไทยสู่มหาอำนาจทางอาหารของโลก โดยมองว่าแม้ประเทศไทยต้องเผชิญ 4 วิกฤติโลก แต่ก็เป็นโอกาสที่จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นมหาอำนาจอาหารของโลกได้ภายใต้การขับเคลื่อน 5 ยุทธศาสตร์ปฏิรูปภาคเกษตรเพราะมีความต้องการอาหารเพิ่มขึ้น

โดยนายอลงกรณ์กล่าวว่า ประเทศไทยมีศักยภาพเป็นประเทศส่งออกอาหารอันดับ 13 ของโลก ด้วยมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาท และการส่งออกเติบโต 17% ในปี 2564 โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเกษตรและอาหารเป็นกลุ่มสินค้าส่งออกลำดับต้นๆ สะท้อนถึงขีดความสามารถของภาคการผลิต การแปรรูปและการตลาดของไทยในตลาดโลก

แม้ต้องเผชิญ 4 วิกฤติการณ์ของโลก ได้แก่ 
1.) โควิด-19 สงคราม 
2.) รัสเซีย-ยูเครน 
3.) ประชากรโลกเพิ่มขึ้น 
4.) ปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ (Climate Change) 

ซึ่งทำให้โลกประสบปัญหาระบบการผลิตภาคเกษตรตลอดห่วงโซ่อุปทานตามมาด้วยปัญหาการขาดแคลนอาหาร แต่วิกฤติดังกล่าวก็ส่งผลให้มีความต้องการสินค้าเกษตรและอาหารมากขึ้นโดยเฉพาะประเทศที่ประสบปัญหาความมั่นคงทางอาหาร เช่น ตะวันออกกลาง แอฟริกา เซาท์แปซิฟิก เอเซีย และไม่เว้นแม้แต่ประเทศร่ำรวย เช่น ซาอุดีอาระเบีย และญี่ปุ่นที่ผลิตอาหารได้เพียง 20% และ 37% ตามลำดับ ซึ่งถือเป็นโอกาสในวิกฤติของประเทศไทย 3 ปีที่ผ่านมากระทรวงเกษตรและสหกรณ์เดินหน้าปฏิรูปสร้างศักยภาพใหม่อย่างต่อเนื่องภายใต้ 5 ยุทธศาสตร์ของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อนบนความร่วมมือกับทุกภาคส่วนโดยเฉพาะการจับคู่กับกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพาณิชย์)

1.) ยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต
2.) ยุทธศาสตร์เทคโนโลยีเกษตร 4.0 
3.) ยุทธศาสตร์ 3’s (safety - Security - Sustainability เกษตรปลอดภัย เกษตรมั่นคง และเกษตรยั่งยืน) 
4.) ยุทธศาสตร์ การทำงานเชิงบูรณาการทุกภาคส่วน 5.ยุทธศาสตร์เกษตรกรรมยั่งยืนบนศาสตร์พระราชา 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top